เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่
ก่อนอื่นขออธิบายนิดหน่อยว่า ผมอยู่ในท้องที่อำเภอหางดง แถบที่เป็นรอยต่อกับอำเภอเมือง เป็นขอบของอำเภอ
ดังนั้นจากบ้านผมไปสถานีตำรวจ ก็จะไกลซักหน่อย ต้องขับรถประมาณ 15 นาที
ตามปกติ บริเวณนี้จัดว่าเงียบ กลางคืนรถน้อย เสียงเครื่องบินก็ไม่ดัง
คืนวันเด็กที่ผ่านมา ผมกลับถึงบ้าน กินข้าวเสร็จก็นั่งทำงานนิดหน่อย แล้วก็เริ่มดูหนัง
พอเกือบ 3 ทุ่ม อยู่ดี ๆ ก็มีเสียงเบสเสียงกลองกระแทกกระทั้น ดังกระหึ่มมา
เป็นเพลงหมอลำบ้าง ลูกทุ่งบ้าง เสกโลโซบ้าง
ผมเห็นว่าใกล้เวลานอน ก็เลยโทรไป สภอ หางดง
ขอส่งสายตรวจช่วยดูว่ามีงานอะไร ช่วยเตือนเขาให้เบาเสียงหน่อย
ผมบอกบริเวณคร่าว ๆ ไป ว่าเสียงน่าจะมาจากแถวสี่แยกถนนไปสะเมิง
3 ทุ่มครึ่ง ผ่านไปครึ่งชั่วโมงกว่า เสียงก็ยังกระแทกกระทั้นรูหูเหมือนเดิม
ขนาดว่าผมปิดหน้าต่างทุกบาน เสียง "ตึก ๆ ๆ ๆ ๆ " ก็ยังดังในระดับที่นอนไม่ได้
ผมเลยโทรไปที่ สภอ อีกครั้ง เสียงตำรวจคนเดิมรับสาย ผมถามว่าเจอไหมครับว่างานอะไร
ตำรวจตอบว่า สายตรวจไม่เจอ ตรงนั้นไม่มีงาน แล้วก็บอกว่าแต่มีบางหมู่บ้านจัดงานวันเด็ก
"งานวันเด็กเวลานี้เหรอครับ"
"ครับ กลางวันเด็กไปเที่ยวที่อื่น บางหมู่บ้านก็เลยจัดกลางคืน"
ผมวางหูไปแบบงง ๆ แต่ก็คิดในใจว่า โอเค ถ้างานวันเด็กเดี๋ยวก็คงจะเลิก
4 ทุ่ม ผมดูหนังฆ่าเวลาไปเรื่อย ๆ รอให้เสียงหนวกหูเงียบไป แต่ก็ไม่เงียบ
ตอนนี้เริ่มคิดว่าจะขนที่นอนย้ายมานอนตรงไหนดี เพราะห้องนอนโดนเสียงเต็ม ๆ นอนไม่ได้แน่
ห้องครัว ห้องน้ำก็แคบไป คงต้องเป็นห้องรับแขกที่หนวกหูน้อยที่สุด แต่ก็ยังถือว่าหนวกหูอยู่
5 ทุ่ม หนังจบแล้ว แต่เสียงขยะยังลอยมาไม่หยุด
ไหน ๆ อยู่บ้านก็นอนไม่ได้ ผมเลยเตรียมขับรถออกไปดูว่ามันมาจากไหน คราวนี้จะได้แจ้งตำรวจได้ชัด ๆ
ก่อนออกไปก็เซิร์ชดู เรื่องกฎหมายที่เพิ่งเห็นไม่กี่วันก่อน (ประเด็นกินเหล้าเสียงดังในบ้านมีโทษปรับถึง 5,000 บาท)
ตามกฎหมายอาญามาตรา 397 "ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอาย
หรือเดือดร้อนรำคาญ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท"
