คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 77
เพิ่งเห็นแล้วรู้สึกคุ้นๆกับล็อคอินมาก เราเคยคุยกันเรื่องอยากมีลูกไม่อยากมีลูกไหมคะ
แต่เรื่องนี้เราว่าเราเข้าใจคุณนะ แม้จะไม่เห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์
เราคิดว่าคุณหวังกับลูกไว้มาก ไม่ใช่เพราะคุณอยากเอาความฝันไปยัดเยียดให้ลูกหรอก
คุณแค่คิดว่าคุณมีความรู้ตรงนี้ ถ้าลูกคุณมาทางนี้ คุณสามารถสนับสนุนส่งเสริมให้ลูกมีต้นทุน มีความได้เปรียบกว่าคนอื่น
แต่ถ้าลูกไม่ชอบ ไม่เอา ไม่ไปทางที่คุณปูให้ ทั้งสามคนด้วยเอ้า คุณก็ไม่ว่าอะไรหรอก แต่ถ้าไปทางอื่น ก็ต้องขวนขวายหาต้นทุนของตัวเอง และต้องทำให้ได้ดีกว่าทางที่คุณปูทางให้ด้วย เราเข้าใจถูกไหม
เราคิดว่า คุณไม่ได้หวังหรือขีดเส้นตายไว้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก ว่าทุกสิ่งมันต้องเป็นไปแบบที่คิดไว้ คุณแค่มองว่า มีสามคน มันก็มีเปอร์เซ็นต์ที่จะสมหวังมากกว่าสองคน เอาจริงๆนะ คุณก็ยังคิดว่าถ้ามีสี่คน ห้าคนได้ ก็น่ามี เพราะมันก็มีความน่าจะเป็นที่จะสมหวังได้มากกว่าสามคนอีกนั่นแหละ แต่ที่คุณไม่มีเพราะรู้ตัวว่าเลี้ยงไหวแค่นี้ และคุณก็รู้อีกนั่นแหละ ว่าเปอร์เซ็นต์ที่จะไม่สมหวังเลยมันก็มี ไม่ว่าจะมีสามคน สี่คน ห้าคนก็เถอะ
แต่เรื่องนี้เราว่าเราเข้าใจคุณนะ แม้จะไม่เห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์
เราคิดว่าคุณหวังกับลูกไว้มาก ไม่ใช่เพราะคุณอยากเอาความฝันไปยัดเยียดให้ลูกหรอก
คุณแค่คิดว่าคุณมีความรู้ตรงนี้ ถ้าลูกคุณมาทางนี้ คุณสามารถสนับสนุนส่งเสริมให้ลูกมีต้นทุน มีความได้เปรียบกว่าคนอื่น
แต่ถ้าลูกไม่ชอบ ไม่เอา ไม่ไปทางที่คุณปูให้ ทั้งสามคนด้วยเอ้า คุณก็ไม่ว่าอะไรหรอก แต่ถ้าไปทางอื่น ก็ต้องขวนขวายหาต้นทุนของตัวเอง และต้องทำให้ได้ดีกว่าทางที่คุณปูทางให้ด้วย เราเข้าใจถูกไหม
เราคิดว่า คุณไม่ได้หวังหรือขีดเส้นตายไว้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก ว่าทุกสิ่งมันต้องเป็นไปแบบที่คิดไว้ คุณแค่มองว่า มีสามคน มันก็มีเปอร์เซ็นต์ที่จะสมหวังมากกว่าสองคน เอาจริงๆนะ คุณก็ยังคิดว่าถ้ามีสี่คน ห้าคนได้ ก็น่ามี เพราะมันก็มีความน่าจะเป็นที่จะสมหวังได้มากกว่าสามคนอีกนั่นแหละ แต่ที่คุณไม่มีเพราะรู้ตัวว่าเลี้ยงไหวแค่นี้ และคุณก็รู้อีกนั่นแหละ ว่าเปอร์เซ็นต์ที่จะไม่สมหวังเลยมันก็มี ไม่ว่าจะมีสามคน สี่คน ห้าคนก็เถอะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 47
