[Return to หัวเกรียน Gamer] เรื่องราวการเดินทางของเหล่านักสู้ผู้มี "จิตวิญญาณแห่งซามูไร" (The tale of Samurai Spirits)

กระทู้สนทนา

เรื่องมันเริ่มต้นที่ วันก่อนผมทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ ช่วงที่ไปรื้อของในห้องเก็บของ
ผมไปเจอกระเป๋าใส่เครื่องเกม Wii ที่ฝุ่นจับหนาเตอะ เพราะไม่ได้เอาออกมาเล่นนานมากแล้ว
ค้นๆไปเจอลังใส่แผ่นเกมลังใหญ่ นึกสนุกเลย ลองเอามาต่อกับทีวี เปิดเครื่องดู ยังใช้ได้แฮะ....หยิบแผ่นเกมออกมาหนึ่งแผ่น
หน้าปกที่กล่องเป็นรูป ซามูไรเสื้อสีขาว ผมยาวมัดผมแบบฟูๆ กับ ซามูไรผมหางม้าสีแดง
กดเข้าไปในเกม เสียงเครื่องดนตรีญี่ปุ่นที่คุ้นเคยก็ดังมา
แล้วโลกของผมก็ย้อนไปเมื่อ 20 กว่าปีก่อน...
ย้อนไปสมัยยังเป็นเด็กหัวเกรียน กำเงินค่าขนมที่เก็บมาทั้งสัปดาห์วิ่งยังร้านเกม
(ที่บ้านไม่มีตังค์ซื้อเครื่องเกมครับ เพราะสมัยก่อนมันแพงมาก ดีสุดในชีวิตคือได้เครื่อง Famicom รุ่นก๊อปมาเล่น)
เพื่อต่อคิวรอเครื่องเล่นเกมสีดำๆใหญ่ๆ ที่มาพร้อมกับตลับอันเท่าแฟ้มใส่เอกสาร
เครื่องเกมที่เกมเมอร์รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ต่างมามุงดูที่เครื่องเล่น ที่ภาพสุดสวยเครื่องนั้น เสียงกดจอยเกมแบบคันโยกที่หน้าตาเหมือนกับตู้เกม
เสียงเชียร์ เสียงฮือฮาเวลาเจอคนเล่นเก่งๆ การบลัฟกัน การเกทับกัน เสียงหัวเราะของผู้ชนะ....มันได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง

“Samurai Shodown Anthology” คือสิ่งที่เขียนอยู่บนหน้ากล่อง
ใช่แล้วครับ วันนี้ผมจะมาเล่าถึงเกมที่ชื่อ Samurai Spirits
(แต่หลายๆคนจะคุ้นชื่อว่า Samurai Shodown ซึ่งเป็นชื่อจากทางฝั่ง US
ย้อนกลับไปเมื่อยุคที่ เกมต่อสู้แบบ 2D ยังเฟื่องฟู ยังมีต่สู้หนึ่งเกมที่โดดเด่นขึ้นมา
เพราะตัวเกมพาเราย้อนไปสู่การต่อสู้ของเหล่าซามูไร นินจา และตัวประหลาด

เกมในซีรีย์ Samurai Spirits สร้าง และจำหน่ายโดย บ. SNK บริษัทที่ขาเกมต่อสู้ต้องคุ้นชื่อแน่นอน
แม้ว่าหลังๆจะมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายแล้วต้องกลายเป็น SNK Playmore ที่ทำทั้งเกมเอง ทั้งเป็นแค่ตัวแทนจำหน่ายแล้วแปะชื่อไว้
เป็นยุคที่เกมที่ออกมาสำหรับผมแล้ว มีมาตราฐานแย่ลง และความสนุกลดลงมากเรียกได้ว่าไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก
แต่ก็มาแก้ตัวกับ KOF XIV แต่สำหรับผมก็ถือว่าทำดีได้แค่ในระดับหนึ่งครับ ยังสู้เกมต่อสู้ในยุคนี้อีกหลายๆเกมไม่ได้

Samurai Spirits (ผมขอเรียกชื่อนี้ละกันนะครับ เพราะคุ้นเคยกว่า)
เป็นเกมต่อสู้แบบ 2D ที่มีเนื้อเรื่องอยู่ในยุคเอโดะ ในช่วงซะโกกุ (Sakoku) หรือ ยุคที่ญี่ปุ่นทำการปิดประเทศ
ที่ห้ามคนต่างด้าวเข้าประเทศ และห้ามคนญี่ปุ่นออกนอกประเทศ โทษของการฝ่าฝืนคือ ความตายครับ (ก่อนจะมาเปิดสมัยที่เจอเรือดำเข้าไป)
ตัวละครจะใช้อาวุธประจำตัว ทั้งคาตานะ ดาบยาว มีดสั้น เคียว นก สุนัข ฯลฯ เข้าต่อสู้กัน
เกมเปิดตัวในเครื่องอาเขต (ระบบ Neo-Geo MVS)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วย้ายเข้ามาสู่ในบ้านด้วยเครื่องเล่นของทาง SNK เอง คือ Neo Geo

