ปากพาจน...ต้นแบบ (โดย แฉทุกวัน ทันเกมหุ้น)

        ผู้บริหารบริษัทที่มีกระแสเงินสดเหลือเฟือในมือ มักจะติดนิสัยเสีย ไม่รู้จากไหนกันแน่ ด้วยการลงทุนเลอะเทอะ ในธุรกิจที่ไม่ถนัด แล้วอ้างเหตุผลว่า มันเป็นการขยายตัวในระนาบ เพื่อกระจายความเสี่ยง

         แต่ก็นั่นแหละ...สืบดูประวัติย้อนหลังดูกันเถอะ จะเห็นว่า ไอ้การทำธุรกิจที่ไม่ถนัดนั้น มันเหมือนกับการเป็นหมอผ่าตัดมือใหม่ เปิดตำราไป ผ่าตัดไป
         แถลงการณ์เรื่องการลงทุนล่าสุดของบริษัทพลังงานทางเลือกดาวรุ่ง บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น หรือ IFEC ที่นักลงทุนจำนวนไม่น้อยพากันเข้าไปติดหุ้นบนยอด...อุ๊ย...ขอโทษ...เข้าไปเวียนเทียนซื้อขายหุ้น จนเป็นหนึ่งในหุ้นพิมพ์นิยมของรายย่อยมานานหลายเดือน
         IFEC เพิ่งทุ่มเงินสด 2.5 พันล้านบาท ผ่านบริษัทลูกชื่อ ICAP เข้าซื้อกิจการโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ โดยใช้กระแสเงินสดของบริษัท คาดว่ากระบวนการซื้อกิจการดังกล่าวจะเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนธ.ค.นี้ วัตถุประสงค์เพื่อขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และศูนย์สุขภาพ
         เป็นการเลี้ยวข้อศอกแบบ90 องศากันเลยทีเดียวสำหรับหมอวิชัย ถาวรวัฒนยงศ์ ประธานกรรมการ และพวก ชนิดนักลงทุนพากันไปถึง "อึ้งกิมกี่" กันเป็นแถบ
         หักข้อศอกแบบนี้ แรงเทขายหุ้นของรายย่อยชนิดไม่มียั้ง ทำให้ราคาร่วงไปถึง 40 สตางค์ เหลือแค่ 7.90 บาท สวนทางกับบทวิเคราะห์ของหลายสำนักที่พากันออกมาประเมินว่า ราคาหุ้น IFEC ที่เหมาะสมต้องมากกว่า 14 บาท
        มุมมองของนักวิเคราะห์...ที่สวนทางกับนักลงทุนอย่างนี้ อย่าถามเลยว่าใครถูก... เอาเป็นแค่ว่านักลงทุนไม่ชอบก็แล้วกัน เพราะใช้เงินเยอะ
        ทำไมถึงใช้เงินเยอะขนาดนี้ คำอธิบายคือ การซื้อโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ (โรงแรมที่มีเจดีย์อยู่หน้าโรงแรมที่เคยอื้อฉาวเมื่อหลายปีก่อน เพราะคนท้องถิ่นเจียงใหม่บอกว่า "มันขึดมันจา" น่ะแหละ) เป็นการซื้อโรงแรมมา 1.5 พันล้านบาท และหนี้ของโรงแรมที่มีอยู่ประมาณ 1 พันล้านบาทด้วย ซึ่งจะทำให้ D/E ของบริษัทเพิ่มเป็น 1 เท่า จากเดิมที่ 0.4 เท่า หลังจากการซื้อเสร็จแล้ว แต่หนี้ดังกล่าว IFEC จะล้างหนี้ของโรงแรมให้หมด
         พูดง่ายๆ คือ ย้ายหนี้เดิมมาไว้ที่ IFEC แบกไว้เสียเอง แต่แบกไม่นานหรอกตามประสาคนหัวไว...เพราะหมอวิชัยบอกเองว่า จะดัดแปลงโรงแรมเอามาทำเมดิคัล สปา หรือศูนย์สุขภาพแบบครบวงจรในโรงแรมได้อีก เพิ่มมูลค่าสูงขึ้นเพราะกำลังฮิตสำหรับคนรวยที่เป็น สว. (สูงวัย)
         จะเรียกว่าขยายไลน์ธุรกิจก็ได้ จะเรียกว่ารับจ๊อบไซด์ไลน์ ก็ได้ เพราะมันปะปนกัน
         งานไซด์ไลน์ ก็เหมือนจอดรถชมดอกไม้ข้างทางชั่วคราว ก่อนจะเดินหน้าไปสู่จุดหมายเดิม...ไม่น่าเสียหายอะไร แม้จะลงทุนแพง
         พูดอย่างนี้เพราะว่า โรงแรมมีสินทรัพย์จำบังซ่อนอยู่นะสิ... ตาไวสุดยอด
         แลนด์แบงก์ข้างโรงแรม อยู่ระหว่างรอการพัฒนา 30 ไร่ ซึ่งบริษัทวางแผนจะพัฒนาเป็นโครงอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย โดยจะมีการร่วมทุนกับพันธมิตรที่เป็นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งได้มีการเจรจาอยู่ 2-3 รายคาดว่าจะข้อสรุปในปี 2559
         แต่งานนี้...นักวิเคราะห์มองลึกไปไกล บอกว่าได้โรงแรมมาแพงจริง แต่เจ้าของเดิม สุเชฏฐ์ สุวรรณมงคล ผู้ก่อตั้ง จะยังทำหน้าที่บริหารงานต่อภายหลังการขายหุ้นให้กับ ICAP ต่อ และสามารถสร้างกระแสเงินสดได้ทันที จากปัจจุบันที่อัตราการใช้ห้องพักที่ 60-70% นั้นเกินจุดคุ้มทุนแล้ว แต่ที่ผ่านมาขาดทุนในส่วนของภาระดอกเบี้ยจ่าย ...ถ้าลดตรงนี้ได้...หายห่วง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่