ผมขับรถฟังเสียงไปเรื่อย ๆ จนถึงสี่แยกถนนสะเมิง (ห่างจากบ้านผม 3 กิโล) ก็ได้ยินเสียงดังขึ้น ๆ
ผมเลี้ยวตามเสียงไปอีกประมาณกิโลนึง ก็เจอที่มาอยู่แค่ริมถนนนั่นเอง
แปลกเหลือเกินที่ตำรวจหาไม่เจอ แต่ประชาชนธรรมดาหาเจอ
เป็นงานขึ้นบ้านใหม่ หรืออาจจะขึ้นร้านใหม่ ผมไม่แน่ใจเพราะเป็นตึกแถว
มีโต๊ะว่าง ๆ ตั้งอยู่ริมถนนหลายโต๊ะ (พอเห็นได้ในคลิป) แทบไม่เห็นคนมางาน
ตรงลานว่างข้างตึก มีเวที มองจากริมถนนเห็นนักร้อง แด๊นเซอร์
ผมมาวัดระยะทางใน google maps งานกับบ้านผมห่างกันประมาณ 4 กิโลเมตร
แปลว่าละแวกรอบ ๆ ทางทิศเหนือของงาน ที่งานนี้หันลำโพงใส่ ได้ยินเสียงนี้กันทั่วตำบล
ผมต้องขับรถเลยไป แล้วถึงค่อยจอดโทรไปหาตำรวจอีกครั้ง เพราะเสียงลำโพงดังมาก
ด้วยความโมโห คราวนี้ผมบอกตำรวจว่า นี่มันความผิดนะครับ ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญ กฎหมายอาญา มาตรา 397
ตำรวจที่รับสายบอก "ถ้าจะให้เอาผิด ต้องมีเจ้าทุกข์มาร้องเรียนที่สถานี" ไม่งั้นตำรวจก็แค่มาตักเตือน
ผมคิดในใจ เอาก็เอาวะ ไหน ๆ ก็ว่างอยู่แล้ว กลับบ้านไปก็คงไม่ได้นอนอยู่ดี
ผมเลยกลับรถมาฝั่งตรงข้ามงาน แล้วถ่ายรูป ถ่ายคลิป กะจะเอาไปให้ตำรวจดูเป็นหลักฐาน
(ไม่ได้ลงรถไปถ่ายใกล้ ๆ เพราะไม่อยากเสี่ยงมีเรื่องวิวาทกับเจ้าของงาน เสียงในคลิปดร็อปจากของจริงเยอะ แต่ถ้าใส่หูฟังก็จะได้ยินเสียงเบส/กลองกระแทกเป็นแบ็คกราวด์)
ประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง ผมไปถึงสถานีตำรวจ
บอกเจตนาชัดเจนว่าผมมาแจ้งความ เรื่องเสียงรบกวน สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ตามกฎหมายที่ผมทราบมา
ตำรวจที่รับแจ้ง (คนละคนกับที่รับโทรศัพท์) ยกนาฬิกาขึ้นดูแล้วก็บอกว่า "ก็ยังไม่ดึกเท่าไหร่นะ"
ผมฟังแล้วสะดุ้ง "5 ทุ่มครึ่งนี่ยังไม่ดึกเท่าไหร่เหรอครับ"
คุณตำรวจคิดคำตอบแป๊บนึง แล้วก็เริ่มบรรยายเรื่องศาสนา คล้ายกับที่ผมเคยได้ยินจากรายการธรรมะ
"คนเราก็ไม่เหมือนกันนะ ขนาดนิ้วมือเรานี่ ห้านิ้วยังไม่เท่ากันเลย บางคนว่าเสียงดัง บางคนว่าไม่ดัง ...."
