ภาพยนตร์ : Jackie

ชื่อไทย : หม้ายหมายเลขหนึ่ง

ผู้กำกับ : Pablo Larraín (ผู้กำกับหนังดราม่าสัญชาติชิลีที่เคยกำกับ Neruda และ The Club และเรื่องนี้เป็นการกํากับหนังภาษาอังกฤษเรื่องแรกของเขา)

นักแสดง : Natalie Portman (แสดงเป็น Jackie), Caspar Phillipson (แสดงเป็น JFK), Peter Sarsgaard (แสดงเป็น Bobby Kennedy), Greta Gerwig (แสดงเป็น Nancy Tuckerman), Sunnie Pelant (แสดงเป็น Caroline Kennedy)

ประเภท : ชีวประวัติ, ดราม่า

เรท : น15+ (ผู้ชมอายุตํ่ากว่า 15 ปีควรได้รับคําแนะนํา)

ความยาว : 104 นาที

เรื่องย่อ : แจ๊กเกอลีน เคนเนดี้ อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ผู้โด่งดัง และเป็นที่รักของชาวอเมริกัน โดยโฟกัสช่วง 4 วัน หลังจากเหตุการณ์ลอบสังหารประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ เผยให้เห็นความโศกเศร้าครั้งใหญ่หลวงของ แจ๊กกี้ ซึ่ง นาตาลี พอร์ตแมน นักแสดงมากความสามารถ ก็ได้มอบการแสดงที่ดีที่สุดในชีวิตเธออีกครั้ง หลังจากคว้าออสการ์ไปครองจาก Black Swan การันตีด้วยเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามจากบรรดานักวิจารณ์ที่เทศกาลหนังเวนิซ โตรอนโต และได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นหนึ่งในตัวเต็งออสการ์ สาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยมของปีนี้


-หนังการันตีด้วยรางวัลจากเวทีต่างๆมากมาย

หนังชนะ 30 รางวัล และเข้าชิงมากกว่า 107 รางวัล!!!
รางวัลที่เด่นๆ
-เข้าชิง Golden Globes สาขานักแสดงหญิงดราม่ายอดเยี่ยม (ชวดรางวัลให้กับ Isabelle Huppert)
-ชนะ Boston Society of Film Critics Awards สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์และนักแสดงนําหญิงยอดเยี่ยม
-ชนะ Broadcast Film Critics Association Awards สาขานักแสดงนําหญิง เครื่องแต่งกาย และการทําผมและแต่งหน้ายอดเยี่ยม
-ชนะ Chicago Film Critics Association Awards สาขานักแสดงหญิงและเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมนะ
-ชนะ Houston Film Critics Society Awards  สาขานักแสดงนําหญิงยอดเยี่ยม
-ชนะ Las Vegas Film Critics Society Awards สาขานักแสดงนําหญิงยอดเยี่ยม
-ชนะ Palm Springs International Film Festival
-ชนะ Toronto International Film Festival  
-ชนะ Venice Film Festival  สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม


-การแสดงระดับมาสเตอร์พีซของนาตาลี พอร์ตแมน

นาตาลี ในบทของJackie เป็นการแสดงระดับมาสเตอร์พีซอีกหนึ่งเรื่องในชีวิตของเธอ หลังจากสะพรึงมาแล้วกับการแสดงของเธอในบทบาทของสาวนักบัลเล่นใน Black Swan และเธอก็ได้คว้า Oscar สาขานักแสดงนําหญิงยอดเยี่ยมในบทบาทนี้อีกด้วย และยังเป็นตัวเต็ง Oscar สาขานักแสดงนําหญิงยอดเยี่ยมในปี2017อีกด้วยในบทแจ๊กเกอลีน เคนเนดี้ ในหนังเรื่องนี้เธอต้องแบกหนังไว้ทั้งเรื่อง และถ้าการแสดงของเธอในบทแจ๊กกี้ไม่ดี อาจทําให้หนังพังได้ แต่เธอก็สามารถทําได้ดีมาก ลุ้นให้เธอได้Oscarตัวที่2 เธอทุ่มเทให้กับบทของแจ๊กกี้มาก โดยเธอคอยดูคลิปสัมภาษณ์ตัวจริงหลาย100ครั้ง เพื่อฝึกการพูด สำเนียง ท่าทางให้เหมือนJackieมากที่สุด เธอสามารถแสดงในบทดราม่าได้ยอดเยี่ยมมาก แววตาของเธอดูสิ้นหวังกับการจากไปของสามี John F. Kennedy แม้แต่ฉากที่ไม่แสดงอารมณ์ก็แสดงแววตาได้อย่างยอดเยี่ยม ฉากที่เต้นรํากับสามี เรารู้เลยว่าตอนที่เธออยู่กับสามี เธอมีความสุขมากจริงๆและรักสามีมาก และตอนที่ JFK เสียชีวิต เธอก็พยายามเก็บชิ้นส่วนกะโหลกเพื่อให้ต่อชิ้นส่วนกลับไป และชุดชาแนลสีชมพูที่เปื้อนเลือด เธอก็ไม่ยอมซัก เพื่อให้โลกจดจําว่า โลกได้ทําอะไรกับสามีจองเธอเอาไว้บ้าง และพยายามจัดพิธีศพให้ยิ่งใหญ่เหมือนลินคอล์นเพื่อให้โลกจดจํา ในข้อนี้แสดงให้เห็นว่า Jackie เธอเป็คนที่รักสามีมากจริง ๆและเรารู้สึกสงสาร Jackieมากๆ ตอนที่JFKเสียชีวิต ต้องทิ้งให้ Jackieและลูกๆ ทนทุกข์ความทรมานจากการเสียสามีและพ่อไป

