ก้าวที่กล้าของ "บิ๊กอ๊อด" ...แผนแม่บทพัฒนาฟุตบอลแห่งชาติระยะยาว 20 ปี (2560-2579)

สมาคมฯ จัดงานปฐมนิเทศสภาปฏิรูป เพื่อวางแผนแม่บทพัฒนาฟุตบอลแห่งชาติระยะยาว 20 ปี
16 ม.ค. 2017 12:57:00



สมาคมฯ จัดงานปฐมนิเทศสภาปฏิรูป เพื่อวางแผนแม่บทพัฒนาฟุตบอลแห่งชาติระยะยาว 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) ณ สโมสรตำรวจ


วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 10.00 น. ณ ห้องบุญยะจินดา 2 สโมสรตำรวจ วิภาวดี สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดงานปฐมนิเทศสภาปฏิรูป เพื่อวางแผนแม่บทพัฒนาฟุตบอลแห่งชาติ ระยะยาว 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579)

ภายในงานประกอบไปด้วย พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานในการประชุม พร้อมด้วย คุณ พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศและโฆษกสมาคมฯ, มร. มิเกล ฟาร์เรรอนส์ ตัวแทนจากบริษัท Ekkono Soccer Service และ มร. เบนจามิน ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายคลับ ไลเซนซิง สมาคมฯ และ รองประธานฝ่ายบริหารบริษัทไทยลีก จำกัด เป็นวิทยากร ให้ความรู้แก่ผู้มาร่วมงานทั้งหมดประมาณ 150 คน อันประกอบด้วย อุปนายกสมาคมฯ ทุกฝ่าย, สภากรรมการ, ตัวแทนจากกระทรวงต่างๆ, ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์, ตัวแทนจากมหาวิทยาลัยและโรงเรียน, หัวหน้าโค้ชและผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยทุกชุดทุกประเภท, ตัวแทนจากกลุ่มแฟนคลับ, นักวิชาการ, ตัวแทนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย, กรมพลศึกษา, ตัวแทนจากสโมสร และ สื่อมวลชนร่วมรับฟัง


ภายในพิธี พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวว่า "ตั้งแต่ผมเข้ามารับตำแหน่งนายกสมาคมฯ  ผมยอมรับว่า  ผมไม่ใช่คนวงการฟุตบอล มีความรู้เพียงอย่างเดียว  คือ  เตะบอลเป็น แต่การบริหารนั้น  ผมไม่คยคิดและไม่ได้เตรียมตัว นั่นเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก การทำหน้าที่ตรงนี้ไม่สามารถทำเล่นๆ หรือน้อยกว่าคนอื่นได้ เพราะมันไม่ใช่ตัวผมที่เสีย แต่จะเสียทั้งสถาบัน ผมต้องทำให้ดีที่สุด ผมพยายามเรียนรู้ให้เร็วและรู้ให้จริง และผมก็ได้รู้ว่าเราต้องมีรูปแบบที่ชัดเจน หลายปีที่ผ่านมาฟุตบอลมีการพัฒนาตลอด  แต่ไม่สามารถบอกกล่าวต่อ ๆ ไปให้เข้าใจ"

