ห่างหายกันไปนานสำหรับการ review ที่จัดหนักและจัดเต็ม โดยครั้งแรกได้ทำการรีวิวครีมกันแดดทั้งมวลที่มีอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง สามารถเข้าไปอ่านได้ที่
https://ppantip.com/topic/30936748
กลับมาวันนี้จะเป็นการรีวิว skincare & bodycare และจะมีเครื่องสำอางปะปนอยู่เล็กน้อย ที่มีอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งทั้งหมด ณ เวลาปัจจุบัน (ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะมีเครื่องสำอางไปทำไมเยอะๆ เพราะก็มีอยู่หน้าเดียวแต่คงเป็นเพราะความชอบส่วนตัวกระมังเลยทำให้จากแต่ก่อนที่มีแค่ 6-7 อย่างบนโต๊ะตอนนี้แตกลูกแตกหลานจนเกือบ 70ชิ้นไปแล้ว)
ปล. การรีวิวกระทู้นี้ จะไม่เรียงลำดับว่าต้องเริ่มจาก cleansing > toner > pre-serum แต่จะเป็นการเรียงลำดับโดยเกณฑ์ที่ สุ่มได้รูปไหนก็จะรีวิวเป็นรายๆ ไป
ปล2. เกณฑ์การให้คะแนนให้จากความรู้สึกล้วนๆและผลลัพธ์ที่เกิดกับตัวจขทก. ล้วนๆ เท่านั้น ไม่มีเรื่องของราคามาเป็นเกณฑ์ใดๆ ทั้งสิ้น
เอาละ! พร้อมแล้วก็มาเริ่มกันเลย
ชิ้นที่ 1
Bioderma Sensibio H2O
เป็น Micellar water ที่ใช้มานานแสนนาน และเป็น Micellar water ตัวเดียว (ณ ตอนนี้) ที่หมดแล้วใช้ซ้ำและไม่นอกใจไปหาตัวอื่นๆ
ความรู้สึก: เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางทั้งที่แบบกันน้ำและไม่กันน้ำได้อย่างหมดจด สามารถเช็ดบริเวณผิวตาได้ด้วยไม่แสบแต่อย่างใด รสชาติขมมากๆ เพราะเคยจิบ (คงไม่ตายเนอะ) เราจะใช้ตัวนี้แตกต่างจากคนอื่นเล็กน้อย คือเราจะใช้ oil นวดก่อนแล้วต่อด้วยใช้ gel ล้าง และใช้ตัวนี้เป็นตัว toner เพราะเรากลัวเปลือง ฮ่าๆ เราชอบสีแดงเพราะมันอ่อนโยนต่อผิวหน้า แต่ก็มีสูตรสีฟ้า (ซึ่งก็เคยใช้เหมือนกัน) โดยคำกล่าวอ้างบอกไว้ว่าสำหรับคนผิวมันและเป็นสิวอาจจะเป็นเพราะมีส่วนผสมของ zinc แต่พอเช็ดโดนตาแล้วแสบ ความเห็นส่วนตัวเราแล้วมันก็ไม่ได้ช่วยรักษาสิวอะไรมากหรอกนะ
คะแนน: 10/10
ชิ้นที่ 2
SK-II Facial Treatment Clear Lotion
เป็น Toner ที่ราคาเจ็บแสบขวดนึง มี Pitera แถมมาให้กระจึ๋งนึงซึ่งคาดหวังผลอะไรไม่ได้ เคยขุดค้นกระทู้เก่าๆ เจอว่าถ้าใช้ toner ควบคู่ไปกับตัว essence จะทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีกว่า (เดาว่าเพราะ toner ผสม AHA ทำให้ความเป็นกรดด่างที่ใบหน้าพร้อมรับการบำรุงจากตัว essence?) หมดแล้วก็จะไม่ซื้อ อันนี้เป็น morning toner ของเราเพราะไม่อยากใช้เป็น toner ตอนกลางคืนให้เปลือง (เพราะใช้ Bioderma ไปแล้ว) อ้อ เรื่องกลิ่นตัวนี้อาจจะมีกลิ่นตุๆ ของ Pitera แต่ไม่ได้เหม็นมากๆ ขนาดตัว essence
คะแนน: 7/10 เพราะหาโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมเริ่มกว่านี้ได้ ส่วนผสมก็งั้นๆ
ชิ้นที่ 3
