Never Give Up - Jonathon Simmons

หลังจากที่เคยๆเกริ่นๆไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าผมจะเขียนเรื่องของ Jonathon Simmons วันนี้ที่จริงก็ไม่ได้ว่างแต่เนื่องจากป่วยเลยทานยานอนพักผ่อนว่างๆเลยไม่มีอะไรทำถือโอกาสนี้เชียนเรื่องของเขาแล้วกันฝากเนื้อฝากตัวเหมือนเดิมครับ ...



ชื่อเต็ม - Jonathon Calvin Simmons
เกิด - 14 กันยายน 2531 ( 27 ปี )
ส่วนสูง - 6 ฟุต 6 นิ้ว ( 198 เซ็นติเมตร )
น้ำหนัก - 195 ปอนด์ ( 88 กิโลกรัม )


วัยเด็ก




Jonathon Calvin Simmons (ต่อจากนี้จะแทนตัวเขาว่า Simmons แล้วกันครับ ) เกิดและเติบโต North Forest Independent School District ในย่านตะวันออกเฉียงเหนือของ Houston ซึ่งเป็นย่านที่ไม่ค่อยเป็นมิตรกับเด็กชาย Simmons มากนักทั้งปัญหายาเสพติด ปัญหาระหว่างแก๊งส์ข้ามชาติ แต่เขาก็เติบโตขึ้นมาร่วมกันกับพี่น้องอีกสามคน ซึ่งมารดาของเขาได้ทำงานเป็นพนักงานที่สนามบิน Houston ทั้งๆที่ต้องเลี้ยงลูก 4 คนแน่นอนการทำงานเป็นพนักงานที่สนามบินไม่ได้เงินเยอะถึงขนาดจะพาลูกๆไปเที่ยวตลอดวัยเด็กจนเข้าเรียน McDonald เป็นสถาณที่เที่ยวและกิน ( เพราะที่นั่นแม่เขาเลี้ยงลูกด้วยการสั่งเมนู 1 ดอลล่า ) ต่อมา Simmons ได้เข้าเรียน M.B. Smiley High School ซึ่งได้ฉายาว่าผลิตนักเรียนส่งตรงสู่โรงงานซึ่งนักเรียนที่เข้าเรียนปี 1 แล้วหลุดไปเรียนปี 2 ได้มีเพียง 40 % ( เนื่องจากไม่เรียนออกไปทำงานกันหมด ) ซึ่ง Simmons ยอมรับเช่นกันว่าเกือบคิดอยากเลิกเรียนแล้วไปทำงานเหมือนกัน ... ในวัยเด็กของเขาเริ่มเล่นกีฬาจากเบสบอล แต่การเดินสายกีฬาของเขาก็หมดลงด้วยเหตุผลที่ว่า " หน้าร้อนของ Houston ร้อนเกินไป " เขาเลยล้มเลิกความพยายามเดินสายนักเบสบอล ... ต่อมาเขาได้หันมาชอบกีฬาบาสเก็ตบอลแต่ด้วยความที่ส่วนสูงของเขาไม่มากนักในวัย 15 เขาสูงเพียง 5 ฟุต 7 ที่มีความสามารถแค่ยิงระยะกลางเท่านั้น ... ( ทำไมค้นข้อมูลเพิ่มขึ้นแล้วยิ่งสงสัยคนนี้ๆมาเล่นใน NBA ได้ไง ... )

