สวัสดีครับผม ผมตัดสินใจอยู่สักพักใหญ่กว่าจะได้เริ่มเขียนเรื่องราวของตัวเอง เพราะตัวผมเองตอนนี้ก็หุ่นยังไม่ได้ดีอะไรมากมาย
แต่อยากแชร์ประสบการณ์ที่ผมได้
ศึกษาและทดลองกับตัวเองมา หากผิดพลาดขออภัยด้วยนะครับ
ผมขอเขียนกระทู้นี้เพื่อเป็นกำลังใจกับตัวเองที่ยังไม่หยุดออกกำลังกาย.. และกับ
ทุกคนที่อยากเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงตัวเอง
เมื่อก่อนผมเป็นคนชอบออกกำลังกาย และร้องเพลงตั้งแต่เด็ก ก็จะมีเรียนเทนนิส(สมัยภราดร55) โตขึ้นมาหน่อยก็เบื่อหันไปเล่นแบดมินตันบ้าง โดยความจริงผมเป็นคนค่อนข้างเบื่อง่ายพอสมควร เวลาออกกำลังกายอะไรเหมือนเดิมซ้ำๆ เป็นเวลานาน ก็ชอบหาอะไรอื่นๆ ทำ พอโตขึ้นมาม.ปลาย อยากมีวงดนตรีเป็นของตัวเอง ก็ตั้งวงเล่นกับเพื่อนตามภาษาเด็กม.ปลายยยย
จนมาถึง ช่วงม.6 กำลังจะขึ้นมหาลัย ช่วงนั้นมีเวลาว่างไม่รู้จะทำอะไร บวกกับรู้สึกไม่ค่อยพอใจในรูปร่างของตัวเองที่ผอมมาก เคยโดนเพื่อนแซวว่าหุ่นแบบนี้โดนลมพัดจะปลิวมั้ย แต่เราก็ไม่ได้ถือสาอะไร55 จึงเริ่มชวนเพื่อนคนนึงไปเข้าฟิตเนส ซึ่งเมื่อก่อนนั้นข้อมูลให้ศึกษายังไม่ได้เยอะเหมือนปัจจุบัน เราไปเล่นกันแบบงูๆปลาๆ ไม่ได้มีการศึกษาอะไรมากมาย มีเครื่องไหนในฟิตเนสก็ไปยกทุกเครื่อง ท่าฮิตในสมัยนั้น ยกแขน Bicep curl ยกมันเกือบทุกวัน คนชอบบอกเวลาปวดตรงไหนวันรุ่งขึ้นก็ไปซ้ำจุดนั้น
สรุปการเล่นเวทในครั้งนั้นก็แทบไม่ได้อะไรกลับมาเลย แต่ผมก็ยังถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการมั่วที่ดีครับ5555
นี่ถือเป็นแรงบันดาลใจรูปแรกสมัยตอนม.ปลาย ที่ไปเที่ยวกับเพื่อน แล้วมีเพื่อนแซวว่าจะปลิวมั้ย ช่วงนั้นน้ำหนักประมาณ 48 กิโลครับ
...หลังจากนั้นพอเข้ามหาลัยปี1 งานเยอะมาก เลยหยุดหายไปเป็นปีจนรู้ตัวอีกทีขึ้นปี 3 ซึ่งเป็นช่วงที่ผมอยากเป็นศิลปินมาก ไปออดิชั่นรายการประกวดร้องเพลงต่างๆ แต่ก็พบว่าบุคลิกภาพมันก็สำคัญไม่แพ้การร้องเพลงเลย มันเลยทำให้ผมกลับมาทบทวนตัวเองอีกที แล้วลุกขึ้นอีกครั้งในการอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองแบบจริงจัง...
