ระนองทริปนี้ได้มาแบบไม่ทันตั้งตัวเท่าไหร่ สมาชิกทั้งหมด4คน ผลัดกันขับรถไปเรื่อยๆจากกรุงเทพจนถึงระนอง รวมๆแล้วเกือบ10ชม.จ้า
เริ่มออกเดินทางตี 5 เพื่อนก็ขับส่วนเราก็หมอนพร้อม ผ้าห่มพร้อม รออะไรล่ะคุ๊น
ฟื้นอีกทีก็หัวหินถิ่นมีหอย แวะกินข้าวเช้า ใส่บาตรกันซักหน่อยแล้วเดินทางต่อค่ะ

ทางลงใต้ช่วงนี้ทำทางตั้งแต่หัวหินยาวๆไประนองเลยค่ะ เลี่ยงการขับช่วงกลางคืนได้จะดีที่สุด^^
พ้นจากชุมพรเข้าระนองทางจะเริ่มคดเคี้ยวเลี้ยวลด โค้งกันไม่หยุดหย่อน น้องๆปายเลยก็ว่าได้
ของดีของดังอย่างแรกคือ “ขนมจีบ ซาลาเปา ทับหลี”
ซาลาเปาลูกละ6บาท ลูกไม่ใหญ่ แป้งเบาๆนุ่มๆ ไส้หอมๆ 3ลูกก็ยังไม่พอ ขนมจีบร้อนๆก็ดีงาม
แวะเที่ยวไปเรื่อยๆ
ร้านกาแฟสดห้วยค้างคาว
บ่อน้ำพุร้อน

มื้อแรกของทริปนี้ประเดิมด้วย "ร้านถอดรองเท้า"
เป็นร้านดั้งเดิมที่ใครมาระนองต้องแวะไปชิมค่ะ
อาหารร้านนี้รสชาติดีค่ะ ไม่เผ็ดจนเกินไป ยำไข่ปลาคือทอดไข่ปลามากรอบๆราดด้วยน้ำยำใส่มะม่วงเปรี้ยว หื้ออออ ดีอ่ะ

เมนูSignatureอาหารใต้
ใบเหลียงผัดไข่อร่อยรสชาติออริจินอลตามแบบฉบับร้านอาหารใต้

ยำผักกูด กุ้งเด้งๆ ผักกรอบๆ น้ำยำออกหวานนำเปรี้ยวตาม เด็กกินได้ผู้ใหญ่กินเพลิน
ปล.สำหรับร้านนี้ไม่ค่อยมีเมนูที่เราตามหา เช่นหอย กุ้ง ปู เท่าไหร่นัก ส่วนมากจะเป็นอาหารพื้นบ้านค่ะ
เพราะว่ามันไม่สุด เราจึงต้องไปต่อกันอีกร้าน! เดี๋ยวๆตะกี้คือออเดิฟใช่ม๊ายยยย 555

"ร้านเคียงเล"
หอยนางรมสดพร้อมเครื่องเคียงตัวละ 85 บาท มาอย่างใหญ่ อวบๆ สดๆ เห็นแล้วน้ำลายแตก
พร้อมแล้ว อั้มมมมม
นั่งปรบมือให้หอยเลยค่ะ #บราโว่
แกงเหลือง
เนื้อปลาเน้นๆ พริกแกง จัดจ้าน เผ็ดร้อนแซ่บเฟร่อเอาไป 5 ดาว
ร้านอยู่ติดทะเล บรรยากาศดีค่ะ แต่ตอนไปถึงฝนดั๊นตกซะนี่ TT

คืนนี้เราพักกันที่ Le ranong ที่พักในเมืองราคาย่อมเยาว์ ทางโรงแรมมีกาแฟสดฟรีให้ตอนเช้าค่ะ

วันที่ 2 เราแพลนว่าจะไปกินโรตีกันที่ร้านนี้เลยค่ะ
"ร้านโรตีนิสรา" ของดีจังหวัดระนอง (ดีจริงรึเปล่าไม่ยังไม่รู้ รู้แค่ว่าสั่งมาลองเกือบทุกเมนู!!!)
คนเยอะมาก แนะนำให้ไปก่อน10โมงเพราะโรตีจะหมดนะจ๊ะ
เริ่มค่ะ!
แผ่นโรตีกินกับแกงกระหรี่ไก่ หอมเครื่องแกงผสมผสานเข้ากับโรตีกรอบนอกนุ่มในได้เป็นอย่างดี ปรบมือค่ะ
ด้วยรสชาติ ราคา สถานที่ บริการ ถือว่าเป็นร้านดังของดีจังหวัดระนองจริงๆค่ะ
มื้อนี้ราคา300นิดๆค่ะ

