ติวจัดหนัก: RESIDENT EVIL 5 ภาครวด ยินดีต้อนรับการกลับมาของอลิซ

มีสปอยล์บางๆครับ

RESIDENT EVIL(2002)
⭐⭐⭐ ปฐมบทแห่งผีชีวะที่ลงตัวที่สุดสนุกที่สุดและดูซ้ำได้บ่อยที่สุด
ปลายเดือนนี้ภาค 6 จะฉายในชื่อ FINAL CHAPTER สื่อว่านี่จะเป็นภาคสุดท้ายแล้วนะจ๊ะ ห้ามพลาดนะ แต่ผมว่าถ้ามันยังหากินอยู่กับอัมเบรลล่าเดี๋ยวก็มี resurrection, revive, bring back ออกมาจนได้แหละ แต่ไหนๆจะมีภาคใหม่ก็มาทบทวนกันหน่อยดีกว่า
ภาคแรกนี้สาเหตุที่มันถูกยกระดับให้เป็นหนังจากเกมส์เกรดดีก็เพราะว่ามันไม่บ้าบอคอแตกเหมือนภาคหลังๆ เริ่มต้นด้วยการผูกปมแบบ whodunit คือไอ้ตัวการมันใครวะ คนดูก็ค่อยๆปะติดปะต่อเรื่องราวไปพร้อมๆกับแฟลชแบ็คของอลิซ กว่าจะรู้ว่าใครเป็นใครก็ลากไปท้ายเรื่องโน่นเลย ต้องชมว่ามันเข้าท่ามากในฐานะหนังเขย่าขวัญ
การออกแบบฉากและคิวบู๊ก็ทำได้อย่างลงตัว บรรยากาศของรวงผึ้งหลอนอย่างได้ผล ยิ่งไอ้ด่านเลเซอร์นี่อย่างเฟี้ยวถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจว่ามันจะปล่อยดอกง่ายๆมาก่อนทำไม พี่ก็ซัดตาข่ายมาตั้งแต่แรกก็ได้ การโผล่ของซอมบี้ทำอะไรนักดูหนังในยุคหลัง THE WALKING DEAD ไม่ได้อยู่แล้ว แต่ละตัวถือว่ากากๆ บางตัวแต่งไม่เนียนด้วยซ้ำ ก็มัน 15 ปีมาแล้วอ่ะนะ
ชอบสุดๆคืออลิซ แบบมิลล่า โจโววิชในวัย 26 คือใสมาก ใสตั้งแต่ฉากแรกในห้องน้ำยันฉากท้าย ทรงผมเป๊ะ เดรสเฉียบ น่ารักในแบบที่หาไม่ได้ง่ายๆในยุคนั้น ไม่แปลกที่เธอจะเป็นเจ้าของบทนี้มาอย่างต่อเนื่องได้สบายๆในอีก 5 ภาคต่อมา
สรุปคือเป็นหนังแอ็คชั่นที่สนุกมากด้วยการใส่ความลับลวงพรางอย่างเข้าท่า และหนังทุน 33 ล้านเรื่องนี้ก็เก็บ 101 ล้านไปอย่างชิลๆ และแน่นอนมันต้องมีภาคต่อ


RESIDENT EVIL: APOCALYPSE (2004)
⭐1/2 งานภาคต่อที่ต่ำกว่าภาคแรกในทุกด้าน ไม่สนุกและประดักประเดิด เพียงแต่มีบางคาแรคเตอร์ที่พยุงหนังเอาไว้ได้ไม่งั้นหลับ
ต่อเนื่องจากภาคแรกแบบซีนต่อซีน อลิซตื่นขึ้นมาพับกบโลกภายนอกอัมเบรลล่าที่เชื้อซอมบี้แพร่ไปทุกมุมเมือง แนะนำตัวละครใหม่ขวัญใจเกมเมอร์ "จิล วาเลนไทน์" และตัวละครแวดล้อมอีกกลุ่มนึงที่ต้องมาร่วมลุยไปกับภารกิจช่วยหนูแองจี้แลกกับเฮลิคอปเตอร์ แถมด้วยบอสใหม่อย่างเนเมซิสที่ตุ้ยนุ้ยน่ารักพลังทำลายล้างสูงแต่แบกปืนกลมาถล่มชาวบ้านตาดำๆพี่ไม่ต้องกลายพันธุ์ก็ได้นะถ้าจะติดอาวุธซะขนาดนั้น
มิลล่าในบทอลิซ ภาคที่แล้วมีสกิลต่อสู้สูงกว่าชาวบ้านนิดหน่อย ภาคนี้มาเป็นซุปเปอร์ฮีโร่เลย ขาดแต่ยังบินไม่ได้ แล้วเก่งเว่อร์วังขี่ฮาร์เล่ย์ลากซอมบี้ลิ้นยาวไปยิงถังน้ำมันระเบิดได้ ง่อวววว โม้เย็บม้า ส่วนจิลนี่ถ้าไม่ได้สวยมาค้ำล่ะแย่แน่ เพราะบทเสร่อมาก พ่นแต่คำพูดเชยๆกับท่ายิงปืนเกร็งๆ ที่เหลือคนอื่นก็แค่เล่นรอซอมบี้มากัด
งานสร้างใหญ่โตขึ้นมากเพราะเล่นกันเป็นเมือง ภาพซอมบี้เกลื่อนเมืองกับหน่วยกู้ภัยยิงกันหูดับตับไหม้แต่ไม่สร้างอารมณ์อะไรให้ตุ่นเต้นซักนิด ความหลอนแบบภาคแรกไม่มีเหลือให้รู้สึก ทำให้ภาคนี้เป็นงานที่แห้งแล้งความสนุกและคุณค่าใดๆไปอย่างน่าเสียดาย แถมตอนจบนี่ไปไกลเลย พาอลิซออกทะเลไปกับความสามารถใหม่แบบที่เราเคยเหวอตอนออพติมัส ไพร์มบินได้ใน TF4
ลางของความบ้าบอปรากฎแล้วในภาคนี้ แต่เมื่อมันทำเงินถึง 124 ล้านจากทุน 45 ล้าน ภาคต่อจึงต้องมาแน่นอน