รูปตอนมหาลัยหุ่นก็ยังผอมแห้งเหมือนเดิมมม
หลังจากที่ผมตัดสินใจจะกลับมาเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงตัวเองอีกครั้ง จากในรูปจะเห็นว่าผมเป็นคนค่อนข้างผอมแต่ดันมีพุง หลังจากกลับมาคราวนี้ก็ดูคนอื่นเค้าเล่นท่านู้นนี้เราเล่นตาม เริ่มมีการวางแผนตารางการเวทมากขึ้น เช่น วันนี้เล่นอก วันนี้เล่นหลัง วันนี้เล่นไหล่ เป็นต้น แต่ยังไม่ได้รู้จักเรื่องอาหาร มีอะไรก็กิน กินเยอะไว้ก่อน ก็เริ่มเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย
เวลาที่ผมท้อ การถ่ายรูปตัวเองไว้เปรียบเทียบดูบางทีมันก็เป็นกำลังใจให้กับตัวเองได้มากพอสมควร
ดีกว่าเราออกกำลังกาย คุมอาหารไปวันๆ บางทีการอยู่กับร่างกายตัวเองทุกวันมันดูไม่ออก ก็ต้องมีการวัดผลกันบ้างงง
สิ่งที่ผมอยากแชร์ คือ
1. เรื่องการตั้งเป้าหมาย สำคัญมากกกกกกก เราต้องมีเป้าหมาย ต้องมีหุ่นในอุดมคติที่เราอยากจะเป็น และอย่าไปฟังคนรอบข้างมาก ให้ฟังตัวเองเยอะๆ ซึ่งหลายคนเล่นเวทจะรู้ว่ามีช่วง Bulk(เพิ่ม) ช่วง Lean(ลด) ซึ่งบางทีเวลาเราผอมเราอยากจะเพิ่ม เพื่อนทักว่าทำไมอ้วน เราไขว้เขว พอเราอ้วนอยากจะผอมเพื่อนก็ทักอีก ทำไมตัวเล็ก แล้วทุกคนที่เล่นเวทอาจเจอปัญหา ไปเล่นแปปเดียวเจอเพื่อน มีแต่คนถาม “ซิคแพคละ” เล่นฟิตเนสนานไม่เห็นมีกล้ามท้องเลย ความจริงมันคนละเรื่องเลย วิธีแก้คือ อย่าไปฟังคนอื่นมากครับ ให้ฟังตัวเองเยอะๆ เพื่อนเค้าไม่ได้มานั่งเวทกับเราเข้าไม่เข้าใจไรพวกนี้หรอก ฟังมากไปไขว้เขว..ไปไม่ถึงเป้าหมายซะที
2. เรื่องอาหาร และการพักผ่อน อาหารสำคัญมากเป็น Key ที่ทำให้เราเปลี่ยนแปลงรูปร่างเลย บางคนออกกำลังกายหนักมาก เวทหนักมาก แต่ก็กินหนักมากกินไม่เลือก ยังงี้อาจจะแข็งแรงขึ้น แต่หุ่นก็คงไม่ได้ดีมาก โดยส่วนตัวผมเมื่อก่อนตอนผอมลงพุง เพราะกินไม่เลือกเหมือนกัน ไก่ทอด คอหมูย่าง เบคอน ปิ้งย่างของโปรดเลย ผักก็ไม่ค่อยจะกิน ซึ่งหลังจากหันมาศึกษาและดูแลตัวเอง ก็สรุปได้ว่า พยายามทำอะไรที่สามารถทำเป็นชีวิตประจำวันได้ ไม่ต้องฝืนตัวเองมากมาย บางคนอดอาหาร กินคลีนจืดมากไม่ปรุง ถามว่าคุณทำแบบนั้นได้นานแค่ไหน สุดท้ายผมว่ายึดทางสายกลางไว้ พยายามเลือกทานอาหารให้ครบ5หมู่ บางคนกินแต่ข้าวกับไก่วันละกิโล ยังงั้นกระเพราะก็คงไม่ไหว ไม่มีพวกวิตามินไปดูดซึมเลย ส่วนการพักผ่อนก็พยายามนอนให้ได้ 6-8ชั่วโมง
3. การเวท จะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญในร่างกาย พยายามศึกษาท่าทางการบริหารร่างกายในกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ แล้วจับความรู้สึกของกล้ามเนื้อในมัดที่เราต้องการเล่นให้ได้ ส่วนนี้ถ้าใครจับฟิวกล้ามเนื้อได้ก่อน โฟกัสถูกจุดจะพัฒนาได้ไวมากๆ เมื่อก่อนผมเล่นเป็นปีไม่ได้โฟกัสมันก็ไม่ค่อยเห็นผลอะไร เล่นอะไรก็ลงแขนหมดเลย แล้วก็พยายามลองหาตารางแบ่งวันเล่นวันพักให้ดี สมัยนี้ใน Internet น่าจะแจกกันเยอะข้อนี้ไม่ตายตัวอยู่ที่เราอยากจะจัดตารางในการเล่น แต่ต้องมีวันให้กล้ามเนื้อได้พักบ้าง ไม่ใช่เล่นทุกวันเลยยังงั้นจะหนักกับร่างกายเกินแล้วเกิดความเครียดเป็น Overtrain
