ผ่านมาได้ครึ่งปีกับทริปสุดท้ายจากที่ได้เคยมีความทรงจำร่วมกันมาตลอด 5 ปี
.. มองให้มันเป็นอดีตดีๆที่(เคย)มีรอยยิ้มให้กัน ตอนนี้เลิกเศร้าแล้วเนอะ
ต้องเกริ่นมั้ยว่าทริปนี้เป็นมายังไง .. นิดนึงก็ได้
ตอนเดิมที่แล้ว ไปทำงานด้วย แวะเที่ยวด้วย โดยมีเพื่อนร่วมทางเป็นแฟน(เก่า) เริ่มเดินทางจาก West - East java ข้ามมาบาหลี จนไปถึงเกาะเปอร์นิดา ที่กลายเป็นเกาะสวรรค์ในใจเราไปเรียบร้อย
อยากรู้ว่าเกาะนี้เป็นยังไงสวยดิบแค่ไหน อ่านย้อนหลังได้ที่นี่ค่ะ
Hidden Canyon - Penida Island - Rinjani | Last Memories ที่ Indo
http://ppantip.com/topic/35594785
หลังจากที่มองตามหลังเกาะเปอร์นิดาด้วยตาละห้อย การผจญภัยระลอกใหม่ก็เริ่มต้นขึ้น
"พี่ว่าถ้าเป็นไปได้ ไปนอนแถวๆ Seneru ได้ยิ่งดีนะ"
แล้วมันไปยังไง เราถาม บ่งบอกว่าเตรียมตัวมาดีมาก..
"ก็..จากลอมบอกนั่งรถไปเชงกิกิ 2 ชม. แล้วขี่มอไซค์ต่อไปอีก 2 ชม."
เถียงกันเล็กน้อยว่าเหนื่อยไปป่าว ไม่น่าทัน บลาๆ จนยุติการถกเถียงด้วย...
ไฟล์ทบินดีเลย์ ไปได้ไกลสุดสำหรับวันนี้ก็แค่ Senggigi นี่แหละ
- ลอมบอกจ๋า พี่มาแล้วจ้ะ -
เจ้านกเหล็กสัญชาติอินโดพาเราบินข้ามเกาะจากบาหลีมาถึงสนามบินลอมบอก ประมาณ 5 โมงเย็นกว่า แบ่งหน้าที่กัน เราคอยรับกระเป๋า ฝั่งชายวิ่งไปซื้อตั๋วรถบัสไปเซงกิกิพร้อมจองที่นั่ง ถ้าไม่งั้นต้องรอไปอีกชม.
เราใช้ Airport Shuttle ที่มีบริการทุกวันจากสนามบินไป Mataram - Senggigi ตั้งแต่ตี 4 ถึง 1 ทุ่ม ราคา 35k ใช้เวลา 2 ชั่วโมงเราก็มาถึง เมืองSenggigi
ส่วนโรงแรมคืนนี้ก็หาๆใน Booking.com แต่ไม่จองนะ เช็คราคา รีวิว พิกัด แล้ววอร์คอินเข้าไป เผื่อต่อราคาได้นิดหน่อย
จากริมถนนเดินเข้าซอยเล็กๆแคบๆไม่ไกล หวยก็ไปออกที่ Murni Homestay ราคา 150k เป็นโฮมเตย์เล็กๆมีไม่กี่ห้อง แต่มีมอไซค์ให้เราเช่าก็เพียงพอแล้ว
เอาล่ะ ได้เวลาออกไปเดินสำรวจสั้นๆ พร้อมวางแผนการเดินทาง
รินจานี .. เป็นชื่อที่เราได้ยินชื่อเสียง กิตติศัพท์มาพักใหญ่ๆ
บ้างก็ขึ้นไปไม่ถึง ขาล้าหมดแรงซะก่อน
บ้างก็ว่าเหนื่อย โหด แพง และสารพัด