SK-II Facial Treatment Essence
ก่อนอื่นเลย, ขวด limited edition ทำออกมาได้สวยเกือบทุกครั้ง! นี่เป็นผลิตภัณฑ์ของ SK-II ที่มีความเข้มข้นของ Pitera มากเป็นอันดับต้นๆ เลย (ส่วนอันที่มากสุดอาจจะเป็นไลน์ LXP มั้ง) กลิ่นเหม็น ซึ่งแน่อยู่แล้วเพราะผลิตภัณฑ์ได้มาจากการหมักบ่มของยีสต์สายพันธุ์หนึ่งในล้าน เราเคยใช้ตัวนี้ครั้งแรกตอน 15 แล้วก็ไม่เห็นความแตกต่างอย่างใด 6 ปีต่อมา กลับมาลองใช้อีกรอบคราวนี้เริ่มเห็นความแตกต่าง (ซึ่งไม่รู้มโนไปเองหรือเปล่า) ว่าผิวกระจ่างใสขึ้น แต่รูขุมขนก็ใหญ่เท่าเดิมไม่มีทีท่าว่าจะเล็กลงด้วย ส่วนวิธีใช้พนักงานบอกว่าจะให้ดีที่สุดคือเทใส่สำลีแล้วเช็ดให้ทั่วใบหน้า เพราะการใช้สำลีทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์เข้าสู่ทุกอณูหย่อมของรูขุมขน แต่การใช้สำลีจะเกิดการแปลผกผันกับความคุ้มค่า ผลลัพธ์คือ 'เปลือง' เราใช้ก็เหยาะใส่ฝ่ามือวอร์มนิดหน่อยแล้วประคบหน้า อ้อ แต่เราเหยาะ 3-4 รอบ ประคบ 2ครั้ง แบบนี้ไม่รู้ว่าจะเปลืองกว่าใช้สำลีหรือเปล่านะ
คะแนน: 8/10 คงหาน้ำตบยีสต์ที่ชอบมาแทนไม่ได้ แต่ที่ไม่ได้เต็มเพราะบางครั้งเกิดหน้าแห้งแล้วตบตัวนี้ จะทำให้หน้าแห้งกว่าเดิม
ชิ้นที่ 4
Ipsa the Time Reset Aqua
โทนเนอร์ที่เพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้าได้อย่างเต็มที่ (เต็มที่ก็ไม่รู้วัดจากอะไร มโนเอาเพราะหนังใช้แล้วผิวหน้านุ่มๆ) แต่กลับไม่เหนอะหนะแม้แต่น้อย อ้อ เราไม่แน่ใจว่าตัวนี้คือ toner หรือ lotion จะเป็นแบบแรกก็ไม่ใช่เพราะเช็ดแล้วก็ไม่ได้รู้สึกสะอาดอะไร อาจจะเป็นแบบหลังสะมากกว่า ส่วนตัวแล้วชอบตัวนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมชอบแต่ขาดไม่ได้ หาเหตุผลไม่เจอนอกจากหลังเช็ดหน้าแล้ว ผิดที่แห้งกร้านหลังจากอาบน้ำจะกลับมาชุ่มชื่น(แต่ไม่มันเยิ้ม)เหมือนผิวได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่
คะแนน: 9/10 หักไว้อีก 1 คะแนนเผื่อเจอยี่ห้ออื่นที่มีลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์และให้ผลใกล้เคียงกัน
ชิ้นที่ 5
Biotherm Life Plankton Essence
ไม่ขอตามกระแส ที่ว่าใช้แล้วดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ เพราะใช้แล้วก็รู้สึกปกติมิหนำซ้ำยังทำให้หน้ามันและเหนอะหนะด้วย เข้าใจว่ามีสารบางอย่างไปเคลือบหน้าซึ่งไม่ชอบเลย มันไม่สบายหน้า(และใจ) ไม่ช่วยให้สิวยุบแต่อย่างใดถึงแม้จะมโนว่ามันเล็กลงอักเสบน้อยลงก็ไม่จริงเลย เพราะส่องกระจกทีไรก็ปูดเอาๆ ทุกวัน ซึ่งผลลัพธ์มันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนเนอะ บางคนอาจจะใช้ดีอันนี้ก็ดีไป อ้อเห็นว่าตอนนี้มีผลิตภัณฑ์เดียวกันในหมวดของผู้ชาย ซึ่งให้ความรู้สึกที่บางเบากว่า แอบอยากลองแต่น้ำตบที่มีอยู่ตอนนี้ก็ตบไม่ทันอยู่แล้ว กว่าจะตบเสร็จแต่ละรอบเหมือนนางเอกโดนนางร้ายตอบประมาณร้อยรอบประมาณยอมให้ตบแต่โดยดี ปัจจุบันน้ำตบตัวนี้เราจะเอามาผสมกับโลชั่นทาตัว เพราะคิดว่าอย่างน้อยอาจจะทำให้ผิวละเอียดเหมือนหน้าได้มั่ง อ้อกลิ่นของเจ้าตัวนี้เหมือนกับกลิ่นเค็มของทะเลผสมกับกลิ่นกะปิ
