บอกไว้ก่อน ว่า หากเพื่อนสมาชิกคิดว่า "จำเป็น" ก็ตามสบายนะครับ
ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร
นานๆจะตั้งกระทู้ซักทีนึง
ก็ขออนุญาต นะครับ
สัญญา ว่า จะไม่ตั้งกระทู้บ่อยๆ
คือผมอายุเยอะจิ๊ดนึงแล้วครับ
เกิดมาสมัย จอมพล ถนอมฯ เป็นนายกฯมั๊ง
ข้าวไข่พะโล้จานหกสลึง น้ำแข็งไส ถ้วยห้าสิบตังค์ นำ้แข็งเปล่าสลึงเดียว...ถูกดีจัง
สมัยนั้น บ้านเมืองสงบครับ
สงบที่ว่านั้น ไม่ใช่ ไม่มีวิกฤตทางการเมือง
มี
แต่คนไทยไม่กัดกัน... เอ๊ย ตีกัน เหมือนทุกวันนี้
ไม่มีฝักฝ่าย ไม่เป็นศัตรูกัน
เลือกพรรคการเมืองคนละพรรคกัน ก็เป็นเพื่อนกัน
เป็นคนไทยด้วยกัน เป็นเพื่อนร่วมชาติกัน
ใครบอกว่ายุคนั้นประชาธิปไตยไม่เบ่งบานเหรอ
ผมว่านะ...นั่นแหละ ที่เรียกว่า เบ่งบาน
อย่างน้อยนะ นั่นเป็นยุคที่คนไทยยังมีความสามัคคีต่อกัน
เพราะ ประชาธิปไตยไม่ได้ถูกออกแบบมาให้สังคมต้องแตกแยก ไงครับ
เมื่อมันเป็นประเด็นทางการเมือง หรือการเลือกตั้ง
สังคมสมัยนั้น ไม่แตกแยกครับ คนไทยไม่ทะเลาะกัน
ตรงกันข้าม
มาถึงยุคนี้สมัยนี้ ที่บางคนอาจเรียกว่า เป็นยุคของการตื่นตัวทางการเมือง
เป็นยุคที่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม
แต่คนไทยกลับ ทะเลาะกัน ตีกัน หวาดระแวงกัน
นี่ใช่เจตนารมย์ของประชาธิปไตยหรือ
สำหรับผม นี่คือความตกต่ำที่สุดของประชาธิปไตย ตั้งแต่มันบังเกิดขึ้นในประเทศนี้
ที่คนไทยพร้อมสละชีวิตเพื่อนักการเมือง (ไม่ใช่ประชาธิปไตยนะ) มาตีกันเอง
มีอะไรน่าสงสารไปกว่านี้ไหม
เครียดเนอะ...
คิดหนุกๆนะครับ...
เอ๊ะ...หรือคนไทยไปเอา Model ของการเชียร์บอลอังกฤษ มาเป็น Model การเชียร์การเมือง
เฮ้ย เอ็งเด็กผี หรือ เด็กหงส์วะ
เด็กหงส์ ไม่ถูกับเด็กผี และ เด็กผี ไม่ถูกกับเด็กหงส์ครับ
บลัฟกันไป บลัฟกันมา
เยาะเย้ยกันไป เยาะเย้ยกันมา ตลอด
หรือ เราไปเอา model นี้ มาเป็นบรรทัดฐานในการเชียร์การเมือง
แล้ว amplify ให้มันกลายเป็นความขัดแย้งระดับชาติ
เฮ้ย... นั่นมันบอลนะครับ
บอลที่เตะอยู่ห่างบ้านเรา หลายพันกิโลเมตร
แล้วพรีเมียร์ลีก ไม่ได้มีแค่ 2 ทีม ผี กะ หงส์
มันไม่มีใครมาบังคับให้เราต้องเลือกข้าง !
เราสามารถเป็นตัวของเราเองได้ โดยไม่ต้อง เฮ ตามใคร !