เห็น จขกท อยาก War
งั้นมาเลยครับ ผมขออาสาเอง
ขอตอบแบบสุภาพ ไม่หยาบคายเกรียนแตก ให้สมกับวุฒิภาวะวิศวกรหน่อยนะครับ
อย่าลืมว่าคุณถือความน่าเชื่อถือของวิชาชีพคุณไว้ในกระทู้นี้
ไม่ต้องถามว่าชนะได้อะไร แพ้ได้อะไรครับ
คำตอบอยู่ในระหว่างทางอยู่แล้วที่มีการคุยด้วยเหตุผลอยู่แล้ว
----------------
ผมไม่รู้จักคุณเป็นการส่วนตัวนะครับ
แต่เอาตรงๆ ไม่ชอบสิ่งที่คุณเขียนมาแม้แต่ประโยคเดียว
เพราะคุณตั้งคำถามกับคนอื่น
แต่กลับไม่ฟังในสิ่งที่คนอื่นตอบ
และใช้อคติคัดกรองเพียงแค่เสียงที่คุณอยากได้ยิน
แบบนี้บ้านผมเรียกว่า "คนดักดาน" ครับ
และนี่คือประเด็นแรก ที่ทำให้คุณไม่สามารถเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกคุณได้
เพราะคุณหลีกหนีการพิสูจน์หาความจริง และใช้อคติเป็นคำตอบ
ไม่น่าใช่จรรยาบรรณที่ดีของนักวิทยาศาสตร์นะครับคุณพ่อ
งั้นเรามาคุยกับแบบวิทยาศาสตร์กันดีกว่า
โดยผมจะใช้ความรู้แบบม.ปลาย ตก 0 ฟิสิกส์เนี่ยแหละ ขอคุยกับคุณ
ในขณะที่คุณเขียนสมการมาเพื่อหาความน่าจะเป็นที่ "ชีวิตทั้งสาม" ที่จากการปฏิสนธิของสเปิร์มของคุณกับไข่ภรรยานั้น
จะสามารถเจริญเติบโตผ่านทุกตัวแปรบนโลกนี้ แล้วเข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์ และเป็น Prototype แบบที่คุณอยากให้เป็น
มีโอกาสเป็นไปได้ครับ
ผมไม่เถียง
แต่คุณลืมไปหรือเปล่าว่าตัวแปรบนโลกนี้มีมากเสียจนเอานิ้วมือและนิ้วเท้าคุณกับผมรวมกัน
มันก็นับได้ไม่หมด
คนข้างบ้าน ทีวี อินเตอร์เน็ต เพื่อน แฟน เพื่อนของเพื่อนแฟน ครูบาอาจารย์ ฯลฯ
หรือแม้แต่กระทั่งตัวคุณเอง ที่วันนึงอาจจะมีความคิดที่เปลี่ยนไป
คุณใส่เปอร์เซนต์ให้ตัวแปรเหล่านี้หรือยังว่า
ตัวแปรไหนมันมีค่าน้ำหนักที่ส่งผลกระทบกับสมการเท่าไร
เพราะทุกตัวนั้น มันไม่เท่ากันเลย
และยังเป็นตัวแปรที่คุณควบคุมไม่ได้ทั้งสิ้น
คุณไม่ได้มีเวลาขนาดนั้นหรอก และแม้แต่คุณจะว่างขนาดนั้น
อย่างน้อยที่สุด ถ้าคุณตายไป ตัวแปรเหล่านั้นก็ไม่มีใครควบคุมอยู่ดี
คำถามคือ
ในระหว่างความตายที่คุณไม่รู้เลยจะเกิดขึ้นเมื่อไร
ในระหว่างที่คุณพยายามแทบตายเพื่อค้นพบว่าตัวเราเองไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลย
ในระหว่างที่คุณบอกลูกคุณทุกคนว่า มันคือสิ่งที่ดี สุจริต ทำไมไม่ทำตาม
ผมอยากให้คุณทบทวนดีๆว่านั่นคือความสุขจริงเหรอ ?