คะแนน: 5/10 เหนอะหนะหน้าทำให้ไม่สบายหน้า(และใจ)
ชิ้นที่ 6
SK-II Cellumination Mask - In Lotion
เป็นน้ำตบของ SK-II ที่มีคำโปรยที่ยั่วยวนให้ซื้อเหลือเกินว่าเหมือนกับการ mask หน้าเลย ลักษณะผลิตภัณฑ์ก็เป็นน้ำขาวๆ ขุ่นๆ กลิ่นหอมดีนะ (แปลกอ่ะ) ก็ชุ่มชื่นดี ซึมแล้ว โดยรวมถือว่าชอบ เพราะใช้แล้วหน้าดูเอิบอิ่มแต่ไม่บวม แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่ได้เป็นน้ำตบลูกรักอยู่ดี
คะแนน: 9/10 โดยรวมถือว่าดีมาก หักไว้ 1 คะแนนเพราะไม่ใช่ลูกรัก อิอิ
ชิ้นที่ 7
Clinique Even Better Essence Lotion สูตร (1,2)
น้ำตบจากฝั่งตะวันตกที่มีดีสุดๆ ทั้งในเรื่องของส่วนผสมและ feelingหลังใช้ เพราะซึมเข้ากับผิวเร็วมากไม่เหนอะหนะ แอบเสียดายสำหรับคนตะวันตก (ไม่น่าจะมีขายในแถวยุโรปและอเมริกา)เพราะชิ้นนี้น่าจะทำเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าฝั่งเอเชีย(ผู้ชื่นชอบการตบผิวให้ตื่นก่อนบำรุงด้วยเซรั่ม) นี่คือน้ำตบลูกรักชอบมาก หมดแล้วซื้อซ้ำ ซื้อซ้ำแล้วใช้จนหมด -วนลูป- ผลิตภัณฑ์นี้มีสองสูตรเราชอบสูตรสำหรับผิวแห้งมากกว่าผิวมัน(ซึ่งมีเนื้อผลิตภัณฑ์แบบน้ำเหลวๆ)เพราะมันให้ความชุ่มชื้นดีมาก และที่สำคัญคือไม่หลงเหลือความมันและเหนียวบนใบหน้า
คะแนน: 10/10
ชิ้นที่ 8
Sulwhasoo First Care Activating Serum EX
เป็น Pre-serum ที่ซึมง่าย ซึมเร็ว มีกลิ่นหอมสมุนไพรใช้แล้วดีต่อจิตใจและใบหน้า ปกติเวลาขี้เกียจบำรุงผิวจะทาตัวนี้แล้วนอน ขวดนี้เป็น limited edition ลายขวดก็สวยดีนะ อ้อส่วนผสมค่อนข้างจัดเต็มออกมาในรูปแบบสมุนไพรแห่งเอเชีย
คะแนน: 10/10 Pre-serum ลูกรัก
ชิ้นที่ 9
Lancome Advanced Genefique
Pre-serum ขายดีของ Lancome ความรู้สึกที่ใช้คือซึมเร็วและจะทำให้เซรั่มที่มาหลังจากตัวนี้ซึมเร็วขึ้น (อันนี้ไม่ได้มโนเพราะทดลองมาแล้ว) ขวดนี้เป็นขวด 100ml ได้มาจากดิวตี้ฟรีที่เจนีวา จำได้ว่าลดราคาแบบหฤโหดมาก กล่าวคือขวดนี้ได้มาในราคาของขวด 30ml ที่ขายทั่วไป ยังงงอยู่ว่านี่ของปลอมหรือปล่าทำไมมันลดเยอะจัง แต่ก็ไม่กล้าซื้อมาเยอะเพราะไม่เคยใช้ พอได้ลองใช้ก็รู้สึกดีใจที่ไม่หน้ามืดตามัวสอยมามากกว่านี้ เพราะเวลาหยิบใช้ pre-serum ทีไร มือกลับไปหยิบโดนของ Sulwhasoo ตลอดไม่รู้ทำไมเหมือนกัน (อิอิ) อาจจะเพราะไม่หอมเหมือน Sulwhasoo
คะแนน: 8/10 ให้เยอะเพราะให้ความรู้สึกว่า serum ที่ลงต่อจากตัวนี้จะซึมเร็วและจะให้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น (ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นไม่รู้จริงหรือเปล่านะแต่ซึมเร็วนี่เรื่องจริง)
