ก่อนที่จะดูรีวิวเรามาดูวิธีการเลือกเครื่องซักผ้ากันก่อนเลยครับ
หลักของการซักผ้าให้สะอาดก็คือ การให้ผ้าและน้ำมีการเคลื่อนที่ให้มากๆ เข้าไว้ครับ จะให้ผ้าเป็นตัวเคลื่อนที่หรือน้ำเป็นตัวเคลื่อนที่ก็ได้ แล้วแต่เทคนิคการออกแบบ(แนวคิด)ของแต่ละยี่ห้อครับ ถ้าเครื่องไหนซักแล้วผ้านิ่งๆ น้ำนิ่งๆ จะซักไม่ค่อยสะอาดครับ
เครื่องซักผ้าที่ใช้ในบ้านหลักๆ จะมีอยู่ 3 แบบครับ คือ แบบสองถังกึ่งอัตโนมัติ แบบถังเดียวอัตโนมัติ และแบบฝาหน้า มาดูลักษณะแต่ละแบบกันครับ
1.แบบสองถังกึ่งอัตโนมัติ เครื่องซักผ้าแบบนี้ราคาจะถูกที่สุด ซักผ้าได้สะอาดดี ใช้เวลาซักไม่นานทำให้ใช้ไฟฟ้าไม่มากตามไปด้วย ใช้น้ำไม่มากต่อการซักแต่ละครั้ง แต่เหนื่อยหน่อยครับเพราะต้องยกผ้าไปมาระหว่างถัง เหมาะสำหรับคนงบน้อย ต้องการซักแบบสะอาดๆ แต่ไม่กลัวเหนื่อยครับ
2.แบบถังเดียวอัตโนมัติ เครื่องซักผ้าแบบนี้ราคาปานกลาง ซักผ้าได้สะอาดน้อยสุด ใช้เวลาซักปานกลาง ใช้ไฟฟ้าปานกลาง ใช้น้ำมากที่สุดเหมาะสำหรับคนที่เสื้อผ้าในชีวิตประจำวันไม่สกปรกมากนัก ต้องการความรวดเร็วและความสะดวกสบายในการซัก
3.แบบฝาหน้า เครื่องซักผ้าแบบนี้ราคาแพงที่สุด ซักผ้าสะอาดที่สุด เพราะผ้าจะมีการเคลื่อนที่ได้ดี แล้วยังสามารถใช้น้ำอุ่นได้อีก ทำให้สามารถละลายผงซักฟอกและคราบไขมันได้ยิ่งขึ้น แต่ใช้เวลาซักนานมากที่สุดจึงทำให้ใช้ไฟฟ้ามากตามไปด้วย แล้วถ้าใช้น้ำอุ่นก็จะใช้ไฟฟ้ามากขึ้นอีก ใช้น้ำน้อย ผงซักฟอกที่ใช้ควรเป็นชนิดฟองน้อยๆ หรือผลิตมาเพื่อฝาหน้า เพราะถ้าใช้แบบฟองเยอะๆ ฟองจะล้นออกมาตรงที่ใส่ผงซักฟอกได้ครับ เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณ ต้องการความสะอาดมาเป็นอันดับแรกครับ
ระบบการทำงานของเครื่องซักผ้าจะมีอยู่ 2 ระบบด้วยกัน ระบบสายพาน และระบบ Direct Drive
1.ระบบสายพาน กำลังมอเตอร์จะน้อยเพราะจะใช้ชุดเกียร์ทดกำลัง ประหยัดไฟกว่า
2.ระบบ Direct Drive กำลังมอเตอร์จะสูงเพราะต้องหมุนถังโดยตรงแต่จะเปลืองไฟกว่า
ขนาดของเครื่องซักผ้าจะสัมพันธ์กับปริมาณผ้าที่ซัก ถ้าในบ้านมีคนมากจะต้องใช้เครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ หรือถ้าเรามผ้านวมผืนใหญ่ๆ เราอาจจะใช้เครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ได้เหมือนกัน
เราสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพการซัก การล้าง และการปั่นหมาดได้ที่ฉลากด้านหลังของเครื่องซักผ้าได้ด้วยนะครับ
