SGF รีเทิร์น!! ตลาดหลักทรัพย์ฯ ไฟเขียวกลับเข้าเทรดใน MAI ดีเดย์ 1 ก.พ. 60 นี้ ผู้บริหารมั่นใจ ไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นผิดหวัง หลังฟื้นฟูกิจการ-ปรับโครงสร้างธุรกิจ พร้อมดันผลงานเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เปิดแผนงานปี 60 ขยายไลน์ตลาดสินเชื่อรายย่อย รองรับดีมานด์ของคนกว่า 1 ใน 3 ของประเทศที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ หนุนธุรกิจโตก้าวกระโดด
นายศุภอรรถ ตปนียากร ที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเจเนอรัลแฟคตอริ่ง จำกัด (มหาชน) (SGF) เปิดเผยว่า ทางผู้บริหารขอเป็นตัวแทนผู้ถือหุ้นขอบคุณตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่พิจารณาอนุมัติให้ SGF กลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 ที่จะถึงนี้ หลังจากที่ผ่านมาได้ปฏิบัติตามระเบียบและข้อกำหนดอย่างเคร่งครัดจนผ่านเกณฑ์การขอพ้นเหตุเพิกถอน รวมทั้งมีผลประกอบการกำไรอย่างต่อเนื่องมาหลายปี ทั้งนี้ บริษัทฯ จะมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างผลประกอบการที่ดี ภายใต้นโยบายบริหารความเสี่ยงและบรรษัทภิบาลที่เหมาะสม
บริษัทฯได้มีการฟื้นฟูกิจการ ปรับโครงสร้างธุรกิจ พัฒนาบุคลากร จนผลประกอบการสามารถกลับมามีกำไรสุทธิอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันเน้นให้บริการสินเชื่อผู้ประกอบการรายใหญ่โดยมีหลักประกันสูง เกินมูลหนี้ไปมาก รวมทั้งเริ่มขยายชนิดสินเชื่อเข้าสู่ธุรกิจสินเชื่อรายย่อย โดยในปีนี้จะเริ่มเห็นแนวทางในการเติบโตของบริษัทในการรุกเข้าสู่การปล่อยสินเชื่อชนิดต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งทีมบริหารเชื่อว่าจะแตกต่างจากคู่แข่งอย่างชัดเจน
เขากล่าวต่อว่าภายหลังจากที่ได้ปรับโครงสร้างทางการเงินในช่วงที่ผ่านมา ตามงบการเงินไตรมาส 3/59 บริษัทฯ ไม่มีหนี้ (สัดส่วนหนี้ต่อทุนเพียง 0.03) และมีเงินสดมาก พร้อมที่จะขยายสินเชื่อชนิดต่างๆ ในปี 2560 นี้อย่างเต็มที่
SGF รีเทิร์น!! ตลท. ไฟเขียวกลับเข้าเทรดใน mai 1 ก.พ. นี้ เปิดแผนปี 60 ขยายไลน์ธุรกิจรุกตลาดสินเชื่อรายย่อยเต็มสูบ
นายศุภอรรถ ตปนียากร ที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเจเนอรัลแฟคตอริ่ง จำกัด (มหาชน) (SGF) เปิดเผยว่า ทางผู้บริหารขอเป็นตัวแทนผู้ถือหุ้นขอบคุณตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่พิจารณาอนุมัติให้ SGF กลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 ที่จะถึงนี้ หลังจากที่ผ่านมาได้ปฏิบัติตามระเบียบและข้อกำหนดอย่างเคร่งครัดจนผ่านเกณฑ์การขอพ้นเหตุเพิกถอน รวมทั้งมีผลประกอบการกำไรอย่างต่อเนื่องมาหลายปี ทั้งนี้ บริษัทฯ จะมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างผลประกอบการที่ดี ภายใต้นโยบายบริหารความเสี่ยงและบรรษัทภิบาลที่เหมาะสม
บริษัทฯได้มีการฟื้นฟูกิจการ ปรับโครงสร้างธุรกิจ พัฒนาบุคลากร จนผลประกอบการสามารถกลับมามีกำไรสุทธิอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันเน้นให้บริการสินเชื่อผู้ประกอบการรายใหญ่โดยมีหลักประกันสูง เกินมูลหนี้ไปมาก รวมทั้งเริ่มขยายชนิดสินเชื่อเข้าสู่ธุรกิจสินเชื่อรายย่อย โดยในปีนี้จะเริ่มเห็นแนวทางในการเติบโตของบริษัทในการรุกเข้าสู่การปล่อยสินเชื่อชนิดต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งทีมบริหารเชื่อว่าจะแตกต่างจากคู่แข่งอย่างชัดเจน
เขากล่าวต่อว่าภายหลังจากที่ได้ปรับโครงสร้างทางการเงินในช่วงที่ผ่านมา ตามงบการเงินไตรมาส 3/59 บริษัทฯ ไม่มีหนี้ (สัดส่วนหนี้ต่อทุนเพียง 0.03) และมีเงินสดมาก พร้อมที่จะขยายสินเชื่อชนิดต่างๆ ในปี 2560 นี้อย่างเต็มที่