ชิ้นที่ 10
Paula's Choice 2% BHA Liquid
ยาสามัญประจำบ้าน เอาไว้รักษาสิวอุดตัน แล้วก็สิวหัวดำแถวๆ จมูก (เอาจริงๆ นี่ก็ใช้มาสักพักแล้วแต่สิวหัวดำก็ยังไม่ไปไหน อาจจะมีน้อยลง) อ้ออีกอย่างถ้าใช้ตัวนี้เป็นประจำรู้สึกว่าหน้านิ่มขึ้น เรียบเนียนขึ้น
คะแนน: 9/10 หักไป 1 เพราะบางครั้งหลังจากไม่ได้ใช้นานๆ แล้วกลับมาใช้จะรู้สึกคันยิบๆ (ก็เป็น acid นี่เนอะ แต่ก็ยังจะหักอยู่ดีเพราะทำให้คัน เมื่อคันแล้วก็อยากเกา แต่เกาไม่ได้ = ทรมาน)
ชิ้นที่ 11
SK-II Genoptics Aura Essence
นิยามของคำว่าขาวปลอมคือขวดนี้ เพราะเมื่อทาลงบนหน้าจะทำให้หน้าดูสดใส กระจ่างใสแต่ล้างออกก็เหมือนเดิม ใช้มาจนจะหมดขวดใหญ่แล้วก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น แถมยังทำให้สิวขึ้นหน้าอีกไม่รู้แพ้ส่วนผสมอะไรในตัวนี้ ตอนนี้ก็ยืนเป็นหินโมอายอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งไปแล้ว แต่เร็วๆนี้คงเอามาใช้ให้หมดๆ ไปสักที
คะแนน: 6/10 พูดไม่ออก รู้แค่ว่าใช้แล้วสิวขึ้น
ชิ้นที่ 12
Estee Lauder Advanced Night Repair Synchronized Recovery Complex II
serum ลูกรัก ใช้มาตั้งแต่อายุ 18 และจะใช้อีกต่อไป เพราะใช้แล้วหน้าดูฟู อิ่ม แบบดูดีอ่ะไม่รู้จะอธิบายยังไง คนอื่นผลลัพธ์เป็นยังไงไม่รู้นะ แต่สำหรับเราคือมันดีมาก อ้อ ถึงจะบอกว่าเป็น night repair แต่เราใช้เช้าเย็นอ่ะชอบมาก ใช้แล้วรู้สึกดี รู้สึกว่าผิว repair ทั้งตอนเช้าและตอนเย็น
คะแนน: 10/10
ชิ้นที่ 13
Kiehl's Hydro - Plumping Re - Texturizing Serum Concentrate
นี่ก็เป็น serum ลูกรักอีกตัวหนึ่งเพราะทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ แบบสุดๆ ฟีลลิ่งหลังทาตัวนี้ก็ดีสุดๆ เหมือนผิวหน้าได้รับการเติมน้ำแบบไม่สิ้นสุด เติมเรื่อยๆ เด้งดึ๋งๆ ตั้งแต่เช้ายันเย็น ชอบ!
คะแนน: 10/10
ชิ้นที่ 14
Ipsa อะไรไม่รู้ ทำกล่องหายแล้ว ถ้าหาเจอเดี๋ยวจะมาเขียน ใครรู้วานช่วยตอบหน่อย อารมเหมือนเป็น essence สำหรับวัยรุ่นที่ต้องการต่อต้านการเกิดริ้วรอย เนื้อผลิตภัณฑ์เหลวๆ ใสๆ แต่พอทาแล้วหนึงหนับหน้ามากๆ
คะแนน: 7/10 หนึบหนับหน้าไป แต่เรื่องความชุ่มชื้นนี่ต้องยอมรับเลยจริงๆ ว่าทำได้ดีกมากๆ
ชิ้นที่ 15
The Ordinary Matrixyl 10% + HA
แบรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในยุโรปและอเมริกา อันนี้เป็น sub-brand ภายใต้บริษัทที่ชื่อว่า Deciem / The Abnormal Beauty Company อื้อหือ! สวยแบบไม่ธรรมดา ก็เลยสอยมาลองใช้เล่นๆ (ปล.หลอกเพื่อนให้มาซื้อด้วยกันเพราะจะได้ส่งฟรี อิอิ) โดยรวมแล้วดีมากเลยซึมเร็ว ไม่หนึบหนับหน้า แถม active ingredients ที่ใส่มาก็ใส่มาแบบไม่ยั้ง
คะแนน: 9/10 ต้องสั่งจากเว็บเท่านั้น โดยรวมถือว่าดี
