พ.ศ.2426 (ค.ศ. 1883) ภูเขาไฟกรากาตัวเกิดระเบิดอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดความหายนะครั้งใหญ่ในประเทศอินโดนีเซีย ทำลายหมู่บ้าน 163 หมู่บ้าน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 36,380 คน



[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เกาะกรากะตัว เป็นเกาะที่มีแนวเส้นภูเขาไฟพาดผ่านใจกลางเกาะ ยอดปล่องภูเขาไฟที่สูงที่สุดในเกาะมีความสูง 820 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง หินภูเขาไฟและธาตุภูเขาไฟที่ให้เป็นเกาะที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะต่อการเกษตรกรรม เกาะแห่งนี้เริ่มมีมนุษย์มาตั้งถิ่นฐานอยู่เมื่อประมาณ3000ปีก่อนคริสตกาล มนุษย์กลุ่มแรกๆคือเกษตรกรที่มาทดลองถางป่าที่เกาะนี้เพื่อปลูกข้าวและพืชผลอื่นๆแล้วได้ผลเป็นที่น่าพอใจ จึงตั้งรกรากอาศัยอยู่บนเกาะ เกาะนี้อยู่ไม่ไกลจากเกาะสุมาตรา ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ทางตะวันตกของอินโดนีเซีย ทำให้มีผู้คนมาตั้งรกรากมากขึ้น จนเกาะแห่งนี้กลายเป็นเมืองแห่งหนึ่ง

ภูเขาไฟกรากะตัวที่ตั้งอยู่บนเกาะได้มีการระเบิดเล็กๆน้อยๆหลายครั้ง แต่การระเบิดได้พ่นแร่ธาตุออกมาทำให้เกาะอุดมสมบูรณ์ขึ้น ชาวบ้านจึงไม่ได้ตระหนักถึงภัยอันตรายของภูเขาไฟระเบิด

วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2426 (ค.ศ. 1883) ภูเขาไฟกรากะตัวได้ระเบิดรุนแรงเกิดเป็นเสียงระเบิดดังรุนแรง เถ้าถ่านควันไฟอีกจำนวนมากถูกพ่นออกมา ผู้คนประหลาดใจมากที่เห็นภูเขาไฟที่เงียบสงบมานานเกิดระเบิดขึ้น

วันที่ 26 สิงหาคม ภูเขาไฟระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง เกาะสั่นสะเทือน เถ้าถ่านฝุ่นควันปลิวไปทั่วท้องฟ้า เกิดระเบิดขนาดกลางมาอีกหลายครั้ง ชาวบ้านต่างเกิดความหวาดกลัว ในคืนนั้น แม้ผู้ที่กำลังอยู่ในเรือที่อยู่ห่างจากกรากะตัวถึง 16 กิโลเมตรก็ยังเห็นการระเบิดอย่างชัดเจน และรู้สึกได้ว่าน้ำทะเลรอบเรือร้อนขึ้นมาก การระเบิดดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ผู้คนเริ่มล่องเรืออพยพไปจากเกาะ ส่วนผู้ที่เลือกจะอยู่ในเกาะก็พยายามหาที่กำบังให้ปลอดภัยที่สุด

วันที่ 27 สิงหาคม  ได้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ที่สุด แรงระเบิดนั้นคร่าชีวิตทุกคนที่ยังอยู่บนเกาะ พื้นที่ร้อยละ 65.52 ของเกาะกลายเป็นเถ้าธุลีลอยสูงขึ้นไปถึง 80 กิโลเมตร ในรัศมี 240 กิโลเมตรจากเกาะถูกเถ้าธุลีเหล่านั้นบดบังแสงอาทิตย์จนมืดมิดคล้ายตอนกลางคืน เสียงระเบิดดังกึกก้องมาก จนเมืองปัตตาเวียที่อยู่ห่างจากกรากะตัวถึง 150 กิโลเมตร ผู้คนยังต้องเอามืออุดหูกันเสียงระเบิด และผู้คนที่อาศัยบนเกาะโรดริเกซซึ่งอยู่ห่างจากกรากะตัวถึง 4,776 กิโลเมตรก็ได้ยินเช่นเดียวกัน นอกจากนี้การระเบิดยังทำให้เกิดคลื่นสึนามิ สูงกว่า 30 เมตร เดินทางไปถล่มเกาะหลายแห่ง แรงแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นตรวจจับได้แม้แต่ที่สหราชอาณาจักร รวมแล้วมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ประมาณ 36,000 คน

