นกแขกเต้าสองตัวพี่น้อง
ครั้งกาลก่อนนั้นมีภูเขาลูกหนึ่งอยู่คั่นกลางระหว่างที่อยู่ของ พระฤๅษีและโจรป่า บนเขานั้นมี
ต้นไม้ใหญ่ซึ่งเป็นที่อยู่อาตัยของนกแขกเต้าสองตัวพี่น้องที่พึ่งฟักตัวออกมาจากไข่ พ่อแม่ของ
นกแขกเต้า จะคอยบินหาอาหารมาให้ลูกๆ กิน จนกระทั่งปีกของลูกนกเริ่มจะมี ขนอ่อนๆ เกิดขึ้น
วันหนึ่งเกิดมีลมพายุพัดกระหนํ่ามาอย่างแรงทำให้ลูกนกแขก เต้าสองตัวพี่น้องหล่นจากรัง
แยกจากกันไปกันคนละทาง ตัวหนึ่งไป ตกที่อยู่ของพระฤๅษีส่วนอีกตัวไปตกอยู่ฝังโจร ตั้งแต่นั้น
มานกแขกเต้าทั้งสองตัวก็เติบโตในสถานที่ที่ต่างกัน
นกแขกเต้าที่อยู่กับพระ ฤๅษีนั้นถูกพระฤๅษีเลี้ยงมาอย่างนักปราชญ์ สอนความรู้ต่างๆ ให้
ส่วนนกแขกเต้าที่ถูกพัดไปตกที่ฝังโจรนั้นก็ถูกคั่งสอนในสิ่งที่ไม่ดี
หรือสอนไปในทางที่เป็นพาล
วันหนึ่งมีกษัตริย์แห่งเมืองคีรีเสด็จมาล่าสัตว์ในป่าครั้นเจอ ละมั่งตัวหนึ่งมีรูปร่างองอาจสวยงาม
จึงได้ติดตามไปแต่ก็ติดตามไม่ทัน พระองค์เสด็จไปตั้งที่ประทับที่ริมลำธารเพื่อจะติดตามละมั่งตัว
นั้นต่อไปในวันรุ่งขึ้น ตกกลางคืนนกแขกเต้าที่อยู่กับพวกโจรก็บินออกมาเที่ยวเล่น และพบกับ
กษัตริย์เมืองคีรี จึงรีบบินไปบอกเจ้านายของมันที่อยู่ใกล้ๆ กับที่พักของกษัตริย์คีรี เจ้านกแขก
เต้าพูดให้กับเจ้านายของ มันฟังว่า ฉันพบคนจำนวนหนึ่ง มีแก้วแหวนเงินทองและทรัพย์สิน ติด
ตัวมามากมาย พรุ่งนี้พวกเราไปจับชายคนนั้นมาฆ่าทิ้งเสีย และ นำแก้วแหวนเงินทองและ
ทรัพย์สินทั้งหมดมาเป็นของพวกเรา
ทหารรักษาความปลอดภัยได้ยินจึงนำความมาบอกกษัตริย์ พระองค์ ทราบเรื่องเริ่มรู้สึกกลัว
จึงสั่งให้ทหารเก็บข้าวของแล้วเดินทางออกไป จากป่าแห่งนี้โดยเร็ว
ครั้นเดินทางไปต่อไปถึงที่พักของฤๅษีก็ได้พบนกแขกเต้าตัว หนึ่งร้องทักว่าท่านผู้เจริญ
ทั้งหลายเมื่อท่านเดินทางมาถึงนี่แล้วขอ เชิญพวกท่านโปรดพักผ่อนอยู่ที่อาศรมแห่งนี้ก่อนเถอะ
เมื่อท่านทั้ง หลายหายเหนื่อยแล้วค่อยเดินทางไปต่อ เมื่อกษัตริย์แห่งเมืองคีรีได้ ฟังนกแขกเต้า
พูดเช่นนี้ก็เล่าถึงนกแขกเต้าตัวหนึ่งที่อาตัยอยู่กับพวก โจรว่านกแขกเต้าตัวนี้มีจิตใจที่เหี้ยมโหดนัก
นกแขกเต้าที่อยู่กับ พระฤๅษีก็พูดขึ้นว่า
"อันที่จริงแล้วนกแขกเต้าที่อยู่กับพวกโจรป่านั้นคือพี่น้องของ ตัวฉันเอง เราทั้งคู่ได้ถูกพายุ
พัดกระหนํ่าแยกเราทั้งสองออกจากกัน ฉันมาตกอยู่ที่อาศรมพระฤๅษีแห่งนี้ ส่วนอีกต้วก็ไปตก
อยู่ที่พักของโจร
นกแขกเต้าพูดต่อ
“นกตัวนั้นไม่ใช่คนพาลโดยกำเนิด หากเกิดจากการอยู่กับคน ที่มีจิตใจเหี้ยมโหดต่าง
หากเล่าที่คอยสอนแต่ในเรื่องที่ไม่ดีให้ ส่วนตัว ฉันนั้นได้ตกมาอยู่ที่อาศรมของพระฤๅษี พระฤๅษี
