สวัสดีค่า นี่เป็นรีวิวแรกของเราและเป็นการศัลยกรรมครั้งแรกของเราเลยด้วย
จริงๆตอนแรกเป็นคนแอนตี้ศัลยกรรมมากๆ (แต่สุดท้ายก็ไปเฉาะดั้ง 5555)
จริงๆเราเป็นคนมีสันอยู่แล้ว เวลาถ่ายรูปไล้ดั้งนิดหน่อยก็จบ จบเลยเพราะหันข้างแล้วแหมบไปในทันที 5555
เลยตัดสินใจไปเสริมนิดๆหน่อยให้พอจิ้มลิ้ม เวลาถ่ายรุปด้านข้างละจะได้มีมิติกับเค้าหน่อย
นี่คือรูปก่อนทำ
เราเลือกคลีนิกนานมาก นานจนลืมว่าตัวเองจะทำจมูก อ่านรีวิวไปเรื่อยๆ
ที่ลิสไว้ในใจก็มี
- รพ. เลอลักษณ์
- หมอกมล ทาวอินทาว
- เมโกะ
- หมออาร์ท ดิอาร์ทคลีนิก
ไปๆมาๆ เราก็เลือกมาปรึกษาหมออาร์ทที่แรก เพราะใกล้ที่ทำงาน
พอมาถึง รอแปปนึงก็ได้คุยกับหมอค่ะ หมอน่ารักดี
คำถามแรก มีทรงในใจมั้ยครับ
เราก็จัดเลยค่ะ เอาทรงในใจให้หมอดู แบบลูกเกดที่เป็นเน้ตไอเด้าค่ะ พุ่งๆ คิดว่าทำทั้งทีขอพุ่งๆเลยละกัน
แต่หมอจับจมูกเราละบอกว่า เนื้อน้อยนะ ทำเยอะขนาดนี้สวยตอนแรกแต่ต่อไปจะทะลุนะ
เราก็....งั้นเอาที่หมอว่ามันจะปลอดภัยที่สุดละกันค่ะ
หลังจากนั้น หมอบอกเรามี hump ต้องตะไบด้วยนะ (5000-1000 บาท)
แล้วก็จะมีพนักงานเอาซิลิโคนมาให้ดูค่ะ
มี 2 แบบ (20000,30000 บาท) ถ้าหมอท่านอื่นจะถูกกว่านี้ค่ะ
วันที่เข้ามาปรึกษาเจอเพื่อนมาทำจมูกที่นี่ กำลังเข้าผ่าตัดเลย เลยรอเจอตอนเพื่อนออกมา
คุยไปคุยมา เอาวะ ทำที่นี่เลยละกัน ขี้เกียจไปที่อื่นละ เลยมัดจำจองคิว
และแล้วววว วันนี้ที่รอคอยก็มาถึง
มาถึงรอหมอประมาร 2 ชั่วโมงได้
ก่อนผ่าตัดก็จะมีพนักงานเรียกไปล้างหน้าค่ะ จากนั้นก็เข้าไปคุยกับคุณหมออีกรอบเพื่อตกลงเลือกซิลิโคน
เราเลือกแบบ 20000 บาทค่ะ แล้วมีค่าตะไบ hump อีก 5000 บาท (ไม่รวมค่ายาอีก 1750 บาท)
เราไม่ได้ทานยานอนหลับค่ะ กะแบบ ขอรู้หน่อยจะทำอะไร แล้วเพื่อนเราที่ทำมาเค้าบอกว่า กินไปก็ไม่ง่วงนะแก
เราเลยไม่กิน บวกกับเรากินข้าวมาแล้วเคลิ้ม(หนังท้องตึงหนังตาหย่อน) เราก็ง่วงเบาๆอยู่แล้วด้วย
มาค่ะ ถึงเวลาขึ้นเขียง
ฉีดยาชาก่อนน้าาา
%{+!~£\?.'k>]*]?€|='a
แม่จ้าววววว ใครว่าไม่เจ็บบ คือเจ็บจนต้องร้องขอชีวิต
เราเจ็บมากๆๆๆๆๆๆๆๆน้ำตาไหลจ๊อกๆๆ
แล้วหมอก็เริ่มกรีดเมื่อยาชาออกฤทธิ์
ต่อมา ตะไบกันค่ะ
เสียงตะไบครืดๆ โคตรเสียว เกร็งทั้งตัว เกร็งมากๆ โอ้ยยยน