ถ้าเป็นเครื่องซักผ้าแบบเดียวกันแต่ละยี่ห้อมักจะได้ค่าใกล้เคียงกัน เพราะแต่ละบริษัทก็มีการเปรียบเทียบและพัฒนาแข่งกันอยู่แล้ว
เนื่องจากเครื่องซักผ้าเครื่องเก่าเสียกระทันหันหลังใช้มานานจึงต้องหาเครื่องใหม่มาแทนเพราะซักมือไม่ไหว ก่อนซื้อได้เข้าหามาข้อมูลในเว็บพันทิปกับเว็บผู้ผลิตต่างๆ จนเจอกับเครื่องซักผ้าของ Hitachi และ Panasonic สุดท้ายถูกใจ Hitachi มากกว่าบวกกับมีส่วนลด จาก 16490 เหลือ 14990 แล้วอยู่ในช่วงช็อปช่วยชาติพอดีเลยจัดมาาา หลังจากจ่ายเงินแล้วคิวส่งรอนานมาก ต้องรอวันถัดไปช่วงเย็นๆ เลยตัดสินใจไปเอามาเองแล้วก็ติดตั้งเอง ขอข้ามตอนติดตั้งไปนะครับ
เครื่องซักผ้าอัตโนมัติฝาบน Hitachi SF-130XWV ขนาด 13 kg Inverter
เครื่องซักผ้า Hitachi มาพร้อมกับรูปทรงที่หรูหรา สวยงาม น่าใช้
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ทำไมถึงประหยัดเดี๋ยวมาดูกันครับ
รับประกันมอเตอร์ 10 ปี เพราะใช้มอเตอร์ Inverter พร้อมชุดเกียร์ทดแรงในระบบสายพานทำให้มอเตอร์มีขนาดเล็กลงแต่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อเทียบกับระบบ Direct Drive นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ประหยัดไฟครับ
ฉลากประสิทธิภาพการซัก แม้มอเตอร์จะมีขนาดเล็ก แต่สมรรถณะของการซัก ล้าง ปั่น ก็มีค่าที่สูงมากกว่ามอเตอร์ที่มีกำลังสูงกว่าอย่างมอเตอร์ในระบบ Direct Dirve (เกณฑ์การทดสอบจะมีไว้ให้ดูท้ายรีวิวนี้ครับ) ค่าสมรรถณะยิ่งสูงยิ่งดีครับ
ถังซักขนาดใหญ่ กว้างถึง 539 มม. ซักทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย ผ้าหนา ผ้ากองโต ที่ไม่เคยซักเองได้ที่บ้าน ทั้งผ้าม่าน ผ้าคลุมโซฟา ผ้านวม
ช่องใส่ผงซักฟอก น้ำยาซักผ้าขาว น้ำยาปรับผ้านุ่มถอดล้างทำความสะอาดได้ ลดปัญหาการสะสมของฝุ่นและสิ่งสกปรก เพื่อความสะอาดและประสิทธิภาพในการใช้งานอย่างแท้จริง
มาตรวัดระดับน้ำในตัว ตัวบอกระดับที่มาพร้อมเครื่องช่วยให้สามารถติดตั้งบนระนาบได้อย่างผู้เชี่ยวชาญ
แผ่นกรองเส้นใยผ้าป้องกันแบคทีเรียแบบคู่ แผ่นกรองเส้นใยผ้าออกแบบพิเศษเคลือบสารป้องกันแบคทีเรีย ทำความสะอาดง่าย
โปรแกรมการซักที่มากถึง 11 โปรแกรม
ตอบสนองการใช้งาน ตั้งค่าการซักได้หลากหลาย ด้วยปุ่มลูกศรขึ้นลง ช่วยให้เลือกระดับน้ำ ระยะเวลาในการซัก จำนวนครั้งในการล้าง และเวลาในการปั่นแห้ง ได้อย่างง่ายดาย
กระจกนิรภัยใสบนฝาเครื่องเพื่อให้สามารถมองเห็นการทำงานของเครื่องได้ตลอดเวลา ทั้งยังสามารถควบคุมการซักได้แม้ในขณะที่เครื่องทำงาน