ก้าวแรกสู่ความฝัน




แน่นอนเรียนโรงเรียนธรรมดาๆ ที่มีผลการแข่งขันธรรมดาๆ ไม่มีมหาลัยดังสนใจส่งทุนให้นักเรียนมากซักเท่าไหร่ Simmons ค่อยๆฝึกตัวเองจนก้าวกระโดด ในวัย 18 เขามีส่วนสูง 6 ฟุต 3 จนได้รับความสนใจจากมหาลัยด้านกีฬาอยู่พอสมควรแต่เนื่องจากเขาไม่อยากย้ายออกจาก Houston เขาเลยเลือกที่จะเรียนใน Houston แทน ... ในปีแรกเขาเลือกเรียนที่ Paris Junior College ซึ่งห่างออกไปทางเหนือของบ้านเขาไป 300 ไมล์ ปีกแรกในระดับมหาลัยของเขาทำได้  12.2 แต้มต่อเกมส์และ 3 รีบาวน์ต่อเกมส์ ที่นี่เขาได้รับรางวัลส่วนตัวเกือบทุกอย่างจากมหาลัย ... ในปีที่สองเขาได้ย้ายไปเรียนที่ Midland College ซึ่งห่างออกไป 500 ไมล์ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ที่ๆเขาทำแต้มไปได้ 13.3 แต้มต่อเกมส์และ 4 รีบาวน์ต่อเกมส์และได้รับรางวัลส่วนตัวทุกรางวัลจากมหาลัยเช่นกัน ... ในปีต่อมาเขาได้รับโอกาสจากมหาลัย Houston ซึ่งไม่ได้สร้างผู้เล่นเข้าลีคมานานตั้งแต่ระดับตำนานอย่าง Hakeem Olajuwon ซึ่งเข้าลีคแล้วโด่งดังเป็นคนสุดท้ายของมหาลัย ( หลังจากนั้นก็แทบไม่มีผู้เล่นดังๆจากมหาลัยนี้เข้าลีคอีกเลย ) ... แต่ปีแรกของเขาก็ต้องทำได้แค่นั่งดูเพราะทีมเซ็นชื่อเขาลงทีมช้าเกินไปจึงไม่สามารถใช้เขาลงเล่นได้ ปีนี้จึงเป็นปีแรกที่เขาได้เรียนเกี่ยวกับเทปการเล่นและแผนการเล่น รวมไปถึงได้ซ้อมในห้องแอร์เป็นครั้งแรกในชีวิตเขา ... ในปีต่อมาเขาได้ลงเล่นเต็มเวลาซึ่งเขาก็ทำได้ไม่เลว โดยทำไปทั้งสิ้น 14.7 แต้มต่อเกมส์ 5 รีบาวน์ต่อเกมส์ 2.2 แอสซิสต่อเกมส์ เขาตัดสินใจเข้าร่วมดราฟในปี 2012 แต่ด้วยอายุ 22 ที่มีความเด่นอยู่ที่ร่างกายเพียงอย่างเดียวเป็นเรื่องยากที่จะได้รับเลือก ทางทีมโค้ชของเขาได้บอกให้เขาหาแผนสำรองรวมไปถึงการออกไปเล่นยุโรปอยู่ด้วยแต่ Simmons ไม่ได้มองออฟชั่นเสริมพวกนั้นอยู่ในสมองเลยแม้แต่นิด ...

ฝันสลาย แต่ใจยังพยายาม




แน่นอนการเสี่ยงขนาดนั้นทำให้เขาไม่ได้รับเลือก ( ในปีนั้นยังมีคนที่ไม่ได้รับเลือกแต่มีชื่อเสียงขึ้นมาเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น Kent Bazemore ปีกจาก Hawks ที่ไม่ได้รับเลือก JaMychal Green พาวเวอร์ฟอร์เวิร์ด ของ Grizzlies ที่เคยร่วมทีมกับ Simmons ใน Spurs เช่นกัน ) แน่นอนเขาไม่ได้เตรียมตัวไว้ก่อนว่าจะต้องไปเล่น D - League รวมถึงแผนไปเล่นต่างประเทศอันเนื่องมาจากไปอยากอยู่ห่างจากลูกสาวของเขา เขาได้รับโอกาสจากลีคระดับกึ่งอาชีพโดยทีม Sugar Land Legends ดราฟเขาเข้าทีมและเล่นกับทีมไปทั้งหมด 16 เกมส์โดยทำสถิติสวยหรู 36.5 แต้มต่อเกมส์ แต่ Simmons ก็ได้เข้าใจถึงความจริงที่ว่าเขาห่างไกลจากการเล่น NBA ขนาดไหนกับการเล่นกับทีมที่ไม่มีคนสนใจจะดู แต่แน่นอนเขาก็ยังไม่หยุดฝัน ... แต่แม่ของเขากลับให้มุมมองที่ต่างกัน แม่ของเขากับคิดว่าเขาจะไปได้ดีกว่าถ้าเขาเปิดร้านตัดผม และได้ขอร้องให้กลับบ้านแล้วเปิดร้านหรือไม่ก็ไปทำงานที่ร้านตัดผมเพราะการเล่นเป็นผู้เล่นกึ่งอาชีพไม่เพียงพอเลี้ยงดูลูกของเขาถึง 4 คนได้แน่นอน ซึ่ง Simmons ก็ได้ตกลงกับแม่ของเขาว่าถ้าเขาไม่สามารถเข้าใกล้ NBA ในอีก 1 ปีเขาจะเปลี่ยนไปประกอบอาชีพช่างผมตามที่แม่เขาแนะนำ ...

