มาแล้วครับ

••••• I C E L A N D • R O A D • T R I P • 2 0 1 6 ••••• กิน! นอน! เที่ยว! ด้วยรถบ้านคันใหญ่ในไอซ์แลนด์ [ EP.2 ]
บอกเล่าเรื่องราวและประสบการณ์ต่างๆที่ได้พบเจอในทริปนี้ DAY : 1 - 2 - 3 >>> https://ppantip.com/topic/36043458

••••• I C E L A N D • R O A D • T R I P • 2 0 1 6 ••••• กิน! นอน! เที่ยว! ด้วยรถบ้านคันใหญ่ในไอซ์แลนด์ [ EP.3 ]
บอกเล่าเรื่องราวและประสบการณ์ต่างๆที่ได้พบเจอในทริปนี้ DAY : 4 - 5 >>> https://ppantip.com/topic/36067192

••••• I C E L A N D • R O A D • T R I P • 2 0 1 6 ••••• กิน! นอน! เที่ยว! ด้วยรถบ้านคันใหญ่ในไอซ์แลนด์ [ EP.4 ]
บอกเล่าเรื่องราวและประสบการณ์ต่างๆที่ได้พบเจอในทริปนี้ DAY : 6 - 7 - 8 >>> https://ppantip.com/topic/36141125

••••• I C E L A N D • R O A D • T R I P • 2 0 1 6 ••••• กิน! นอน! เที่ยว! ด้วยรถบ้านคันใหญ่ในไอซ์แลนด์ [ EP.5 ]
บอกเล่าเรื่องราวและประสบการณ์ต่างๆที่ได้พบเจอในทริปนี้ DAY : 9 - 10 >>> https://ppantip.com/topic/36213996

……………………………………………………………………………………………………………………………………..................



สวัสดีครับ
ทริปนี้ตั้งแต่กลาง-ปลายเดือนกันยายนปี 2016 เพิ่งได้มีโอกาสมารีวิวครับ
กระทู้นี้ผมขอเน้นเรื่อง *** การจองและการรับรถ MOTORHOME ***


เพื่อเป็นอีกทางเลือก สำหรับผู้ที่สนใจพาชาวแก๊งค์ หรือครอบครัวไปท่องเที่ยวที่ ICELAND นะครับผม



เรื่องของเรื่องคือหนึ่งในสมาชิกที่ไปด้วยกันคนนึง เคยได้มีโอกาสไปเยือน ICELAND มาแล้ว ในช่วงหน้าร้อน ปี 2011
พอได้เห็นรูปครั้งแรกก็ประทับใจ รู้สึกว่าประเทศที่นี่มีความสงบ และภูมิประเทศสวยแปลกตามากๆ (ตามตย.ในรูปเลยครับ)
เพื่อนเล่าให้ฟังว่า อากาศสดชื่น น้ำบริสุทธิ์มาก ไปไหนก็เจอแต่ แกะ - ม้า - วัว แกะ - ม้า - วัว ไม่ค่อยได้เจอคนสักเท่าไหร่
และ คนไอซ์แลนด์ใจดีกับนักท่องเที่ยวมากๆ (ผมก็ได้แต่ชื่นชม ยินดี ปนอิจฉาาาา 555)

••• ICELAND จึงกลายเป็นหนึ่งในหลายๆประเทศที่ผมฝันไว้ว่า...ต้องไปให้ได้สักครั้งครับ
 •••

หลังจากนั้นก็ได้พบกับรีวิวการไปเยือนประเทศ ICELAND มากมาย
ทั้งของคุณ MedicinePath, ของกลุ่ม หมอๆตะลุยโลก และของอีกหลายๆท่าน
และที่สำคัญคือ...หนังเรื่อง “The Secret of Walter Mitty” ที่ถ่ายทำใน ICELAND เกือบทั้งเรื่อง
ยิ่งมาสร้างแรงบันดาลใจ เร่งให้ผมสานฝันได้เร็วยิ่งขึ้น

จนกระทั่งมาได้โอกาสตอนที่เห็นโปรโมชั่นของ Norwegien Airline ผ่านทาง FB : Chang Trixget ครับ
https://www.facebook.com/ch.trixget/
พวกเราจึงรวมตัวกันด่วนๆ ทำการจองตั๋วเครื่องบินตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2016
แต่เลือกเดินทางในช่วงปลายเดือนกันยายน 2016 ด้วยเหตุผลหลักๆคือ “ประหยัด”
เพราะเพิ่งจบช่วง Summer (High Season) อากาศยังไม่หนาวมาก (แต่ก็หนาวอยู่ดี) ยังมีสีสันของต้นไม้ใบหญ้าหลงเหลืออยู่
และอาจจะมีโอกาสที่จะได้เห็นแสงเหนือเป็นของแถม ;)



ขาไปเราเลือกบินจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปลงที่สนามบิน Gardemeon ประเทศ​ NORWAY นอนสนามบิน 1 คืน
แล้วต่อเครื่องสายการบิน ICELANDAIR ไปยังสนามบิน Keflavik ประเทศ ICELAND ( 7 วัน 7 คืน)
ขากลับบินจากสนามบิน Keflavik ประเทศ ICELAND ไปลง Gardemeon ประเทศ​ NORWAY เที่ยวและนอนในตัวเมือง 1 คืน
แล้วจึงเดินทางกลับสนามบินสุวรรณภูมิ (ค่าเครื่องบิน เบ็ดเสร็จรวมไป-กลับ คนละ 23,665 บาท)


……………………………………………………………………………………………………………………………………..................

เข้าเรื่องรถบ้านเลยดีกว่า...ผมจะพยายามให้ข้อมูลอย่างละเอียดที่สุดนะครับ (ถ้ามีอะไรสงสัยถามได้ครับ เผื่อตกหล่น)


เมื่อจองตั๋วเครื่องบินแล้ว เริ่มแรกคือ พวกเราคิดจะขับรถเที่ยวรอบเกาะ เลยต้องหาข้อมูลรถเช่า
พวกเราช่วยกัน Search หาข้อมูล รถเช่าประเภทต่างๆ ทั้งลักษณะ ราคา และรีวิว ข้อดี ข้อเสีย
จากเว็บไทย (เจอแต่รีวิวรถบ้านคันใหญ่ในประเทศอื่น) และต่างประเทศ เช่น https://www.tripadvisor.com
(รีวิวสำคัญมาก บางบริษัทโดนด่าเยอะ ผมก็จะไม่เสี่ยง)



จนมาลงตัวที่รถบ้าน MORTORHOME for 6 Persons – Diesel
โดยตัดสินใจจองและมัดจำผ่านเว็บไซด์ http://www.motorhomeiceland.com/

ทริปนี้มีสาวๆถึง 4 คน (ผมคือผู้ชายคนเดียว และสารถีคนเดียวของทริปนี้ ^^)
การเข้าห้องน้ำ(แบบฉุกเฉิน) หรือการเปลี่ยนเสื้อผ้า ใช้รถบ้านน่าจะลงตัวสุด  
ที่สำคัญ...พวกเราจะได้ตัดความกังวลเรื่องที่พักออกไป แผนการเดินทางจะได้ยืดหยุ่นได้ตามความเหมาะสม
ก็กะว่าค่ำไหนนอนนั่นล่ะครับ



*ก่อนตัดสินใจควรวางแผนให้ดีๆว่าอยากไปเที่ยวที่ไหนบ้าง
ถนนที่เหมาะสำหรับการขับรถบ้านคันใหญ่ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นถนนเส้นหลักของประเทศนี้ครับ
ส่วนถนนที่ไม่ค่อยจะเหมาะกับรถบ้านคือประเภท F-Road ถนนประเภทนี้จะเหมาะกับรถ 4x4 มากกว่า

ส่วนการขับรถใน ICELAND ผมเองก็ได้ข้อมูลดีๆจากหลายที่
แต่เว็บนึงที่ผมศึกษาและอยากแนะนำคือ https://oak.in.th/2016/04/28/drivinginiceland/ ข้อมูลแน่นดีมากครับผม



อ้อ…อีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือ ใบขับขี่สากลครับ ไปทำไว้เนิ่นๆก็ดีนะครับกันลืม
เพราะต้องใช้ในการจองรถด้วยครับ (จะขับกี่มือก็ต้องกรอกลงไปให้หมด)



ข้อสังเกต :ในเว็บนี้การจองล่วงหน้าหลายๆเดือนนั้นจะไม่สามารถทำได้ ต้องซักประมาณ 3 เดือนโดยประมาณครับ

……………………………………………………………………………………………………………………………………..................

