ตอนนี้คือกำลังศึกษาอยู่คณะแพทย์ปี1 ของม.ดัง ปกติแล้วเราเป็นคนเฮฮา ชอบทำกิจกรรมมาก ตอนม.ปลายเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ตลอด ไม่ว่าจะประธานเชียร์กีฬาสี งานของสายการเรียน (ม.ปลายมาจากโรงเรียนที่มีสายวิทย์แปลกๆ) ทำให้เกรดมัธยมไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ตอนมัธยมก็ดูเป็นเหมือนเด็กไม่ตั้งใจเรียนค่ะ แต่สุดท้ายก็ฟิตตอนเอนท์ม.6 จนติดคณะแพทย์ชื่อดังในระบบกสพท. เลยคิดว่า เราจะrenovate ตัวเองใหม่ จะตั้งใจเรียน ส่วนนึงเพราะอยากได้เกียรตินิยมเอาไปเรียนต่อเฉพาะทางของเมืองนอกด้วยค่ะ ทำให้รู้สึกว่า เราไม่ควรเข้าร่วมกิจกรรมของคณะมากอย่างที่เคยทำตอนม.ปลาย (ไม่ใช่ไม่ทำนะคะ ทำบ้าง แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจเหมือนตอนม.ปลาย) ตอนแรกทุกอย่างก็ยังโอเค จนกระทั่งเริ่มสอบมิดเทอม ที่นี่ชื่อดังเรื่องความเครียดของนศ.แพทย์อยู่แล้วค่ะ บวกกับเราเป็นคนไม่เก่งวิชาเลข ฟิสิกส์ หรืออะไรต่างๆ ที่เรียนมาตั้งแต่ม.ปลาย ทำให้คะแนนมิดเทอมแย่มาก เราเริ่มเครียดเพราะมีเรื่องทะเลาะกับรูมเมทบ้าง และเริ่มรู้สึกว่าเพื่อนที่นี่ไม่เข้ากับเราเลยค่ะ
พอจะไฟนอล ก็คิดว่ายังพอกอบกู้เกรดได้ แต่สุดท้ายคะแนนก็พังเหมือนเดิม คือถ้าพิจารณาเป็นแต่ละรายวิชาแล้วว เราก็รู้สึกว่า เออ วิชานี้ได้เท่านี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว แต่พอเกรดเฉลี่ยรวมออกมา เละเป็นโจ๊กเลยค่ะ หลายๆ คนอาจจะบอกว่า ให้เทียบกับตัวเอง อย่าไปเทียบกับคนอื่น สุดท้ายในจิตใต้สำนึกลึกๆ ก็ห้ามใจไม่ให้คิดไม่ได้อยู่ดี เพราะสังคมที่เราอยู่มันกดเรา และอย่างที่บอกค่ะ เราเป็นคนเฮฮา ดูไม่ซีเรียส ปากบอกว่า 'เห้ยชั้นเทนะวิชานี้' ให้เพื่อนขำ แต่ความจริงแล้วเราไม่ได้เท แต่เราทำความเข้าใจกับเนื้อหาไม่ได้จริงๆ ปากเลยบอกว่าเท ถ้าคะแนนออกมาแย่อยากน้อยก็จะได้บอกเพื่อนได้ว่าชั้นบอกแล้วไงว่าชั้นเท อย่างนี้อะค่ะ
มีอยู่ครั้งหนึ่งเราเดินสวนกับเพื่อนคนนึง (เราเพิ่งได้เป็น mc พิธีการของคณะค่ะ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมไม่กี่อย่างที่เราอยากเข้าร่วมจริงๆ) เค้าเป็นคนที่สมัครคัด mc เหมือนกัน(แต่เค้าสมัคร mc นันทนาการ อารมณ์พิธีกรตอนรับน้อง) ซึ่งเค้าไม่ได้ และเราได้ และช่วงนั้นเป็นช่วงที่คะแนนมิดเทอมเพิ่งออก เค้าพูดกับเราว่า 'ดีใจด้วยนะ อย่าลืมรักษาการเรียนด้วย' คือออ เรารู้สึกเหมือนโดยตบหน้าอะค่ะ ไม่รู้ว่าเค้าจริงจัง เค้าพูดเล่น หรือเค้าเป็นห่วงเราจริงๆ กันแน่ เป็นอีกหนึ่งเหตุการร์ที่ทำให้เราเฟลกับการเรียนของตัวเองมาก