(ผมไม่มีอารมณ์จะเถียง ได้แต่คิดในใจว่า พี่อาจจะเหมาะเป็นพระ มากกกว่าเป็นตำรวจ)
สุดท้าย ตำรวจก็สรุปว่า "เอางี้ ผมจะลงบันทึกประจำวันไว้ แล้วจะเอาไปหารือกับผู้เกี่ยวข้อง ว่ามีปัญหาแบบนี้ จะทำยังไงดี อาจจะหารือเวลามีประชุม"
พูดจบก็ให้ตำรวจอีกคนลงบันทึก ส่วนผมก็ให้ข้อมูลไปแบบเซ็ง ๆ ตามมารยาท
ไม่อยากโต้เถียง เสียพลังงานอย่างไร้ประโยชน์มากไปกว่านี้
ผมกลับถึงบ้านเที่ยงคืน เสียงขยะยังกระแทกกระทั้นข่มขืนรูหูไม่หยุด
จนกระทั่ง เที่ยงคืนครึ่ง มันถึงหยุด ผมถึงได้นอน
ผมถึงได้เข้าใจว่า หลายคนเวลาเจอเหตุแบบนี้ ทำไมถึงไม่แจ้งตำรวจ
อีกหน่อยประชาชนก็คงต้องหาวิธีแก้ปัญหากันเอาเอง
ดีกว่าเสียค่าโทรศัพท์ไปเปล่า ๆ
ดีกว่าเสียค่าน้ำมันไปเปล่า ๆ
ดีกว่าอ้างกฎหมายที่ไม่เคยเห็นเจ้าหน้าที่ที่ไหนบังคับใช้
ขึ้นบ้านใหม่หลังเดียว ข่มขืนรูหูทั้งตำบล แจ้งตำรวจ 5 ทุ่มครึ่ง ตำรวจบอกยังไม่ดึกเท่าไหร่
ก่อนอื่นขออธิบายนิดหน่อยว่า ผมอยู่ในท้องที่อำเภอหางดง แถบที่เป็นรอยต่อกับอำเภอเมือง เป็นขอบของอำเภอ
ดังนั้นจากบ้านผมไปสถานีตำรวจ ก็จะไกลซักหน่อย ต้องขับรถประมาณ 15 นาที
ตามปกติ บริเวณนี้จัดว่าเงียบ กลางคืนรถน้อย เสียงเครื่องบินก็ไม่ดัง
คืนวันเด็กที่ผ่านมา ผมกลับถึงบ้าน กินข้าวเสร็จก็นั่งทำงานนิดหน่อย แล้วก็เริ่มดูหนัง
พอเกือบ 3 ทุ่ม อยู่ดี ๆ ก็มีเสียงเบสเสียงกลองกระแทกกระทั้น ดังกระหึ่มมา
เป็นเพลงหมอลำบ้าง ลูกทุ่งบ้าง เสกโลโซบ้าง
ผมเห็นว่าใกล้เวลานอน ก็เลยโทรไป สภอ หางดง
ขอส่งสายตรวจช่วยดูว่ามีงานอะไร ช่วยเตือนเขาให้เบาเสียงหน่อย
ผมบอกบริเวณคร่าว ๆ ไป ว่าเสียงน่าจะมาจากแถวสี่แยกถนนไปสะเมิง
3 ทุ่มครึ่ง ผ่านไปครึ่งชั่วโมงกว่า เสียงก็ยังกระแทกกระทั้นรูหูเหมือนเดิม
ขนาดว่าผมปิดหน้าต่างทุกบาน เสียง "ตึก ๆ ๆ ๆ ๆ " ก็ยังดังในระดับที่นอนไม่ได้
ผมเลยโทรไปที่ สภอ อีกครั้ง เสียงตำรวจคนเดิมรับสาย ผมถามว่าเจอไหมครับว่างานอะไร
ตำรวจตอบว่า สายตรวจไม่เจอ ตรงนั้นไม่มีงาน แล้วก็บอกว่าแต่มีบางหมู่บ้านจัดงานวันเด็ก
"งานวันเด็กเวลานี้เหรอครับ"
"ครับ กลางวันเด็กไปเที่ยวที่อื่น บางหมู่บ้านก็เลยจัดกลางคืน"
ผมวางหูไปแบบงง ๆ แต่ก็คิดในใจว่า โอเค ถ้างานวันเด็กเดี๋ยวก็คงจะเลิก
4 ทุ่ม ผมดูหนังฆ่าเวลาไปเรื่อย ๆ รอให้เสียงหนวกหูเงียบไป แต่ก็ไม่เงียบ
ตอนนี้เริ่มคิดว่าจะขนที่นอนย้ายมานอนตรงไหนดี เพราะห้องนอนโดนเสียงเต็ม ๆ นอนไม่ได้แน่
