มีใครเคยพบสัตว์ตั้งใจฆ่าตัวตายบ้างค่ะ?

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะ

ขอเล่าย้อนเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วสัก 2 ปีนะคะ
ตอนนั้นมีกินข้าวกับพี่ที่ออฟฟิศร้านส้มตำแถวทะสาบเมืองทองธานีค่ะ
ซึ่งขณะที่เรากำลังเดินไปนั่งที่โต๊ะ ก็บังเอิญเหลือบไปเห็นนกพิราบตัวนึงค่ะ
มันนั่งอยู่บนถนน อยู่ตรงขอบฟุตบาท ตอนแรกเราก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรค่ะ
แต่พอสังเกตว่า มันเป็นช่องว่างให้รถมาจอดเทียบฟุตบาทได้พอดี 1 คัน
เราก็เอะใจนะ คิดว่านกตัวนี้น่าจะโดนรถที่มาจอดทับเอาแน่ๆ
เลยนั่งดูสักพัก (โต๊ะอาหารอยู่บนฟุตบาทใกล้จุดที่นั่งพิราบนั่งอยู่)
ก็เห็นมีรถกำลังจะเลี้ยวเข้ามาจอด เรานี่วิ่ง 4x100 ไปโบกรถ
ให้หยุดก่อน แล้วก็อธิบายว่ามีนกอยู่ตรงวิถีของล้อพี่พอดีเลยค่ะ
เค้าก็หยุดรถ เราก็หยิบนกตัวนี้ขึ้นไปไว้บนฟุตบาทค่ะ ก็คิดว่า
ดีใจที่ช่วยนกตัวนี้ไว้ทัน รถก็เข้ามาจอดได้ปกติ เราก็นั่งกินอาหาร พูดคุยกับเพื่อน
ไปตามปกติ ก็ไม่ได้สนใจนกตัวนั้นแล้ว แต่อีกสักพักเท่านั้นล่ะค่ะ
ได้ยินเสียงดัง กร๊อบบบบบบบ!!!! คือดังมากกกกกกกกก
เลยรีบหันไปมองที่ต้นเสียง ปรากฎว่า นกตัวนั้น เดินลงไปให้รถอีกคันที่เข้ามาจอดทับให้ตายค่ะ
คือ เราช็อคมากกกก เสียใจเล็กๆว่าที่ทำไปเมื่อกี้สูญเปล่า เลยคิดว่า นกตัวนั้นตั้งใจที่จะฆ่าตัวตายแน่ๆ
เหตุการณ์ครั้งนั้นก็สะเทือนจิตใจพอสมควรนะคะ แต่ก็คิดว่าให้มันเป็นเวรกรรมของเค้าเถอะ
เราเอามือเข้าไปยุ่ง สุดท้ายเค้าก็ตายอยู่ดี...

แล้วในที่สุดก็มาเจอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
คือ เราทำงานบริษัทที่อยู่ในหมู่บ้านค่ะ เลยต้องไปจอดรถท้ายซอยหมู่บ้าน
พอเลิกงานตอนประมาณ 1 ทุ่มกว่าๆ กำลังเดินกลับเข้าไปเอารถที่ท้ายซอยกับพี่ที่ออฟฟิศ (ติดรถกลับบ้านด้วยกันทุกวัน)
เราก็เจอเหมือนเงาเป็นก้อนๆ แต่ไม่ได้อยู่กลางถนนนะคะ ค่อนมาทางฝั่งซ้ายเสียมากกว่า
ซึ่งพอเดินไปใกล้ๆ มันคือนกพิราบค่ะ กำลังนั่งขดตัวอยู่ เรากับพี่ก็พยายามส่งเสียงไล่ กระทืบเท้าใกล้ๆให้มันเดินไปที่อื่น
มันไม่เดินไปไหนค่ะ นั่งอยู่อย่างนั้น เราก็เอะใจแล้วว่า เอาอีกแน่ๆ มันจะฆ่าตัวตายแน่ๆ เพราะจุดที่นั่งอยู่
มันเป็นจุดที่เป็นวิถีของล้อรถพอดี เราก็เลยเล่าเหตุการณ์ที่เจอที่ร้านอาหารวันนั้นให้พี่คนนี้ฟัง
เค้าก็บอกว่า งั้นอย่าช่วยเลย ยังไงเค้าก็ต้องการจะตายอยู่ดี

เราก็บอกว่า "แน่ๆเลย ยังไงมันก็ต้องตาย"

