ทุกวันนี้ ซึ่งอันที่จริงก็เป็นมาโดยตลอดยาวนานมาแล้ว

หาคนที่รู้แก่นศาสนาที่ติดตัวตนเองมาตั้งแต่เกิดยากมากๆ ผมพูดถึงเฉพาะแก่นศาสนาพุทธนิกายเถรวาท ที่เป็นศาสนาประจำชาติไทยของเรามาหลายร้อยปีเท่านั้นนะครับ

อย่าว่าแต่ฆารวาทอย่างเราๆท่านๆเลย พระสงฆ์นักบวชบ้านเราก็หารูปที่รู้ศาสนาตามที่ถูกที่ควร และเคร่งครัดในพระธรรมวินัยยังยากเลย

ศาสนาพุทธ นิกายเถรวาท นับเป็นศาสนาหนึ่งในไม่กี่ศาสนา ที่ไม่พูดถึงพระเจ้า หรือผู้สร้างโลก ไม่สนับสนุนให้อ้อนวอนขอ จากสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ให้มุ่งเน้นพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น โดยการปฏิบัติด้วยตัวเอง สอนให้ฝึกสมาธิ วิปัสนา เพื่อให้มีปัญญาในการดำรงค์ชีวิต ไม่ให้ปลงใจเชื่ออะไรง่ายๆ เพียงแค่ฟังเค้าเล่ามา แต่ให้พิจารณาด้วยปัญญาของตัวเองให้ถ้วนถี่เสียก่อน ฯลฯ

เรียกว่าเถรวาทของเรามีจุดเด่นที่สามารถจะชูให้คนไทยที่นับถือพุทธ หรือแม้แต่ทั่วโลก หันมาสนใจลองศึกษา หรือปฏิบัติดู เพื่อพัฒนาจิตใจได้เป็นอย่างดี โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพียงแค่พัฒนาภายในของตัวเองชีวิตก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีชนิดหน้ามือเป็นหลังมือได้แล้ว

..................................................................

ปัญหาคือเวลาผมพูดเรื่องนี้ ท่านผู้ที่มีความรู้เรื่องศาสนาดีแล้วก็มักจะบอกว่า ศาสนาพุทธไม่ควรแบ่งแยก ศาสนาพุทธไม่มีนิกาย ผมว่าคิดแบบนี้ไม่ผิด แต่มันไม่ก่อให้เกิดการพัฒนาในเชิงเผยแพร่ศาสนาได้เลย ส่วนตัวผมมองว่าศาสนาทุกศาสนามันไม่ควรมีนิกายอยู่แล้วล่ะครับ แต่ปัญหาคือมันมีไง แล้วศาสนาพุทธของเราก็จัดเป็นศาสนาที่ต่อให้แยกนิกาย ความขัดแย้งก็แทบไม่มีเลย ต่างกับศาสนาอื่นที่โจมตีกันและกันจนเกิดเป็นความขัดแย้งบานปลาย ทั้งกับศาสนาอื่น และศาสนาเดียวกันเอง

ไม่นานผมพึ่งได้ดูภาพยนต์เรื่องเสวียนจ้าง ซึ่งแน่นอนเป็นหนังจีน ย่อมสร้างโดยผู้นับถือศาสนาพุทธนิกายมหายาน เค้าได้กล่าวถึงนิกายหินยาน(เถรวาท) ซึ่งเป็นชื่อเรียกในเชิงดูถูก ว่าเราช่วยคนได้ทีละคน แต่ของเค้าช่วยได้ทีละมากๆ

จริงอยู่ ที่ว่าในหนังเสวียนจ้าง ไม่ได้พูดถึงแง่ลบของหินยาน(ปัจจุบันเรียกเถรวาท)แบบตรงๆ แต่ก็พูดแน่ว่ามหายานของเค้าดีกว่า มีการแข่งขันแพ้ชนะกันด้วย ซึ่งในความเป็นจริง มีแข่งกันจริงหรือไม่ก็ไม่รู้ หรือต่อให้มีการแข่งขันจริง การแพ้ชนะก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นคณะผู้ตัดสินชอบนิกายอะไรมากกว่า ผู้มาร่วมแข่งขันใครมีภูมิปัญญาความรู้ ไหวพริบเฉพาะบุคคลสูงกว่า ฯลฯ

..............................................

สรุปทิ้งท้ายว่า ทำไมเราไม่ชูความเป็นเถรวาทของเราให้ชัดเจนไปเลยครับ อย่างน้อยๆประชาชนที่นับถือพุทธอยู่แล้วจะได้รู้ว่าตนเองเป็นอะไร ควรไปในทางไหน เพราะทุกวันนี้คนไทยส่วนใหญ่มักจะนับถือมั่วไปหมด ถามว่าเสียหายมั้ย ก็ไม่ถึงกับเสียหายอะไรมาก แต่ถ้าปล่อยเอาไว้นานๆ จะเป็นปัญหาได้ ซึ่งอันที่จริงทุกวันนี้ก็เป็นปัญหาให้เห็นแล้วในระดับหนึ่ง

คนทำบุญเพื่อหวังรวยบ้าง นับถือเทพฮินดูมากกว่าบ้าง ขอนั่นขอนี่ ลุ้นหวยมากกว่าทำมาหากินบ้าง ฯลฯ

ลองมาคุย แสดงทัศนะตรงนี้กันครับ ทั้งในแง่ศาสนา และหนังเรื่อง เสวียนจ้าง

ปล.หนังสนุกดีครับ ดูได้เรื่อยๆ 7 เต็ม 10