(ส่วนนี่คือตลับเกม ใหญ่มากกก ถ้าจำไม่ผลิตขนาดจะใกล้เคียงกับเครื่อง wii เลย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
(ผมค่อนข้างโชคดีที่ร้านเกมแถวบ้านมีเจ้าเครื่องนี้ให้เช่าเล่นครับ เลยได้เล่นเกมที่ออกมาให้เครื่อง
นี้ตั้งแต่เกมแรกๆ แถมร้านเกมยังมีตลับของเครื่องนี้เยอะมาก ซึ่งตลับเกมของเครื่องนี้ใหญ่มาก และราคาก็แพงมากกกกกก)
แต่ข้อดีของเครื่อง Neo-Geo คือ ถือได้ว่าเป็นเครื่องที่มีกราฟิคสวยกว่าเครื่องในยุคเดียวกันคือ super famicom และ Mega drive มากหลายขุม
(ไม่นับของเครื่องอาเขตในระบบอื่นๆนอกจาก Neo-Geo MVS นะครับ เพราะถือเป็นสิ่งเกินเอื้อมที่จะครอบครอง)

นอกเรื่องไปไกล กลับมาที่ตัวเกมดีกว่าครับ
ตัวเกมภาคหลักออกมาทั้งหมด 10 ภาค โดยมี time line แบบไม่เรียงภาคดังนี้
-    ปี 1786 ช่วงเดือน  มกราคม  - สิงหาคม  - Samurai Spirits V (Special)
-    ปี 1788 ช่วงเดือน  มีนาคม – มิถุนายน   – Samurai Spirits
-    ปี 1788 ช่วงเดือน  มิถุนายน – กันยายน  – Samurai Spirits III
-    ปี 1788 ช่วงเดือน  กันยายน – ธันวาคม  – Samurai Spirits IV
-    ปี 1789 ช่วงเดือน  มีนาคม – สิงหาคม    – Samurai Spirits II
-    ปี 1789 ช่วงเดือน  กันยายน – สิงหาคม ปี 1790 – Samurai Spirits 64
-    ปี 1790 ช่วงเดือน  พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ – Samurai Spirits 64: Warriors Rage
-    ปี 1791 – Samurai Spirits: Edge of Destiny
-    ปี 1811 – Samurai Spirits : Warriors Rage
ส่วนภาค Samurai Spirits VI ถือเป็นโลกคู่ขนานครับ ไม่ได้รวมใน Time Line หลักของซีรีย์นี้
(ถ้าได้ลองเล่นจะพบว่า มันมั่วมาก จับยัดทุกสิ่งเท่าที่เกมนี้เคยมีมา ทั้งตัวละครต่างช่วงเวลา ระบบการเล่น ท่าไม้ตายต่างๆ มาอยู่ในเกมเดียว
ในแง่หนึ่งก็เหมือนออกมาให้แฟนเกม ได้เล่นทุกอย่างแบบจุใจ แต่มันบ่ใจอ่ะนาย มันเกม Mugen ชัด)

ตัวละครใน 4 ภาคแรกนั้น จะได้คุณ Eiji Shiroi เป็นคนออกแบบและวาดภาพตัวละคร ส่วนหลังจากนั้น (พร้อมๆกับหายนะของ SNK )
ก็จะเป็นคนอื่นครับ รวมถึงภาคที่ออกเป็น 3D เช่น Samurai Spirits 64 ก็จะได้ Kitasenri หรือในภาค 5 ก็จะมี Takkun เป็นมือวาดหลักครับ

มาเจาะตัวเกมแต่ละภาคดีกว่าครับ
ผมจะขอรีวิว + ย้อนรอยเฉพาะภาค 2D นะครับ เพราะ 3D ผมได้เล่นมันน้อยมาก และคิดว่ามันไม่สนุกเอาเสียเลย