4. การคาร์ดิโอ สร้างความแข็งแรงของหัวใจ ยังเผาผลาญไขมันในร่างกายอีก เช่น การเดิน การวิ่ง การว่ายน้ำ เป็นต้น
ข้อนี้ถือว่าเป็นข้อที่ผมพลาดตั้งแต่เล่นเวทมาเป็นปีไม่เคยคาร์ดิโอเลย ทำให้ร่างกายไม่ฟิต ไขมันก็สะสม ผมแนะนำให้ทำคาร์ดิโอควบคู่กับการเวทไปเลยจะช่วยมากๆ ส่วนตารางก็แล้วแต่สะดวกในการจัด อย่างผมอาจจะตื่นมาวิ่งตอนเช้า บางคนสะดวกหลังเลิกงาน หรือหลังเล่นเวทอันนี้แล้วแต่สะดวกครับ ซึ่งต้องบอกว่าร่างกายแต่ละคนมีอัตราการเผาผลาญไม่เท่ากัน อย่างผมเผาผลาญไม่ค่อยดี กินนิดเดียวอ้วน บางคนกินเยอะแทบตายไม่อ้วน บางคนผอมมีกล้ามมาตั้งแต่แรก เล่นเวทหนัก กินหนักกล้ามขึ้นทรงสวยเลย มันอยู่ที่กรรมพันธุ์ร่างกายของแต่ละคนด้วยครับ เราต้องเข้าใจร่างกายตัวเองก่อน
5. เรื่องการศึกษาหาความรู้ เนื่องจากสมัยนี้มีข้อมูลตาม Internet ต่างๆ ให้ค้นหามากมาย แต่เรากลับเลือกถามคำถามที่บางคำถาม ใน Google ก็มี ผมอยากให้คนที่ตั้งใจอยากจะเปลี่ยนแปลงรูปร่างตัวเองลองหาข้อมูลพื้นฐานต่างๆดูด้วยตัวเอง แล้วลองปฏิบัติ บางคนก็หาข้อมูลอ่านซะเยอะ ไม่เคยลงมือทำซะที ยังงี้ก็ไม่ไปถึงไหนเหมือนกันครับ(เล่นเวทสายทฤษฎี) ยกตัวอย่างเช่น เวย์โปรตีน คำถามยอดฮิตว่า ไม่กินเวย์กล้ามใหญ่มั้ย ผมจะบอกว่าความจริงไม่เกี่ยวกับเวย์เลย อาหารหลักกกกกกก สำคัญที่สุด เวย์มันก็ค่อนข้างการตลาดนะครับ ถ้าถามเรื่องความสะดวกโอเคครับผมก็กิน คนเล่นใหม่ๆ บางทีไปยึดติดกับเวย์ แต่อาหารหลักกินเท่าขี้มด กล้ามมันก็ไม่โตให้หรอกครับ แล้วอยากจะเตือนไว้ว่า เล่นเวทไม่ต้องกลัวตัวใหญ่หรอกครับ กว่าเค้าจะตัวใหญ่กันต้องมีวินัย การกิน การซ้อม การพักผ่อนที่ดีมาก กล้ามคนเรามันโตช้ามากครับ ยิ่งถ้าผู้หญิงยิ่งไม่ต้องกลัวใหญ่เลย เราไม่ได้มีฮอโมนเหมือนเพศชาย
เขียนมาซะยาวสุดท้ายนี้เป็นรูปปัจจุบันของผมจากวันแรกเป็นแรงผลักดันให้กับตัวเองงงง
..อย่างที่ผมบอกไว้ตอนแรกว่าผมเป็นคนค่อนข้างเบื่อง่าย แต่กับการเวทผมรู้สึกยังหยุดมันไม่ได้ เพราะเรายังไปไม่ถึงเป้าหมายของเรา..
ผมตั้งเป้าหมายไว้ว่าอยากมีกล้ามท้องกับเค้าบ้าง แต่ก่อนตอนผอมเราก็มีพุง พอผมกำหนดเป้าหมาย ผมก็พยายามเดินตามเป้าหมายของเราให้ได้ไปในทุกๆวัน อาจจะตั้งเป็นระยะเวลาสั้นๆก่อนก็ได้ ว่าเป้าหมายเราเป็นยังไง คุมอาหารแบบไหน ออกกำลังกายแบบไหน สุดท้ายผมเชื่อว่าทุกคนที่มีเป้าหมาย และตั้งใจกับมันจริงๆ จะทำได้ทุกคนครับ
ขอบคุณที่อ่านยาวจนถึงจบนะครับ หวังว่าคงจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย สำหรับใครอยากปรึกษาอะไรเพิ่มเติม แลกเปลี่ยนกันได้ครับ ยินดีรับฟังทุกคนนะครับ
แชร์ประสบการณ์เปลี่ยนแปลงตัวเองจาก..หุ่นผอมลงพุง..น้ำหนัก 48 กิโล!!