"ตอนผมเข้ามา  เราไม่มีแผน ไม่มีแนวทาง แต่โชคดีที่มีคนบอกแนวทาง เรามีทีมงานที่ดีที่ตั้งใจ  และเอาใจใส่เพื่อบรรลุเป้าหมาย แต่เรายังไม่มีแนวทาง  เพราะฉะนั้นเราต้องทำให้มันมีขึ้น นั่นคือ เหตุผลที่เราต้องจัดงานวันนี้ขึ้นมา  เพื่อให้ทุกท่านที่มีประสบการณ์ระดมความรู้ สร้างแผน สร้างนโยบายร่วมกัน สิ่งที่จะเกิดขึ้นไม่ใช่ผลงานของใครคนใดคนหนึ่ง เพราะทีมชาติไทยหรือฟุตบอลไทย  ไม่มีใคร? คนใดคนหนึ่งเป็นเจ้าของ แต่เราเป็นเจ้าของร่วมกัน เราทำเพื่อความสุขของทุกคน เพราะฟุตบอล คือ กีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะฉะนั้น  เราจึงต้องระดมความคิด ถ้าคิดกันแค่คนกลุ่มเล็ก ๆ มันก็จะไม่ได้รับการยอมรับ ตัวผมไม่ได้ดำรงตำแหน่งนี้ไปตลอด  แต่ผมมีบทเรียนตอนที่ผมเข้ามา ผมไม่รู้ทางเลย ผมต้องการสร้างเพื่อให้คนที่จะมาทำงานต่อจากผมมีแผน วันนี้ คือ การปฐมนิเทศ  เพื่อบอกทุกท่านว่า เราทำอะไร?  อยากให้ท่านทำอะไร? เพื่อให้ทุกท่านรับทราบและไปทำการบ้านก่อน  จะมารวมความคิด"

"ขั้นตอนในการร่างแผน หลายคนอาจจะบอกว่า  มันล่าช้า เพราะเราต้องทำเป็นขั้นตอน ขั้นแรก เราต้องประกาศเชิญชวน ต่อมาเราก็จะช่วยกันคิด ช่วยกันเขียนแผนและมาคุยกัน โดยมีผู้ชี้นำ"

"ที่ผ่านมาตลอดการทำงาน เราพัฒนาทุกภาคส่วนไปพร้อม ๆ กันเสมอ เพราะเราไม่สามารถพัฒนาแค่ภาคใด ภาคหนึ่ง นี่คือสิ่งที่ผมต้องการ แผนที่จะเกิดขึ้น ก็จะมีทั้งแผนระยะสั้น กลาง และ ยาว ที่ผ่านมาเราพัฒนามาทั้งถูกและผิด ปีไหนโชคดีมีนักกีฬาเก่งผลงานก็ดี แต่เมื่อเราไม่มีผลงาน  เราก็ตก เราไม่มีการเตรียมความพร้อมหานักกีฬารุ่นใหม่มาทดแทนรุ่นเก่า ๆ  สิ่งหนึ่งที่ต้องขอบคุณคือ  บรรดาสโมสรที่สร้างนักกีฬาขึ้นมา ถ้าไม่มีสโมสร ทีมชาติก็จะไม่แข็งแกร่ง"

"สมาคมฯ  ก่อตั้งมา 101 ปี แล้ว ปีที่ผ่านมาคือ  ปีซ่อมแซม ส่วนปีนี้ คือ ปีของการพัฒนา ที่ผ่านมา  ผลงานเราขึ้นๆ ลงๆ ตลอด ทุกคนต่างมีความฝันที่จะได้เห็นทีมชาติไทยไปฟุตบอลโลก   แต่วันนี้เรายังไม่เห็นเพราะเราไม่มีการบริหารที่เป็นรูปธรรม เหมือนกับประเทศที่ประสบความสำเร็จ มันก็เหมือนการข้ามแม่น้ำ แต่เราไม่มีอุปกรณ์จนเราจมน้ำไปหลายครั้ง แผนนี้คือเครื่องมือที่จะช่วยในการผ่านแม่น้ำเส้นนี้ไป และเราต้องการผ่านอย่างยั่งยืน"

"สิ่งต่อมานอกจากแผนไม่มีการทำงาน  เรายังคงทำแบบเดิม ๆ ไม่มีสิ่งแปลกใหม่ มีแค่นี้ก็ทำแค่นี้ เราภูมิใจกับการเป็นแชมป์อาเซียน ผมก็ภูมิใจ แต่ถ้าได้แชมป์ระดับทวีป  มันก็น่าจะภูมิใจมากกว่านี้ ผมไม่อยากภูมิใจแค่นี้ เราอยากไปอยู่ในจุดที่สูงกว่า และมองลงมาว่าถ้วยอาเซียนนั้น  แค่ผลพลอยได้ ผมไม่อยากให้การคว้าแชมป์อาเซียนเป็นความฝันของคนไทย ผมอยากให้เรามองไปในจุดที่ไกลกว่า"