การแสดงของเธอน่าจับตามองมากๆในเวที Oscar เป็นตัวเต็งสาขานักแสดงนําหญิงยอดเยี่ยม แต่ก็มีคู่แข่งที่น่ากลัวอย่าง Emma Stone (จาก La La Land) และ Isabelle Huppert (จาก Elle) เธอจะสามารถคว้า Oscar ได้ไหมนั้น ไปติดตามในงานรางวัลออสการ์ในเดือนกุมภาพันธ์


-บทหนังที่ลํ้าลึก การันตีด้วยรางวัล Venice Film Festival สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

การดําเนินเรื่องของ Jackie จะดําเนินเรื่องหลังจากที่ JFK เสียชีวิตไปแล้ว หนังดําเนินเรื่องไม่เป็นไปตามเส้นตรง มีเส้นเรื่องหลัก2เส้น สลับกันไปมา เส้นเรื่องแรก คือ เส้นของการให้สัมภาษณ์ก่อนสร้างประวัติศาสตร์ให้โลกจารีก และเส้นเรื่องที่2 ก็คือ เทปของการออกรายการทีวีแนะนำทำเนียบขาวที่แจ็คกี้ไปจัดระเบียบให้ใหม่หลัง JFK ได้เป็นประธานาธิบดีแล้ว การดําเนินเรื่องแบบนี้อาจทําให้ผู้ชมงงได้ เพราะฉะนั้นตอนดูต้องคิดตามไปด้วย และหนังเรื่องนี้เป็นหนังชีวประวัติที่เน้นความสมจริงเป็นหลัก จึงเป็นหนังที่นิ่ง ไม่ได้มีฉากหวือหวา เร้าใจ ปลุกใจอะไรมากมาย ณ จุดนี้อาจทําให้ให้ผู้ชมหลับ หรือหาวนอนระหว่างเรื่องก็ได้ โดยเฉพาะกลางเรื่อง บทแสดงให้เห็นถึงความสูญเสียของภรรยาที่สูญเสียสามีไปมาพร้อมกับความทุกข์ทรมาน สิ้นหวัง ทําให้ลูกต้องกําพร้าพ่อไป
บทหนังเน้นความกดดันให้กับผู้ชม ความสมจริงเป็นหลัก ทําให้ผู้ชมรู้สึกสงสารครอบครัวเคนเนดี้ที่สูญเสียเสาหลักของครอบครัวไป และทนทุกข์ทรมานกับความสูญเสีย


