ผมว่าคนที่ศึกษาภาษาศาสตร์น่าจะชอบหนังเรื่องนี้นะ โดยส่วนตัวไม่ได้เรียนด้านภาษาศาสตร์ แต่เคยคิดเรื่องที่ว่า สมองจะพัฒนาตามภาษา ภาษาสามารถดึงศักยภาพของสมองให้คิดภาพได้ทั้งแบบภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว (แอนิเมชั่น)
อย่างตอนที่ผมเรียนภาษาอังกฤษ ผมจะมีความรู้สึกว่าภาพต่างๆ ในสมองมันเป็นแอนิเมชั่น ดูมันมีชีวิต มีเรื่องราว อาจจะเป็นเพราะ tense ต่างๆ โดยเฉพาะ continuous tense นี่ เห็นอิริยาบถต่างๆ ชัดเจนเลย (ในขณะที่ภาษาไทยผมเห็นเป็นภาพนิ่งแห่ะ)
ก่อนที่จะดูเรื่องนี้ ก็คิดว่าน่าจะเป็นแนวสตาร์เกท คือมีการแกะภาษาต่างดาวเพื่อไขปริศนา ก็เลยพาตัวเองไปดูเอาตอนหนังใกล้จะลาโรง ยังคิดในใจว่าหนังฝรั่งคงหมดมุข ไอเดียซ้ำไปซ้ำมา
ก็นั่งดูไปเรื่อยๆ พอดูมาถึงตอนที่ตัวเอกพูดว่า "เวลาเราศึกษาภาษาอะไรมากๆ เราจะเข้าใจรูปแบบการคิดของเจ้าของภาษา"
เฮ้ยยยย.. นี่มันต้องเป็นมุขใหม่แน่ๆ เริ่มตั้งใจดู
ดูไปเรื่อยๆ ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องสลับไปฉากลูกนางเอกตลอด ดูเหมือนหนังไม่เป็นเส้นตรง ดูมันกลมๆ ยิ่งตอนที่ลูกนางเอกถามนางเอกเรื่องคำที่จะใช้ประนีประนอมในกรณี competition ตอนนั้นยังไม่เกท มาเกทก็ตอนที่ลูกนางเอกกลับมาถามอีกรอบแล้วนางเอกตอบไปว่า
non-zero-sum game ซึ่งเป็นคำที่นางเอกได้ยินใครซักคนพูดขึ้นพอดีในขณะนั้น
ป้าบบบบ... โอเค ใช่แล้ว เรื่องชักสนุก นางเอกสามารถสื่อสารข้ามมิติได้!!
ต้องขอบคุณช๊อตนี้ที่ทำให้ผมดูหนังเรื่องนี้อย่างสนุก ไม่งั้นผมคงเดินออกจากโรงแบบมึนๆ เหมือนคนดูเกือบทั้งโรง
ความรู้สึกหลังจากดู Arrival (สปอยล์)
อย่างตอนที่ผมเรียนภาษาอังกฤษ ผมจะมีความรู้สึกว่าภาพต่างๆ ในสมองมันเป็นแอนิเมชั่น ดูมันมีชีวิต มีเรื่องราว อาจจะเป็นเพราะ tense ต่างๆ โดยเฉพาะ continuous tense นี่ เห็นอิริยาบถต่างๆ ชัดเจนเลย (ในขณะที่ภาษาไทยผมเห็นเป็นภาพนิ่งแห่ะ)
ก่อนที่จะดูเรื่องนี้ ก็คิดว่าน่าจะเป็นแนวสตาร์เกท คือมีการแกะภาษาต่างดาวเพื่อไขปริศนา ก็เลยพาตัวเองไปดูเอาตอนหนังใกล้จะลาโรง ยังคิดในใจว่าหนังฝรั่งคงหมดมุข ไอเดียซ้ำไปซ้ำมา
ก็นั่งดูไปเรื่อยๆ พอดูมาถึงตอนที่ตัวเอกพูดว่า "เวลาเราศึกษาภาษาอะไรมากๆ เราจะเข้าใจรูปแบบการคิดของเจ้าของภาษา" เฮ้ยยยย.. นี่มันต้องเป็นมุขใหม่แน่ๆ เริ่มตั้งใจดู
ดูไปเรื่อยๆ ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องสลับไปฉากลูกนางเอกตลอด ดูเหมือนหนังไม่เป็นเส้นตรง ดูมันกลมๆ ยิ่งตอนที่ลูกนางเอกถามนางเอกเรื่องคำที่จะใช้ประนีประนอมในกรณี competition ตอนนั้นยังไม่เกท มาเกทก็ตอนที่ลูกนางเอกกลับมาถามอีกรอบแล้วนางเอกตอบไปว่า non-zero-sum game ซึ่งเป็นคำที่นางเอกได้ยินใครซักคนพูดขึ้นพอดีในขณะนั้น
ป้าบบบบ... โอเค ใช่แล้ว เรื่องชักสนุก นางเอกสามารถสื่อสารข้ามมิติได้!!
ต้องขอบคุณช๊อตนี้ที่ทำให้ผมดูหนังเรื่องนี้อย่างสนุก ไม่งั้นผมคงเดินออกจากโรงแบบมึนๆ เหมือนคนดูเกือบทั้งโรง