ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟังครับ ซึ่งน่าจะเป็นอุทาหรณ์ หรือเป็ฯตัวอย่างให้กับคนอื่นๆๆได้
เรื่องมีอยู่ว่าสาวคนนี้เธอเข้ามาขอคำปรึกษาผมครับ เรื่องมีอยู่....
.
น.ส.เอ ได้มาเล่าให้ผมฟัง ว่า เธอเป็นสาวหม้าย และมีลูกที่ต้องเลี้ยงดู เธอได้เล่นเฟสบุ๊คและคอยขอเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาติเพื่อหวังว่า วันนึง จะมีส้มลูกใหญ่ๆมาหล่นทับเธอ จะได้มีชีวิตที่สบายกว่านี้ อยู่มาเมื่อช่วงต้นปี มีเฟสบุ๊คของชายคนนึง รูปโปรไฟล์และและข้อมูลต่างๆในนั้น บอกว่าเขาเป็นนักธุรกิจชาว UK ได้ส่งคำขอเป็นเพื่อนในเฟสบุ๊คของ น.ส.เอ และต่อมาในเวลาไม่ถึงเดือน ทั้งสองก็ได้พูดคุยกัน ผ่านแชทของเฟสบุ๊ค จนผู้ชายฝรั่งหน้าตาดีฐานะดีคนนั้นก็ได้บอกรักและขอเธอแต่งงานและสัญญาเป็นหลักเป็นฐานว่าจะพาเธอไปอยู่ด้วยที่ UK ด้วยความดีใจหญิงสาวจึงตอบรับคำไป และฝ่ายชายจึงบอกว่าจะส่งเงินมาให้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง รวมถึงของที่ระลึกด้วย โดยจะนำเงินที่ว่านั้นกับของที่ระลึกใส่กระเป๋าเดินทางและส่งมาให้เป็นพัสดุ ดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นไปได้ดี ความรักในความคิดของ น.ส.เอ สวยงาม เป็นไปด้วยดี ดูง่ายและสำเร็จรูป จนหลายวันผ่านมา ชายต่างชาติที่ว่านี้ ก็บอกกับ น.ส.เอ ว่าทางบริษัทที่รับส่งพัสดุที่ว่าติดต่อมาบอกว่าพัสดุมีปัญหา ให้ น.ส.เอ ไปติดต่อรับของโดยด่วน พร้อมให้เบอร์โทรมาด้วย
น.ส.เอ จึงได้ติดต่อไปตามเบอร์ที่อ้างว่าเป็นบริษัทขนพัสดุ และได้ความว่าให้ น.ส.เอ ต้อจ่ายเงินค่าธรรมเนียมและค่าภาษีนำเข้าประเทศ เป็นเงิน 40,000 บาท ไม่เช่นนั้นจะส่งของคืนผู้นำส่ง ด้วยความตกใจจึงติดต่อกลับไปที่ ชายฝรั่งรูปหล่อ พร้อมด้วยบอกว่าไม่มีเงินที่จะไปเอาของออกมา แต่ทางฝรั่งคนนั้นบอกว่าให้เธอหาเงินมาเพื่อไปเอาของนั้นมา เพราะในนั้นมีเงินอยู๋ด้วย และเงินนั้นมากกว่าเงินที่เธอต้องจ่ายให้กับบริษัทขนส่งนี้ ด้วยความตกใจ + ความอยากได้นิดหน่อย + ความไว้ใจ เธอจึงต้องไปยืมเงินคนรู้จักมา ซึ่งยืมมาได้แค่ 20,000 บาท เธอจึงได้โทรไปที่บริษัทแห่งนั้นเพื่อขอคุยกับทางเจ้าหน้าที่ที่อ้างว่าเก็บกระเป๋าที่ชายฝรั่งส่งมาให้ คุยไปคุยมา ทางนั้นจึงยอมลดเงินค่าบริการและค่าภาษีให้ เหลือ 20,000
บาท เธอดีใจมาก จึงโอนเงินไปให้ด้วยหวังว่า จะได้เงินที่ชายฝรั่งคนนั้นส่งมาให้ มาสร้างฝันของเธอ
ต่อมาฝรั่งคนดังกล่าวได้ แชทมาบอกเธอว่า ทางบริษัทไม่สามารถส่งของให้เธอได้ ต้องให้เธอโอนเงินเข้าไปให้อีก 10,000บาท แต่เธอก็แย้งว่าเธอไม่มีเงินแล้ว หายืมไม่ได้แล้ว แต่ด้วยฝรั่งคนนั้น ใช้คำพูดบอกรัก อ้อนวอน บอกว่าฉันเป็นห่วงกระเป๋ามาก เพราะมีเงินอยู่เยอะมาก เธอจึงยอมกู้เงินนอกระบบมา และโอนให้ทางบริษัทที่ว่าอีก 10,000 บาท และสุดท้าย บริษัทนั้นพร้อมกับฝรั่งก็เงียบหายไป
จนเธอได้มาคุยกับผมเพื่อขอคำแนะนำ ผมฟังเธอเล่ามาก็เลยขอดูเฟสบุ๊คของฝรั่ง เมื่อเข้าไปดูรูปโปรไฟล์เห็ฯที่หน้าอกของฝรั่ง มีป้ายชื่อติดไว้ ซึ่งชื่อนี้ ไม่ตรงกับชื่อที่ฝรั่งคนนั้นบอกเธอ และเมื่อดูจากรูปการที่ว่าส่งเงินมาเป็ฯพัสดุ ซึ่งฟังดูไม่น่าเป็นไปได้ เพราะการโอนเงินนี้น่าจะเป็ฯการโอนผ่านบัญชีธนาคารมากกว่า จึงสรุปให้เธอฟัง ว่าฝรั่งที่เธอหลงรักหลอกเธอ
แต่ที่น่าตกใจครับ คือเธอกลับไม่พอใจผมที่ว่าบอกว่าคนรักของเธอกำลังหลอกเธอ.... ซึ่งทำให้ผมเพลียมากในตอนแรก 555+
แต่ผมก็ได้อธิบายให้เธอฟัง พร้อมกับให้เธอลองบอกให้คนรักของเธอแสดงตัวมา หรือไม่ก็ลองโทรคุยกัน หรือเปิดวิดิโอคอล แต่ก็ไม่ได้ครับ เธอจึงเชื่อว่าโดนหลอก แต่กว่าเธอจะรู้มันก็สายไปแล้ว.....