"อีกสิ่งคือเราต้องแบ่งหน้าที่ให้ชัดเจน หน้าที่ของสมาคมคือ  อำนวยความสะดวกทั้งการเดินทาง การกิน การอยู่ให้แก่นักกีฬา ไม่ใช่การทำผลงานให้ดี ถ้าหากนักกีฬาไม่ได้รับความสะดวกสบาย  นั่นคือ ความผิดของสมาคม วันนี้เราหยุดไม่ได้แม่แต่วันเดียว ถ้าเราหยุดก็เหมือนรอให้ประเทศเพื่อนบ้านมาแซงเรา ทุกชาติต่างมีเป้าหมายที่จะล้มเรา เพราะฉะนั้นเราต้องมองหาสิ่งแปลกใหม่"

"Come Together คือ  การไปถึงจุดหมายด้วยกัน ไม่ใช่แค่ใคร?  คนใดคนหนึ่ง เพราะการไปด้วยกันคือ จุดเริ่มต้น  และต่อไปคือ การพัฒนาเพื่อรักษามาตรฐาน  และสุดท้าย  ก็คือ  ความสามัคคีนั่นคือ  ความสำเร็จ และหวังว่าเสียงนี้จะสะท้อนไปถึงรัฐบาล วันนี้ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่ทุกภาคส่วนให้ความสนใจ อย่างที่บอกว่าสมาคมฯ  โดยลำพังคงไม่สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ ถ้าปราศจากการช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน"


ด้านคุณ พาทิศ ศุภะพงษ์ กล่าวว่า "วันนี้ถือเป็นเริ่มต้น เป็นวันประวัติศาสตร์  ที่จะมีสภาปฏิรูปเป็นครั้งแรก ที่จะมาเขียนแผนจากความรู้ของทุกคน ผมขอเป็นตัวแทนของสมาคมฯ ที่จะมาแบ่งปันความรู้ว่า  เรากำลังทำอะไรอยู่? ทำอะไรบ้าง?  "

"ตอนนี้...เราเข้ามาทำงาน 11 เดือน ต้องยอมรับว่า  เรามีทรัพยากรน้อยมาก ทั้งคน, ทักษะ, ความรู้, เงิน, เทคโนโลยี และสิ่งอำนวยความสะดวก เรามีน้อยมาก  ถ้าเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว เริ่มจากเรื่องของคน เราต้องมีทั้งโค้ชมากกว่านี้ รวมถึงแมวมองที่จะมองหานิวธีรศิลป์ แดงดา รวมถึง แพทย์, ผู้ตัดสิน, ผู้บริหาร, เจ้าหน้าที่ รวมถึงสื่อมวลชนและแฟนบอล ซึ่งแฟนบอล  ก็ถือเป็นส่วนสำคัญ เพราะหากไม่มี  ก็จะไม่มีการสนับสนุน ไม่มีเงิน"

"ต่อมาคือ ทักษะ  เราต้องมีเยาวชนที่ดีขึ้น มีมากขึ้น เล่นในสไตล์เดียวกัน  นั่นก็คือ --ไทยแลนด์เวย์-- เหมือนอย่างญี่ปุ่นที่มีเวย์ของเขา แผนของเราคือ  การสร้าง U12 และ U14 ในปีนี้ เพื่อเป็นกำลังหลักในฟุตบอลโลก 2026 ซึ่งวิทยา เลาหกุล  ได้กล่าวว่า หัวใจของไทยแลนด์ เวย์ คือ ความแข็งแรง, แข็งแกร่ง, รวดเร็ว และดุดัน ต่อมาคือโค้ช เรามีคอร์สมากมาย และล่าสุดก็ได้จัดอบรมคอร์สโปร ไลเซนส์ครั้งแรก เป้าหมายเรา คือ 3  ปีต้องมีโค้ชโปร ไลเซนส์ 72 คน โค้ชเอไลเซนส์อีก 432 คน เรื่องการเงิน  เราก็มีบริษัท แพลนบีที่คอยทำหน้าที่จัดการ"