หยั่งผม ผมเป็นแฟนเอฟเวอร์ตัน
ตั้งแต่สมัยก่อนมีปีกซ้ายจอมเลื้อย ชื่อ เดฟ โธมัส ที่ถุงเท้าชอบมากองๆอยู่ตรงหน้าแข้ง
หรือ นายทวารจอมเหนียว ชื่อ เนวิลล์ เซ้าธ์ฮอลล์
สังคมนี้ยังกว้างขวางพอ ที่จะยอมให้เรา เป็นตัวเราครับ ในทุกๆด้าน
เพศ ศาสนา การเมือง หรือรสนิยมอื่นๆ
และ บอลนะ่ เตะกันให้ตาย แฟนบอลทะเลาะกันขนาดไหน บ้านเมืองก็ไม่วอดวายครับ
แต่ดูคนไทยเชียร์นักการเมืองแล้ว เป็นไงกันบ้างล่ะครับ
"สยอง" มั๊ย...
เราคนไทย จำเป็นต้อง อะไรกันขนาดนี้เลยเหรอ
นี่เราคนไทยด้วยกันนะครับ
ฝากให้ท่านไปคิดกันเล่นสนุกๆแล้วกันครับ
คนไทย จำเป็นต้องทะเลาะกันด้วยหรือ กะอีแค่การเมือง
คนไทย ต้องมาเป็นศัตรูกันด้วยหรือ กะอีแค่การเมือง
คนไทย ต้องมาหวาดระแวงกันด้วยหรือ กะอีแค่การเมือง
ใคร มาบังคับให้เรา "ต้อง" เลือกข้างหรือเปล่า
ใคร มาสร้าง ความเกลียดชังให้เกิดขึ้น ในบ้าน ในเมือง
อะไร มาทำให้เรา ต้องดูการเมือง "ติดจอ" ซะขนาดนี้
รักษาระยะห่างของเรา กับการเมืองให้ดีครับ
ไม่งั้น การเมือง มันจะมากินเราทั้งเป็น
ต้องกลายมาเป็น พวก Walking Dead
วันๆ เดินโยกเยกไป เจอคนไหนไม่เหมือนพวกตรู ก็รุมกัดคอหอยกัน ... บรื๋วสส์
เอ่อ...แบบว่า ห้องนี้น่ากลัวอะนะครับ
คือไอ้คำถามที่ผมถามมาข้างต้นน่ะ
หากใครบอกว่า "จำเป็น" ผมก็โอเคนะครับ ว่าไปตามนั้น
จะไม่เถียงใครทั้งนั้น ถามใจท่านหนุกๆ
ก็ขอให้มีความสุขกันทุกท่านครับ
ไปล่ะค้าบบบ....
จริงๆแล้วคนไทยไม่จำเป็นต้องเลือกข้างนะผมว่า
ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร
นานๆจะตั้งกระทู้ซักทีนึง
ก็ขออนุญาต นะครับ
สัญญา ว่า จะไม่ตั้งกระทู้บ่อยๆ
คือผมอายุเยอะจิ๊ดนึงแล้วครับ
เกิดมาสมัย จอมพล ถนอมฯ เป็นนายกฯมั๊ง
ข้าวไข่พะโล้จานหกสลึง น้ำแข็งไส ถ้วยห้าสิบตังค์ นำ้แข็งเปล่าสลึงเดียว...ถูกดีจัง
สมัยนั้น บ้านเมืองสงบครับ
สงบที่ว่านั้น ไม่ใช่ ไม่มีวิกฤตทางการเมือง
มี
แต่คนไทยไม่กัดกัน... เอ๊ย ตีกัน เหมือนทุกวันนี้
ไม่มีฝักฝ่าย ไม่เป็นศัตรูกัน
เลือกพรรคการเมืองคนละพรรคกัน ก็เป็นเพื่อนกัน
เป็นคนไทยด้วยกัน เป็นเพื่อนร่วมชาติกัน
ใครบอกว่ายุคนั้นประชาธิปไตยไม่เบ่งบานเหรอ
ผมว่านะ...นั่นแหละ ที่เรียกว่า เบ่งบาน
อย่างน้อยนะ นั่นเป็นยุคที่คนไทยยังมีความสามัคคีต่อกัน
เพราะ ประชาธิปไตยไม่ได้ถูกออกแบบมาให้สังคมต้องแตกแยก ไงครับ
เมื่อมันเป็นประเด็นทางการเมือง หรือการเลือกตั้ง
สังคมสมัยนั้น ไม่แตกแยกครับ คนไทยไม่ทะเลาะกัน
ตรงกันข้าม
มาถึงยุคนี้สมัยนี้ ที่บางคนอาจเรียกว่า เป็นยุคของการตื่นตัวทางการเมือง
เป็นยุคที่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม
แต่คนไทยกลับ ทะเลาะกัน ตีกัน หวาดระแวงกัน
นี่ใช่เจตนารมย์ของประชาธิปไตยหรือ
สำหรับผม นี่คือความตกต่ำที่สุดของประชาธิปไตย ตั้งแต่มันบังเกิดขึ้นในประเทศนี้
ที่คนไทยพร้อมสละชีวิตเพื่อนักการเมือง (ไม่ใช่ประชาธิปไตยนะ) มาตีกันเอง
มีอะไรน่าสงสารไปกว่านี้ไหม
เครียดเนอะ...
