๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ นั่งไทม์แมชชีนไป "นาโนมีตติ้งสินธร"

.


อยากให้เพื่อนสมาชิกในห้องสินธรได้รู้ว่า  มิตรภาพแบบขีวิตจริง  นอกออนไลน์
ที่ไม่ได้หวังผลประโยชน์ด้านเงินทองจากกันและกัน    
มีอยู่จริงในห้องสินธร


มีตติ้งสืบเนื่องมาจากกระทู้ที่ตั้งไว้ใน "กิจกรรมสมาชิก"
https://ppantip.com/topic/35973301




ตอนซื้อเค๊ก แล้วเขียนข้อความ ให้น้องมือเขียนหน้าเค๊กเขียนตาม
เธอคงนึกว่า  เราเล่นมุก  เลยไม่ได้ทักอะไร
ที่จริงมัวแต่นึกว่า  ตรุษจีนต้องเป็นเดือนกุมภาพันธ์  

ก็เลยได้นั่งไทม์แมชชีน ไปกินเค๊ก กินอาหารกันที่บ้านใร่กาแฟ เชิงสถานีบีทีเอส เอกมัย  ฮาฮา


ของที่ระลึกจากพันทิพ   ที่เหลือจากงานมีตติ้งคราวที่แล้ว  
ได้เอามาแจกให้เพื่อนที่มางาน  และยังไม่เคยได้ จนหมดแล้ว






งวดนี้คนมากันน้อย  แต่ยิ่งน้อยก็ยิ่งคุยกันได้สนุก  คุยกันได้ทั่วถึง
ที่คนน้อย เพราะหัวข้อไม่น่าสนใจ และไม่ได้หลังไมค์ไปชวนใคร
นอกจากคนที่เคยบอกว่า มีงานมีตติ้งอย่าลืมบอกด้วย
ซึ่งลงท้าย ก็มาไม่ได้เหมือนกัน เพราะติดกิจกรรมเทศกาลตรุษจีน

+++++++++++++++++++++++++

ตำถามที่ให้ร่วมกันออกความเห็นคือ

ระหว่าง  "รู้งี้  ตกรถ ติดดอย ขายหมู"

เรื่องไหนทำให้เครียดมากกว่ากัน


เนื่องจากหน่วยความจำเป็นมีแบดเซกเตอร์แล้ว

เลยสรุปได้รวมๆว่า


ส่วนใหญ่บอกว่า "ติดดอย"  ทำให้เครียดมากที่สุด  รองลงมาคือ "รู้งี้"
เหตุผลของคุณmali_mama   ตอบได้ดีในฐานะมือบัญชีระดับ cpa (สามารถเซนต์รับรองงบการเงินของบริษัทจดทะเบียนได้)

เธอบอกว่า  เรื่องอื่นน่าจะเครียดน้อยกว่า  
เพราะยังไงเราก็ไม่ได้รู้สึกว่าเสียเงินเท่ากับติดดอย  
ซึ่งเรารู้แน่ๆว่า ตอนนี้เราขาดทุนแล้ว
อมยิ้ม06อมยิ้ม06อมยิ้ม06อมยิ้ม06อมยิ้ม06


ยิ้มยิ้มยิ้มยิ้มยิ้ม


สาระอื่นๆ  เท่าที่จำได้ก็คือ
ผมถามคุณธราธิป เซียนกราฟจากชุมพรว่า
เพื่อนที่พอร์ตสีสิบล้าน เมื่อเจ็ดแปดปีก่อน  ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างแล้ว

คำตอบคือ  ตอนนี้พอร์ตอยู่ที่ พันล้าน  

พอลงรายละเอียด เลยรู้ว่า ที่จริงเป็นเงินสดตัวเองสามร้อยล้าน  เงินกู้ยืมเจ็ดร้อยล้าน !!!!!!!!!

เหตุผลของเซียนห้นท่านนั้นคือ
  ที่ผ่านมา  พอร์ตโตเพราะใช้มาร์จิ้นเล่นหุ้นแบบเก็งกำไร  ก็เลยกล้าทุ่มเล่นต่อ

ซึ่งผมฟังแล้ว  บอกได้เลยว่า  ผมขอมีพอร์ตเท่าที่เป็นเงินสดดีกว่า
ไม่อยากแบกรับความเครียด และความเสี่ยงที่อาจจะไม่ได้ใช้เงิน
เพราะผลสะสมของความเครียด  จนมีสารพัดโรครุมเร้า

++++++++++


มีเภสัชกรสาว  เจ้าของกระเป่าหลุยส์วิตตอง  ถามผมในงานว่า

ทำไมถึงเปลี่ยนสลากออมสินทุกสามเดือน

คำตอบคือ

ผมถือว่า  สลากออมสินที่ซื้อ  เป็นการเสี่ยงโชค โดยไม่ต้องเสี่ยงเงินต้นหาย
เลยเน้นไปที่เปลี่ยนเลขเสี่ยงโชคทุกสามเดือน
สลากที่ถือเกินสามเดือนไปแล้ว  ไม่โดนหักเงินต้น เพียงแต่ไม่ได้ดอกเบี้ย

สรุปง่ายๆก็คือ  ผมจะทำอะไรก็ได้  แต่ต้องมั่นใจว่า  
ตัวเองจะมีแต้มต่อไม่ว่าด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น ไม่มีแต้มต่อไม่เล่น


ไปๆมาๆ  ผลตอบแทนที่ดีที่สุด ก็ยังมาจากพอร์ตหุ้นอยู่ดี

เครดิตภาษีจากเงินปันผลรับของปีที่แล้ว  จึงได้มากกว่าปีก่อนหน้าประมาณสองหมื่นกว่าบาท  