ระบบทำความถังอัตโนมัติ ปกป้องถังซักจากครอบตกค้าง จะทำงานโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่ซักผ้า ทั้งยังขจัดและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียได้ถึง 99%
ระบบคลายผ้าหลังปั่นหมาด ลดการพันกันของผ้าทำให้สามารถหยิบผ้าออกมาจากเครื่องซักผ้าได้ง่ายยิ่งขึ้น
ตอนนี้ใช้งานมาเดือนกว่าๆ รู้สึกประทับใจในคุณภาพและการทำงานของเครื่องซักผ้า Hitachi มากครับ ลองมาดูข้อดีข้อเสียกันบ้างครับ
ข้อดี
1. ถังซักมีขนาดใหญ่มากทำให้ซักผ้าที่มีขนาดใหญ่ได้ เคยลองซักผ้านวมขนาด 6 ฟุต พอใส่เข้าไปในถังแล้วยังมีที่เหลืออีกถังเขาใหญ่มากจริงๆ ครับ อันนี้ชอบมากเพราะไม่ต้องส่งผ้านวมซักซึ่งราคาค่าซักผ้านวมแพงมากครับ
2. ตอนซักและปั่นหมาดเงียบมากแม้จะเป็นระบบสายพานก็ตาม เปรียบเทียบกับเครื่องก่อนหน้าแล้วเครื่องนี้เงียบกว่ามาก
3. โปรแกรมซักมีความยืดหยุ่นสูงสามารถเลือกระดับน้ำ เวลาซัก เวลาปั่นหมาด รวมถึงเวลาแช่ผ้าหรือซักล่วงหน้าได้ แม้จะซักไปแล้วก็สามารถเพิ่ม/ลดความแรงหรือระดับน้ำได้อย่างง่ายดาย
4. โปรแกรมซักมีความครอบคลุมมากในการใช้งาน ผมเองชอบโปรแกรมซักอัจฉริยะเป็นการซักแบบซักปนแช่สลับกันไปมาซึ่งถือว่าดีมาก ผ้าสะอาดดี
5. ระบบทำความสะอาดถังซักอัตโนมัติ เพราะน้ำที่บ้านมีตะกอนจะทำให้เป็นคราบ การทำความสะอาดถังซักอัตโนมัติจะช่วยลดคราบเหล่านั้นทำให้ถังซักสะอาดอยู่ตลอดเวลา แถมยังทำให้เสื้อผ้าสะอาดมีสุขอนามัยที่ดี อีกทั้งยังช่วยลดการล้างถังที่ต้องจ้างช่างมาล้างแถมยังมีราคาแพงอีกด้วยครับ
6. ระบบคลายผ้าหลังปั่นหมาด อันนี้ช่วยได้มากบางครั้งผ้าไม่พันกันเลยก็มี สังเกตุได้จากตอนหยิบผ้าออกจากถัง(ขึ้นอยู่กับชนิดของผ้า)
ดูข้อดีแล้วมาดูข้อเสียกันบ้างครับ
1. ถ้าผ้าในถังไม่สมดุลเวลาเครื่องปั่นหมาดถังจะกระทบกับตัวเครื่องจนมีเสียงดังลั่น ดังมาก ดังถึงขนาดเข้าไปในห้องนอนเลย แต่จากการใช้งานมามันจะดังเป็นบางครั้งกับผ้าบางชนิด อย่างเช่นพวกผ้ายืดที่เป็นกางเกงขายาวผ้ามันมักจะพันกันแล้วมากองอยู่ที่เดียวพอปั่นหมาดก็เลยมีเสียงดัง ผมคิดว่าทางฮิตาชิต้องปรับปรุงในเรื่องนี้
2. ในบางครั้งที่ผมซักผ้าน้อยมากแต่เลือกเวลาซักนานสุด พอมันชั่งน้ำหนักแล้วมันก็ปรับเวลาให้ อันนี้ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
3. ช่องใส่ผงซักฟอก เวลาใส่ผงซักฟอกต้องใส่เข้าไปลึกๆ อย่าให้ติดฝาเพราะจะเหลือเศษผงซักฟอกไว้