ขอพักไว้ที่ ชิ้นที่ 15 ก่อน แล้วเดี๋ยวมาต่อที่เหลือนะจ๊ะ
[CR] คลังแสงskin และ body care กว่า 60s ชิ้น
https://ppantip.com/topic/30936748
กลับมาวันนี้จะเป็นการรีวิว skincare & bodycare และจะมีเครื่องสำอางปะปนอยู่เล็กน้อย ที่มีอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งทั้งหมด ณ เวลาปัจจุบัน (ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะมีเครื่องสำอางไปทำไมเยอะๆ เพราะก็มีอยู่หน้าเดียวแต่คงเป็นเพราะความชอบส่วนตัวกระมังเลยทำให้จากแต่ก่อนที่มีแค่ 6-7 อย่างบนโต๊ะตอนนี้แตกลูกแตกหลานจนเกือบ 70ชิ้นไปแล้ว)
ปล. การรีวิวกระทู้นี้ จะไม่เรียงลำดับว่าต้องเริ่มจาก cleansing > toner > pre-serum แต่จะเป็นการเรียงลำดับโดยเกณฑ์ที่ สุ่มได้รูปไหนก็จะรีวิวเป็นรายๆ ไป
ปล2. เกณฑ์การให้คะแนนให้จากความรู้สึกล้วนๆและผลลัพธ์ที่เกิดกับตัวจขทก. ล้วนๆ เท่านั้น ไม่มีเรื่องของราคามาเป็นเกณฑ์ใดๆ ทั้งสิ้น
เอาละ! พร้อมแล้วก็มาเริ่มกันเลย
ชิ้นที่ 1
Bioderma Sensibio H2O
เป็น Micellar water ที่ใช้มานานแสนนาน และเป็น Micellar water ตัวเดียว (ณ ตอนนี้) ที่หมดแล้วใช้ซ้ำและไม่นอกใจไปหาตัวอื่นๆ
ความรู้สึก: เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางทั้งที่แบบกันน้ำและไม่กันน้ำได้อย่างหมดจด สามารถเช็ดบริเวณผิวตาได้ด้วยไม่แสบแต่อย่างใด รสชาติขมมากๆ เพราะเคยจิบ (คงไม่ตายเนอะ) เราจะใช้ตัวนี้แตกต่างจากคนอื่นเล็กน้อย คือเราจะใช้ oil นวดก่อนแล้วต่อด้วยใช้ gel ล้าง และใช้ตัวนี้เป็นตัว toner เพราะเรากลัวเปลือง ฮ่าๆ เราชอบสีแดงเพราะมันอ่อนโยนต่อผิวหน้า แต่ก็มีสูตรสีฟ้า (ซึ่งก็เคยใช้เหมือนกัน) โดยคำกล่าวอ้างบอกไว้ว่าสำหรับคนผิวมันและเป็นสิวอาจจะเป็นเพราะมีส่วนผสมของ zinc แต่พอเช็ดโดนตาแล้วแสบ ความเห็นส่วนตัวเราแล้วมันก็ไม่ได้ช่วยรักษาสิวอะไรมากหรอกนะ
คะแนน: 10/10
ชิ้นที่ 2
SK-II Facial Treatment Clear Lotion
เป็น Toner ที่ราคาเจ็บแสบขวดนึง มี Pitera แถมมาให้กระจึ๋งนึงซึ่งคาดหวังผลอะไรไม่ได้ เคยขุดค้นกระทู้เก่าๆ เจอว่าถ้าใช้ toner ควบคู่ไปกับตัว essence จะทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีกว่า (เดาว่าเพราะ toner ผสม AHA ทำให้ความเป็นกรดด่างที่ใบหน้าพร้อมรับการบำรุงจากตัว essence?) หมดแล้วก็จะไม่ซื้อ อันนี้เป็น morning toner ของเราเพราะไม่อยากใช้เป็น toner ตอนกลางคืนให้เปลือง (เพราะใช้ Bioderma ไปแล้ว) อ้อ เรื่องกลิ่นตัวนี้อาจจะมีกลิ่นตุๆ ของ Pitera แต่ไม่ได้เหม็นมากๆ ขนาดตัว essence
คะแนน: 7/10 เพราะหาโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมเริ่มกว่านี้ได้ ส่วนผสมก็งั้นๆ
ชิ้นที่ 3
SK-II Facial Treatment Essence