เราเลยไปขึ้นรถค่ะ และพี่อีกคนเค้ารอเราเลี้ยวออกมาเพื่อจะขึ้นรถได้สะดวก แต่จังหวะนั้น มีรถถอยหลังออกมาจากซอยเล็กๆ ข้างหน้า
ก็เลยหยุดรอค่ะ และคิดว่าต้องขับไปออกหน้าซอยเหมือนกัน ซักพักเค้าหักรถแล้วถอยออกมาเตรียมจะขับสวนรถเราเข้ามา
เราตกใจมากค่ะ รีบเปิดกระจกรถ แล้วโบกมือออกมานอกรถ เป็นสัญญาณบอกเค้าว่า อย่าเพิ่งขับเข้ามานะ
แล้วเรารีบเคลื่อนรถไปตรงนกพิราบ แต่ไม่ได้ขวางทางรถคันนั้นที่จะสวนมานะคะ มือข้างนึงก็โบกออกไปนอกรถตลอด
ปากก็ร้องไล่นกเสียงดัง ก็คิดว่าจะลงไปช่วยนกถ้าเค้าหยุดรถ แต่เค้าไม่หยุดรถค่ะ และขับเข้ามาช้าๆ
แล้วเราเห็นนกถูกเหยียบต่อหน้าต่อ เรากรี๊ดเสียงดังมาก จนรถคันนั้นยอมหยุดรถ แล้วเปิดกระจกถามว่า มีอะไรหรือหนู?
เราทำตัวไม่ถูกเลยค่ะ ช็อคซีนีม่า  รู้สึกอยากอ้วก มือสั่นหมดเลย เพราะเจอเรื่องแบบเดิมเป็นครั้งที่ 2 แต่ครั้งนี้มันใกล้เกิน ชัดเกินไป
เสียงดังฟังชัดมาก เพราะเปิดกระจกรถไว้ตลอด ได้แต่ตะโกนออกไปว่า ทับแล้วค่ะ พี่ทับมันแล้วค่ะ เราตั้งสติพักนึง ก็ขับรถออกไปค่ะ

เลยขอสอบถามว่าเหตุการณ์แบบนี้มันประหลาดมั้ยค่ะ? เป็นลางบอกเหตุอะไรหรือเปล่า?
ยังรู้สึกแย่อยู่เลย แล้วเราจะบาปมากมั้ยค่ะ? ที่เราไม่ได้จะตั้งใจช่วยเค้าจริงๆ แต่พอจะช่วยก็ช่วยไม่ทันแล้ว

แล้วใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างมั้ยค่ะ? ลองเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ

ขอบคุณที่เสียเวลาเข้ามาอ่านค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 19
นกบางตัวตาม คห 12  บินเอาหัวชนหินตายเลย ลูกยังเล็กก็ปล่อย

สำหรับ จขกท พิราบบางที มันตาไม่ดีบ้าง บินไม่ได้บ้าง มึนเมาไปกินอะไรผิดสำแดงมาบ้าง ก็โดนรถเหยียบได้



ยังไง ขออธิบาย พรหมวิหาร 4 อีกรอบ

คือ จขกท มีจิตใจอยากให้เขาเป็นสุข พ้นทุกข์ นี่ก็ดี เรียก เมตตา

ลงมือลงไม้ ทำให้เขาพ้นทุกข์เกิดสุข นี่ก็ดี  เรียก กรุณา

เมื่อใครเขาดีอยู่แล้ว หรือ เกิดมีความสุขขึ้นมา ชีวิตดีข้น กระทั่งว่า ดีกว่าเราอีก  เราก็ชื่นชมยินดีกับเขา  นี่ก็ดีมากๆ เรียกว่า มุทิตา

ที่นี้  ถ้า มีแต่สามอย่างบน ก็คืออยากให้มีแต่สุข มันเป็นไปได้ไหม  คำตอบจริงๆ คือ ส่วนมากโลกนี้ทุกข์ทั้งนั้น  เพราะงั้น เมื่อเราเห็นความสุขไม่มีแล้ว เหลือแต่ความทุกข์ ซึ่งก็คือสิ่งที่เป็นไปตามเหตุปัจจัย คือ เราห้ามไม่ได้ เราคิดดีด้วยก็ไม่เกิดทำดีแล้วก็ไม่ได้ เขาก็ยังแย่อยู่อย่างนั้น ใจเราจะห่อเหี่ยวระทมมันก็ไม่ใช่ พระพุทธเจ้าถึงบอกไว้ว่า ถึงเวลาได้ใช้ ข้อ 4 (ถึงเวลาตอนนี้นะ ไม่ใช่งัดมาใช้แต่แรก คนมักเข้าใจผิดไม่ทำโดยลำดับ)  