ที่ผมนำเรื่องนี้ออกมาแถลงให้ทุกท่านได้อ่านกันนั้น ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เธอเสียหายหรือร็สึกไม่ดีน่ะครับ
เจตนาของผมก็เพื่อบอกเล่าให้เป็นกรณีตัวอย่าง เผื่อคนที่กำลังเจอหรือคนที่ไม่รู้ จะได้ดูไว้เป็นกรณีศึกษาจะได้ไม่หลงตกเป็นเหยื่อให้พวกมิจฉาชีพ
และอยากให้สาวๆคิดไว้เลยครับว่าในชีวิตนี้ไม่มีอะไรที่จะง่ายเป็นอาหารสำเร็จรูป ยิ่งเรื่องของความรักนี่ ยิ่งน่ากลัว คนบางคนก็ยอมเพื่อความรัก และคนบางคนก็ทำให้คุณรักและหลอกคุณ......
.
เรื่องจริงไม่ได้อิงนิยาย ......
.....สามสหาย....
สาวโดนคนที่อ้างว่าเป็นนักธุรกิจต่างชาติหลอกให้โอนเงิน---อุทาหรณ์สอนใจ++
เรื่องมีอยู่ว่าสาวคนนี้เธอเข้ามาขอคำปรึกษาผมครับ เรื่องมีอยู่....
.
น.ส.เอ ได้มาเล่าให้ผมฟัง ว่า เธอเป็นสาวหม้าย และมีลูกที่ต้องเลี้ยงดู เธอได้เล่นเฟสบุ๊คและคอยขอเป็นเพื่อนกับชาวต่างชาติเพื่อหวังว่า วันนึง จะมีส้มลูกใหญ่ๆมาหล่นทับเธอ จะได้มีชีวิตที่สบายกว่านี้ อยู่มาเมื่อช่วงต้นปี มีเฟสบุ๊คของชายคนนึง รูปโปรไฟล์และและข้อมูลต่างๆในนั้น บอกว่าเขาเป็นนักธุรกิจชาว UK ได้ส่งคำขอเป็นเพื่อนในเฟสบุ๊คของ น.ส.เอ และต่อมาในเวลาไม่ถึงเดือน ทั้งสองก็ได้พูดคุยกัน ผ่านแชทของเฟสบุ๊ค จนผู้ชายฝรั่งหน้าตาดีฐานะดีคนนั้นก็ได้บอกรักและขอเธอแต่งงานและสัญญาเป็นหลักเป็นฐานว่าจะพาเธอไปอยู่ด้วยที่ UK ด้วยความดีใจหญิงสาวจึงตอบรับคำไป และฝ่ายชายจึงบอกว่าจะส่งเงินมาให้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง รวมถึงของที่ระลึกด้วย โดยจะนำเงินที่ว่านั้นกับของที่ระลึกใส่กระเป๋าเดินทางและส่งมาให้เป็นพัสดุ ดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นไปได้ดี ความรักในความคิดของ น.ส.เอ สวยงาม เป็นไปด้วยดี ดูง่ายและสำเร็จรูป จนหลายวันผ่านมา ชายต่างชาติที่ว่านี้ ก็บอกกับ น.ส.เอ ว่าทางบริษัทที่รับส่งพัสดุที่ว่าติดต่อมาบอกว่าพัสดุมีปัญหา ให้ น.ส.เอ ไปติดต่อรับของโดยด่วน พร้อมให้เบอร์โทรมาด้วย
น.ส.เอ จึงได้ติดต่อไปตามเบอร์ที่อ้างว่าเป็นบริษัทขนพัสดุ และได้ความว่าให้ น.ส.