สำหรับความทนทาน ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ครับต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วอีกอย่างผมเองไม่เคยใช้ยี่ห้อนี้มาก่อน ผมเองค่อนข้างคาดหวังกับเครื่องซักผ้าเครื่องนี้ไว้มากว่าจะใช้งานได้นานเหมือนเครื่องก่อน ผมซักผ้าบ่อยมากวันเว้นวันได้ครับ เครื่องซักผ้าเก่าถือว่าทนทานมากเพราะซักบ่อยแถมยังใช้ได้นานมากประมาณ 12 ปีครับ
อย่าลืมดูฉลากทุกครั้งก่อนซื้อ ให้ดูทุกข้อความที่เขียนไว้ อย่าดูเฉพาะกำลังมอเตอร์ กำลังมอเตอร์แรงอย่างเดียวไม่ได้หมายความว่าจะซักสะอาดครับ
ถ้าถามว่าทำไมถึงเลือกยี่ห้อเกาหลี ผมใช้ตอนอยู่มหาวิทยาลัยมาหลายปีแล้วครับ แวบแรกที่เห็นก็แปลกตาดีแต่พอซักแล้วเฉยๆ แล้วอีกอย่างเครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อเกาหลีที่เคยสัมผัสมาตั้งแต่ตอนเป็นเด็กผมว่ายังสู้ของญี่ปุ่นไม่ได้ครับ
สำหรับเครื่องซักผ้าที่มีความจุมากที่สุดในประเทศที่ใช้ในบ้านเป็นของ Hitachi ครับ ขนาด 24 kg. ครับ
สำหรับการทดสอบสมรรถณะนั้น มีดังนี้ครับ เป็น มอก 1462-2548 ปัจจุบันยังใช้อันนี้อยู่นะครับ ถ้าอยากอ่านทั้งฉบับผมจะแนบไว้ให้ด้วยครับ(อ้างอิงจากเว็บไซต์ของกระทรวงอุตสาหกรรมครับ)
ฉบับเต็มครับ
http://app.tisi.go.th/notices/pdf/TIS1462-2548.pdf
เครดิต Mr Holiday
[CR] ...*~ รีวิว เครื่องซักผ้า Hitachi พร้อมวิธีเลือกเครื่องซักผ้า Hitachi ถังใหญ่ซักได้จุใจ ตามมาดูกันครับ
หลักของการซักผ้าให้สะอาดก็คือ การให้ผ้าและน้ำมีการเคลื่อนที่ให้มากๆ เข้าไว้ครับ จะให้ผ้าเป็นตัวเคลื่อนที่หรือน้ำเป็นตัวเคลื่อนที่ก็ได้ แล้วแต่เทคนิคการออกแบบ(แนวคิด)ของแต่ละยี่ห้อครับ ถ้าเครื่องไหนซักแล้วผ้านิ่งๆ น้ำนิ่งๆ จะซักไม่ค่อยสะอาดครับ
เครื่องซักผ้าที่ใช้ในบ้านหลักๆ จะมีอยู่ 3 แบบครับ คือ แบบสองถังกึ่งอัตโนมัติ แบบถังเดียวอัตโนมัติ และแบบฝาหน้า มาดูลักษณะแต่ละแบบกันครับ
1.แบบสองถังกึ่งอัตโนมัติ เครื่องซักผ้าแบบนี้ราคาจะถูกที่สุด ซักผ้าได้สะอาดดี ใช้เวลาซักไม่นานทำให้ใช้ไฟฟ้าไม่มากตามไปด้วย ใช้น้ำไม่มากต่อการซักแต่ละครั้ง แต่เหนื่อยหน่อยครับเพราะต้องยกผ้าไปมาระหว่างถัง เหมาะสำหรับคนงบน้อย ต้องการซักแบบสะอาดๆ แต่ไม่กลัวเหนื่อยครับ
2.แบบถังเดียวอัตโนมัติ เครื่องซักผ้าแบบนี้ราคาปานกลาง ซักผ้าได้สะอาดน้อยสุด ใช้เวลาซักปานกลาง ใช้ไฟฟ้าปานกลาง ใช้น้ำมากที่สุดเหมาะสำหรับคนที่เสื้อผ้าในชีวิตประจำวันไม่สกปรกมากนัก ต้องการความรวดเร็วและความสะดวกสบายในการซัก