ประเด็นอื่นๆที่คุยกัน เท่าที่จำได้คือ

มีใครเล่นไฮโล tfex บ้าง   มีตอบว่าเล่น ๑ คน
ทุ่มหมดหน้าตัก  ๑ สัญญา  ฮาฮา

++++++++++++++

คุณ wild rabbit  ซึ่งกระทู้ dca  ได้ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำใน e finance
ได้เล่าถึงแนวทางในการเติมเงินเข้าพอร์ต dca

ซึ่งคงต้องให้คุณกระต่ายป่า มาอธิบายเพิ่มเติม


++++++

คำถามว่า
ใครไม่เคยซื้อขายหุ้นด้วยกราฟบ้าง

คำตอบคือ  มีไม่ถึง สี่หรือห้าคน  จากผู้ร่วมงาน สิบเจ็ดคน
บางคนบอกว่า  สนุกมากกับการได้ดูกราฟ  แล้วพยายามคาดความเป็นไปของกราฟ

บางคนที่เดินแนวทางปัจจัยพื้นฐาน  ก็หันไปเรียนกราฟเพิ่มเติม

ส่วนคนที่ผมเคยเชื่อว่า  ใช้กราฟล้วนๆในการซื้อหุ้น
ความจริงก็ใช้ข้อมูลข่าวสารเป็นเครื่องมือในการหาหุ้น  ที่เอามาพล็อตดูด้วยกราฟ


เมิ่อวาน สองเซียนหุ้น ที่บอกหุ้นที่กราฟกำลังสวย
คือคุณธราธิป เซียนหุ้นเทรนด์ไลน์ และคุณ nong 2011  เซียนกราฟแท่งเทียน
ทั้งคู่ใช้ไทมเฟรมระยะยาวเป็นตัวตัดสินซื้อและถือหุ้น

สองเซียนกราฟพูดถึงตัวไหน  ใครสนใจอยากรู้  ลองหลังไมค์ถามกันเอาเองครับ

อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16

+++++

ขอเพิ่มเติมอีกเรื่องที่จำได้

ว่าเรื่องอคติที่คนภายนอกมีต่อตลาดหุ้น

คือญาติสนิทของผู้ร่วมงานท่านหนึ่ง
ไม่ชอบใจคนเล่นหุ้นเป็นอย่างมาก
เนื่องจากได้รับรู้ว่า  พี่สาวขาดทุนอย่างหนักจากหุ้น

แต่ไปๆมาๆ ตัวเธอเอง ก็ขาดทุนเกือบร้อยเปอร์เซนต์
จากการฝากเงินกับสหกรณ์คลองจั่น  !!!

ผมเลยสรุปว่า  

ไม่ว่าทำอะไร  มันก็เสี่ยงทั้งนั้น  
ถ้าเรา ไม่มีความรู้ ความสามารถมากพอจะรับมือกับความโลภของเรา

เพียงแต่หุ้นมันสะท้อนออกมาเป็นตัวเลข ที่เข้าใจง่ายกว่าเรื่องอื่นๆ เท่านั้นเอง

+++++++++++++++++++++


เท่าที่พอจำได้  ก็ประมาณนั้นครับ

ส่วนใหญ่ก็เน้นเฮฮา  
ถ้าดูจากรอยยิ้มของผู้ร่วมงาน
ขอทึกทักเอาว่า  งานนี้ประสบความสำเร็จด้านรอยยิ้ม
ส่วนพอร์ตหุ้น  ก็  body who body it  

อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16อมยิ้ม16


คำอธิษฐานของดวงดาว  

อมยิ้ม01อมยิ้ม01อมยิ้ม01อมยิ้ม01อมยิ้ม01







ศิษย์เอกถ่ายภาพกับอาจารย์ เซียนหุ้นเหนือกระบี่ (เพราะบ้านอยู่ชุมพร)

เจ้าของวลีเด็ด  "เคารพ แต่มิค่อยเชื่อฟัง"
คือคุณน้องเธอชอบเล่นหุ้นปั่น ที่อาจารย์ฺไม่ค่อยปลื้ม



คุณรีสตาร์ท   เจ้าของเรตติ้งแชร์เฟซบุคอันดับหนึ่งของสินธร
ก็มาร่วมงานด้วยเช่นกัน แต่นั่งหลบกล้อง
เพราะภาพออกมา  มักจะแก่กว่าตัวจริง
ใครมีภาพคุณรีสตาร์ทแบบถ่ายเดี่ยว   ช่วยเอามาลงด้วยครับ

ส่วนภาพหมู่  คุณรีสตาร์ทนั่งคนหน้าสุดทางซ้าย  ตรงข้ามกับเภสัชกรสาวนักลงทุนแนววีไอ




สาเหตุที่หนุ่มนักลงทุนแนววีไอ  มีปัญหาเรื่องข้อเข่า ฮาฮา











ตอนเลิกงาน  จบลงด้วยออกคนละ ๗๐๐ บาท

โดยคุณมะลิได้สละสิทธิ์การกินฟรี  ตามที่ตกลงกันไว้ว่า
ถึงงานคนที่ 4  ไม่ต้องออกค่ามีตติ้ง  เยี่ยม

ค่าเช่าห้องจำนวนสองพันบาท  แบบเช่าเวลา ๔ ชั่วโมงแถม ๑  ชั่วโมง
ทางบ้านใร่กาแฟ  ได้นำไปมอบให้กับกิจกรรมของโครงการหลวง
เท่ากับทุกคนที่มางาน

ได้กินอิ่ม คุยสนุก  และมีส่วนร่วมในการช่วยกิจกรรมของโครงการหลวงด้วย




พลุพลุพลุพลุพลุพลุพลุ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่