คิดหนุกๆนะครับ...
เอ๊ะ...หรือคนไทยไปเอา Model ของการเชียร์บอลอังกฤษ มาเป็น Model การเชียร์การเมือง
เฮ้ย เอ็งเด็กผี หรือ เด็กหงส์วะ
เด็กหงส์ ไม่ถูกับเด็กผี และ เด็กผี ไม่ถูกกับเด็กหงส์ครับ
บลัฟกันไป บลัฟกันมา
เยาะเย้ยกันไป เยาะเย้ยกันมา ตลอด
หรือ เราไปเอา model นี้ มาเป็นบรรทัดฐานในการเชียร์การเมือง
แล้ว amplify ให้มันกลายเป็นความขัดแย้งระดับชาติ
เฮ้ย... นั่นมันบอลนะครับ
บอลที่เตะอยู่ห่างบ้านเรา หลายพันกิโลเมตร
แล้วพรีเมียร์ลีก ไม่ได้มีแค่ 2 ทีม ผี กะ หงส์
มันไม่มีใครมาบังคับให้เราต้องเลือกข้าง !
เราสามารถเป็นตัวของเราเองได้ โดยไม่ต้อง เฮ ตามใคร !
หยั่งผม ผมเป็นแฟนเอฟเวอร์ตัน
ตั้งแต่สมัยก่อนมีปีกซ้ายจอมเลื้อย ชื่อ เดฟ โธมัส ที่ถุงเท้าชอบมากองๆอยู่ตรงหน้าแข้ง
หรือ นายทวารจอมเหนียว ชื่อ เนวิลล์ เซ้าธ์ฮอลล์
สังคมนี้ยังกว้างขวางพอ ที่จะยอมให้เรา เป็นตัวเราครับ ในทุกๆด้าน
เพศ ศาสนา การเมือง หรือรสนิยมอื่นๆ
และ บอลนะ่ เตะกันให้ตาย แฟนบอลทะเลาะกันขนาดไหน บ้านเมืองก็ไม่วอดวายครับ
แต่ดูคนไทยเชียร์นักการเมืองแล้ว เป็นไงกันบ้างล่ะครับ
"สยอง" มั๊ย...
เราคนไทย จำเป็นต้อง อะไรกันขนาดนี้เลยเหรอ
นี่เราคนไทยด้วยกันนะครับ
ฝากให้ท่านไปคิดกันเล่นสนุกๆแล้วกันครับ
คนไทย จำเป็นต้องทะเลาะกันด้วยหรือ กะอีแค่การเมือง
คนไทย ต้องมาเป็นศัตรูกันด้วยหรือ กะอีแค่การเมือง
คนไทย ต้องมาหวาดระแวงกันด้วยหรือ กะอีแค่การเมือง
ใคร มาบังคับให้เรา "ต้อง" เลือกข้างหรือเปล่า
ใคร มาสร้าง ความเกลียดชังให้เกิดขึ้น ในบ้าน ในเมือง
อะไร มาทำให้เรา ต้องดูการเมือง "ติดจอ" ซะขนาดนี้
รักษาระยะห่างของเรา กับการเมืองให้ดีครับ
ไม่งั้น การเมือง มันจะมากินเราทั้งเป็น
ต้องกลายมาเป็น พวก Walking Dead
วันๆ เดินโยกเยกไป เจอคนไหนไม่เหมือนพวกตรู ก็รุมกัดคอหอยกัน ... บรื๋วสส์
เอ่อ...แบบว่า ห้องนี้น่ากลัวอะนะครับ
คือไอ้คำถามที่ผมถามมาข้างต้นน่ะ
หากใครบอกว่า "จำเป็น" ผมก็โอเคนะครับ ว่าไปตามนั้น
จะไม่เถียงใครทั้งนั้น ถามใจท่านหนุกๆ
ก็ขอให้มีความสุขกันทุกท่านครับ
ไปล่ะค้าบบบ....