RESIDENT EVIL: EXTINCTION (2007)
⭐1/2 ระดับความสนุกไม่ต่างอะไรกับภาค 2 เลยคือเต็มไปด้วยความซ้ำซากย่ำรอยเดิม ปราศจากปริศนาใดๆไร้อารมณ์ไม่มีอะไรให้ลุ้น
หนังต่อเนื่องแบบห่างๆกับภาค 2 แสดงให้เห็นความล่มสลายของมวลมนุษยชาติแบบที่เราเคยเห็นใน MADMAX นั่นแหละ อลิซของเราจากที่ปูไว้ว่ามีพลังจิตในภาคที่แล้ว ภาคนี้ก็ไม่รีรอที่จะเอาสกิลนี้มาเล่น ถึงขั้นที่ว่าวาร์ปจิตไปเผาชิปควบคุมได้เลย นี่ยังไม่นับอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่างที่นางทำได้ เล่นเอาตัวละครอื่นๆกลายเป็นแค่ฝูงแกะที่นางต้อนให้พ้นฝูงหมาป่า ตัวละครที่น่าสนใจอีกตัวที่ผู้สร้างอาจจะอยากเอามาแทนจิลคือแคลร์ ความสวยสู้ได้แต่บทแบนๆเป็นแค่ผู้นำกลุ่มน้ำใจงาม งามแบบไม่น่ารอดมาได้ขนาดนี้ในยุคคนกินคน นอกนั้นก็ไม้ประดับเรื่อง มีไว้ให้อลิซทำซึ้งตอนมันโดนงับคอ ส่วนอัมเบรลล่าก็ตีสเกลแคบๆแต่ทะเยอทะยานด้านความเลวมากขึ้น บอสท้ายก็โผล่มาและจากไปแบบไม่มีอะไรน่าจดจำ
ข้อดีของภาคนี้คือความพยายามที่ได้ผลในการโยงบางมุมบางอย่างของภาคก่อนมาไว้ได้น่าสนใจ แต่ก็น้อยจนแทบสัมผัสไม่ได้ และการถ่ายภาพที่เคลียร์กว่าภาคก่อนมากๆ ฉากต่อสู้โคลสอัพน้อยนั่นทำให้เราได้ดูฉากแอ็คชั่นที่เคลียร์และสวยงามมากขึ้น
เป็นอะไรที่ง่วงและต้องใช้ความพยายามมากกว่าจะดูมันจบ ยังดีที่หนังสั้นแค่ชั่วโมงครึ่ง อันนี้คืออีกหนึ่งในข้อดี