ล่าสุดคือบอกพ่อแม่ว่าพอขึ้นไปปี 2 ไม่อยากอยู่หอในในโรงพยาบาล เพราะเราระลึกได้ว่าเพื่อนๆ ของเราตอนนี้เค้าเก่งกว่าเรามาก เวลาที่เค้าชวนกันไปเที่ยวเล่นที่ไหน เราคงไปแบบเค้าไม่ได้ เพราะเราต้องพยายามมากกว่าคนอื่น จะอยู่กับเพื่อนแล้วนั่งอ่านหนังสือก็รู้สึกเขิน รู้สึกเหมือนคนไม่เอาเพื่อน คือเราไม่ได้ตั้งใจจะตีตัวออกห่างจากสังคมนะคะ เราแค่อยากมีพื้นที่ส่วนตัวและทำอะไรก็ได้โดยที่ไม่มีใครแซว (ตอนเอนท์เราใช้วิธีแบบนี้ คือไปอยู่คอนโดคนเดียว เพราะไม่มีใครมาคอยกดดัน เรารู้สึกสบายใจกว่าค่ะ) แต่พ่อตอบกลับมาว่า เราต้องปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นให้ได้ แค่นี้ยังทำไมได้แล้วจะคุยกับคนไข้ได้ยังไง (พ่อเราเป็นทันตแพทย์ค่ะ) แต่พ่อไม่รับฟังเหตุผลของเราเลยว่า เวลาอยุ่กับเพื่อนแล้วเราเครียดแค่ไหน ทุกวันนี้พ่อถามแต่เรื่องเกรด ถามถึงเกรดเพื่อนเราคนอื่นๆ ด้วย พ่อบอกว่าอย่าไปเครียด แต่ก็ไม่เข้าใจว่าถ้าไม่ต้องการให้เครียดจะถามถึงเกรดคนอื่นทำไม จะถามย้ำทำไมบ่อยๆ ว่าวิชานี้ได้คะแนนเท่าไหร่ ทุกวันนี้ที่คุยกับพ่อแทบไม่มีเรื่องอื่นเลย มีแต่เรื่องเกรด ทุกวันนี้เราร้องไห้บ่อยมาก แทบทุกวัน มีแฟนเราคนเดียวที่รับรู้และรับฟังเรา
ใจจริงของเราคือเราไม่อยากซิ่ว เพราะถ้าไม่นับเรื่องความเครียดของสังคม เราอยากเข้าคณะนี้จริงๆ เราตั้งใจมาตลอดว่าจะเข้าที่นี่ให้ได้ จะทิ้งไปก็รู้สึกเสียดาย แต่ตอนนี้รู้สึกบั่นทอนสุขภาพจิตมาก เริ่มสับสนว่าสรุปปัญหามันอยู่ที่ตัวเราหรือมันอยู่ที่สิ่งแวดล้อม จะนึกโทษตัวเองบ่อยๆ ก็กลัวจิตตกขั้นฆ่าตัวตาย แต่จะโทษสังคมก็ดูเหมือนเด็กไม่รู้จักโต แถมไม่มีวิชาทางการแพทย์เข้ามาอยู่เป้นรายวิชาในปี 1 เลย เราเลยไม่รู้จริงๆ ว่าสรุปแล้วเราจะเอนจอยกับการเรียนหมอรึเปล่า ตอนนี้เรามืดแปดด้านมาก มีใครเคยประสบปัญหาแบบนี้ หรืออยากให้คำแนะนำ ช่วยตอบกระทูด้วยนะคะ
*ถ้าเป็นไปได้อย่าตอกย้ำกันเลยนะคะ แค่นี้ก็เครียดมากแล้ว ฮืออ
เรียนปี1 คณะแพทย์ เครียดมาก ขอคำแนะนำด้วยค่ะ
พอจะไฟนอล ก็คิดว่ายังพอกอบกู้เกรดได้ แต่สุดท้ายคะแนนก็พังเหมือนเดิม คือถ้าพิจารณาเป็นแต่ละรายวิชาแล้วว เราก็รู้สึกว่า เออ วิชานี้ได้เท่านี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว แต่พอเกรดเฉลี่ยรวมออกมา เละเป็นโจ๊กเลยค่ะ หลายๆ คนอาจจะบอกว่า ให้เทียบกับตัวเอง อย่าไปเทียบกับคนอื่น สุดท้ายในจิตใต้สำนึกลึกๆ ก็ห้ามใจไม่ให้คิดไม่ได้อยู่ดี เพราะสังคมที่เราอยู่มันกดเรา และอย่างที่บอกค่ะ เราเป็นคนเฮฮา ดูไม่ซีเรียส ปากบอกว่า 'เห้ยชั้นเทนะวิชานี้' ให้เพื่อนขำ แต่ความจริงแล้วเราไม่ได้เท แต่เราทำความเข้าใจกับเนื้อหาไม่ได้จริงๆ ปากเลยบอกว่าเท ถ้าคะแนนออกมาแย่อยากน้อยก็จะได้บอกเพื่อนได้ว่าชั้นบอกแล้วไงว่าชั้นเท อย่างนี้อะค่ะ
