"เนื้อหาในนี้ตามชื่อกระทู้เลยครับ อันเนื่องจากผมได้ยินมาว่าเมืองไทยจะมีหนังผีฟาวด์ฟุตเทจของตัวเองเป็นเรื่องแรกแล้ว ก็เป็นอีกก้าวที่น่าติดตามว่าจะทำออกมาเป็นยังไง ตัวผมเองเป็นคนหนึ่งที่หลงเสน่ห์ฟาวด์ฟุตเทจ ก็เลยจะมาเล่ามุมมองของตัวเองที่มีต่อหนังสไตล์นี้ให้ได้อ่านกันครับ
- อธิบายฟาวด์ฟุตเทจ (Found Footage) แบบง่ายๆ
ลองจินตนาการว่าเราไปเจอกล้องวีดีโอสักตัวหล่นอยู่กลางป่า แล้วพอลองเอามาเปิดดูก็พบว่า ""เ-ี้ยย แ-่งเด็ด-ัส"" แล้วก็เลยเอามาตัด ยำๆๆ กันให้เป็นเรื่องเป็นราว นั่นละครับ ฟาวด์ฟุตเทจ สไตล์เลยจะออกมาเป็นอะไรที่ใกล้เคียงกับ documentary มากๆ แต่ก็เป็นอีกรูปแบบโดยสิ้นเชิง นิยมใช้ในการนำเสนอหนังผี ระทึกขวัญ หรือหนังสั่นประสาท
Paranormal Activity 1 :
ว่ากันว่าภาค 1 เด็ดสุดในบรรดาทุกภาคของแฟรนไชส์สยองขวัญเรื่องนี้ ด้วยความสดใหม่ และสร้างกระแสถกเถียงได้อย่างกว้างขวางว่าเป็นเรื่อง ""จริง"" หรือไม่
- ก้าวข้ามคำว่าสมจริง จนรู้สึก ""ระทึก""
ด้วยความเป็นฟาวด์ฟุตเทจ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าสิ่งที่กำลังได้ดูอยู่มัน ""จริง"" มากๆ จนรู้สึกว่าได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสถานการณ์นั้น เมื่อเราดูหนังสไตล์นี้ เราจะอยู่ในความรู้สึก ""สงสัย"" ตลอดเวลา อารมณ์แบบ ""เห๊ย.. สรุปมันจริงใช่มั้ยวะเนี่ย"" และการไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในฉากต่อไปนั้น มันโคตรจะกระตุ้นต่อมตื่นเต้นเลย
Flower of Flesh and Blood (ชื่อไทย : ดอกไม้โลหิต) ตอนที่ 2 จาก Guinea Pig Series มีทั้งหมด 7 ตอนตามปีศาจทั้ง 7 แต่ละตอนนำเสนอการฆ่าที่แตกต่างกันออกไป แต่ตอนนี้สมจริงจนโดนแจ้งความจับ :
- ทิ้งความรู้สึกไว้ในใจคนได้มากกว่า
เรียกได้ว่าเป็นการฝังเมล็ดพันธุ์ความคิดแบบหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อเราเริ่มแยกไม่ออกว่าอะไรคือเรื่องจริง หรือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น อารมณ์ความรู้สึกที่ได้จากการดูภาพยนตร์แบบนั้นก็จะเข้าไปฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกเราได้มากกว่า
Cannibal Holocaust (ชื่อไทย : เปรตเดินดิน กินเนื้อคน) :
ผมได้ดูตอนเด็กๆ และเคยเชื่อว่ามันคือเรื่องจริง ในช่วงเวลานั้นถือว่าสยองมากครับ ติดใจสงสัยมาตลอดว่าทำไมอีกคนถ่ายมันไม่ตายวะ 555555 ปัจจุบันเรื่องนี้ขึ้นแท่นคลาสสิคไปแล้ว
- ได้เสพเนื้อหา เพราะนักแสดงมักไม่ใช่ดาราดัง
ถ้าใช้ดาราดังก็รู้หมดสิว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง 5555 ถูกต้องแล้วล่ะครับ และด้วยเหตุผลที่ว่า นักแสดงเป็นใครก็ไม่รู้ เป็นคนที่เราไม่รู้จัก ทำให้เรารู้สึกว่า เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับพวกเขาจริงๆ สรุปก็คือ เสพเนื้อหาแบบโคตรอิน ไม่ต้องมานั่งมองว่าดาราคนนี้เล่นดีมั้ย มันหล่อเท่าเรื่องที่แล้วรึเปล่า ฯลฯ
The Last Exorcism (ชื่อไทย : นรกเฮี้ยน) :
เรื่องนี้รับประกันความกระอักกระอ่วนชวนขย้อน ไม่ใช่เพราะมันมีฉากชวนแหวะแต่อย่างใด แต่อารมณ์ที่เกิดขึ้นจากการรับรู้เรื่องราวทั้งหมดมันทำให้ผมก้าวข้ามคำว่ากลัวไปเลย ผมผะอืดผะอมแทน
ได้อ่านอย่างนี้แล้ว ใครที่อยากเสพ Found Footage เรื่องอื่นๆ ที่ท่านอื่นๆ จัดอันดับเอาไว้ ลองส่องกระทู้เหล่านี้ดูครับ
1.
http://topicstock.ppantip.com/chalermthai/topicstock/2011/02/A10256869/A10256869.html
2.
http://movie.kapook.com/view157220.html
3.