แล้วก็ยัดซิลิโคนเข้า รู้สึกคับจมูกมากๆ ตอนนั้น แล้วก็เอาเข้าเอาออกหลายรอบเลยค่ะ
เราบอกหมอว่า หมอคะ หนูขอเจ็บทีเดียวนะคะ เอาแบบสวยๆเลยนะคะหมอ
ปล. หมอทำทรงเกาหลีปลายเชิดๆให้เราค่ะ
หมอน่ารัก อารมณ์ดีมั่กๆ
พอเสร็จก็ดังภาพเลยค่ะ
ต้องนอนหมอนสูง ห้ามไข่ ห้ามอาหารทะเล ห้ามแอลกอฮอล์ ห้ามใส่แว่น
7 วันหลังผ่าให้มาตัดไหมจากนั้นถึงล้างหน้าได้
วันแรกตาปิดแบบ เห้ยนี่หน้ากุหรอ โดนใครต่อยมา 55555 มองไม่เห็นเลย
ตายิ่งตี่ๆอยู่
วันที่ 2 3 ก็ดีขึ้นตามลำดับ(ต้องประคบเย็น)
วันที่ 4 ประคบอุ่น แต่เราไม่ค่อยได้ทำ วันนี้คันหัวสุดๆ เลยไปสระผมที่ร้านค่ะ ก็บอกเค้าว่าเบามือที่สุด อย่ากระชากหัวหนุแรงนะคะ
วันที่ 5 ไปทำงานค่า หน้าสดปิดมาร์กไป
วันนี้วันที่ 12 แล้ว (รุปสุดท้าย) หน้าก็เริ่มกีขึ้นค่ะ แต่ยังเสียวๆตึงที่ตาอยู่เลย
เรารู้สึกว่าตอนนี้ตาเรายังแปลกๆอยู่
แฟนเราเรียกเราว่า ดาวมยุรี 55555 บางทีก็เรียกเราว่าบุ๊คโกะ 55555555
เอาจริงยังไม่โอเคกับหน้าตอนนี้นะคะ เพราะมันยังไม่ยุบบวม
ยังอวตารอยู่เลยค่ะ ตะก่อนตาเราเวลายิ้มจะเป็นสระอิ ตอนนี้มันเป็นอะไรก็ไม่รู้ ผีมากๆเลย
รอเข้าที่แล้วจะเอามาให้ชมอันอีกนะคะ
[CR] รีวิวเสริมจมูกกับหมออาร์ท The art clinic
จริงๆตอนแรกเป็นคนแอนตี้ศัลยกรรมมากๆ (แต่สุดท้ายก็ไปเฉาะดั้ง 5555)
จริงๆเราเป็นคนมีสันอยู่แล้ว เวลาถ่ายรูปไล้ดั้งนิดหน่อยก็จบ จบเลยเพราะหันข้างแล้วแหมบไปในทันที 5555
เลยตัดสินใจไปเสริมนิดๆหน่อยให้พอจิ้มลิ้ม เวลาถ่ายรุปด้านข้างละจะได้มีมิติกับเค้าหน่อย
นี่คือรูปก่อนทำ
เราเลือกคลีนิกนานมาก นานจนลืมว่าตัวเองจะทำจมูก อ่านรีวิวไปเรื่อยๆ
ที่ลิสไว้ในใจก็มี
- รพ. เลอลักษณ์
- หมอกมล ทาวอินทาว
- เมโกะ
- หมออาร์ท ดิอาร์ทคลีนิก
ไปๆมาๆ เราก็เลือกมาปรึกษาหมออาร์ทที่แรก เพราะใกล้ที่ทำงาน
พอมาถึง รอแปปนึงก็ได้คุยกับหมอค่ะ หมอน่ารักดี
คำถามแรก มีทรงในใจมั้ยครับ
เราก็จัดเลยค่ะ เอาทรงในใจให้หมอดู แบบลูกเกดที่เป็นเน้ตไอเด้าค่ะ พุ่งๆ คิดว่าทำทั้งทีขอพุ่งๆเลยละกัน
แต่หมอจับจมูกเราละบอกว่า เนื้อน้อยนะ ทำเยอะขนาดนี้สวยตอนแรกแต่ต่อไปจะทะลุนะ
เราก็....งั้นเอาที่หมอว่ามันจะปลอดภัยที่สุดละกันค่ะ
หลังจากนั้น หมอบอกเรามี hump ต้องตะไบด้วยนะ (5000-1000 บาท)
แล้วก็จะมีพนักงานเอาซิลิโคนมาให้ดูค่ะ