เห้ย อะไรมันจะขนาดนั้น และถ้ามันจะต้องเหนื่อยกันชนิดบางคนขึ้นไม่ถึง อะไรล่ะที่ยังดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั่วโลก (รวมทั้งข้าพเจ้า) ต่างอยากจะไปพิชิตกันขนาดนั้น
รินจานี ราชินีภูเขาไฟ แห่งเกาะลอมบอก คือภูเขาไฟสูง 3,726 m. ซึ่งสูงเป็นอันดับ 2 ของอินโดนีเซีย รองจากเครินชิ (Mount Kerinci) บนเกาะสุมาตรา
ด้วยวิวภูเขาไฟลูกน้อยที่กำลังประทุปุ๋งๆรอบล้อมด้วยทะเลสาบสีฟ้าเทอควอยซ์งามจับตา
ที่ซึ่งแฝงไปทั้งความงดงามที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ภูเขาไฟลูกนี้ให้มีเอกลักษณ์ไม่มีใครเหมือนพร้อมทั้งความยากลำบากมาพร้อมๆกัน
เราเคยได้ยินมาว่า เดินยากกว่า คินาบาลู .. แต่เราไม่เคยไปคินาบาลู (แล้วกรูจะรู้ม้ายยย 555)
ทั้งยังเคยได้ยินอีกว่า ภูเขาแห่งนี้มีระเบิด(ขรี้) ฝังเป็นกับดักมากมาย
เอาเถอะ สวย โหดยั่วยวนแบบนี้ (ไม่ได้หมายถึงขรี้นะ 55) ต่อให้ต้องเดินเหนื่อยขนาดไหนมันก็ท้าทายให้อยากไปอยู่ดี ฉะนั้นเก็บความกังวล แล้วก้าวขาแพคกระเป๋าตามมาซะดีๆ 555
แพลนการเดินทางตั้งแต่พาร์ทเปอร์นิดา ส่วนฝั่งลอมบอกเริ่มตั้งแต่ Day 3 ค่ะ
Hidden Canyon - Penida Island - Rinjani (Backpack version) - Gili Island
Day 1 : Bali - Hidden Canyon – Ubud
Day 2 : Ubud - Penida Island
Day 3 : Penida Island - Bali - Flight to Lombok – Senggigi
Day 4 : Senggigi แว๊นไป – Senaru (ไปถึงบ่ายมาก ต้องเลื่อนไปขึ้นรินจานีอีกวัน)
Day 5 : Senaru – Crater rim camp
Day 6 : Crater rim - Summit camp
Day 7 : Summit - Sembalun - Gili port - (ข้ามเกาะไม่ทัน เลยต้องนอนฝั่งนี้)
Day 8 : Gili Island - Snorkelling day tour (มัวแต่โอ้เอ้พลาดพระอาทิตย์ตก)
Day 9 : Gili island – Lombok
Day 10 : Lombok - KL - Bkk
เดินเช็คราคาทัวร์ใกล้ๆที่พัก ก็สรุปได้ความว่า