"อีกเรื่องก็คือ ไอทีที่เราต้องมีการถ่ายทอดสดจากทั่วประเทศ เพราะเราคงไม่สามารถส่งแมวมองไปทุกสนามได้ หรือสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งจุดนี้คือจุดที่เราอ่อนที่สุด เพราะเรามีศูนย์ฝึกแค่ที่เดียว ถ้าหลายทีมเก็บตัวพร้อมกันก็ไม่เพียงพอ ขณะที่ที่ทำการสมาคมฯ เราก็ดำเนินการกันอยู่  และน่าจะเสร็จในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์"

"สิ่งต่อมาที่ต้องพัฒนา คือ เรื่องของทีมชาติที่เราต้องเลือกทัวร์นาเมนต์ที่จะส่งเสริมการพัฒนา และเรื่องลีก เราก็ได้มีการวางโรดแมปแบบใหม่ การจัดการต้องมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ให้ทันสมัย อย่างเช่น  การทำอาเซียนโควต้า เพื่อเป็นศูนย์กลางของอาเซียน  และมอบเงินให้กับสโมสรเพื่อไปพัฒนาสนาม เพื่อในอนาคตประเทศไทยจะได้มีสนามที่ดีหลายสนาม"

"ส่วนทีมชาติเยาวชนที่ผ่านมา  เราเข้าร่วมในระดับทวีปมาได้ตลอด  แต่ยังไม่สามารถไประดับโลกได้ ซึ่งเราต้องไปให้ได้ เช่นเดียวกับฟุตซอลหรือฟุตบอลชายหาด และพอเราไปได้ เราก็ต้องรักษามาตรฐานนั่นคือ สาเหตุสำคัญที่ต้องทำแผนขึ้นมา เมื่อเราชนะเราชนะด้วยกัน เมื่อเราแพ้เราก็แพ้ด้วยกัน สมาคมฯเพียงอย่างเดียวแบกความฝันคนไทยทั้งประเทศไม่ไหว เราจึงต้องเชิญทุกท่านเข้ามาวางแผนแม่บท 2560- 2579 ทุกท่านเปรียบเหมือน 11 ตัวจริงในสนาม เราต้องช่วยกันทำงาน เราต้องช่วยกันและจะมีคนเก็บข้อมูลเพื่อรวบรวมให้แผนออกมาเป็นเล่มเดียว"

แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 39
หัวใจขอเป็นกำลังใจให้คนทำงานค่ะ!!! su su!!หัวใจ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ด้าน มิเกล ฟาร์เรโร ตัวแทนจาก บริษัท เอคโคโน กล่าวว่า  "แผนของเรา  ก่อตั้งมา 50 ปี แล้ว โดยบริษัทของเรา ก่อตั้งที่บาร์เซโลนา และได้ทำงานมากมายทั้งในเอเชีย ยุโรป และ สหรัฐอเมริกา จุดเด่นของเอคโคโนคือ  การสร้างผู้เล่นเยาวชนรากหญ้า  จนมาเป็นมืออาชีพ และการให้ความรู้แก่ผู้ฝึกสอนทั้งในระดับโรงเรียน และ ระดับมืออาชีพ และล่าสุดคือ การช่วยสมาคมฟุตบอลประเทศต่าง ๆ ที่จะวางแผนในเรื่องของเทคนิค"

