https://www.facebook.com/ipthailand/posts/1334192369960790 ต้นเรื่อง
“พาณิชย์”ขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศ ให้ความช่วยเหลือข้าราชการที่ถูกจับกุมที่ญี่ปุ่น จนได้รับการปล่อยตัว เผยรองอธิบดีได้ติดต่อกลับ พร้อมทั้งกล่าวยอมรับผิด แสดงความเสียใจ พร้อมขอโทษผู้บังคับบัญชา เพื่อนข้าราชการและคนไทยทุกคน ล่าสุดได้สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว ภายใน 1 สัปดาห์ต้องได้ข้อสรุป ระบุระหว่างตรวจสอบ ได้มีคำสั่งให้มาช่วยงานที่สำนักงานปลัดกระทรวงไปก่อน
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้รับการประสานจากกระทรวงการต่างประเทศว่าขณะนี้นายสุภัฒ สงวนดีกุล รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว ได้รับการปล่อยตัวจากอัยการแล้ว เนื่องจากทางอัยการเห็นว่าคดีนี้มิใช่คดีร้ายแรง โดยเป็นการลักทรัพย์ที่ไม่ได้มีการเตรียมการไว้ก่อนล่วงหน้า อีกทั้งข้าราชการคนดังกล่าวก็ได้ยอมรับผิดและชดใช้ค่าเสียหายให้กับทางโรงแรมเจ้าของรูปภาพแล้ว
“ล่าสุดกระทรวงฯ ได้รับการติดต่อจากข้าราชการคนดังกล่าว และท่านได้กล่าวยอมรับและแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งกล่าวขอโทษผู้บังคับบัญชาและเพื่อนข้าราชการ ตลอดจนคนไทยทุกคนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึน”
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระทรวงฯ ขอขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา ที่ได้เป็นธุระติดต่อประสานงานกับทางการของประเทศญี่ปุ่นตลอดระยะเวลาที่ข้าราชการคนดังกล่าวถูกควบคุมตัวอยู่
นางอภิรดีกล่าวว่า กระทรวง ได้ดำเนินการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว มีกรรมการครบจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.) สำนักนายกรัฐมนตรี และผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ถูกต้อง และได้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดทุกด้าน โดยตั้งเป้าตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ จากนั้นเมื่อได้ข้อสรุปแล้ว ก็จะเสนอผลการตรวจสอบต่อผู้บังคับบัญชา และจะดำเนินการตามขั้นตอนระเบียบราชการต่อไป
“ในกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีข้อสงสัยอะไร คณะกรรมการฯ สามารถเชิญผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาให้คำปรึกษา หารือได้ เพื่อให้ได้ข้อมูลและผลการตรวจสอบที่ถูกต้อง ตรงไปตรงมา”นางอภิรดีกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่มีการตรวจสอบ กระทรวงฯ ได้มีคำสั่งให้ข้าราชการคนดังกล่าว มาช่วยงานที่สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ไปพลางก่อน จนกว่าผลการตรวจสอบจะได้ข้อยุติ
มีความเห็นอย่างไรเกี่ยวคำแถลงการณ์ของ "กรมทรัพย์สินทางปัญญา" กรณีขโมยรูปภาพ
“พาณิชย์”ขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศ ให้ความช่วยเหลือข้าราชการที่ถูกจับกุมที่ญี่ปุ่น จนได้รับการปล่อยตัว เผยรองอธิบดีได้ติดต่อกลับ พร้อมทั้งกล่าวยอมรับผิด แสดงความเสียใจ พร้อมขอโทษผู้บังคับบัญชา เพื่อนข้าราชการและคนไทยทุกคน ล่าสุดได้สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว ภายใน 1 สัปดาห์ต้องได้ข้อสรุป ระบุระหว่างตรวจสอบ ได้มีคำสั่งให้มาช่วยงานที่สำนักงานปลัดกระทรวงไปก่อน
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้รับการประสานจากกระทรวงการต่างประเทศว่าขณะนี้นายสุภัฒ สงวนดีกุล รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว ได้รับการปล่อยตัวจากอัยการแล้ว เนื่องจากทางอัยการเห็นว่าคดีนี้มิใช่คดีร้ายแรง โดยเป็นการลักทรัพย์ที่ไม่ได้มีการเตรียมการไว้ก่อนล่วงหน้า อีกทั้งข้าราชการคนดังกล่าวก็ได้ยอมรับผิดและชดใช้ค่าเสียหายให้กับทางโรงแรมเจ้าของรูปภาพแล้ว
“ล่าสุดกระทรวงฯ ได้รับการติดต่อจากข้าราชการคนดังกล่าว และท่านได้กล่าวยอมรับและแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งกล่าวขอโทษผู้บังคับบัญชาและเพื่อนข้าราชการ ตลอดจนคนไทยทุกคนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึน”
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระทรวงฯ ขอขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา ที่ได้เป็นธุระติดต่อประสานงานกับทางการของประเทศญี่ปุ่นตลอดระยะเวลาที่ข้าราชการคนดังกล่าวถูกควบคุมตัวอยู่
นางอภิรดีกล่าวว่า กระทรวง ได้ดำเนินการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว มีกรรมการครบจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.) สำนักนายกรัฐมนตรี และผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ถูกต้อง และได้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดทุกด้าน โดยตั้งเป้าตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ จากนั้นเมื่อได้ข้อสรุปแล้ว ก็จะเสนอผลการตรวจสอบต่อผู้บังคับบัญชา และจะดำเนินการตามขั้นตอนระเบียบราชการต่อไป
“ในกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีข้อสงสัยอะไร คณะกรรมการฯ สามารถเชิญผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาให้คำปรึกษา หารือได้ เพื่อให้ได้ข้อมูลและผลการตรวจสอบที่ถูกต้อง ตรงไปตรงมา”นางอภิรดีกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่มีการตรวจสอบ กระทรวงฯ ได้มีคำสั่งให้ข้าราชการคนดังกล่าว มาช่วยงานที่สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ไปพลางก่อน จนกว่าผลการตรวจสอบจะได้ข้อยุติ