[CR] มิสเตอร์เฮิร์ท : ความเจ็บปวดแบบ bitter sweet กับหนังไทย

หนังตลกมันต้องมีตรรกะหรือเปล่า...  เป็นคำถามที่ฉันถามในใจขณะที่ดูหนังเรื่องนี้  เพราะบทมันไม่มีเหตุผลรองรับเลย นึกจะมาก็มาจะไปก็ไป จะทำอะไรก็ทำ (ทำให้นึกถึงหนังเรื่อง ฉลุยแตะขอบฟ้า ของค่ายเดียวกัน ประมาณนั้นเลย)
นี่คือการทำหนังแบบไหนกันหรือ  มีสอนที่สถาบันไหน ???  เขียนบทแบบนี้ก็ได้เหรอ   มุกตลกของหนังจัดว่าฝืดและพิลึกเกิน (แต่ก็มีเสียงคนดูหัวเราะ
เป็นระยะๆ  ซึ่งฉันเจอจนชินแล้วเวลาดูหนังไทย  งงว่าทำไมเขาหัวเราะง่ายจังนะ ตลกแล้วหรือ ?  หรือฉันอาจจะเส้นลึกเกินไป )   นั่นทำให้ฉันดูไปเพลียไป สงสารและอนาถหนังไทยเสียเหลือเกิน   มันไม่มีทางจะฟื้นแล้วใช่ไหมเนี่ย  เนื้อเรื่องออกทะเลไปเรื่อยๆแบบไร้จุดหมาย

       แต่แล้ว...ช่วงท้ายๆของเรื่อง กลับรู้สึกว่าหนังน่ารักและโรแมนติกเป็นธรรมชาติอย่างบอกไม่ถูก   เหมือนจากที่ปูเรื่องมาเราค่อยๆซึมซับตัวละคร   ซันนี่และหลิน มชณต  มีส่วนช่วยให้หนังดูดีขึ้นมาก  ด้วยเคมีและการแสดงของทั้งคู่  ตัวซันนี่เองเข้ากับตัวหนังได้ดี ส่วนหลินเป็นสีสันของเรื่องที่ทำให้ดูน่ารักมากๆ

    นั่นทำให้แม้ว่าเกือบทั้งเรื่องฉันจะดูด้วยความขมกลืนสิ้นหวังกับบทและการดำเนินเรื่องของหนังไทย  แต่สุดท้ายกลับมีความหอมหวานน่ารัก ใช่ ทีแรกฉันเฮิร์ทมากที่หนังไทยห่วยแบบนี้  แต่พอดูจบฉันกลับรู้สึกว่าน่ารักดีนะ  ...  

        สุดท้ายฉันก็กลับมาถามคำถามเดิมว่า หนังตลก (comedy) จำเป็นต้องมีเหตุผลไหม หรือมันจะหัวหกก้นขวิดยังไงก็ได้

        แม้จะดำเนินเรื่องได้กระท่อนกระแท่นออกอ่าวออกทะเล  จนตั้งคะแนน 2/10 ไว้ในใจ   ความหวานในตอนจบกลับช่วยความขมที่รับมาตลอดเรื่อง ตีตื้นขึ้นมาในแมทช์สุดท้าย      5/10   แล้วกันนะ.... มิสเตอร์เฮิร์ท มือวางอันดับเจ็บ


ชื่อสินค้า:   มิสเตอร์เฮิร์ท มือวางอันดับเจ็บ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่