ทัวร์ส่วนใหญ่จัดเป็น 2 แบบ คือ 2 วัน 1 คืน กับ 3 วัน 2 คืน แต่เรา(ตอนแรก) ตั้งใจไว้ว่าจะไปกัน 3-4 คืน คือนอนเล่นชิลริมเลคไรงี้ ซึ่งหลายวันแบบนั้น ต้องเป็นทัวร์ส่วนตัว ซึ่งแน่นอน เกินงบ!! เราเลยเลือกไปเอง หาลูกหาบเองดีกว่า แต่ราคาทัวร์ไม่แพงนะ หากใครอยากซื้อความสะดวกก็ได้ค่ะ แต่เราไม่ 555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ที่เราใช้แต่ลูกหาบไม่ได้ใช้ทัวร์หรือไกด์เพราะฝ่ายชายเคยมาหลายครั้ง แต่สำหรับเพื่อนๆที่มาเป็นครั้งแรกแนะนำให้มีไกด์ด้วยจะดีกว่า เผื่อเกิดอะไรขึ้นจะได้มีคนดูแลค่ะ ทางไม่ใช่เล่นๆเหมือนกัน ฮืออออ
- เอาคำคมๆ มาแปะให้ปลุกใจ ไกด์กรุ๊ปไหนไม่รู้มายืนตรงนี้จังหวะมันได้พอดี เลยกดมา 1 ใบ -
อุปกรณ์ที่ใช้ Nikon D7100, OMD EM 10 Mark II, Gopro 3+
ชักช้าอยู่ใยตามมาขึ้นเขากันค่ะ
รินจานี กิลิ รอยยิ้ม | Last Memories ที่ Indo (จบ)
ผ่านมาได้ครึ่งปีกับทริปสุดท้ายจากที่ได้เคยมีความทรงจำร่วมกันมาตลอด 5 ปี
.. มองให้มันเป็นอดีตดีๆที่(เคย)มีรอยยิ้มให้กัน ตอนนี้เลิกเศร้าแล้วเนอะ
ต้องเกริ่นมั้ยว่าทริปนี้เป็นมายังไง .. นิดนึงก็ได้
ตอนเดิมที่แล้ว ไปทำงานด้วย แวะเที่ยวด้วย โดยมีเพื่อนร่วมทางเป็นแฟน(เก่า) เริ่มเดินทางจาก West - East java ข้ามมาบาหลี จนไปถึงเกาะเปอร์นิดา ที่กลายเป็นเกาะสวรรค์ในใจเราไปเรียบร้อย
อยากรู้ว่าเกาะนี้เป็นยังไงสวยดิบแค่ไหน อ่านย้อนหลังได้ที่นี่ค่ะ
Hidden Canyon - Penida Island - Rinjani | Last Memories ที่ Indo
http://ppantip.com/topic/35594785
หลังจากที่มองตามหลังเกาะเปอร์นิดาด้วยตาละห้อย การผจญภัยระลอกใหม่ก็เริ่มต้นขึ้น
"พี่ว่าถ้าเป็นไปได้ ไปนอนแถวๆ Seneru ได้ยิ่งดีนะ"
แล้วมันไปยังไง เราถาม บ่งบอกว่าเตรียมตัวมาดีมาก..
"ก็..จากลอมบอกนั่งรถไปเชงกิกิ 2 ชม. แล้วขี่มอไซค์ต่อไปอีก 2 ชม."
เถียงกันเล็กน้อยว่าเหนื่อยไปป่าว ไม่น่าทัน บลาๆ จนยุติการถกเถียงด้วย...
ไฟล์ทบินดีเลย์ ไปได้ไกลสุดสำหรับวันนี้ก็แค่ Senggigi นี่แหละ
เจ้านกเหล็กสัญชาติอินโดพาเราบินข้ามเกาะจากบาหลีมาถึงสนามบินลอมบอก ประมาณ 5 โมงเย็นกว่า แบ่งหน้าที่กัน เราคอยรับกระเป๋า ฝั่งชายวิ่งไปซื้อตั๋วรถบัสไปเซงกิกิพร้อมจองที่นั่ง ถ้าไม่งั้นต้องรอไปอีกชม.