แต่อยากแชร์ประสบการณ์ที่ผมได้ศึกษาและทดลองกับตัวเองมา หากผิดพลาดขออภัยด้วยนะครับ
ผมขอเขียนกระทู้นี้เพื่อเป็นกำลังใจกับตัวเองที่ยังไม่หยุดออกกำลังกาย.. และกับทุกคนที่อยากเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงตัวเอง
เมื่อก่อนผมเป็นคนชอบออกกำลังกาย และร้องเพลงตั้งแต่เด็ก ก็จะมีเรียนเทนนิส(สมัยภราดร55) โตขึ้นมาหน่อยก็เบื่อหันไปเล่นแบดมินตันบ้าง โดยความจริงผมเป็นคนค่อนข้างเบื่อง่ายพอสมควร เวลาออกกำลังกายอะไรเหมือนเดิมซ้ำๆ เป็นเวลานาน ก็ชอบหาอะไรอื่นๆ ทำ พอโตขึ้นมาม.ปลาย อยากมีวงดนตรีเป็นของตัวเอง ก็ตั้งวงเล่นกับเพื่อนตามภาษาเด็กม.ปลายยยย
สรุปการเล่นเวทในครั้งนั้นก็แทบไม่ได้อะไรกลับมาเลย แต่ผมก็ยังถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการมั่วที่ดีครับ5555
ดีกว่าเราออกกำลังกาย คุมอาหารไปวันๆ บางทีการอยู่กับร่างกายตัวเองทุกวันมันดูไม่ออก ก็ต้องมีการวัดผลกันบ้างงง
สิ่งที่ผมอยากแชร์ คือ
2. เรื่องอาหาร และการพักผ่อน อาหารสำคัญมากเป็น Key ที่ทำให้เราเปลี่ยนแปลงรูปร่างเลย บางคนออกกำลังกายหนักมาก เวทหนักมาก แต่ก็กินหนักมากกินไม่เลือก ยังงี้อาจจะแข็งแรงขึ้น แต่หุ่นก็คงไม่ได้ดีมาก โดยส่วนตัวผมเมื่อก่อนตอนผอมลงพุง เพราะกินไม่เลือกเหมือนกัน ไก่ทอด คอหมูย่าง เบคอน ปิ้งย่างของโปรดเลย ผักก็ไม่ค่อยจะกิน ซึ่งหลังจากหันมาศึกษาและดูแลตัวเอง ก็สรุปได้ว่า พยายามทำอะไรที่สามารถทำเป็นชีวิตประจำวันได้ ไม่ต้องฝืนตัวเองมากมาย บางคนอดอาหาร กินคลีนจืดมากไม่ปรุง ถามว่าคุณทำแบบนั้นได้นานแค่ไหน สุดท้ายผมว่ายึดทางสายกลางไว้ พยายามเลือกทานอาหารให้ครบ5หมู่ บางคนกินแต่ข้าวกับไก่วันละกิโล ยังงั้นกระเพราะก็คงไม่ไหว ไม่มีพวกวิตามินไปดูดซึมเลย ส่วนการพักผ่อนก็พยายามนอนให้ได้ 6-8ชั่วโมง
3. การเวท จะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญในร่างกาย พยายามศึกษาท่าทางการบริหารร่างกายในกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ แล้วจับความรู้สึกของกล้ามเนื้อในมัดที่เราต้องการเล่นให้ได้ ส่วนนี้ถ้าใครจับฟิวกล้ามเนื้อได้ก่อน โฟกัสถูกจุดจะพัฒนาได้ไวมากๆ เมื่อก่อนผมเล่นเป็นปีไม่ได้โฟกัสมันก็ไม่ค่อยเห็นผลอะไร เล่นอะไรก็ลงแขนหมดเลย แล้วก็พยายามลองหาตารางแบ่งวันเล่นวันพักให้ดี สมัยนี้ใน Internet น่าจะแจกกันเยอะข้อนี้ไม่ตายตัวอยู่ที่เราอยากจะจัดตารางในการเล่น แต่ต้องมีวันให้กล้ามเนื้อได้พักบ้าง ไม่ใช่เล่นทุกวันเลยยังงั้นจะหนักกับร่างกายเกินแล้วเกิดความเครียดเป็น Overtrain