มี 2 แบบ (20000,30000 บาท) ถ้าหมอท่านอื่นจะถูกกว่านี้ค่ะ
วันที่เข้ามาปรึกษาเจอเพื่อนมาทำจมูกที่นี่ กำลังเข้าผ่าตัดเลย เลยรอเจอตอนเพื่อนออกมา
คุยไปคุยมา เอาวะ ทำที่นี่เลยละกัน ขี้เกียจไปที่อื่นละ เลยมัดจำจองคิว
และแล้วววว วันนี้ที่รอคอยก็มาถึง
มาถึงรอหมอประมาร 2 ชั่วโมงได้
ก่อนผ่าตัดก็จะมีพนักงานเรียกไปล้างหน้าค่ะ จากนั้นก็เข้าไปคุยกับคุณหมออีกรอบเพื่อตกลงเลือกซิลิโคน
เราเลือกแบบ 20000 บาทค่ะ แล้วมีค่าตะไบ hump อีก 5000 บาท (ไม่รวมค่ายาอีก 1750 บาท)
เราไม่ได้ทานยานอนหลับค่ะ กะแบบ ขอรู้หน่อยจะทำอะไร แล้วเพื่อนเราที่ทำมาเค้าบอกว่า กินไปก็ไม่ง่วงนะแก
เราเลยไม่กิน บวกกับเรากินข้าวมาแล้วเคลิ้ม(หนังท้องตึงหนังตาหย่อน) เราก็ง่วงเบาๆอยู่แล้วด้วย
มาค่ะ ถึงเวลาขึ้นเขียง
ฉีดยาชาก่อนน้าาา
%{+!~£\?.'k>]*]?€|='a
แม่จ้าววววว ใครว่าไม่เจ็บบ คือเจ็บจนต้องร้องขอชีวิต
เราเจ็บมากๆๆๆๆๆๆๆๆน้ำตาไหลจ๊อกๆๆ
แล้วหมอก็เริ่มกรีดเมื่อยาชาออกฤทธิ์
ต่อมา ตะไบกันค่ะ
เสียงตะไบครืดๆ โคตรเสียว เกร็งทั้งตัว เกร็งมากๆ โอ้ยยยน
แล้วก็ยัดซิลิโคนเข้า รู้สึกคับจมูกมากๆ ตอนนั้น แล้วก็เอาเข้าเอาออกหลายรอบเลยค่ะ
เราบอกหมอว่า หมอคะ หนูขอเจ็บทีเดียวนะคะ เอาแบบสวยๆเลยนะคะหมอ
ปล. หมอทำทรงเกาหลีปลายเชิดๆให้เราค่ะ
หมอน่ารัก อารมณ์ดีมั่กๆ
พอเสร็จก็ดังภาพเลยค่ะ
ต้องนอนหมอนสูง ห้ามไข่ ห้ามอาหารทะเล ห้ามแอลกอฮอล์ ห้ามใส่แว่น
7 วันหลังผ่าให้มาตัดไหมจากนั้นถึงล้างหน้าได้
วันแรกตาปิดแบบ เห้ยนี่หน้ากุหรอ โดนใครต่อยมา 55555 มองไม่เห็นเลย
ตายิ่งตี่ๆอยู่
วันที่ 2 3 ก็ดีขึ้นตามลำดับ(ต้องประคบเย็น)
วันที่ 4 ประคบอุ่น แต่เราไม่ค่อยได้ทำ วันนี้คันหัวสุดๆ เลยไปสระผมที่ร้านค่ะ ก็บอกเค้าว่าเบามือที่สุด อย่ากระชากหัวหนุแรงนะคะ
วันที่ 5 ไปทำงานค่า หน้าสดปิดมาร์กไป
วันนี้วันที่ 12 แล้ว (รุปสุดท้าย) หน้าก็เริ่มกีขึ้นค่ะ แต่ยังเสียวๆตึงที่ตาอยู่เลย
เรารู้สึกว่าตอนนี้ตาเรายังแปลกๆอยู่
แฟนเราเรียกเราว่า ดาวมยุรี 55555 บางทีก็เรียกเราว่าบุ๊คโกะ 55555555
เอาจริงยังไม่โอเคกับหน้าตอนนี้นะคะ เพราะมันยังไม่ยุบบวม
ยังอวตารอยู่เลยค่ะ ตะก่อนตาเราเวลายิ้มจะเป็นสระอิ ตอนนี้มันเป็นอะไรก็ไม่รู้ ผีมากๆเลย
รอเข้าที่แล้วจะเอามาให้ชมอันอีกนะคะ