ขั้นตอนการจองรถ:



หลังจากเจอรถที่เราต้องการแล้ว คลิ๊กเข้าไปก็จะมีรายละเอียดต่างๆให้เราเลือก



ที่สำคัญๆเลยก็คือ Select Dates วันที่เราจะรับรถ (Pick-Up date/time) และวันที่เราจะคืนรถ (Return date/time)
เราก็ต้องเลือกวันและเวลาที่เราต้องการ
(หลังจากเลือกวันที่แล้ว ถ้ารถไม่ว่างในช่วงเวลานั้นๆ จะมีข้อความขึ้นมาเองครับว่าให้เราเลือกรถคันอื่นๆ หรือวันอื่นๆแทนครับ)

การรับรถและคืนรถ จะมีให้เราเลือก 3 แบบ
คือจะรับหรือคืนที่โรงแรม (Hotel in reykjavik) (Hotel in Keflavik) หรือที่สนามบิน (KEF Airport Office)
พวกเราเลือกที่จะรับและคืนรถที่สนามบิน (บริษัทเช่ารถส่วนใหญ่จะมีสาขาอยู่ใกล้กับสนามบิน)

สิ่งต่างๆที่รถมีให้เราคือ
- Unlimited km/miles ไม่จำกัดระยะทางที่ขับ
- Seats & Bed for 6 People ที่นั่งและที่นอนสำหรับ 6 คน
- Linen, Pillow & Towels (Optional) มีหมอนหรือผ้าขนหนูให้เลือก
- Crockery, Cutlery & Kitchenware เครื่องถ้วยชาม มีด และอุปกรณ์ครัว
- sink with running water ซิ้งค์และก๊อกน้ำ
- Cooker with Gas hob. 3 เตาแก๊ส 3 หัว
- 3-Way Refrigerator 120 litre ตู้เย็นความจุ 120 ลิตร
- Drinking Water Tank 120 Litre ถังจุน้ำดื่ม 120 ลิตร
- Waste Water Tank 120 Litre ถึงจุน้ำใช้ 120 ลิตร
- Toilet & Hot Shower ห้องน้ำและที่อาบน้ำร้อน
- Webasto Heating System ระบบทำความร้อน
- CDW Insurance included ประกันรถเบื้องต้น

ในข้อสุดท้ายนี้เป็นประกันรถเบื้องต้นที่ทางเค้ามีให้แล้ว
แต่แนะนำให้ click เลือกประกันเพิ่มเติมซึ่งใน web จะมีให้เลือกอีก 4 รูปแบบ
หลังจากได้อ่านรายละเอียดและจากที่ได้อ่านรีวิวต่างๆมาพอสมควร
เราเลยเลือกประกันที่ครอบคลุมทุกรูปแบบความเสียหายเพิ่ม คือ PI Package Insurance
ประกันอันนี้ที่เพิ่มเติมเข้าไป จะครอบคลุม 3 รูปแบบที่เหลือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายที่เกิดจาก
ก้อนกรวด ลูกเห็บ ช่วงล่างพัง กระจกแตก ยางแตก เอาเป็นว่าครอบคลุมทั้งหมดเลยครับ
ราคาที่ต้องเพิ่มเข้าไปอีกคือ 34 EUR /day (เป็นเงินไทยก็ราวๆ 1,300 ต่อวัน)
ถึงจะเพิ่มมามากพอประมาณ แต่เพื่อความสบายใจ....อ่ะ! เลือกเถอะครับ
(รุ่นพี่ผมเจอประสบการณ์โดนปรับค่ารถเสียหายในไอซ์แลนด์มาแล้วครับ ราคาแรงมากจริงๆ T_T)


นอกจากนี้เรายังเช่าตัว GPS Navigation System เพิ่มเติมเข้าไปด้วยเพราะไม่ได้รวมอยู่ในเซทนี้
ราคาจะอยู่ที่ 9 EUR per rental (จะมีเสียงคอยเตือนถ้าวิ่งเร็วเกินกำหนด)

* พอถึงเวลาจริงๆแล้ว พวกเราดูจาก Google Map ถนัดกว่าครับ เพราะถนนที่นี่ก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร
คอยดูป้ายจำกัดความเร็วก็โอเคแล้วครับ

สรุป : ค่าใช้จ่ายในการเช่ารถทั้งหมด 1,548 EUR (ราวๆ 60,844 บาท) = คนละ 12,169 บาท  
(ุ6 วัน)
*ราคาจะมีการเปลี่ยนแปลงตามปัจจัยต่างๆ เช่น รถที่เลือก จำนวนวันที่เช่า ฤดูกาล ฯลฯ
(เบื้องต้น ทางเว็บจะหักค่ามัดจำล่วงหน้าทันที ส่วนที่เหลือค่อยไปชำระในวันรับรถ)

……………………………………………………………………………………………………………………………………..................