4. การคาร์ดิโอ สร้างความแข็งแรงของหัวใจ ยังเผาผลาญไขมันในร่างกายอีก เช่น การเดิน การวิ่ง การว่ายน้ำ เป็นต้น
ข้อนี้ถือว่าเป็นข้อที่ผมพลาดตั้งแต่เล่นเวทมาเป็นปีไม่เคยคาร์ดิโอเลย ทำให้ร่างกายไม่ฟิต ไขมันก็สะสม ผมแนะนำให้ทำคาร์ดิโอควบคู่กับการเวทไปเลยจะช่วยมากๆ ส่วนตารางก็แล้วแต่สะดวกในการจัด อย่างผมอาจจะตื่นมาวิ่งตอนเช้า บางคนสะดวกหลังเลิกงาน หรือหลังเล่นเวทอันนี้แล้วแต่สะดวกครับ ซึ่งต้องบอกว่าร่างกายแต่ละคนมีอัตราการเผาผลาญไม่เท่ากัน อย่างผมเผาผลาญไม่ค่อยดี กินนิดเดียวอ้วน บางคนกินเยอะแทบตายไม่อ้วน บางคนผอมมีกล้ามมาตั้งแต่แรก เล่นเวทหนัก กินหนักกล้ามขึ้นทรงสวยเลย มันอยู่ที่กรรมพันธุ์ร่างกายของแต่ละคนด้วยครับ เราต้องเข้าใจร่างกายตัวเองก่อน
5. เรื่องการศึกษาหาความรู้ เนื่องจากสมัยนี้มีข้อมูลตาม Internet ต่างๆ ให้ค้นหามากมาย แต่เรากลับเลือกถามคำถามที่บางคำถาม ใน Google ก็มี ผมอยากให้คนที่ตั้งใจอยากจะเปลี่ยนแปลงรูปร่างตัวเองลองหาข้อมูลพื้นฐานต่างๆดูด้วยตัวเอง แล้วลองปฏิบัติ บางคนก็หาข้อมูลอ่านซะเยอะ ไม่เคยลงมือทำซะที ยังงี้ก็ไม่ไปถึงไหนเหมือนกันครับ(เล่นเวทสายทฤษฎี) ยกตัวอย่างเช่น เวย์โปรตีน คำถามยอดฮิตว่า ไม่กินเวย์กล้ามใหญ่มั้ย ผมจะบอกว่าความจริงไม่เกี่ยวกับเวย์เลย อาหารหลักกกกกกก สำคัญที่สุด เวย์มันก็ค่อนข้างการตลาดนะครับ ถ้าถามเรื่องความสะดวกโอเคครับผมก็กิน คนเล่นใหม่ๆ บางทีไปยึดติดกับเวย์ แต่อาหารหลักกินเท่าขี้มด กล้ามมันก็ไม่โตให้หรอกครับ แล้วอยากจะเตือนไว้ว่า เล่นเวทไม่ต้องกลัวตัวใหญ่หรอกครับ กว่าเค้าจะตัวใหญ่กันต้องมีวินัย การกิน การซ้อม การพักผ่อนที่ดีมาก กล้ามคนเรามันโตช้ามากครับ ยิ่งถ้าผู้หญิงยิ่งไม่ต้องกลัวใหญ่เลย เราไม่ได้มีฮอโมนเหมือนเพศชาย
..อย่างที่ผมบอกไว้ตอนแรกว่าผมเป็นคนค่อนข้างเบื่อง่าย แต่กับการเวทผมรู้สึกยังหยุดมันไม่ได้ เพราะเรายังไปไม่ถึงเป้าหมายของเรา..
ผมตั้งเป้าหมายไว้ว่าอยากมีกล้ามท้องกับเค้าบ้าง แต่ก่อนตอนผอมเราก็มีพุง พอผมกำหนดเป้าหมาย ผมก็พยายามเดินตามเป้าหมายของเราให้ได้ไปในทุกๆวัน อาจจะตั้งเป็นระยะเวลาสั้นๆก่อนก็ได้ ว่าเป้าหมายเราเป็นยังไง คุมอาหารแบบไหน ออกกำลังกายแบบไหน สุดท้ายผมเชื่อว่าทุกคนที่มีเป้าหมาย และตั้งใจกับมันจริงๆ จะทำได้ทุกคนครับ