3.แบบฝาหน้า เครื่องซักผ้าแบบนี้ราคาแพงที่สุด ซักผ้าสะอาดที่สุด เพราะผ้าจะมีการเคลื่อนที่ได้ดี แล้วยังสามารถใช้น้ำอุ่นได้อีก ทำให้สามารถละลายผงซักฟอกและคราบไขมันได้ยิ่งขึ้น แต่ใช้เวลาซักนานมากที่สุดจึงทำให้ใช้ไฟฟ้ามากตามไปด้วย แล้วถ้าใช้น้ำอุ่นก็จะใช้ไฟฟ้ามากขึ้นอีก ใช้น้ำน้อย ผงซักฟอกที่ใช้ควรเป็นชนิดฟองน้อยๆ หรือผลิตมาเพื่อฝาหน้า เพราะถ้าใช้แบบฟองเยอะๆ ฟองจะล้นออกมาตรงที่ใส่ผงซักฟอกได้ครับ เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณ ต้องการความสะอาดมาเป็นอันดับแรกครับ
ระบบการทำงานของเครื่องซักผ้าจะมีอยู่ 2 ระบบด้วยกัน ระบบสายพาน และระบบ Direct Drive
1.ระบบสายพาน กำลังมอเตอร์จะน้อยเพราะจะใช้ชุดเกียร์ทดกำลัง ประหยัดไฟกว่า
2.ระบบ Direct Drive กำลังมอเตอร์จะสูงเพราะต้องหมุนถังโดยตรงแต่จะเปลืองไฟกว่า
ขนาดของเครื่องซักผ้าจะสัมพันธ์กับปริมาณผ้าที่ซัก ถ้าในบ้านมีคนมากจะต้องใช้เครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ หรือถ้าเรามผ้านวมผืนใหญ่ๆ เราอาจจะใช้เครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ได้เหมือนกัน
เราสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพการซัก การล้าง และการปั่นหมาดได้ที่ฉลากด้านหลังของเครื่องซักผ้าได้ด้วยนะครับ
ถ้าเป็นเครื่องซักผ้าแบบเดียวกันแต่ละยี่ห้อมักจะได้ค่าใกล้เคียงกัน เพราะแต่ละบริษัทก็มีการเปรียบเทียบและพัฒนาแข่งกันอยู่แล้ว
เนื่องจากเครื่องซักผ้าเครื่องเก่าเสียกระทันหันหลังใช้มานานจึงต้องหาเครื่องใหม่มาแทนเพราะซักมือไม่ไหว ก่อนซื้อได้เข้าหามาข้อมูลในเว็บพันทิปกับเว็บผู้ผลิตต่างๆ จนเจอกับเครื่องซักผ้าของ Hitachi และ Panasonic สุดท้ายถูกใจ Hitachi มากกว่าบวกกับมีส่วนลด จาก 16490 เหลือ 14990 แล้วอยู่ในช่วงช็อปช่วยชาติพอดีเลยจัดมาาา หลังจากจ่ายเงินแล้วคิวส่งรอนานมาก ต้องรอวันถัดไปช่วงเย็นๆ เลยตัดสินใจไปเอามาเองแล้วก็ติดตั้งเอง ขอข้ามตอนติดตั้งไปนะครับ
เครื่องซักผ้าอัตโนมัติฝาบน Hitachi SF-130XWV ขนาด 13 kg Inverter
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ทำไมถึงประหยัดเดี๋ยวมาดูกันครับ
รับประกันมอเตอร์ 10 ปี เพราะใช้มอเตอร์ Inverter พร้อมชุดเกียร์ทดแรงในระบบสายพานทำให้มอเตอร์มีขนาดเล็กลงแต่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อเทียบกับระบบ Direct Drive นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ประหยัดไฟครับ