ขั้นตอนการรับรถ:

วันแรกที่ไปถึง เราเดินออกจากสนามบิน เพื่อไปรอรถบัสสีเหลือง (Rent a car shuttle bus)
คอยบริการวิ่งส่งรอบๆสนามบิน จะมาทุกๆ 15 นาทีครับ



พอรถมาเราก็ช่วยกันแบกกระเป๋าคนละไม้คนละมือ ขึ้นรถเพื่อไปยังโซนบริษัทรถเช่าซึ่งมีรวมๆอยู่มากมายหลายบริษัท
บริษัทที่เราต้องไปรับรถชื่อ GEYSIR (แจ้งคนขับรถได้เลย เค้าจะได้บอกให้เราลงถูกครับ)



เมื่อไปถึง พวกเราก็ติดต่อแสดงเอกสารการจองรถที่ส่งมาให้ทางเมล์
และรอเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะพาพวกเราขึ้นรถเดินทางไปยังโรงจอดอีกที่นึง 

*ระหว่างรอ แนะนำให้หยิบ Guide Book โบรชัวร์ต่างๆ แผนที่ คืออะไรก็ตามที่แจกฟรีน่ะครับ รับรองมีประโยชน์




มาถึงโรงจอดรถ....ก็ขนสัมภาระกันเข้าไปด้านใน เจ้าหน้าที่คนที่พาเรามาก็เดินไปทักทายกับเจ้าหน้าที่อีกคน
โรงจอดรถด้านในกว้างขวางหลังคาสูงสะอาดสะอ้าน เครื่องมือต่างๆถูกเก็บเป็นระเบียบเรียบร้อย แอบเห็นมีรถแต่งอยู่ด้วย 2 คันสวยดี
แล้วเจ้าหน้าที่คนที่พาเรามาก็ชี้ให้ดูว่าคันไหนคือรถเช่าของเรา

โอ้!!...พระเจ้า! รถคันใหญ่และสูงกว่าที่ผมจินตนาการไว้พอสมควรเลย
ผมเดินดูรอบๆอยู่ซักพักส่วนน้องอีก 2 คนก็ไปจัดการเรื่องเอกสารต่างๆ ประกัน และชำระค่ารถส่วนที่เหลือ
(สำหรับการจองและการจ่ายเงินที่เหลือในส่วนของรถบ้านนี้ พวกเราตกลงกันว่าจะให้เป็นบัตรเครดิตของคนใดคนหนึ่ง แล้วค่อยมาเคลียร์กัน)



พอจัดแจงเรื่องเงินๆทองๆกันเป็นที่เรียบร้อย เจ้าหน้าที่จึงพาพวกเราไปตรวจเช็ครถและสอนการใช้งาน
ซึ่งพวกเราก็แยกย้ายกันตรวจเช็คและถ่ายรูปตำหนิของรถทุกจุด ทั้งภายนอก-ภายใน
ส่วนใครที่ภาษาอังกฤษแข็งแรงก็จะรับหน้าที่เรียนรู้ระบบการทำงานต่างๆภายในรถ

เจ้าหน้าที่แนะนำ ในส่วนของรถคันนี้
- รถขับพวงมาลัยซ้าย (ขับรถเลนขวา)
- ที่เปิดไฟเลี้ยว กับ ที่เปิดที่ปัดน้ำฝน สลับด้านกับรถเมืองไทย
- ช่องเติมน้ำมันอยู่ใกล้ๆกับประตูคนขับด้านนอกรถ
- เบรคมืออยู่ที่เก้าอี้คนขับด้านซ้ายมือตรงที่นั่ง
- กุญแจรถกับกุญแจกล๊อคประตูด้านหลังใช่ร่วมกันทั้งหมด
- กุญแจล็อคประตูเก็บถังแก๊สจะใช้อีกดอกนึง
- ปุ่มเปิดระบบไฟในรถ, ปุ่มเปิด Heater
- ปุ่มเปิดปั๊มน้ำ, ปุ่มเปิดเตาแก๊ส, ที่เก็บอุปกรณ์ทำอาหารต่างๆ
- ระบบในห้องน้ำ, การใช้โถส้วม, การใส่สารดับกลิ่นสลายปฏิกูล
- หน้าต่าง, ตู้, การพับโต๊ะทานข้าวให้กลายเป็นเตียง, บันไดไว้ขึ้นที่นอนด้านบน
- และอื่นๆ เป็นต้น

แนะนำ : ควรเช็คระบบต่างๆ และทดลองเปิดใช้ให้หมดทุกอย่าง ระบบน้ำ ระบบไฟ ระบบแก๊ส
พวกเราคิดว่าเช็คละเอียดแล้ว ก็ยังมีพลาดจนได้ 555 (อ่านได้ในกระทู้บอกเล่าประสบการณ์ครับ)