ก่อนอื่นเลย, ขวด limited edition ทำออกมาได้สวยเกือบทุกครั้ง! นี่เป็นผลิตภัณฑ์ของ SK-II ที่มีความเข้มข้นของ Pitera มากเป็นอันดับต้นๆ เลย (ส่วนอันที่มากสุดอาจจะเป็นไลน์ LXP มั้ง) กลิ่นเหม็น ซึ่งแน่อยู่แล้วเพราะผลิตภัณฑ์ได้มาจากการหมักบ่มของยีสต์สายพันธุ์หนึ่งในล้าน เราเคยใช้ตัวนี้ครั้งแรกตอน 15 แล้วก็ไม่เห็นความแตกต่างอย่างใด 6 ปีต่อมา กลับมาลองใช้อีกรอบคราวนี้เริ่มเห็นความแตกต่าง (ซึ่งไม่รู้มโนไปเองหรือเปล่า) ว่าผิวกระจ่างใสขึ้น แต่รูขุมขนก็ใหญ่เท่าเดิมไม่มีทีท่าว่าจะเล็กลงด้วย ส่วนวิธีใช้พนักงานบอกว่าจะให้ดีที่สุดคือเทใส่สำลีแล้วเช็ดให้ทั่วใบหน้า เพราะการใช้สำลีทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์เข้าสู่ทุกอณูหย่อมของรูขุมขน แต่การใช้สำลีจะเกิดการแปลผกผันกับความคุ้มค่า ผลลัพธ์คือ 'เปลือง' เราใช้ก็เหยาะใส่ฝ่ามือวอร์มนิดหน่อยแล้วประคบหน้า อ้อ แต่เราเหยาะ 3-4 รอบ ประคบ 2ครั้ง แบบนี้ไม่รู้ว่าจะเปลืองกว่าใช้สำลีหรือเปล่านะ
คะแนน: 8/10 คงหาน้ำตบยีสต์ที่ชอบมาแทนไม่ได้ แต่ที่ไม่ได้เต็มเพราะบางครั้งเกิดหน้าแห้งแล้วตบตัวนี้ จะทำให้หน้าแห้งกว่าเดิม
ชิ้นที่ 4
Ipsa the Time Reset Aqua
โทนเนอร์ที่เพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้าได้อย่างเต็มที่ (เต็มที่ก็ไม่รู้วัดจากอะไร มโนเอาเพราะหนังใช้แล้วผิวหน้านุ่มๆ) แต่กลับไม่เหนอะหนะแม้แต่น้อย อ้อ เราไม่แน่ใจว่าตัวนี้คือ toner หรือ lotion จะเป็นแบบแรกก็ไม่ใช่เพราะเช็ดแล้วก็ไม่ได้รู้สึกสะอาดอะไร อาจจะเป็นแบบหลังสะมากกว่า ส่วนตัวแล้วชอบตัวนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมชอบแต่ขาดไม่ได้ หาเหตุผลไม่เจอนอกจากหลังเช็ดหน้าแล้ว ผิดที่แห้งกร้านหลังจากอาบน้ำจะกลับมาชุ่มชื่น(แต่ไม่มันเยิ้ม)เหมือนผิวได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่
คะแนน: 9/10 หักไว้อีก 1 คะแนนเผื่อเจอยี่ห้ออื่นที่มีลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์และให้ผลใกล้เคียงกัน
ชิ้นที่ 5
Biotherm Life Plankton Essence
ไม่ขอตามกระแส ที่ว่าใช้แล้วดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ เพราะใช้แล้วก็รู้สึกปกติมิหนำซ้ำยังทำให้หน้ามันและเหนอะหนะด้วย เข้าใจว่ามีสารบางอย่างไปเคลือบหน้าซึ่งไม่ชอบเลย มันไม่สบายหน้า(และใจ) ไม่ช่วยให้สิวยุบแต่อย่างใดถึงแม้จะมโนว่ามันเล็กลงอักเสบน้อยลงก็ไม่จริงเลย เพราะส่องกระจกทีไรก็ปูดเอาๆ ทุกวัน ซึ่งผลลัพธ์มันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนเนอะ บางคนอาจจะใช้ดีอันนี้ก็ดีไป อ้อเห็นว่าตอนนี้มีผลิตภัณฑ์เดียวกันในหมวดของผู้ชาย ซึ่งให้ความรู้สึกที่บางเบากว่า แอบอยากลองแต่น้ำตบที่มีอยู่ตอนนี้ก็ตบไม่ทันอยู่แล้ว กว่าจะตบเสร็จแต่ละรอบเหมือนนางเอกโดนนางร้ายตอบประมาณร้อยรอบประมาณยอมให้ตบแต่โดยดี ปัจจุบันน้ำตบตัวนี้เราจะเอามาผสมกับโลชั่นทาตัว เพราะคิดว่าอย่างน้อยอาจจะทำให้ผิวละเอียดเหมือนหน้าได้มั่ง อ้อกลิ่นของเจ้าตัวนี้เหมือนกับกลิ่นเค็มของทะเลผสมกับกลิ่นกะปิ