อิ่มแล้วเที่ยวได้ เริ่มต้นวันด้วยการไหว้พระที่วัดบ้านหงาว
ไปถ่ายรูปชิคๆคูลๆที่ “ภูเขาหญ้า”

แช่น้ำร้อน เล่นน้ำตกที่ “บ่อน้ำแร่ร้อนพรรั้ง”
น้ำใสมากจริงๆ

และไฮไลท์ที่เราพลาดไม่ได้คือ “บ้านไร่ไออรุณ” ถึงจะจองที่พักไม่ได้แต่ขอเข้ามาชมความสวยงามของที่นี่ซักหน่อยค่ะ
เอ๊ะๆ นั่นใครเอ่ย “พี่เบส” เจ้าของบ้านไร่ได้เจอตัวเป็นๆพี่หมีถึงกับรีบปรี่เข้าไปขอถ่ายรูปเลยค่ะ พี่หมีเป็นFCพี่เบสและบ้านไร่
ออดอ้อนขอให้พี่เบสพาไปทัวร์บ้านต่างๆในสวนค่ะ ระหว่างทางยังเก็บผลไม้ให้ชิมอีกหลายพวง
เข้ามาถึงกับต้องอ้าปากค้าง ร้องโอ้โห บ้านสวยทุกหลัง ดูแล้วรู้เลยว่าสร้างด้วยความรักและความใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ อบอุ่นและชิคๆคูลๆมากค่ะ
อาจจะจองห้องพักยากซักหน่อยแต่ถ้ามีโอกาสอยากจะมาพักที่นี่ให้ได้ซักครั้ง
แนะนำสำหรับใครที่อยากมาใช้ชีวิตช้าๆ สลอต สโลว์ อบอุ่น ต้องบ้านไร่ไออรุณเลยค่ะ

จากบ้านไร่เราขับรถย้อนกลับมาในเมืองเพื่อไปที่พักเราคืนนี้กัน
“บ้านในหมง”
ก่อนเข้าไปก็แวะตลาดซื้อของกินกันก่อน
ทางเข้าลึกลับซับซ้อนเล็กน้อย ไม่มีป้ายบอกทาง พี่กอล์ฟเจ้าของบ้านแชร์โลมาให้ เราก็ขับตามไป
ฝนตกปรอยๆ รถมาหยุดอยู่ที่บ้านรั้วสีน้ำตาลหลังนึง มีเด็กผู้ชายตัวเล็กๆพร้อมหมาลาบาดอร์วิ่งออกมาต้อนรับเรา
ห้องพักเป็นบ้าน2ชั้นติดริมน้ำ บรรยากาศชิวสุดๆ นอนฟังเสียงน้ำไหล โหยยยยยสโลว์ไลฟ์

วันที่3 ตื่นแต่เช้าไปเล่นน้ำ
กิจกรรมบ้านในหมงคือเล่นน้ำและล่องแก่ง โดยมีหัวหน้าไกด์คือน้องตาต้าและเจ้าฮิปโป
ล่องไปอย่างไร้ทิศทาง สงสารน้องตาต้าที่ต้องคอยว่ายน้ำมาลากมาดึง ผู้หญิงตัวบางเบาทั้ง4คน 555
ใช้เวลาล่องแก่งเกือบชม. พี่กอล์ฟก็จะขับรถมารับที่ปลายทางค่ะ

ที่สุดท้ายและท้ายสุดก่อนกลับกทม.
"ก้องวัลเล่" คอกาแฟทั้งหลายต้องไม่พลาด
นอกจากชิมกาแฟที่คั่วสดๆใหม่ๆแล้ว ยังได้ฟังเรื่องราวทั้งกาแฟและประวัติพี่ก้องไปเพลินๆ ยาวๆ ยาวมากๆ จนเกือบกลับกทม.ไม่ทัน555

ขอบอกว่ามาระนองครั้งนี้ถึงจะพลาดทริปดำน้ำที่เกาะพม่าเพราะพายุเข้า TT เท้านี่ไม่ได้แตะน้ำทะเล
แต่ก็เที่ยวจนคุ้มและสนุกกับสถานที่ต่างๆในระนองมากค่ะ ทั้งทะเล น้ำตก บ่อน้ำร้อน ภูเขา ไร่ ที่นี่มีครบจบที่เดียวจริงๆค่ะ