**เพิ่มเติมข้อมูลเรื่องหนังผีฟาวด์ฟุตเทจของไทยเรื่องแรกที่มี comment ถามมา เรื่องมือปราบสัมภเวสีครับ ใครจะไปดูก็เจอกันหน้าโรงได้ 5555"
เมื่อหนังถูกเล่าผ่าน Found footage เท่กว่า..ยังไง?
- อธิบายฟาวด์ฟุตเทจ (Found Footage) แบบง่ายๆ
ลองจินตนาการว่าเราไปเจอกล้องวีดีโอสักตัวหล่นอยู่กลางป่า แล้วพอลองเอามาเปิดดูก็พบว่า ""เ-ี้ยย แ-่งเด็ด-ัส"" แล้วก็เลยเอามาตัด ยำๆๆ กันให้เป็นเรื่องเป็นราว นั่นละครับ ฟาวด์ฟุตเทจ สไตล์เลยจะออกมาเป็นอะไรที่ใกล้เคียงกับ documentary มากๆ แต่ก็เป็นอีกรูปแบบโดยสิ้นเชิง นิยมใช้ในการนำเสนอหนังผี ระทึกขวัญ หรือหนังสั่นประสาท
Paranormal Activity 1 :ว่ากันว่าภาค 1 เด็ดสุดในบรรดาทุกภาคของแฟรนไชส์สยองขวัญเรื่องนี้ ด้วยความสดใหม่ และสร้างกระแสถกเถียงได้อย่างกว้างขวางว่าเป็นเรื่อง ""จริง"" หรือไม่
- ก้าวข้ามคำว่าสมจริง จนรู้สึก ""ระทึก""
ด้วยความเป็นฟาวด์ฟุตเทจ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าสิ่งที่กำลังได้ดูอยู่มัน ""จริง"" มากๆ จนรู้สึกว่าได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสถานการณ์นั้น เมื่อเราดูหนังสไตล์นี้ เราจะอยู่ในความรู้สึก ""สงสัย"" ตลอดเวลา อารมณ์แบบ ""เห๊ย.. สรุปมันจริงใช่มั้ยวะเนี่ย"" และการไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในฉากต่อไปนั้น มันโคตรจะกระตุ้นต่อมตื่นเต้นเลย
Flower of Flesh and Blood (ชื่อไทย : ดอกไม้โลหิต) ตอนที่ 2 จาก Guinea Pig Series มีทั้งหมด 7 ตอนตามปีศาจทั้ง 7 แต่ละตอนนำเสนอการฆ่าที่แตกต่างกันออกไป แต่ตอนนี้สมจริงจนโดนแจ้งความจับ :
- ทิ้งความรู้สึกไว้ในใจคนได้มากกว่า
เรียกได้ว่าเป็นการฝังเมล็ดพันธุ์ความคิดแบบหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อเราเริ่มแยกไม่ออกว่าอะไรคือเรื่องจริง หรือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น อารมณ์ความรู้สึกที่ได้จากการดูภาพยนตร์แบบนั้นก็จะเข้าไปฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกเราได้มากกว่า
Cannibal Holocaust (ชื่อไทย : เปรตเดินดิน กินเนื้อคน) :ผมได้ดูตอนเด็กๆ และเคยเชื่อว่ามันคือเรื่องจริง ในช่วงเวลานั้นถือว่าสยองมากครับ ติดใจสงสัยมาตลอดว่าทำไมอีกคนถ่ายมันไม่ตายวะ 555555 ปัจจุบันเรื่องนี้ขึ้นแท่นคลาสสิคไปแล้ว
- ได้เสพเนื้อหา เพราะนักแสดงมักไม่ใช่ดาราดัง
ถ้าใช้ดาราดังก็รู้หมดสิว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง 5555 ถูกต้องแล้วล่ะครับ และด้วยเหตุผลที่ว่า นักแสดงเป็นใครก็ไม่รู้ เป็นคนที่เราไม่รู้จัก ทำให้เรารู้สึกว่า เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับพวกเขาจริงๆ สรุปก็คือ เสพเนื้อหาแบบโคตรอิน ไม่ต้องมานั่งมองว่าดาราคนนี้เล่นดีมั้ย มันหล่อเท่าเรื่องที่แล้วรึเปล่า ฯลฯ
The Last Exorcism (ชื่อไทย : นรกเฮี้ยน) : เรื่องนี้รับประกันความกระอักกระอ่วนชวนขย้อน ไม่ใช่เพราะมันมีฉากชวนแหวะแต่อย่างใด แต่อารมณ์ที่เกิดขึ้นจากการรับรู้เรื่องราวทั้งหมดมันทำให้ผมก้าวข้ามคำว่ากลัวไปเลย ผมผะอืดผะอมแทน
ได้อ่านอย่างนี้แล้ว ใครที่อยากเสพ Found Footage เรื่องอื่นๆ ที่ท่านอื่นๆ จัดอันดับเอาไว้ ลองส่องกระทู้เหล่านี้ดูครับ
1. http://topicstock.ppantip.com/chalermthai/topicstock/2011/02/A10256869/A10256869.html
2. http://movie.kapook.com/view157220.html
3.
**เพิ่มเติมข้อมูลเรื่องหนังผีฟาวด์ฟุตเทจของไทยเรื่องแรกที่มี comment ถามมา เรื่องมือปราบสัมภเวสีครับ ใครจะไปดูก็เจอกันหน้าโรงได้ 5555"