ฉลากประสิทธิภาพการซัก แม้มอเตอร์จะมีขนาดเล็ก แต่สมรรถณะของการซัก ล้าง ปั่น ก็มีค่าที่สูงมากกว่ามอเตอร์ที่มีกำลังสูงกว่าอย่างมอเตอร์ในระบบ Direct Dirve (เกณฑ์การทดสอบจะมีไว้ให้ดูท้ายรีวิวนี้ครับ) ค่าสมรรถณะยิ่งสูงยิ่งดีครับ
ถังซักขนาดใหญ่ กว้างถึง 539 มม. ซักทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย ผ้าหนา ผ้ากองโต ที่ไม่เคยซักเองได้ที่บ้าน ทั้งผ้าม่าน ผ้าคลุมโซฟา ผ้านวม
ช่องใส่ผงซักฟอก น้ำยาซักผ้าขาว น้ำยาปรับผ้านุ่มถอดล้างทำความสะอาดได้ ลดปัญหาการสะสมของฝุ่นและสิ่งสกปรก เพื่อความสะอาดและประสิทธิภาพในการใช้งานอย่างแท้จริง
มาตรวัดระดับน้ำในตัว ตัวบอกระดับที่มาพร้อมเครื่องช่วยให้สามารถติดตั้งบนระนาบได้อย่างผู้เชี่ยวชาญ
แผ่นกรองเส้นใยผ้าป้องกันแบคทีเรียแบบคู่ แผ่นกรองเส้นใยผ้าออกแบบพิเศษเคลือบสารป้องกันแบคทีเรีย ทำความสะอาดง่าย
โปรแกรมการซักที่มากถึง 11 โปรแกรม
ตอบสนองการใช้งาน ตั้งค่าการซักได้หลากหลาย ด้วยปุ่มลูกศรขึ้นลง ช่วยให้เลือกระดับน้ำ ระยะเวลาในการซัก จำนวนครั้งในการล้าง และเวลาในการปั่นแห้ง ได้อย่างง่ายดาย
กระจกนิรภัยใสบนฝาเครื่องเพื่อให้สามารถมองเห็นการทำงานของเครื่องได้ตลอดเวลา ทั้งยังสามารถควบคุมการซักได้แม้ในขณะที่เครื่องทำงาน
ระบบทำความถังอัตโนมัติ ปกป้องถังซักจากครอบตกค้าง จะทำงานโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่ซักผ้า ทั้งยังขจัดและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียได้ถึง 99%
ระบบคลายผ้าหลังปั่นหมาด ลดการพันกันของผ้าทำให้สามารถหยิบผ้าออกมาจากเครื่องซักผ้าได้ง่ายยิ่งขึ้น
ตอนนี้ใช้งานมาเดือนกว่าๆ รู้สึกประทับใจในคุณภาพและการทำงานของเครื่องซักผ้า Hitachi มากครับ ลองมาดูข้อดีข้อเสียกันบ้างครับ
ข้อดี
1. ถังซักมีขนาดใหญ่มากทำให้ซักผ้าที่มีขนาดใหญ่ได้ เคยลองซักผ้านวมขนาด 6 ฟุต พอใส่เข้าไปในถังแล้วยังมีที่เหลืออีกถังเขาใหญ่มากจริงๆ ครับ อันนี้ชอบมากเพราะไม่ต้องส่งผ้านวมซักซึ่งราคาค่าซักผ้านวมแพงมากครับ
2. ตอนซักและปั่นหมาดเงียบมากแม้จะเป็นระบบสายพานก็ตาม เปรียบเทียบกับเครื่องก่อนหน้าแล้วเครื่องนี้เงียบกว่ามาก
3. โปรแกรมซักมีความยืดหยุ่นสูงสามารถเลือกระดับน้ำ เวลาซัก เวลาปั่นหมาด รวมถึงเวลาแช่ผ้าหรือซักล่วงหน้าได้ แม้จะซักไปแล้วก็สามารถเพิ่ม/ลดความแรงหรือระดับน้ำได้อย่างง่ายดาย
4. โปรแกรมซักมีความครอบคลุมมากในการใช้งาน ผมเองชอบโปรแกรมซักอัจฉริยะเป็นการซักแบบซักปนแช่สลับกันไปมาซึ่งถือว่าดีมาก ผ้าสะอาดดี