แสงเทียนที่ปลายอุโมง




ในขณะที่เขากำลังร้อนรนใจอยู่นั้นก่อนจะเปิดฤดูกาล 2013 ทีม Austin Toros ( หรือก็คือ Austin Spurs ในตอนนี้ ) ซึ่งเป็นทีมที่เป็นเหมือนทีมลูกของ San Antonio Spurs ได้ทำการเปิดรับนักกีฬาท้องถิ่นที่อยากร่วมทีมโดยมีข้อแม้การขอเข้าคัดเลือกโดยจะต้องเสียค่าลงทะเบียนทั้งหมด 150 ดอลล่า ... แน่นอน Simmons ไม่เสียเวลาต้องคิดเรื่องนี้เขาขอเข้าร่วมทันที Ken McDonald โค้ชของทีม Toros ในขณะนั้นได้เห็นถึงศักยภาพของ Simmons ว่าเหนือกว่าผู้ใดในการเปิดทดสอบวันนั้นและเป็นคนที่สามารถพัฒนาได้โดยเฉพาะในด้านความเข้าใจเกมส์ จึงได้ทำการเซ็นสัญญาเข้าทีมในที่สุด ... Simmons และ Toros ไปกันอย่างไม่สะดุดแม้ฟอร์มของเขาในปีแรกกับทีมจะไม่ได้สวยหรูมากเท่าไหร่นักโดยทำไปได้ 9.8 แต้มต่อเกมส์ 4.5 รีบาวน์ต่อเกมส์ 1.4 แอสซิสต่อเกมส์ 1.0 สตีลต่อเกมส์ โดยเขาเล่นตั้งแต่เกมส์แรกจนถึงเกมส์สุดท้าย ... ในฤดูกาล 2014 Austin Toros ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Austin Spurs เขาต้องตัดสินใจอีกครั้งเพราะลูกสาวของเขาก็โตขึ้นทุกวัน รวมไปถึงมารดาของเขาที่อยากจะให้กลับไปเปิดร้านตัดผมที่บ้านเกิด ... แต่เขาก็ตัดสินใจเดินต่อในเส้นทางของนักบาสต่อไปในปีนี้ แต่ในปีนี้เขาได้รับหน้าที่ที่แปลกออกไปเมื่อ Ken McDonald ได้ลองให้เขาเล่นในตำแหน่ง Point Guard ซึ่งทำให้เขาเพิ่มความเข้าใจในเกมส์ได้มากและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาพัฒนาแบบก้าวกระโดดโดยเขาทำสถิติปีนี้ไปได้ 15.2 แต้มต่อเกมส์ 4.3 รีบาวน์ต่อเกมส์ 3.7 แอสซิสต่อเกมส์ 1.0 สตีลต่อเกมส์ ... แต่โอกาสของเขาก็ยังไม่เข้ามาซักทีเขาต้องนั่งมองเพื่อนร่วมทีม Austin Spurs อย่าง JaMychal Green / Bryce Cotton และ Jarell Eddie ได้รับโอกาสเรียกติดทีมชุดใหญ่ ซึ่งทีมงานของ Austin Spurs ก็ไม่เข้าใจถึงข้อนี้เช่นกัน ...