"เราไม่ใช่เอเยนต์แค่ส่งโค้ชหรือผู้เล่น แต่เน้นที่การพัฒนาผู้เล่นและโค้ช ว่าจุดเด่นและปัญหาคืออะไร เราจะลงรายละเอียดทั้งหมด หัวใจของเราคือ ---การพัฒนา--- เราภูมิใจมากในการพัฒนาผู้เล่น  เราพัฒนามาแล้วหลายคนจนมีชื่อเสียง และหลายคนก็บอกว่า  ได้รับการพัฒนาจากรูปแบบการฝึกการสอนจากเอคโคโน โดยมีนักเตะอย่าง เชสก์ ฟาเบรกาส, ฆอร์ดี อัลบา และ การ์เลส ปูโยล"

"หรือในระดับสโมสร  และสมาคมฯที่เราได้ทำงานด้วย ปัจจุบันก็คือ  ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เราทำงานด้วยมา 1 ปี ครึ่ง ช่วงแรก เปแอสเชลงทุนกับทีมชุดใหญ่ตลอด จนมาปีที่เอคโคโนเข้ามา เจ้าของทีมต้องการทำให้ยั่งยืน เอคโคโนก็ช่วยพัฒนาของเยาวชนของเปแอสเช"

"หน่วยงานที่เราร่วมงานมีทั้งหมด 3 แบบ อย่างแรก ก็คือสมาคมฯ  ที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว  ไม่ต้องการความช่วยเหลืออะไรเลย อย่างที่สอง ที่พบคือ เปลี่ยนแผนได้ตลอดเวลา ใครเก่งก็ลอกเลียนแบบ อย่างสเปนเป็นแชมป์ก็เลียนแบบ ก็เป็นอีกแบบ ส่วนใหญ่ คือ สมาคมที่เงินมาก และพร้อมจะเปลี่ยนแผนตลอดเวลา ที่ผมอยากเข้ามาร่วมงานกับสมาคมฯของไทย เพราะสมาคมฯไทยเป็นสมาคมแบบสุดท้ายที่ เปิดกว้างมีความตั้งใจ กำหนดระยะเวลา เปิดวิสัยทัศน์ สมาคมฯไม่ได้ปิดกั้น สมาคมฯกับบริษัท จะต้องผสมผสานกัน"

"เรื่องต่อมาก็คือ การพัฒนาทีมชาติไทย หลายครั้ง เรามองที่วินัย การใส่ใจในสนาม แต่เอคโคโน อยากให้ทุกคนเชื่อก่อนว่าแผน 20 ปี มีอยู่จริงและทำได้จริง ถ้าไม่มีความเชื่อก็ไปต่อไปไม่ได้ ขั้นตอนต่อมา ก็คือ นักฟุตบอลไทยเป็นอย่างไร?  ก่อนจะสร้างคุณค่าและค่านิยมขึ้น  และมาดูเรื่องกฏและดูผลในสนาม นี่ คือ แผนของเอคโคโน อีกอย่างที่สำคัญก็คือ  ขั้นตอนหรือแบบแผน นักกีฬาไทยในช่วง 10-20 ปี ต้องเข้าใจ  และอยู่ในตัวของเขา"

"เราต้องคิดค้นรูปแบบของตัวเอง เราไม่สามารถลอกเลียนแบบใครได้ สรีระ การกิน วัฒนธรรมของไทย เราต้องคิดเอง นักกีฬาจากสโมสรหรือโรงเรียนว่า  แผนของนักฟุตบอลไทย คือ แบบนี้ ส่วนสุดท้าย ก็คือ รูปแบบนักกีฬาทีมชาติไทย คือ ทรัพยากร อย่างแรก  คือไทยไม่มีเลย ทั้งศูนย์ฝึก แต่สิ่งที่น่าสนใจ คือ เรามีโค้ช มีคน มีผู้เล่น เราสามารถสร้างได้ ส่วนสถานที่อำนวยความสะดวกต่างๆ เราสามารถสร้างขึ้นได้ เราไม่ได้ต้องการให้สมาคมฯ มีทุกอย่าง  แต่เราต้องสร้างไปด้วยกัน"