1.    Samurai Spirits  / Samurai Shodown

จำหน่าย        1993
ผู้พัฒนา        SNK
ผู้จำหน่าย            SNK
ตัวละคร        12 ตัว
Boss        Amakusa Shiro Tokisada
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สิ่งที่น่าสนใจ    เกมต่อสู้แนวซามูไร – นินจา ในยุคเอโดะ
เกมมาในแนวที่ไม่ค่อยคุ้นเคยของสมัยนั้นคือ ซามูไร นินจา (พวกนี้จะไปโผล่ในเกมอื่นๆ บ้างแต่ไม่เยอะมาก หรือมาเป็นแค่ตัวละคร
เพราะช่วงนั้น Street fighter II ยังมีมนต์ขลังมาก มากเสียจนเกมต่อสู้ยุคนั้นส่วนใหญ่จะเลือกเดินตามรอยมาเปะๆคือไปตามสถานที่ต่างๆทั่วโลก
ได้ตัวละครที่ดึงเอาลักษณะเด่นของแต่ละประเทศมามากกว่า)
ระบบการควบคุมก็ไม่ยุ่งยากเหมือนเกมต่อสู้ มี 4 ปุ่ม A - โจมตีเบา B -โจมตีหนัก C - เตะเบา D – เตะหนัก
มีการใช้ท่าต่างๆโดยการกดปุ่มลูกศร+ปุ่มโจมตีตามกำหนด ซึ่งในภาคนี้ตัวละครจะมีท่าไม้ตายไม่เยอะครับประมาณ 2- 4 ท่า
ภาคนี้แม้จะมีเกจพลัง (POW / Rage gauge) ด้านล่าง เจ้าเกจนี้จะเพิ่มขึ้นเมื่อโจมตี หรือ ถูกโจมตี
เมื่อเต็มก็จะทำให้ตัวละครเราเป็นสีแดงๆ เหมือนโกรธ โดยจำทำให้ตัวละครของเราโจมตีแรงขึ้นเท่านั้น ยังไม่มีท่าไม้ตายสูงสุดมาให้ใช้ครับ
จุดเด่นของ Samurai Spirits นอกจากกราฟิคที่สวยงาม ดนตรีประกอบที่ดี เสียงเอฟเฟคที่เจ๋งแล้ว
คือ “เลือด” ครับ ฟันทีเลือดพุ่งมาเลย (แต่ไม่ได้พุ่งเวอร์เหมือนของ Mortal kombat นะครับ)

ภาคนี้เลือดออกมาเล็กน้อยๆ ไม่ได้เยอะแยะมาก แต่ออกมาได้ถูกจังหวะที่ถูกฟันครับ
แต่หากการโจมตีสุดท้ายของเราเป็นการโจมตีแรงมาก (กด A+B) จะทำให้คู่ต่อสู้เลือดพุ่งเป็นน้ำพุ หรือขาดครึ่งตัวเลย

ส่วนระบบอื่นๆที่ใส่เข้ามาก็จะเป็นระบบอาวุธหลุด/ทำลายอาวุธ จะเกิดตอนที่อาวุธประสานกัน

ก็เป็นโชคร้ายของเจ้าของร้านเกมละครับ เพราะคนเล่นต้องรัวปุ่มผลาญอายุจอยแข่งกัน ใครแพ้อาวุธหลุด
ตัวที่อาวุธหลุด หรือโดนทำลายก็ต้องสู้มือเปล่าไปสักพัก ทำให้ใช้ท่าบางท่าไม่ได้ ต้องรอให้อาวุธถูกโดยนเข้ามาแล้วไปเก็บใหม่
เกมมีระบบซูมเข้า-ออกของฉาก เมื่อตัวละครอยู่ใกล้ หรือไกลกัน
(จริงๆระบบนี้เริ่มมีตั้งแต่ AoF แล้วครับ แต่ Samurai Spirits ทำได้เนียน และดีกว่า)
อีกเรื่องที่ขึ้นชื่อของภาคนี้คือความยากครับ ในระดับความยากต่ำๆ AI ก็ถือว่าเก่งเอาเรื่องครับ
อีกทั้งหากถ้าเราแพ้แล้วกดเล่นต่อ ตัว AI ก็จะทำการจำรูปแบบการเล่นของผู้เล่นรอบก่อนๆมาแก้ทางเราครับ
ภาคนี้ถือว่าเป็นภาคที่ประสบความสำเร็จมาก มีการพอร์ตไปยังเครื่องเล่นต่างๆแทบจะครบทุกเครื่องที่อยู่ในยุคนั้น และยาวมายุคต่อๆมาอีกด้วย
แต่โชคร้ายที่การพอร์ตลงเครื่องอื่น ทำได้ค่อนข้างแย่ เช่นลดกราฟิค ลดดีเทลตัวละคร ลดการซูมเข้าออกของฉาก หรือแม้กระทั่งตัดท่าบางท่าออก
ละในฝั่ง US จะโชคร้ายหนักขึ้นไปอีก เพราะด้วยการจัดเรทเกม ทำให้ SNK ต้องทำการเปลี่ยนสีเลือดให้เป็นสีขาว (คิดว่าเป็นเหงื่อนละกัน) ตัดพวกท่าโหดๆ โดยเฉพาะที่จบที่เลือดพุ่ง ตัวขาด ไปจนหมด
แน่นอนครับแฟนทางนั้น ยิ่งกลุ่มที่เคยเล่นเกมอาเขตมาก่อน (ที่ไม่ได้ลดทอนอะไรลง) จะไม่พอใจมากๆ
แต่เวลานั้น SNK ก็ทำอะไรไม่ได้มากนัก ด้วยข้อจำกัดด้านเทคโนโรยี และกฏหมาย ประกอบกับยังใหม่มากสำหรับตลาดฝั่ง US

ฉากเลือกตัวละครในภาคนี้