ถ้าคุณตอบว่า ก็เออสิ
งั้นผมถามต่อว่ามันเกิดจากอะไร?
เกิดจากที่ลูกคุณเป็นอย่างที่คุณหวังว่าเขาน่าจะเป็น
หรือเกิดจากที่ลูกคุณเป็นอย่างที่คุณหวังว่าตัวเองเคยอยากเป็น
แล้วไม่มีประสิทธิภาพพอที่จะเป็นได้
ไม่ต้องมาตอบเรื่องอภิชาตบุตร
เพราะเรากำลังคุยกันเรื่องวิทยาศาสตร์และตรรกะ
เด็กเรียนป.4 เรียน สปช (ยังมีวิชานี้อยู่หรือเปล่า 555)
มันก็ยังรู้ว่าต้นไม้มันเบนตัวเองเข้าหาแสงจากดวงอาทิตย์ที่เป็นสิ่งเร้า
คำถามคือ คุณยิ่งใหญ่ขนาดเป็นดวงอาทิตย์ให้กับลูกได้จริงหรือ?
หรือเอาจริงๆแล้ว คนเป็นพ่อเป็นแม่
มันก็มีหน้าที่แค่รดน้ำพรวนดิน
ใส่ปุ๋ยบ้างบางครั้ง กำจัดศัตรูพืชบ้างบางที
และค้ำยันไม่ให้เขาโค่นลง
ในวันที่เขาอยากจะไปไกลกว่าตัวเขาเอง
แล้วคุณมั่นใจได้อย่างไรว่าทิศที่เขาหันไป
มันคือทิศเดียวกันกับที่คุณเคยอยากให้เขาเป็น
ทั้งหมดนั่นไม่สำคัญเลย ถ้าเทียบกับคำถามที่ว่า
แล้วคุณรับได้หรือเปล่า
ถ้าสมการที่คุณคำนวณหาความน่าจะเป็นมาทั้งชีวิตมันผิด
ถ้าโอกาสที่จะเป็นมันคือศูนย์
คุณยังจะรักพวกเขาอยู่ไหม ?
หรือมันก็แค่ผลลัพธ์ของการปฏิสนธิที่ผิดพลาดในสายตาคุณ
ที่คุณยังคิดว่ามันน่าจะเป็นอยู่ตอนนี้
เพราะโลกของพวกเขายังแคบมาก
มากเกินกว่าที่เขาจะเข้าใจว่าอะไรคือรั้วบ้าน
และอะไรคือสุดขอบโลก
และถ้าวันนึงเขาเกิดสงสัยอยากจะออกไปจากรั้วบ้านเมื่อไร
เชื่อได้เลยว่าที่ตรงนั้น มือของคุณเอื้อมไปบังตาเขาไม่ถึงหรอก
-----------------------------
ผมจบแค่นี้ อยากตอบอะไรก็ตอบมาครับ
ปล. ตอนเด็กๆผมก็อยากเป็นโปรแกรมเมอร์ครับ
แต่ทุกวันนี้เป็นสถาปนิก
นั่นอาจจะทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์บางอย่างอาจจะผิดพลาด
ก็ต้องขออภัยไว้ ณ ตรงนี้ด้วยครับ
งั้นมาเลยครับ ผมขออาสาเอง
ขอตอบแบบสุภาพ ไม่หยาบคายเกรียนแตก ให้สมกับวุฒิภาวะวิศวกรหน่อยนะครับ
อย่าลืมว่าคุณถือความน่าเชื่อถือของวิชาชีพคุณไว้ในกระทู้นี้
ไม่ต้องถามว่าชนะได้อะไร แพ้ได้อะไรครับ
คำตอบอยู่ในระหว่างทางอยู่แล้วที่มีการคุยด้วยเหตุผลอยู่แล้ว
----------------
ผมไม่รู้จักคุณเป็นการส่วนตัวนะครับ
แต่เอาตรงๆ ไม่ชอบสิ่งที่คุณเขียนมาแม้แต่ประโยคเดียว
เพราะคุณตั้งคำถามกับคนอื่น
แต่กลับไม่ฟังในสิ่งที่คนอื่นตอบ
และใช้อคติคัดกรองเพียงแค่เสียงที่คุณอยากได้ยิน
