ท่านที่เคารพรักครับ เบื้องหลังลายฉลุปักเลื่อมสวยงามนั้น    มักจะเป็นกองด้ายที่ยุ่งเหยิงรุงรังกลุ่มหนึ่ง

     เคยมีปราชญ์ท่านหนึ่งพูดเอาไว้ว่า ชีวิตคน วัยเด็ก เปรียบเหมือนหมู คือ กินแล้วนอน
     ชีวิตคน วัยหนุ่มวัยสาว เปรียบเหมือนวัว คึกคะนอง มีพละกำลัง
     และเปรียบชีวิตคน วัยแก่เฒ่าว่า เปรียบเหมือนสุนัข ที่ต้องเฝ้าบ้าน คำพูดนี้ มีเปรียบเทียบมาช้านาน

     แต่ไม่รู้ว่าช่วงเวลาใด ที่ชีวิตคน จะเหมือนแพะ     หรือชีวิตคน  จะเหมือนแกะ

    แต่ที่แน่ๆ แทบทุกคนมีโอกาสในชีวิต ที่จะเป็นแพะ หรือเป็นแกะ  ได้ทั้งนั้น

    ท่านครับ  ชีวิตอันโลดแล่นตามเข็มนาฬิกาของมนุษย์นั้น  หากพูดตามสำนวนกำลังภายในของท่านโกวเล้ง ก็ต้องพูดว่า
        
        “ สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ “

       อันหมายถึงว่า พฤติกรรมของมนุษย์ นอกจากจะแตกต่างไปตามวัยแล้ว ยังเกิดความเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุการณ์ด้วย

       คำว่าชีวิตคนเริ่มต้นเมื่ออายุ 40  นั้นจริงแท้   เพราะช่วงอายุนี้ ถือเป็นวัยที่สมบูรณ์ เปี่ยมด้วยวุฒิภาวะของอารมณ์และจิตใจ
      ยิ่งโดยเฉพาะสุภาพสตรี  ท่านใดที่ครองตนอยู่ในวัย 40 กระรัต ถือเป็นวัยที่มีเสน่ห์สูงสุดของของท่านสุภาพสตรียิ่งนัก

        ที่ข้าพเจ้าพูดเช่นนี้ ก็เพราะพานพบกับตนเองว่า สมาชิกราชดำเนินท่านสุภาพสตรี ที่อายุเกือบ  40 ล้วนสวยงามเปี่ยมความสง่าหลายท่าน

      เช่นท่านนพนครพิงค์  ท่านคิตตี้    ส่วนน้องพร เพื่อนรักนั้น แม้จะยังอายุไม่ถึง 30   แต่ก็ถือได้ว่า ดูใบหน้า มีเสน่ห์คล้ายอายุ 40 ครับ


     ท่านครับ คุณชูวิทย์เป็นนักการเมืองคนหนึ่ง ที่สถานการณ์สร้างให้คุณชูวิทย์ เลือกที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิต  เพราะปรกติที่ผ่านมา
   เรามักจะเห็นแต่สื่อสารมวลชนเลื่อนฐานะมาเป็นนักการเมือง แต่น้อยมาก ที่เราจะเห็นนักการเมือง เปลี่ยนตนเอง มาเป็นนักข่าว
  และด้วยบุคลิก ถึงคนถึงลูกถึงเมีย กล้าลุย กล้าแฉ ตีแผ่ความไม่ถูกต้องของคุณชูวิทย์ ที่ตะลุยดะแบบไม่มีเกียร์ถอย แต่สอดแทรกอารมณ์ขัน

   ( ที่ผ่านมา คงจำนโยบาย รักษาฟรี แถมเงินอีก  30 บาท ได้ )

   ( ที่ผ่านมา คงจำบทบาท การแฉคลิปเปิดโปงบ่อนพนันของคุณชูวิทย์อันลือลั่นในอดีตได้ รวมถึงเปิดโปงส่วยต่างๆ
   จนเคยเป็นความหวังทางการเมือง ว่าเราจะมีฝ่ายค้านที่มีคุณภาพ มาแทนพรรค ปชป )
  
    หากดูจากความเป็นนักการเมือง “ น้ำดี “ ที่ผิดแผกแตกต่างจากนักการเมืองอื่นๆ เพราะคุณชูวิทย์เป็นนักการเมืองคนเดียว
   ที่ประกาศว่า จะเป็น “ ฝ่ายค้าน “ และยามที่เขาเข้าสังกัดพรรคของท่านบรรหาร เมื่อความคิดเห็นไม่ตรงกัน เขาก็กล้าประกาศลาออก
   แยกตัวออกมา    แบบทางใครทางมัน

   ในอดีตนั้น สื่อสารมวลชนคนดังอย่างคุณ สรยุทธ์ เคยโดนโจมตีอยู่บ่อยๆว่า คุณสรยุทธ์เป็นแดง
   กรณีคุณชูวิทย์ ที่โด่งดังจนได้รับความคาดหมายว่า รายการข่าวของคุณชูวิทย์ จะได้รับความนิยมชื่นชม ไม่น้อยกว่า คุณสรยุทธ์เลยนั้น  

   ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ว่า คุณชูวิทย์จะตรงไป ตรงมา ในฐานะสื่อสารมวลชน คนอ่านข่าว วิเคราะห์ข่าวหรือไม่ ?         เขาตรงไปตรงมา แน่นอน
   ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ว่า คุณชูวิทย์จะมีข้อมูลอันลุ่มลึกหรือไม่ เพราะผลงานที่ผ่านมา เชื่อใจในมาตรฐานเขาได้ ?    เขาลุ่มลึก แน่นอน

  แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า  ท่านคิดว่า คุณชูวิทย์ สีอะไร   สำหรับผมแล้ว ผมคิดว่า นี่คือสื่อสารมวลชน ที่เป็น “ กลาง “ ที่สุดครับ

  
         ……………………………….