-Jackie แสดงให้เห็นถึงบทบาทสําคัญของสุภาพสตรีหมายเลข1

ในหนัง Jackie แสดงให้เห็นถึงบทบาทสําคัญของสุภาพสตรีหมายเลข1 คือต้องอยู่เคียงข้างประธานาธิบดี(สามี)เสมอ ไม่ว่าประธานาธิบดีจะไปไหน และมีหน้าที่ในการดูแลทําเนียบขาว และในหนังนั้นก็ได้บอกว่า Jackie ได้ทําการบูรณะทําเนียบขาวและรักษาของเดิมที่มีอยู่มาก่อนอยู้แล้วในทําเนียบขาวเอาไว้
แสดงให้เห็นว่า สุภาพสตรีหมายเลข1 ก็มีบทบาทที่สําคัญเหมือนกันในทําเนียบขาว ไม่ใช่แค่ภรรยาของประธานาธิบดีเท่านั้นและอยู่กินกับภาษีอย่างเดียว
และตอนที่ JackieกับJFK นั่งอยู่บนรถแล้วถูกยิง ผู้คนคิดว่าเธอนั้นกลัวตาย แต่ที่จริงแล้วเธอพยายามเก็บชิ้นส่วนกระโหลกของสามีของเธอเอาไว้เพื่อต่อให้กลับเป็นเหมือนเดิม แสดงว่าเธอเป็นคนที่เข้มแข็งและรักสามีมาก


-ดนตรีประกอบที่ดีงาม และเป็นเอกลักษณ์

ดนตรีประกอบมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นดนตรีที่ฟังแล้วขนลุกอย่างบอกไม่ถูก ดนตรีทําให้เราอินไปกับหนัง มีอารมณ์ร่วมไปกับหนัง เมื่อหนังเข้าสู่โหมดดราม่า ความโศกเศร้าเสียใจของ Jackie แล้วดนตรีขึ้นมาประกอบกับการแสดงของนาตาลี คือขนลุกและสะพรึงมาก คืออะไรจะขนาดนั้น ในส่วนนี้คืออีกส่วนที่ดีงามของหนัง และดนตรีประกอบของภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้รับรางวัลมาอีกด้วยจากเวที Chicago Film Critics Association Awards

สามารถไปฟัง Ost. ของหนังเรื่องนี้ได้ที่นี่ ส่วนตัวชอบเพลง Intro สุดละ มันดูดิบดี เข้ากับหนังมาก หนังได้ มิก้า เลวี่ (หรือ มิก้าชู) นักดนตรีสาวเท่ชาวอังกฤษวัย 29 ปี มารับทำดนตรีประกอบให้กับ Jackie หลังจากที่เธอเคยทำดนตรีให้กับหนังเรื่อง Under the Skin ได้ฮือฮามาแล้ว หลังจาก และยังมีอีกหนึ่งเพลงที่โดดเด่นในหนัง คือ "Camelot" เป็นเพลงที่ JFK ชอบ เพราะอ่านหนังอาเธอร์ และอัศวินโต๊ะกลมมาตั้งแต่เด็ก เป็นเพลงที่จะขึ้นมาก็ต่อเมื่อ Jackie นึกถึงสามีของเธอ
https://m.youtube.com/watch?list=PL_AK-sKSwVrrsogb5amrlXynR9B827i7U&v=PjS5h1iRruQ


-ฉากที่สมจริง และใส่ใจในรายละเอียด

Production ของหนังเรื่องนี้สร้างได้สมจริงมาก โดยเฉพาะฉากของทําเนียบขาวซึ่งเป็นการจําลองขึ้นมาทั้งหมด ซึ่งทําได้เหมือนของจริงมากๆ และใส่ใจในรายละเอียดมาก  งานเป๊ะกระทั่งชนิดของผ้าที่นำมาทำผ้าม่านก็ต้องเหมือน และฉากการลอบสังหารที่ดัลลัส ถ่ายทำที่ฝรั่งเศส เพราะสภาพถนนใกล้เคียงของจริงกว่า และใช้เวลาถ่ายทำยาวนานกว่า 8 ชม.!! คือหนังต้องการทําให้สมจริง และใส่ใจในรายละเอียด เพื่อให้ใกล้เคียงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงมากที่สุด
และขอชมฉากที่ถ่ายทําขาว-ดํา เป็นสารคดีของ Jackie คือทําแบบสมจริงมาก เหมือนสารคดีที่ถ่ายทำในสมัยก่อนเลย เป็นการทัวร์ทำเนียบขาวในรายการ A Tour of the White House โดยพาไปชมบรรยากาศโดยรอบทั้งภายในและภายนอกของทำเนียบ ซึ่งรายการดังกล่าวได้รับความชื่นชมเป็นอย่างมาก จนถึงขั้นที่ทำให้เธอคว้ารางวัลเอมมีมาครองในปีดังกล่าว คือไม่บ่อยนัก ที่จะทําหนังเกี่ยวกับJFK ในมุมมองของ Jackie ที่ต้องสูญเสียสามีไป