แบบนี้บ้านผมเรียกว่า "คนดักดาน" ครับ
และนี่คือประเด็นแรก ที่ทำให้คุณไม่สามารถเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกคุณได้
เพราะคุณหลีกหนีการพิสูจน์หาความจริง และใช้อคติเป็นคำตอบ
ไม่น่าใช่จรรยาบรรณที่ดีของนักวิทยาศาสตร์นะครับคุณพ่อ
งั้นเรามาคุยกับแบบวิทยาศาสตร์กันดีกว่า
โดยผมจะใช้ความรู้แบบม.ปลาย ตก 0 ฟิสิกส์เนี่ยแหละ ขอคุยกับคุณ
ในขณะที่คุณเขียนสมการมาเพื่อหาความน่าจะเป็นที่ "ชีวิตทั้งสาม" ที่จากการปฏิสนธิของสเปิร์มของคุณกับไข่ภรรยานั้น
จะสามารถเจริญเติบโตผ่านทุกตัวแปรบนโลกนี้ แล้วเข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์ และเป็น Prototype แบบที่คุณอยากให้เป็น
มีโอกาสเป็นไปได้ครับ
ผมไม่เถียง
แต่คุณลืมไปหรือเปล่าว่าตัวแปรบนโลกนี้มีมากเสียจนเอานิ้วมือและนิ้วเท้าคุณกับผมรวมกัน
มันก็นับได้ไม่หมด
คนข้างบ้าน ทีวี อินเตอร์เน็ต เพื่อน แฟน เพื่อนของเพื่อนแฟน ครูบาอาจารย์ ฯลฯ
หรือแม้แต่กระทั่งตัวคุณเอง ที่วันนึงอาจจะมีความคิดที่เปลี่ยนไป
คุณใส่เปอร์เซนต์ให้ตัวแปรเหล่านี้หรือยังว่า
ตัวแปรไหนมันมีค่าน้ำหนักที่ส่งผลกระทบกับสมการเท่าไร
เพราะทุกตัวนั้น มันไม่เท่ากันเลย
และยังเป็นตัวแปรที่คุณควบคุมไม่ได้ทั้งสิ้น
คุณไม่ได้มีเวลาขนาดนั้นหรอก และแม้แต่คุณจะว่างขนาดนั้น
อย่างน้อยที่สุด ถ้าคุณตายไป ตัวแปรเหล่านั้นก็ไม่มีใครควบคุมอยู่ดี
คำถามคือ
ในระหว่างความตายที่คุณไม่รู้เลยจะเกิดขึ้นเมื่อไร
ในระหว่างที่คุณพยายามแทบตายเพื่อค้นพบว่าตัวเราเองไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลย
ในระหว่างที่คุณบอกลูกคุณทุกคนว่า มันคือสิ่งที่ดี สุจริต ทำไมไม่ทำตาม
ผมอยากให้คุณทบทวนดีๆว่านั่นคือความสุขจริงเหรอ ?
ถ้าคุณตอบว่า ก็เออสิ
งั้นผมถามต่อว่ามันเกิดจากอะไร?
เกิดจากที่ลูกคุณเป็นอย่างที่คุณหวังว่าเขาน่าจะเป็น
หรือเกิดจากที่ลูกคุณเป็นอย่างที่คุณหวังว่าตัวเองเคยอยากเป็น
แล้วไม่มีประสิทธิภาพพอที่จะเป็นได้
ไม่ต้องมาตอบเรื่องอภิชาตบุตร
เพราะเรากำลังคุยกันเรื่องวิทยาศาสตร์และตรรกะ
เด็กเรียนป.4 เรียน สปช (ยังมีวิชานี้อยู่หรือเปล่า 555)
มันก็ยังรู้ว่าต้นไม้มันเบนตัวเองเข้าหาแสงจากดวงอาทิตย์ที่เป็นสิ่งเร้า
คำถามคือ คุณยิ่งใหญ่ขนาดเป็นดวงอาทิตย์ให้กับลูกได้จริงหรือ?