จึงสอนแต่เรื่องที่ อยู่ในทางคีลทางธรรมให้ ก็อย่างที่มีคนพูดว่า "คบคนพาล พาลพา ไปหาผิด
คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล”
เมื่อกษัตริยได้ฟ้งนกแขกเต้าพูดเช่นนี้ก็รู้สึกชอบใจในการพูดจา ของนกแขกเต้า จึงได้เชิญ
พระฤๅษีไปอยู่ที่บ้านเมืองคีรี แต่พระฤๅษี ก็ตอบปฏิเสธไปว่าเรานั้นละทิ้งซึ่งกิเลสแล้ว เราชินกับ
การที่อยู่ในกลางป่าเขา เมื่อกษัตริย์คีรีได้ฟังดังนั้นก็เข้าใจและขอลากลับบ้าน เมืองของตน
คนเราจะเอาดีได้สิ่งแวดล้อมมีผลต่อการตัดสินเส้นทางเดินของชีวิต อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้นึกถึง
เคสชายหนุ่มสองคน มะปิน และ ตั้มมือมีดโหด
สองคนนี้แม้จะไม่ใช่พี่น้องกัน แต่คนหนึ่งเลือกทางสว่าง ทำทาน รักษาศีล ศึกษาธรรมะ
ตั้งใจเรียน จนสอบได้คณะที่หลายคนไฝ่ฝัน
แต่อีกคนเลือกเดินเส้นทางตรงกันข้าม ติดคุกตั้งแต่อายุ 13 ปี เข้าออกคุกหลายหน จน
ปัจจุบัน ชะตาพาหนุ่มสองคนมาเจอะกัน จนเป็นเหตุฆ่าชิงทรัพย์สะเทือนขวัญกันไปทั้งเมือง
หันมามองดีๆ ชีวิตของชายหนุ่มทั้งสองคน ต้องถึงความล้มเหลวและพินาศ เพราะไอโฟน
เพียงเครื่องเดียว
สิ่งแวดล้อมสามารถหล่อหลอมคนให้เป็นคนดีและไม่ดีได้ เราควรจะสร้างสังคมดีๆให้
กับคนรุ่นต่อไปในรุ่นลูกหลานเราอย่างไร....?
นกแขกเต้าสองพี่น้อง เทียบกับเคส มะปิน และ ตั้มมือมีดโหด สังคมหรือเราทำให้เขาเป็นอย่างนั้น?
ครั้งกาลก่อนนั้นมีภูเขาลูกหนึ่งอยู่คั่นกลางระหว่างที่อยู่ของ พระฤๅษีและโจรป่า บนเขานั้นมี
ต้นไม้ใหญ่ซึ่งเป็นที่อยู่อาตัยของนกแขกเต้าสองตัวพี่น้องที่พึ่งฟักตัวออกมาจากไข่ พ่อแม่ของ
นกแขกเต้า จะคอยบินหาอาหารมาให้ลูกๆ กิน จนกระทั่งปีกของลูกนกเริ่มจะมี ขนอ่อนๆ เกิดขึ้น
วันหนึ่งเกิดมีลมพายุพัดกระหนํ่ามาอย่างแรงทำให้ลูกนกแขก เต้าสองตัวพี่น้องหล่นจากรัง
แยกจากกันไปกันคนละทาง ตัวหนึ่งไป ตกที่อยู่ของพระฤๅษีส่วนอีกตัวไปตกอยู่ฝังโจร ตั้งแต่นั้น
มานกแขกเต้าทั้งสองตัวก็เติบโตในสถานที่ที่ต่างกัน
นกแขกเต้าที่อยู่กับพระ ฤๅษีนั้นถูกพระฤๅษีเลี้ยงมาอย่างนักปราชญ์ สอนความรู้ต่างๆ ให้
ส่วนนกแขกเต้าที่ถูกพัดไปตกที่ฝังโจรนั้นก็ถูกคั่งสอนในสิ่งที่ไม่ดี
หรือสอนไปในทางที่เป็นพาล
วันหนึ่งมีกษัตริย์แห่งเมืองคีรีเสด็จมาล่าสัตว์ในป่าครั้นเจอ ละมั่งตัวหนึ่งมีรูปร่างองอาจสวยงาม
จึงได้ติดตามไปแต่ก็ติดตามไม่ทัน พระองค์เสด็จไปตั้งที่ประทับที่ริมลำธารเพื่อจะติดตามละมั่งตัว
นั้นต่อไปในวันรุ่งขึ้น ตกกลางคืนนกแขกเต้าที่อยู่กับพวกโจรก็บินออกมาเที่ยวเล่น และพบกับ
กษัตริย์เมืองคีรี จึงรีบบินไปบอกเจ้านายของมันที่อยู่ใกล้ๆ กับที่พักของกษัตริย์คีรี เจ้านกแขก