5. ระบบทำความสะอาดถังซักอัตโนมัติ เพราะน้ำที่บ้านมีตะกอนจะทำให้เป็นคราบ การทำความสะอาดถังซักอัตโนมัติจะช่วยลดคราบเหล่านั้นทำให้ถังซักสะอาดอยู่ตลอดเวลา แถมยังทำให้เสื้อผ้าสะอาดมีสุขอนามัยที่ดี อีกทั้งยังช่วยลดการล้างถังที่ต้องจ้างช่างมาล้างแถมยังมีราคาแพงอีกด้วยครับ
6. ระบบคลายผ้าหลังปั่นหมาด อันนี้ช่วยได้มากบางครั้งผ้าไม่พันกันเลยก็มี สังเกตุได้จากตอนหยิบผ้าออกจากถัง(ขึ้นอยู่กับชนิดของผ้า)
ดูข้อดีแล้วมาดูข้อเสียกันบ้างครับ
1. ถ้าผ้าในถังไม่สมดุลเวลาเครื่องปั่นหมาดถังจะกระทบกับตัวเครื่องจนมีเสียงดังลั่น ดังมาก ดังถึงขนาดเข้าไปในห้องนอนเลย แต่จากการใช้งานมามันจะดังเป็นบางครั้งกับผ้าบางชนิด อย่างเช่นพวกผ้ายืดที่เป็นกางเกงขายาวผ้ามันมักจะพันกันแล้วมากองอยู่ที่เดียวพอปั่นหมาดก็เลยมีเสียงดัง ผมคิดว่าทางฮิตาชิต้องปรับปรุงในเรื่องนี้
2. ในบางครั้งที่ผมซักผ้าน้อยมากแต่เลือกเวลาซักนานสุด พอมันชั่งน้ำหนักแล้วมันก็ปรับเวลาให้ อันนี้ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
3. ช่องใส่ผงซักฟอก เวลาใส่ผงซักฟอกต้องใส่เข้าไปลึกๆ อย่าให้ติดฝาเพราะจะเหลือเศษผงซักฟอกไว้
สำหรับความทนทาน ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ครับต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วอีกอย่างผมเองไม่เคยใช้ยี่ห้อนี้มาก่อน ผมเองค่อนข้างคาดหวังกับเครื่องซักผ้าเครื่องนี้ไว้มากว่าจะใช้งานได้นานเหมือนเครื่องก่อน ผมซักผ้าบ่อยมากวันเว้นวันได้ครับ เครื่องซักผ้าเก่าถือว่าทนทานมากเพราะซักบ่อยแถมยังใช้ได้นานมากประมาณ 12 ปีครับ
อย่าลืมดูฉลากทุกครั้งก่อนซื้อ ให้ดูทุกข้อความที่เขียนไว้ อย่าดูเฉพาะกำลังมอเตอร์ กำลังมอเตอร์แรงอย่างเดียวไม่ได้หมายความว่าจะซักสะอาดครับ
ถ้าถามว่าทำไมถึงเลือกยี่ห้อเกาหลี ผมใช้ตอนอยู่มหาวิทยาลัยมาหลายปีแล้วครับ แวบแรกที่เห็นก็แปลกตาดีแต่พอซักแล้วเฉยๆ แล้วอีกอย่างเครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อเกาหลีที่เคยสัมผัสมาตั้งแต่ตอนเป็นเด็กผมว่ายังสู้ของญี่ปุ่นไม่ได้ครับ
สำหรับเครื่องซักผ้าที่มีความจุมากที่สุดในประเทศที่ใช้ในบ้านเป็นของ Hitachi ครับ ขนาด 24 kg. ครับ
สำหรับการทดสอบสมรรถณะนั้น มีดังนี้ครับ เป็น มอก 1462-2548 ปัจจุบันยังใช้อันนี้อยู่นะครับ ถ้าอยากอ่านทั้งฉบับผมจะแนบไว้ให้ด้วยครับ(อ้างอิงจากเว็บไซต์ของกระทรวงอุตสาหกรรมครับ)
ฉบับเต็มครับ http://app.tisi.go.th/notices/pdf/TIS1462-2548.pdf
เครดิต Mr Holiday