หรือเอาจริงๆแล้ว คนเป็นพ่อเป็นแม่
มันก็มีหน้าที่แค่รดน้ำพรวนดิน
ใส่ปุ๋ยบ้างบางครั้ง กำจัดศัตรูพืชบ้างบางที
และค้ำยันไม่ให้เขาโค่นลง
ในวันที่เขาอยากจะไปไกลกว่าตัวเขาเอง
แล้วคุณมั่นใจได้อย่างไรว่าทิศที่เขาหันไป
มันคือทิศเดียวกันกับที่คุณเคยอยากให้เขาเป็น
ทั้งหมดนั่นไม่สำคัญเลย ถ้าเทียบกับคำถามที่ว่า
แล้วคุณรับได้หรือเปล่า
ถ้าสมการที่คุณคำนวณหาความน่าจะเป็นมาทั้งชีวิตมันผิด
ถ้าโอกาสที่จะเป็นมันคือศูนย์
คุณยังจะรักพวกเขาอยู่ไหม ?
หรือมันก็แค่ผลลัพธ์ของการปฏิสนธิที่ผิดพลาดในสายตาคุณ
ที่คุณยังคิดว่ามันน่าจะเป็นอยู่ตอนนี้
เพราะโลกของพวกเขายังแคบมาก
มากเกินกว่าที่เขาจะเข้าใจว่าอะไรคือรั้วบ้าน
และอะไรคือสุดขอบโลก
และถ้าวันนึงเขาเกิดสงสัยอยากจะออกไปจากรั้วบ้านเมื่อไร
เชื่อได้เลยว่าที่ตรงนั้น มือของคุณเอื้อมไปบังตาเขาไม่ถึงหรอก
-----------------------------
ผมจบแค่นี้ อยากตอบอะไรก็ตอบมาครับ
ปล. ตอนเด็กๆผมก็อยากเป็นโปรแกรมเมอร์ครับ
แต่ทุกวันนี้เป็นสถาปนิก
นั่นอาจจะทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์บางอย่างอาจจะผิดพลาด
ก็ต้องขออภัยไว้ ณ ตรงนี้ด้วยครับ
แสดงความคิดเห็น
ทำไม ผมถึงอยากมีลูก ตอนนี้ลูกสามแล้ว
เลยอยากบอกให้เห็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงอยากมีลูกบ้าง
ผมเรียนวิศวะไฟฟ้า ตอนเด็กๆชอบวิทยาศาสตร์ ทุกครั้งที่เปิดตำรา ทำไมมันมีแต่นำสกุลฝรั่ง
ผมอาจจะเป็นวิศวะโนเนมคนนึง แต่ผมอยากให้มี
นำนามสกุลของผมในตำราบ้าง (ตอนนี้ตัวผมเองกำลังแต่งตำราด้านวิศวไฟฟ้าภาษาไทยอยู่เล่มหนึ่ง)ผมคงทำได้ระดับหนึ่ง แต่ลูกๆของผมใครคนใดคนนึงจะช่วยสานฝันที่สร้างชื่อเสียงเป็นอาจารย์ที่ตำราวิศวกรรมศาสตร์ต้องใช้ของเขา
ผมฝันถึงลูกผมแต่งตำราเป็นภาษาอังกฤษให้คนทั่วโลกอ่าน ผมฝันถึงลูกผมที่จะตีพิมพ์งานวิจัยให้นำสกุลผมมดังก้องโลก
นั่นแหละครับ เหตุผล
ต้องมีสามคน เผื่อใครบางคนไม่อยากทำด้านนี้เราไม่อยากบังคับ