ด้าน เบนจามิน ตัน กล่าวว่า "จุดแรกของสมาคม  เราต้องโดดเด่นในเอเชียและระดับโลก ภารกิจหลัก คือ การที่ทีมชาติไทยสามารถไปแข่งและโดดเด่นกว่าเดิม ต่อมาคือการพัฒนานักฟุตบอล และ ในระดับรากหญ้าสู่ในระดับที่สมาคมฯ ตั้งเป้าไว้ ในปี 2017-2020 ฟุตบอลทีมชาติไทย ต้องโดดเด่นในระดับเอเชียปี 2020 ต้องโดดเด่นในระดับโลก"

"ทางสมาคมฯในปัจจุบันยังขาดพื้นฐานเรื่องอคาเดมี,ศูนย์ฝึก, งบประมาณที่ต้องรอจากหน่วยงาน  เพื่อมาพัฒนาฟุตบอลไทย ฟีฟ่าและเอเอฟซีกำหนดให้สมาคมฯ ให้มีงบประมาณที่ชัดเจน การจัดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวก, สาธารณูปโภค, ทรัพยากร, ภาพลักษณ์ขององค์การให้ชัดเจน  และในอนาคตศูนย์ฝึกฟุตบอลของไทย จะเป็นศูนย์รวม  และเปิดโอกาสให้ทีมชาติไทยทุกชุด  แม้กระทั่งสโมสรได้มีส่วนร่วมในการใช้สนามเพื่อพัฒนาเยาวชนและจะมีสนามแข่งขันความจุ 10,000-20,000 ที่นั่งในอนาคต"


เครดิตข่าว ขอบคุณครับ : http://fathailand.org/news/110



90% "สมยศ" เผยจ่อเซ็น “Ekkono” ดูแลช้างศึกชุดเยาวชน
https://ppantip.com/topic/36017682
ความคิดเห็นที่ 3
ทำงานเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน แต่ยังมีพวกกะลาตามด่าได้ตลอด กรุละทึ่งพวกมันจิงๆ
ความคิดเห็นที่ 19
ขั้นตอนชัดเจนและเป็นไปได้ พูดอะไรไว้ไม่กี่วันก็ทำเลย สู้ๆนะคะ รักพ่อค่ะ หัวใจ
ความคิดเห็นที่ 11
สมาคมยุคสมยศนี่เข้ามาเพื่อพัฒนาฟุตบอลไทยอย่างแท้จริง
เรียกได้ว่าเจาะเข้าถึงแก่นแท้ของการพัฒนาเลย ทั้งพัฒนาบุคลากร ทั้งพัฒนาเยาวชน

พอเรามีบุคลากรที่ดีกระจายไปทั้งประเทศ ทักษะของเยาวชนที่ได้จากทั้งประเทศมันก็สามารถพัฒนาขึ้นในระดับสูงพร้อมๆกัน
ช้างเผือกจากทุกซอกมุมในประเทศก็จะเริ่มปรากฏ และมาตรฐานของนักฟุตบอลรุ่นใหม่ก็จะมาช่วยยกระดับลีกขึ้นไปอีก

อีกทั้งยังจ้างบริษัทต่างชาติที่มีประสบการณ์มาคอยชี้นำแนวทางการสร้างโครงสร้างฟุตบอลในทัศนคติแบบฝรั่ง
ซึ่งแน่นอนว่าวิชาความรู้ที่ได้จากต้นตำรับมันย่อมดีที่สุดอยู่แล้ว


ฟุตบอลไทยกำลังเดินถูกทางจริงๆ
ความคิดเห็นที่ 6
อะไรแบบนี้มันควรเกิดขึ้นเป็น 10-20 ปีแล้ว
เอาวะเริ่มช้า แต่ก็ยังดีกว่ายังไม่เริ่ม
เชื่อว่ามันต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน go go Thailand
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่