ข้อ 4 คือ อุเบกขา การวางลงได้ ไม่ถือทุกข์เมื่อคนอื่นๆ ไม่สามารถสุขได้ หรือ เมื่อช่วยใครไม่ได้ เราก้ไม่ต้องทุกข์ร้อนเดือดร้อนมากไป ให้เห็นเป็นธรรมดาโลกไปนั่นเอง

กล่าวคือ ถ้าเห็นพิราบ หรือ สัตว์อะไร มีเหตุต้องตายอีก ก็ไม่ต้องทุกข์ใจ ยิ่งไม่ต้องมานั่งคิดว่า นี่เราบาปหรือเปล่า  คุณมีเจตนาให้มันตาย ให้มันทุกข์ไหมละ?  ถ้าไม่มี จะไปเอาบาปมาจากไหน   ส่วนบุญได้ไหม  ก็อย่างเบาๆ คุณมีพรหมวิหารใน ข้อ 1 และ 2 มาแล้ว  บุญเกิดมากน้อยก็เกิดแล้วในใจคุณ คือ เป็นคนมีจิตใจอ่อนโยน เห็นแก่คนอื่น แล้ว  นั่นแหละ บุญของมัน (ซึ่งก็แน่นอนว่า คนจิตใจแบบนี้ ย่อมไม่ทำร้ายคนอื่น ศีลข้อ 1 ปาณา ก็ย่อมรักษาไว้ได้)

ในทางธรรม ให้เข้าใจเห็นโลกตามเหตุปัจจัย ทำได้เท่าที่ทำ และข้อสำคัญ คือ รักษาใจไว้ให้เป็นปรกติ  คือ ไม่ดีใจสุดขีด ไม่เสียใจสุดขีด  ครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
สัตว์มันไม่ได้ตั้งใจฆ่าตัวตายหรอก มันแค่มึน ก็ไม่พ้นเรื่องของกรรมที่เนื่องกันมา อย่างหมาบางที รถวิ่งมาห่างๆมันไม่กล้าข้าม ทำยึกๆยักๆ
พอรถเข้ามาใกล้ๆมันตัดสินใจ ไปก็ไปวะ เรียบร้อยเลย ไส้แตก.. เพราะว่ามันมีกรรมเนื่องกันมากับคนที่ขับไปชน ไม่มีอะไรเกินนี้หรอก
มันเหมือนมีอะไรดลใจให้เขาตัดสินใจผิดๆ ก็คือเรื่องของกรรมนั่นแหละ คนขับไปทับก็ไม่เป็นอะไรหรอกครับ เพราะเจตนาฆ่าไม่มี
อย่างบางคนนอนอยู่บ้านทุกวันไม่เคยไปไหน วันดีคืนดีอยู่ๆก็อยากออกไปหาเพื่อน พอออกจากบ้านไปแล้ว วันนั้นเกิดแผ่นดินไหว บ้านถล่ม
ชาวบ้านแถวนั้นตายหมด คนนี้รอด ประเภทนี้ก็มีมาก กรรมมันดลใจทั้งนั้น ถ้าไม่สร้างมา อยู่ไหนก็รอด ถ้าสร้างมา ยังไงก็ต้องหาที่ตายจนได้
เรื่องของกรรมนี้พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ถ้าทำลงไปแล้ว ต่อให้หนีไปอยู่กลีบเมฆ ไปซ่อนในเม็ดทรายใต้มหาสมุทร หรือจะอยู่ในซอกเหวลึก
ยังไงก็หนีไม่พ้น อย่าประมาณว่าความดีเล็กน้อยแล้วจะไม่ทำ ความชั่วเล็กน้อยแล้วทำ เพราะขึ้นชื่อว่ากรรม จะเล็กแค่ไหนก็ตาม หากถึงเวลาก็ให้ผล
อย่างนกที่คุณว่ามันไม่รู้เรื่องหรอกว่าตรงไหนเป็นที่จอดรถ ถึงเวลามันอาจจะเห็นมดเดินอยู่ เลยเดินดุ่มๆไปหา ไม่มองอะไรทั้งนั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่