หลุดจากรัง




ในฤดูกาล 2015 เขาหมดสัญญากับทีม Austin Spurs ทำให้เขาไม่มีสังกัดอีกครั้ง Brooklyn Nets เสนอสัญญาระยะสั้นด้วยการเล่นกับทีม Orlando Summer League มาเขาทำได้ไม่เลวกับการเล่นกับ  Brooklyn Nets โดยทำไปทั้งหมด 12 แต้มต่อเกมส์ และ 5 รีบาวน์ต่อเกมส์ หลังจากจบ Orlando Summer League ในระหว่างที่เขากำลังนั่งอยู่ในรถบัสของทีม Brooklyn Nets เขาได้รับโทรศัพท์จากเอเย่นของเขา " ตอนนี้นายกำลังจะได้สัญญากับ San Antonio Spurs " นั่นทำให้เขารีบขอตัวออกจากรถบัสของทีม Brooklyn Nets แล้วจับตั๋วบินมาเซ็นสัญญาอาชีพครั้งแรกของเขาอย่างเร็วที่สุด และ คนที่เขาโทรหาและบอกก็คือแม่ของเขานั่นเอง และแน่นอนหลังจากที่ได้สัญญาเขาก็ร่วม Las Vegas Summer League กับทีม Spurs ที่เขาเฝ้าฝันถึงสักทีและเขาก็ทำได้ยอดเยี่ยมโดยการพาทีมเข้าเป็นถึงแชมป์ของรายการ ... ฤดูกาลแรกของเขากับ NBA ก็ทำได้ดีเขาทำแต้มเกิน 10 แต้มไปถึง 8 ครั้ง ในการเล่น 55 เกมส์ของเขา โดยโค้ชป๊อปโปวิช ได้กล่าวถึง Simmons ไว้ว่า " เราก็แต่ให้เขาลงในตำแหน่งไหนก็ได้ และเขาก็ทำได้ดี " " เขามีร่างกายที่ดีเยี่ยม เรียนรู้เร็ว ตั้งใจทำงาน ด้วยสาเหตุเหล่านี้เขาสามารถเล่นใน NBA ได้สบายและยาวนาน เพียงแค่เขาต้องตั้งใจและไม่เสียสมาธิ " ... ซึ่งเขาก็ทำได้ยอดเยี่ยม และกลายเป็นตัวสำรองที่ Spurs ใช้บ่อยๆ ทั้งยังทำผลงานได้ดีเสมอเวลาลงเล่น เรื่องราวของเขานั้นเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่หวังจะเข้าไปเล่นในลีคได้มากมาย และเขาก็ปฎิบัติตัวได้ดีทั้งยังเปิดคอร์สอบรมสำหรับเยาวชนทุกครั้งที่มีโอกาสอีกด้วย ... ตอนนี้เขาอาจจะไม่ได้มีสัญญาเป็น 10 ล้านแต่เขาก็สามารถทำตามความฝันในการเล่น NBA ได้สำเร็จ ...



ปล. ทุกวันนี้เขาก็ยังเข้า McDonald และทานเมนู 1 ดอลล่า อยู่ ...
ปล2. แม่ของเขาก็ยังมีความคิดจะให้ลูกชายเปิดร้านตัดผมอยู่เหมือนเดิม ...

สุดท้ายก็จบแล้วนะครับ อาจจะไม่ถูกใจหรือถูกใจก็พูดคุยในกระทู้ได้ครับ จริงๆแล้วมีคนถามเข้ามาว่าทำไมไม่ทำผู้เล่นที่ดังๆหละ ผมชอบค้นประวัติของพวกตัวสำรองที่มีความพยายามหนะครับ พวกดังๆเปิดเวปแปปเดียวก็เจอแล้วแต่พวกตัวสำรองนี่หายากครับเลยอยากเขียนมากกว่า แต่ไม่ได้รังเกียจที่จะเขียนนะครับ ยังไงก็ขอบคุณที่เข้ามา ขอบคุณมากครับ ไว้พบกับกระทู้หน้าที่ยังไม่รู้จะเขียนถึงใครเลย ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่