คะแนน: 5/10 เหนอะหนะหน้าทำให้ไม่สบายหน้า(และใจ)
ชิ้นที่ 6
SK-II Cellumination Mask - In Lotion
เป็นน้ำตบของ SK-II ที่มีคำโปรยที่ยั่วยวนให้ซื้อเหลือเกินว่าเหมือนกับการ mask หน้าเลย ลักษณะผลิตภัณฑ์ก็เป็นน้ำขาวๆ ขุ่นๆ กลิ่นหอมดีนะ (แปลกอ่ะ) ก็ชุ่มชื่นดี ซึมแล้ว โดยรวมถือว่าชอบ เพราะใช้แล้วหน้าดูเอิบอิ่มแต่ไม่บวม แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่ได้เป็นน้ำตบลูกรักอยู่ดี
คะแนน: 9/10 โดยรวมถือว่าดีมาก หักไว้ 1 คะแนนเพราะไม่ใช่ลูกรัก อิอิ
ชิ้นที่ 7
Clinique Even Better Essence Lotion สูตร (1,2)
น้ำตบจากฝั่งตะวันตกที่มีดีสุดๆ ทั้งในเรื่องของส่วนผสมและ feelingหลังใช้ เพราะซึมเข้ากับผิวเร็วมากไม่เหนอะหนะ แอบเสียดายสำหรับคนตะวันตก (ไม่น่าจะมีขายในแถวยุโรปและอเมริกา)เพราะชิ้นนี้น่าจะทำเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าฝั่งเอเชีย(ผู้ชื่นชอบการตบผิวให้ตื่นก่อนบำรุงด้วยเซรั่ม) นี่คือน้ำตบลูกรักชอบมาก หมดแล้วซื้อซ้ำ ซื้อซ้ำแล้วใช้จนหมด -วนลูป- ผลิตภัณฑ์นี้มีสองสูตรเราชอบสูตรสำหรับผิวแห้งมากกว่าผิวมัน(ซึ่งมีเนื้อผลิตภัณฑ์แบบน้ำเหลวๆ)เพราะมันให้ความชุ่มชื้นดีมาก และที่สำคัญคือไม่หลงเหลือความมันและเหนียวบนใบหน้า
คะแนน: 10/10
ชิ้นที่ 8
Sulwhasoo First Care Activating Serum EX
เป็น Pre-serum ที่ซึมง่าย ซึมเร็ว มีกลิ่นหอมสมุนไพรใช้แล้วดีต่อจิตใจและใบหน้า ปกติเวลาขี้เกียจบำรุงผิวจะทาตัวนี้แล้วนอน ขวดนี้เป็น limited edition ลายขวดก็สวยดีนะ อ้อส่วนผสมค่อนข้างจัดเต็มออกมาในรูปแบบสมุนไพรแห่งเอเชีย
คะแนน: 10/10 Pre-serum ลูกรัก
ชิ้นที่ 9
Lancome Advanced Genefique
Pre-serum ขายดีของ Lancome ความรู้สึกที่ใช้คือซึมเร็วและจะทำให้เซรั่มที่มาหลังจากตัวนี้ซึมเร็วขึ้น (อันนี้ไม่ได้มโนเพราะทดลองมาแล้ว) ขวดนี้เป็นขวด 100ml ได้มาจากดิวตี้ฟรีที่เจนีวา จำได้ว่าลดราคาแบบหฤโหดมาก กล่าวคือขวดนี้ได้มาในราคาของขวด 30ml ที่ขายทั่วไป ยังงงอยู่ว่านี่ของปลอมหรือปล่าทำไมมันลดเยอะจัง แต่ก็ไม่กล้าซื้อมาเยอะเพราะไม่เคยใช้ พอได้ลองใช้ก็รู้สึกดีใจที่ไม่หน้ามืดตามัวสอยมามากกว่านี้ เพราะเวลาหยิบใช้ pre-serum ทีไร มือกลับไปหยิบโดนของ Sulwhasoo ตลอดไม่รู้ทำไมเหมือนกัน (อิอิ) อาจจะเพราะไม่หอมเหมือน Sulwhasoo
คะแนน: 8/10 ให้เยอะเพราะให้ความรู้สึกว่า serum ที่ลงต่อจากตัวนี้จะซึมเร็วและจะให้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น (ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นไม่รู้จริงหรือเปล่านะแต่ซึมเร็วนี่เรื่องจริง)