เต้าพูดให้กับเจ้านายของ มันฟังว่า ฉันพบคนจำนวนหนึ่ง มีแก้วแหวนเงินทองและทรัพย์สิน ติด
ตัวมามากมาย พรุ่งนี้พวกเราไปจับชายคนนั้นมาฆ่าทิ้งเสีย และ นำแก้วแหวนเงินทองและ
ทรัพย์สินทั้งหมดมาเป็นของพวกเรา
ทหารรักษาความปลอดภัยได้ยินจึงนำความมาบอกกษัตริย์ พระองค์ ทราบเรื่องเริ่มรู้สึกกลัว
จึงสั่งให้ทหารเก็บข้าวของแล้วเดินทางออกไป จากป่าแห่งนี้โดยเร็ว
ครั้นเดินทางไปต่อไปถึงที่พักของฤๅษีก็ได้พบนกแขกเต้าตัว หนึ่งร้องทักว่าท่านผู้เจริญ
ทั้งหลายเมื่อท่านเดินทางมาถึงนี่แล้วขอ เชิญพวกท่านโปรดพักผ่อนอยู่ที่อาศรมแห่งนี้ก่อนเถอะ
เมื่อท่านทั้ง หลายหายเหนื่อยแล้วค่อยเดินทางไปต่อ เมื่อกษัตริย์แห่งเมืองคีรีได้ ฟังนกแขกเต้า
พูดเช่นนี้ก็เล่าถึงนกแขกเต้าตัวหนึ่งที่อาตัยอยู่กับพวก โจรว่านกแขกเต้าตัวนี้มีจิตใจที่เหี้ยมโหดนัก
นกแขกเต้าที่อยู่กับ พระฤๅษีก็พูดขึ้นว่า
"อันที่จริงแล้วนกแขกเต้าที่อยู่กับพวกโจรป่านั้นคือพี่น้องของ ตัวฉันเอง เราทั้งคู่ได้ถูกพายุ
พัดกระหนํ่าแยกเราทั้งสองออกจากกัน ฉันมาตกอยู่ที่อาศรมพระฤๅษีแห่งนี้ ส่วนอีกต้วก็ไปตก
อยู่ที่พักของโจร
นกแขกเต้าพูดต่อ
“นกตัวนั้นไม่ใช่คนพาลโดยกำเนิด หากเกิดจากการอยู่กับคน ที่มีจิตใจเหี้ยมโหดต่าง
หากเล่าที่คอยสอนแต่ในเรื่องที่ไม่ดีให้ ส่วนตัว ฉันนั้นได้ตกมาอยู่ที่อาศรมของพระฤๅษี พระฤๅษี
จึงสอนแต่เรื่องที่ อยู่ในทางคีลทางธรรมให้ ก็อย่างที่มีคนพูดว่า "คบคนพาล พาลพา ไปหาผิด
คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล”
เมื่อกษัตริยได้ฟ้งนกแขกเต้าพูดเช่นนี้ก็รู้สึกชอบใจในการพูดจา ของนกแขกเต้า จึงได้เชิญ
พระฤๅษีไปอยู่ที่บ้านเมืองคีรี แต่พระฤๅษี ก็ตอบปฏิเสธไปว่าเรานั้นละทิ้งซึ่งกิเลสแล้ว เราชินกับ
การที่อยู่ในกลางป่าเขา เมื่อกษัตริย์คีรีได้ฟังดังนั้นก็เข้าใจและขอลากลับบ้าน เมืองของตน
คนเราจะเอาดีได้สิ่งแวดล้อมมีผลต่อการตัดสินเส้นทางเดินของชีวิต อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้นึกถึง
เคสชายหนุ่มสองคน มะปิน และ ตั้มมือมีดโหด
สองคนนี้แม้จะไม่ใช่พี่น้องกัน แต่คนหนึ่งเลือกทางสว่าง ทำทาน รักษาศีล ศึกษาธรรมะ
ตั้งใจเรียน จนสอบได้คณะที่หลายคนไฝ่ฝัน
แต่อีกคนเลือกเดินเส้นทางตรงกันข้าม ติดคุกตั้งแต่อายุ 13 ปี เข้าออกคุกหลายหน จน
ปัจจุบัน ชะตาพาหนุ่มสองคนมาเจอะกัน จนเป็นเหตุฆ่าชิงทรัพย์สะเทือนขวัญกันไปทั้งเมือง
หันมามองดีๆ ชีวิตของชายหนุ่มทั้งสองคน ต้องถึงความล้มเหลวและพินาศ เพราะไอโฟน
เพียงเครื่องเดียว
สิ่งแวดล้อมสามารถหล่อหลอมคนให้เป็นคนดีและไม่ดีได้ เราควรจะสร้างสังคมดีๆให้
กับคนรุ่นต่อไปในรุ่นลูกหลานเราอย่างไร....?