เอ ต้อจ่ายเงินค่าธรรมเนียมและค่าภาษีนำเข้าประเทศ เป็นเงิน 40,000 บาท ไม่เช่นนั้นจะส่งของคืนผู้นำส่ง ด้วยความตกใจจึงติดต่อกลับไปที่ ชายฝรั่งรูปหล่อ พร้อมด้วยบอกว่าไม่มีเงินที่จะไปเอาของออกมา แต่ทางฝรั่งคนนั้นบอกว่าให้เธอหาเงินมาเพื่อไปเอาของนั้นมา เพราะในนั้นมีเงินอยู๋ด้วย และเงินนั้นมากกว่าเงินที่เธอต้องจ่ายให้กับบริษัทขนส่งนี้ ด้วยความตกใจ + ความอยากได้นิดหน่อย + ความไว้ใจ เธอจึงต้องไปยืมเงินคนรู้จักมา ซึ่งยืมมาได้แค่ 20,000 บาท เธอจึงได้โทรไปที่บริษัทแห่งนั้นเพื่อขอคุยกับทางเจ้าหน้าที่ที่อ้างว่าเก็บกระเป๋าที่ชายฝรั่งส่งมาให้ คุยไปคุยมา ทางนั้นจึงยอมลดเงินค่าบริการและค่าภาษีให้ เหลือ 20,000
บาท เธอดีใจมาก จึงโอนเงินไปให้ด้วยหวังว่า จะได้เงินที่ชายฝรั่งคนนั้นส่งมาให้ มาสร้างฝันของเธอ
ต่อมาฝรั่งคนดังกล่าวได้ แชทมาบอกเธอว่า ทางบริษัทไม่สามารถส่งของให้เธอได้ ต้องให้เธอโอนเงินเข้าไปให้อีก 10,000บาท แต่เธอก็แย้งว่าเธอไม่มีเงินแล้ว หายืมไม่ได้แล้ว แต่ด้วยฝรั่งคนนั้น ใช้คำพูดบอกรัก อ้อนวอน บอกว่าฉันเป็นห่วงกระเป๋ามาก เพราะมีเงินอยู่เยอะมาก เธอจึงยอมกู้เงินนอกระบบมา และโอนให้ทางบริษัทที่ว่าอีก 10,000 บาท และสุดท้าย บริษัทนั้นพร้อมกับฝรั่งก็เงียบหายไป
จนเธอได้มาคุยกับผมเพื่อขอคำแนะนำ ผมฟังเธอเล่ามาก็เลยขอดูเฟสบุ๊คของฝรั่ง เมื่อเข้าไปดูรูปโปรไฟล์เห็ฯที่หน้าอกของฝรั่ง มีป้ายชื่อติดไว้ ซึ่งชื่อนี้ ไม่ตรงกับชื่อที่ฝรั่งคนนั้นบอกเธอ และเมื่อดูจากรูปการที่ว่าส่งเงินมาเป็ฯพัสดุ ซึ่งฟังดูไม่น่าเป็นไปได้ เพราะการโอนเงินนี้น่าจะเป็ฯการโอนผ่านบัญชีธนาคารมากกว่า จึงสรุปให้เธอฟัง ว่าฝรั่งที่เธอหลงรักหลอกเธอ
แต่ที่น่าตกใจครับ คือเธอกลับไม่พอใจผมที่ว่าบอกว่าคนรักของเธอกำลังหลอกเธอ.... ซึ่งทำให้ผมเพลียมากในตอนแรก 555+
แต่ผมก็ได้อธิบายให้เธอฟัง พร้อมกับให้เธอลองบอกให้คนรักของเธอแสดงตัวมา หรือไม่ก็ลองโทรคุยกัน หรือเปิดวิดิโอคอล แต่ก็ไม่ได้ครับ เธอจึงเชื่อว่าโดนหลอก แต่กว่าเธอจะรู้มันก็สายไปแล้ว.....
ที่ผมนำเรื่องนี้ออกมาแถลงให้ทุกท่านได้อ่านกันนั้น ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เธอเสียหายหรือร็สึกไม่ดีน่ะครับ
เจตนาของผมก็เพื่อบอกเล่าให้เป็นกรณีตัวอย่าง เผื่อคนที่กำลังเจอหรือคนที่ไม่รู้ จะได้ดูไว้เป็นกรณีศึกษาจะได้ไม่หลงตกเป็นเหยื่อให้พวกมิจฉาชีพ
และอยากให้สาวๆคิดไว้เลยครับว่าในชีวิตนี้ไม่มีอะไรที่จะง่ายเป็นอาหารสำเร็จรูป ยิ่งเรื่องของความรักนี่ ยิ่งน่ากลัว คนบางคนก็ยอมเพื่อความรัก และคนบางคนก็ทำให้คุณรักและหลอกคุณ......
.
เรื่องจริงไม่ได้อิงนิยาย ......
.....สามสหาย....