ชิ้นที่ 10
Paula's Choice 2% BHA Liquid
ยาสามัญประจำบ้าน เอาไว้รักษาสิวอุดตัน แล้วก็สิวหัวดำแถวๆ จมูก (เอาจริงๆ นี่ก็ใช้มาสักพักแล้วแต่สิวหัวดำก็ยังไม่ไปไหน อาจจะมีน้อยลง) อ้ออีกอย่างถ้าใช้ตัวนี้เป็นประจำรู้สึกว่าหน้านิ่มขึ้น เรียบเนียนขึ้น
คะแนน: 9/10 หักไป 1 เพราะบางครั้งหลังจากไม่ได้ใช้นานๆ แล้วกลับมาใช้จะรู้สึกคันยิบๆ (ก็เป็น acid นี่เนอะ แต่ก็ยังจะหักอยู่ดีเพราะทำให้คัน เมื่อคันแล้วก็อยากเกา แต่เกาไม่ได้ = ทรมาน)
ชิ้นที่ 11
SK-II Genoptics Aura Essence
นิยามของคำว่าขาวปลอมคือขวดนี้ เพราะเมื่อทาลงบนหน้าจะทำให้หน้าดูสดใส กระจ่างใสแต่ล้างออกก็เหมือนเดิม ใช้มาจนจะหมดขวดใหญ่แล้วก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น แถมยังทำให้สิวขึ้นหน้าอีกไม่รู้แพ้ส่วนผสมอะไรในตัวนี้ ตอนนี้ก็ยืนเป็นหินโมอายอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งไปแล้ว แต่เร็วๆนี้คงเอามาใช้ให้หมดๆ ไปสักที
คะแนน: 6/10 พูดไม่ออก รู้แค่ว่าใช้แล้วสิวขึ้น
ชิ้นที่ 12
Estee Lauder Advanced Night Repair Synchronized Recovery Complex II
serum ลูกรัก ใช้มาตั้งแต่อายุ 18 และจะใช้อีกต่อไป เพราะใช้แล้วหน้าดูฟู อิ่ม แบบดูดีอ่ะไม่รู้จะอธิบายยังไง คนอื่นผลลัพธ์เป็นยังไงไม่รู้นะ แต่สำหรับเราคือมันดีมาก อ้อ ถึงจะบอกว่าเป็น night repair แต่เราใช้เช้าเย็นอ่ะชอบมาก ใช้แล้วรู้สึกดี รู้สึกว่าผิว repair ทั้งตอนเช้าและตอนเย็น
คะแนน: 10/10
ชิ้นที่ 13
Kiehl's Hydro - Plumping Re - Texturizing Serum Concentrate
นี่ก็เป็น serum ลูกรักอีกตัวหนึ่งเพราะทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ แบบสุดๆ ฟีลลิ่งหลังทาตัวนี้ก็ดีสุดๆ เหมือนผิวหน้าได้รับการเติมน้ำแบบไม่สิ้นสุด เติมเรื่อยๆ เด้งดึ๋งๆ ตั้งแต่เช้ายันเย็น ชอบ!
คะแนน: 10/10
ชิ้นที่ 14
Ipsa อะไรไม่รู้ ทำกล่องหายแล้ว ถ้าหาเจอเดี๋ยวจะมาเขียน ใครรู้วานช่วยตอบหน่อย อารมเหมือนเป็น essence สำหรับวัยรุ่นที่ต้องการต่อต้านการเกิดริ้วรอย เนื้อผลิตภัณฑ์เหลวๆ ใสๆ แต่พอทาแล้วหนึงหนับหน้ามากๆ
คะแนน: 7/10 หนึบหนับหน้าไป แต่เรื่องความชุ่มชื้นนี่ต้องยอมรับเลยจริงๆ ว่าทำได้ดีกมากๆ
ชิ้นที่ 15
The Ordinary Matrixyl 10% + HA
แบรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในยุโรปและอเมริกา อันนี้เป็น sub-brand ภายใต้บริษัทที่ชื่อว่า Deciem / The Abnormal Beauty Company อื้อหือ! สวยแบบไม่ธรรมดา ก็เลยสอยมาลองใช้เล่นๆ (ปล.หลอกเพื่อนให้มาซื้อด้วยกันเพราะจะได้ส่งฟรี อิอิ) โดยรวมแล้วดีมากเลยซึมเร็ว ไม่หนึบหนับหน้า แถม active ingredients ที่ใส่มาก็ใส่มาแบบไม่ยั้ง
คะแนน: 9/10 ต้องสั่งจากเว็บเท่านั้น โดยรวมถือว่าดี
ขอพักไว้ที่ ชิ้นที่ 15 ก่อน แล้วเดี๋ยวมาต่อที่เหลือนะจ๊ะ