-Jackie ผู้นําเทรนด์แฟชั่นชุดชาแนลสีชมพู

และอีกส่วนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ของหนังเรื่องนี้ คือ เครื่องแต่งกาย และการแต่งหน้า ทำผม คือการแต่งกาย การเมคอัพ ทําดีมาก ทําเหมือนของ Jackie ตัวจริงมากๆ แต่น้อยคนนักที่จะรู้จักเธอในมุมอื่นๆ นอกเหนือจากการสวมหมวกเฟิสต์เลดี ย้อนกลับไปเมื่อปี 1951 สมัยที่แจ็กกีเพิ่งจะอายุได้เพียง 22 ปี เธอเคยส่งบทความเข้าประกวดลงในนิตยสาร Vogue ซึ่งผู้ชนะจะได้สิทธิ์เข้าไปทำงานในกองบรรณาธิการนิตยสารที่นิวยอร์กและปารีส ที่ละ 6 เดือน ผลปรากฏว่าแจ็กกี้เป็นผู้ชนะเลิศการประกวดครั้งดังกล่าวจากนักเขียนผู้เข้าสมัครจำนวนกว่า 1,279 คน แต่ปรากฏว่าเธอกลับขอลาออกตั้งแต่วันแรกที่ได้เข้าไปทำงาน

ด้านแฟชั่น แจ็กกีก็ได้รับการยกย่องในฐานะผู้ทรงอิทธิพลต่อวงการแฟชั่นโลกยุคนั้นเป็นอย่างมาก เมื่อมีการอ้างว่าเสื้อผ้าที่เธอใส่บางชุดถูกนำไปเป็นต้นแบบ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนในอุตสาหกรรมแฟชั่นอย่างแพร่หลาย ยิ่งไปกว่านั้น ในปี 1965 เธอยังได้รับรางวัลบุคคลแต่งกายยอดเยี่ยม (International Best Dressed) อีกด้วย

และการแต่งกาย การทำผม และเมคอัพ ยังได้รับรางวัลมาด้วยจากเวที Broadcast Film Critics Association Awards


-มุมกล้อง การถ่ายภาพ สื่ออารมณ์ของหนัง

มุมกล้อง และการถ่ายภาพของหนังเรื่องนี้ เมื่อถึงซีนที่ต้องดราม่า หรือแสดงอารมณ์กล้องจะชอบซูมใปที่ใบหน้า เพื่อให้เห็นอารมณ์ของตัวละครได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทําให้เรารู้สึกตามตัวละครไปได้มากยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นข้อดีของหนังเรื่องนี้ มีอยู่ฉากนึงที่ Jackie ร้องไห้หลังจาก JFK โดนยิง ที่หน้ากระจกแล้วซูมเข้าไปที่ไปหน้าของนาตาลี คือทําเอาเกือบร้องไห้ตามเลยอ่ะ คือน่าสงสารมาก และส่วนเรื่องการถ่ายภาพ หนังเรื่องนี้เวลาถ่าย จะถ่ายออกมานิ่งๆ แช่กล้องไว้ ไม่มีการสั่นกล้อง (Shaking Cam) ในส่วนนี้อาจทําให้ผู้ชมเบื่อได้


ข้อคิดจากหนัง

การสูญเสียคนที่เรารักนั้น มันยากที่จะลืม แต่จะเลือกทนทุกข์ทรมานไปกับความสูญเสีย หรือ เลือกที่จะเลิกใส่ใจกับมันแล้วก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างมีความสุขอยู่ที่คุณเลือกเองแล้วล่ะ ว่าคุณจะเลือกทางไหน

สรุป

Jackie เป็นการแสดงของ Natalie Portman มาสเตอร์พีซอีกเรื่องนึง หลังจากเรื่อง Black Swan เป็นหนังที่ให้ระลึกเกี่ยวกับเสียชีวิตของ JFK อีกครั้ง และหนังถ่ายทอดการสูญเสียคนรักของสุภาพสตรีหมายเลข1 ออกมาได้เป็นอย่างดี เป็นหนังที่ไม่ได้เหมาะสําหรับทุกคน คนที่เป็นคอหนัง หรือติดตามเกี่ยวหรืออยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับ JFK น่าจะชอบกัน หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่ได้มีแค่การแสดงของ Natalie Portman ที่แบกหนังทั้งเรื่องไว้อย่างเดียว แต่มีดีทั้งการแต่งกาย การทำผม และบทที่ดี และล้ำลึก อีกด้วย

ผมจะให้คะแนนหนังเรื่องนี้ 8/10


ขอขอบคุณคนที่อ่านกันมาจนจบบรรทัดสุดท้ายนะครับ~~