เราใช้ Airport Shuttle ที่มีบริการทุกวันจากสนามบินไป Mataram - Senggigi ตั้งแต่ตี 4 ถึง 1 ทุ่ม ราคา 35k ใช้เวลา 2 ชั่วโมงเราก็มาถึง เมืองSenggigi
ส่วนโรงแรมคืนนี้ก็หาๆใน Booking.com แต่ไม่จองนะ เช็คราคา รีวิว พิกัด แล้ววอร์คอินเข้าไป เผื่อต่อราคาได้นิดหน่อย
จากริมถนนเดินเข้าซอยเล็กๆแคบๆไม่ไกล หวยก็ไปออกที่ Murni Homestay ราคา 150k เป็นโฮมเตย์เล็กๆมีไม่กี่ห้อง แต่มีมอไซค์ให้เราเช่าก็เพียงพอแล้ว
เอาล่ะ ได้เวลาออกไปเดินสำรวจสั้นๆ พร้อมวางแผนการเดินทาง
รินจานี .. เป็นชื่อที่เราได้ยินชื่อเสียง กิตติศัพท์มาพักใหญ่ๆ
บ้างก็ขึ้นไปไม่ถึง ขาล้าหมดแรงซะก่อน
บ้างก็ว่าเหนื่อย โหด แพง และสารพัด
เห้ย อะไรมันจะขนาดนั้น และถ้ามันจะต้องเหนื่อยกันชนิดบางคนขึ้นไม่ถึง อะไรล่ะที่ยังดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั่วโลก (รวมทั้งข้าพเจ้า) ต่างอยากจะไปพิชิตกันขนาดนั้น
รินจานี ราชินีภูเขาไฟ แห่งเกาะลอมบอก คือภูเขาไฟสูง 3,726 m. ซึ่งสูงเป็นอันดับ 2 ของอินโดนีเซีย รองจากเครินชิ (Mount Kerinci) บนเกาะสุมาตรา
ด้วยวิวภูเขาไฟลูกน้อยที่กำลังประทุปุ๋งๆรอบล้อมด้วยทะเลสาบสีฟ้าเทอควอยซ์งามจับตา
ที่ซึ่งแฝงไปทั้งความงดงามที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ภูเขาไฟลูกนี้ให้มีเอกลักษณ์ไม่มีใครเหมือนพร้อมทั้งความยากลำบากมาพร้อมๆกัน
เราเคยได้ยินมาว่า เดินยากกว่า คินาบาลู .. แต่เราไม่เคยไปคินาบาลู (แล้วกรูจะรู้ม้ายยย 555)
ทั้งยังเคยได้ยินอีกว่า ภูเขาแห่งนี้มีระเบิด(ขรี้) ฝังเป็นกับดักมากมาย
เอาเถอะ สวย โหดยั่วยวนแบบนี้ (ไม่ได้หมายถึงขรี้นะ 55) ต่อให้ต้องเดินเหนื่อยขนาดไหนมันก็ท้าทายให้อยากไปอยู่ดี ฉะนั้นเก็บความกังวล แล้วก้าวขาแพคกระเป๋าตามมาซะดีๆ 555
แพลนการเดินทางตั้งแต่พาร์ทเปอร์นิดา ส่วนฝั่งลอมบอกเริ่มตั้งแต่ Day 3 ค่ะ
Hidden Canyon - Penida Island - Rinjani (Backpack version) - Gili Island
Day 1 : Bali - Hidden Canyon – Ubud
Day 2 : Ubud - Penida Island
Day 3 : Penida Island - Bali - Flight to Lombok – Senggigi
Day 4 : Senggigi แว๊นไป – Senaru (ไปถึงบ่ายมาก ต้องเลื่อนไปขึ้นรินจานีอีกวัน)
Day 5 : Senaru – Crater rim camp
Day 6 : Crater rim - Summit camp
Day 7 : Summit - Sembalun - Gili port - (ข้ามเกาะไม่ทัน เลยต้องนอนฝั่งนี้)
Day 8 : Gili Island - Snorkelling day tour (มัวแต่โอ้เอ้พลาดพระอาทิตย์ตก)
Day 9 : Gili island – Lombok
Day 10 : Lombok - KL - Bkk
เดินเช็คราคาทัวร์ใกล้ๆที่พัก ก็สรุปได้ความว่า
ทัวร์ส่วนใหญ่จัดเป็น 2 แบบ คือ 2 วัน 1 คืน กับ 3 วัน 2 คืน แต่เรา(ตอนแรก) ตั้งใจไว้ว่าจะไปกัน 3-4 คืน คือนอนเล่นชิลริมเลคไรงี้ ซึ่งหลายวันแบบนั้น ต้องเป็นทัวร์ส่วนตัว ซึ่งแน่นอน เกินงบ!! เราเลยเลือกไปเอง หาลูกหาบเองดีกว่า แต่ราคาทัวร์ไม่แพงนะ หากใครอยากซื้อความสะดวกก็ได้ค่ะ แต่เราไม่ 555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อุปกรณ์ที่ใช้ Nikon D7100, OMD EM 10 Mark II, Gopro 3+
ชักช้าอยู่ใยตามมาขึ้นเขากันค่ะ