พ.ศ.2445 (1902) ภูเขาไฟปาเลบนเกาะมาร์ตินีกระเบิด ทำลายเมืองเซนต์ปิแอร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 30,000 คน


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มาร์ตินีกเป็นส่วนหนึ่งของสภาพยุโรปเนื่องด้วยเป็นหนึ่งใน 27 จังหวัดของประเทศฝรั่งเศส เมื่อได้ยินชื่อนี้ผู้คนต้องนึกถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าเขตร้อนชื้น ภูเขาไฟสูงตระหง่าน ชายหาดที่มีความสวยงาม ทะเลอันเงียบสงบ การบริการและความสะดวกสบายระดับ 5 ดาว ร้านอาหารและห้างสรรพสินค้าระดับโลก ทั้งยังมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ช่วงศตวรรษที่ 18 ซึ่งช่วยเพิ่มมนต์เสน่ห์ของเกาะแห่งนี้อีกด้วย
เมืองหลวงของมาร์ตินีกได้แก่ ฟอร์ – เดอ – ฟรองซ์ เป็นที่อยู่ของประชากรจำนวน 91,000 คน ทั้งยังเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางการค้าและธุรกิจของแคริบเบียน มาร์ตินีกมีภูเขาไฟที่มีชื่อเสียงคือ เมาท์เปอเล ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะ ภูเขาไฟแห่งนี้มีความสูง 1,397 เมตรและเป็นภูเขาไฟที่ยังคงคุกรุ่น เมาท์เปอเลเคยระเบิดในปี 1902 ส่งผลให้ เซนต์ ปีแอร์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าได้รับความเสียหายอย่างมาก

พ.ศ.2466 (ค.ศ. 1923) แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในบริเวณคันโต ทำให้มีผู้เสียชีวิตในโตเกียวและโยโกฮามา ของประเทศญี่ปุ่นราว 100,000 คน


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แผ่นดินไหวเมื่อครั้งปี 1923รอบๆพื้นที่กรุงโตเกียวถือเป็นแผ่นดินครั้งใหญ่ในอดีตที่วัดขนาดความรุนแรงได้ 7.9-magnitude เขย่าเสียจนกรุงโตเกียวกลายเป็นเมืองซากปรักหังพังของเศษอิฐเศษหิน จนประชาชนต่างพยายามหนีเอาตัวรอด เกิดไฟไหม้ไปทั่วเมือง มีผู้เสียชีวิตหลังจากแผ่นดินไหวครั้งนั้นมากว่า 100,000คน ภาพถ่ายแผ่นดินไหวครั้งเมื่อปี 1923 เป็นของฝ่ายสำรวจทางธรณีวิทยาของอเมริกา ที่เก็บรักษาไว้โดยมหาวิทยาลัยบราวน์ (U.S. Geological Survey, AP, and Brown University's Dana and Vera Reynolds Collection) โชว์ให้เห็นซากแผ่นดินไหวที่ความน่ากลัว เป็นเครื่องเตือนความทรงจำที่โหดร้ายยากจะลืมเลือนแต่ความความเข้มแข้งอดทนที่ฝังอยู่ในสายเลือดของชาวญี่ปุ่นก็ประสบความสำเร็จในการรื้อฟื้นบ้านเมืองให้กลับมาดีขึ้น