RESIDENT EVIL: AFTERLIFE(2010)
⭐ ไม่รู้จะดูให้มันได้อะไร 555 เหตุผลเดียวที่ตามดูคือตามมันมาขนาดนี้แล้ว ดูซิมันจะบ้าบอคอแตกได้แค่ไหน
พอดูมา 4 ภาคเราก็เริ่มเห็นโครงสร้างเรื่องชัดเจน มันจะเริ่มด้วยการสะสางปมที่ทิ้งไว้ในภาคก่อน~เริ่มภารกิจใหม่~สร้างปมให้ภาคต่อ 2,3,4 เป็นแบบนี้ ภารกิจในภาคนี้คือตามหา"อคาเดีย" แหล่งปลอดภัยที่จับได้จากสัญญาณวิทยุ ทีนี้ก็รวมกลุ่มฝ่าซอมบี้ไปยังจุดหมาย นอกจากซอมบี้มันต้องมีตัวบอสจากอัมเบรลล่ามาเล่นด้วย ภาคนี้ใส่มาเยอะหน่อย ทั้งซอมบี้ปลาดาว, หมา2แฉก และยังมีซอมบี้เพชรฆาตค้อนยักษ์ นี่ยังไม่นับไอ้เวสเกอร์ที่เหมือนจะเทพมา 3 ภาคแต่ตายโง่ๆทุกภาค
บทมันก็วนๆอยู่แค่นี้แหละครับ พายเรือในอ่างไปทีละภาค ใส่โลเคชั่นใหม่ ใส่เงื่อนไขพลังของอลิซ ใส่ผู้ร่วมทีม และใส่บอสใหม่ๆมา มันน่าเสียดายมากนะที่หนังให้อะไรกับคนดูได้แค่นี้จริงๆ ความใหม่ของภาคนี้ที่ดูจะภูมิใจกันนักหนาคือ 3D แหม่จัดให้พวยพุ่งกันทะลุจอแบบหน้าด้านๆ หนังยาวชั่วโมงครึ่งพี่สโลว์พุ่งออกจอกันไปแล้วครึ่งชั่วโมง แล้วไอ้ฉากสโลว์นี่มีความเป็นแมทริกส์อย่างไม่อายฟ้าดิน ตั้งแต่เริ่มเรื่องที่บุกศูนย์อัมเบรลล่ากับทัพโคลนอลิซ วิ่งหลบเสา ตีลังกายิงปืนแบบเดียวกันเป๊ะ และอีกหลายๆฉากในเรื่อง จนฉากสุดท้ายที่ฉะกับเวสเกอร์
และแน่นอนว่าเอนด์เครดิตมันต้องทิ้งปมให้แฟนหนังเนื้อเต้นด้วยการเปิดตัวละครบางตัวทิ้งเชื้อไว้ในภาคต่อ เหมือนเดิมเป๊ะ
ภาคนี้มีทีมดาราค่อนข้างดึงดูดกว่านิดหน่อยเพราะดึงตัวละครเก่าหลายตัวกลับมาให้ว้าว และเซอร์วิสแฟนหนังสาวๆด้วยไมเคิล สกอร์ฟิลแถมนายแบบผิวดำสุดเท่ห์ แต่ทั้งนี้ก็ไม่มีใครเป็นที่จดจำได้เลย
แต่ก็นั่นแหละครับ หนังยังอุตส่าห์ทำกำไรดี ทุนสร้าง 60 เก็บเข้ากระเป๋าไป 296 ภาค 5 จะไปไหนเสีย แฟนหนังก็ดูไปบ่นไปแต่ก็ดูมันครบทุกภาคเหมือนเดิม


RESIDENT EVIL: RETRIBUTION (2012)
⭐ บทหนังยังจำเป็นอยู่มั้ยสำหรับแฟรนไชส์ผีชีวะ 1-4 ไล่มาและมาพีคสุดที่ 5 คือบทเบิทอะไรไม่สนใจแล้ว ขอให้มีโครงบางๆที่นำไปสู่ฉากแอ็คชั่นประดิษฐ์ก็เพียงพอที่จะหลอกสาวกเดนตายให้มาดูและเก็บกำไรกลับสตูดิโอก็พอ
ถือเป็นเรื่องน่าละอายกับสิ่งที่ PAUL WS ANDERSON กระทำตลอดมากับผีชีวะ 2-5 ทั้งในฐานะผู้กำกับ/เขียนบทและอำนวยการสร้าง เพราะยิ่งทำยิ่งเลอะเทอะพาคนดูออกทะเลกู่ไม่กลับ ในภาค 5 นี้เป็นแค่การวางปมบางๆไว้เดินจากจุดหนึ่งไปอีกจุด ระหว่างนั้นก็ใส่สถานการณ์/ปีศาจ/ตัวละครเก่าๆ หลอกคนดูว่าเป็นเซอร์วิสแฟนคลับ แต่เมื่อเราดูไปเรื่อยๆเราจะเห็นชัดว่าหนังมันก็หมุนอยู่แถวนั้นแหละ ไม่ได้ไปไหนเลยแค่เปลี่ยนวอลเปเปอร์ ภาคนี้เล่นเก๋ เอาเพื่อนเก่ามายำกันเละโดยบอกว่าทำได้ก็โคลนนิ่งเอาไง ซอมบี้ตัวเดิมๆถูกเอามาใส่อีกครั้งแต่ก็แค่เพิ่มปริมาณ
เอด้า หว่องมีดีแค่เสื้อผ้าหน้าผม(และนม) หลังจากนั้นก็เป็นแค่ตัวละครที่วิ่งไปมาหาประโยชน์ไม่เจอ ที่น่าจะปวดร้าวสุดคือการปรากฏตัวของลีออน พระเอกหน้าใสแห่งแฟรนไชส์เกมส์ที่พอแคสต์มาเป็นหนังแล้วเหมือนเอาลุงที่ไหนมาแสดง
น่าดีใจนะครับที่ภาคต่อมีชื่อว่า FINAL CHAPTER สิ้นสุดได้ก็ดีเพราะมันคงไม่มีอะไรไปมากกว่าสิ่งที่เราเจอแบบเดิมซ้ำซากวนๆไปมา อลิซมีพลัง อลิซหมดพลัง อลิซมีพลังอีกดีกว่า อะไรของมัน
ปล. ตอนจบของหนังแสดงให้เห็นภาพที่มั่นสุดท้ายของมนุษย์ แต่สิ่งที่บ้าบอมันอยู่ที่เราจะได้เห็นซอมบี้บินได้ครับ สิ้นเดือนนี้ได้เจอ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่