มีอยู่ครั้งหนึ่งเราเดินสวนกับเพื่อนคนนึง (เราเพิ่งได้เป็น mc พิธีการของคณะค่ะ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมไม่กี่อย่างที่เราอยากเข้าร่วมจริงๆ) เค้าเป็นคนที่สมัครคัด mc เหมือนกัน(แต่เค้าสมัคร mc นันทนาการ อารมณ์พิธีกรตอนรับน้อง) ซึ่งเค้าไม่ได้ และเราได้ และช่วงนั้นเป็นช่วงที่คะแนนมิดเทอมเพิ่งออก เค้าพูดกับเราว่า 'ดีใจด้วยนะ อย่าลืมรักษาการเรียนด้วย' คือออ เรารู้สึกเหมือนโดยตบหน้าอะค่ะ ไม่รู้ว่าเค้าจริงจัง เค้าพูดเล่น หรือเค้าเป็นห่วงเราจริงๆ กันแน่ เป็นอีกหนึ่งเหตุการร์ที่ทำให้เราเฟลกับการเรียนของตัวเองมาก
ล่าสุดคือบอกพ่อแม่ว่าพอขึ้นไปปี 2 ไม่อยากอยู่หอในในโรงพยาบาล เพราะเราระลึกได้ว่าเพื่อนๆ ของเราตอนนี้เค้าเก่งกว่าเรามาก เวลาที่เค้าชวนกันไปเที่ยวเล่นที่ไหน เราคงไปแบบเค้าไม่ได้ เพราะเราต้องพยายามมากกว่าคนอื่น จะอยู่กับเพื่อนแล้วนั่งอ่านหนังสือก็รู้สึกเขิน รู้สึกเหมือนคนไม่เอาเพื่อน คือเราไม่ได้ตั้งใจจะตีตัวออกห่างจากสังคมนะคะ เราแค่อยากมีพื้นที่ส่วนตัวและทำอะไรก็ได้โดยที่ไม่มีใครแซว (ตอนเอนท์เราใช้วิธีแบบนี้ คือไปอยู่คอนโดคนเดียว เพราะไม่มีใครมาคอยกดดัน เรารู้สึกสบายใจกว่าค่ะ) แต่พ่อตอบกลับมาว่า เราต้องปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นให้ได้ แค่นี้ยังทำไมได้แล้วจะคุยกับคนไข้ได้ยังไง (พ่อเราเป็นทันตแพทย์ค่ะ) แต่พ่อไม่รับฟังเหตุผลของเราเลยว่า เวลาอยุ่กับเพื่อนแล้วเราเครียดแค่ไหน ทุกวันนี้พ่อถามแต่เรื่องเกรด ถามถึงเกรดเพื่อนเราคนอื่นๆ ด้วย พ่อบอกว่าอย่าไปเครียด แต่ก็ไม่เข้าใจว่าถ้าไม่ต้องการให้เครียดจะถามถึงเกรดคนอื่นทำไม จะถามย้ำทำไมบ่อยๆ ว่าวิชานี้ได้คะแนนเท่าไหร่ ทุกวันนี้ที่คุยกับพ่อแทบไม่มีเรื่องอื่นเลย มีแต่เรื่องเกรด ทุกวันนี้เราร้องไห้บ่อยมาก แทบทุกวัน มีแฟนเราคนเดียวที่รับรู้และรับฟังเรา
ใจจริงของเราคือเราไม่อยากซิ่ว เพราะถ้าไม่นับเรื่องความเครียดของสังคม เราอยากเข้าคณะนี้จริงๆ เราตั้งใจมาตลอดว่าจะเข้าที่นี่ให้ได้ จะทิ้งไปก็รู้สึกเสียดาย แต่ตอนนี้รู้สึกบั่นทอนสุขภาพจิตมาก เริ่มสับสนว่าสรุปปัญหามันอยู่ที่ตัวเราหรือมันอยู่ที่สิ่งแวดล้อม จะนึกโทษตัวเองบ่อยๆ ก็กลัวจิตตกขั้นฆ่าตัวตาย แต่จะโทษสังคมก็ดูเหมือนเด็กไม่รู้จักโต แถมไม่มีวิชาทางการแพทย์เข้ามาอยู่เป้นรายวิชาในปี 1 เลย เราเลยไม่รู้จริงๆ ว่าสรุปแล้วเราจะเอนจอยกับการเรียนหมอรึเปล่า ตอนนี้เรามืดแปดด้านมาก มีใครเคยประสบปัญหาแบบนี้ หรืออยากให้คำแนะนำ ช่วยตอบกระทูด้วยนะคะ
*ถ้าเป็นไปได้อย่าตอกย้ำกันเลยนะคะ แค่นี้ก็เครียดมากแล้ว ฮืออ