ห้องครัว ห้องน้ำก็แคบไป คงต้องเป็นห้องรับแขกที่หนวกหูน้อยที่สุด แต่ก็ยังถือว่าหนวกหูอยู่
5 ทุ่ม หนังจบแล้ว แต่เสียงขยะยังลอยมาไม่หยุด
ไหน ๆ อยู่บ้านก็นอนไม่ได้ ผมเลยเตรียมขับรถออกไปดูว่ามันมาจากไหน คราวนี้จะได้แจ้งตำรวจได้ชัด ๆ
ก่อนออกไปก็เซิร์ชดู เรื่องกฎหมายที่เพิ่งเห็นไม่กี่วันก่อน (ประเด็นกินเหล้าเสียงดังในบ้านมีโทษปรับถึง 5,000 บาท)
ตามกฎหมายอาญามาตรา 397 "ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท"
ผมขับรถฟังเสียงไปเรื่อย ๆ จนถึงสี่แยกถนนสะเมิง (ห่างจากบ้านผม 3 กิโล) ก็ได้ยินเสียงดังขึ้น ๆ
ผมเลี้ยวตามเสียงไปอีกประมาณกิโลนึง ก็เจอที่มาอยู่แค่ริมถนนนั่นเอง
แปลกเหลือเกินที่ตำรวจหาไม่เจอ แต่ประชาชนธรรมดาหาเจอ
เป็นงานขึ้นบ้านใหม่ หรืออาจจะขึ้นร้านใหม่ ผมไม่แน่ใจเพราะเป็นตึกแถว
มีโต๊ะว่าง ๆ ตั้งอยู่ริมถนนหลายโต๊ะ (พอเห็นได้ในคลิป) แทบไม่เห็นคนมางาน
ตรงลานว่างข้างตึก มีเวที มองจากริมถนนเห็นนักร้อง แด๊นเซอร์
ผมมาวัดระยะทางใน google maps งานกับบ้านผมห่างกันประมาณ 4 กิโลเมตร
แปลว่าละแวกรอบ ๆ ทางทิศเหนือของงาน ที่งานนี้หันลำโพงใส่ ได้ยินเสียงนี้กันทั่วตำบล
ผมต้องขับรถเลยไป แล้วถึงค่อยจอดโทรไปหาตำรวจอีกครั้ง เพราะเสียงลำโพงดังมาก
ด้วยความโมโห คราวนี้ผมบอกตำรวจว่า นี่มันความผิดนะครับ ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญ กฎหมายอาญา มาตรา 397
ตำรวจที่รับสายบอก "ถ้าจะให้เอาผิด ต้องมีเจ้าทุกข์มาร้องเรียนที่สถานี" ไม่งั้นตำรวจก็แค่มาตักเตือน
ผมคิดในใจ เอาก็เอาวะ ไหน ๆ ก็ว่างอยู่แล้ว กลับบ้านไปก็คงไม่ได้นอนอยู่ดี
ผมเลยกลับรถมาฝั่งตรงข้ามงาน แล้วถ่ายรูป ถ่ายคลิป กะจะเอาไปให้ตำรวจดูเป็นหลักฐาน
(ไม่ได้ลงรถไปถ่ายใกล้ ๆ เพราะไม่อยากเสี่ยงมีเรื่องวิวาทกับเจ้าของงาน เสียงในคลิปดร็อปจากของจริงเยอะ แต่ถ้าใส่หูฟังก็จะได้ยินเสียงเบส/กลองกระแทกเป็นแบ็คกราวด์)
ประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง ผมไปถึงสถานีตำรวจ
บอกเจตนาชัดเจนว่าผมมาแจ้งความ เรื่องเสียงรบกวน สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ตามกฎหมายที่ผมทราบมา
ตำรวจที่รับแจ้ง (คนละคนกับที่รับโทรศัพท์) ยกนาฬิกาขึ้นดูแล้วก็บอกว่า "ก็ยังไม่ดึกเท่าไหร่นะ"
ผมฟังแล้วสะดุ้ง "5 ทุ่มครึ่งนี่ยังไม่ดึกเท่าไหร่เหรอครับ"
คุณตำรวจคิดคำตอบแป๊บนึง แล้วก็เริ่มบรรยายเรื่องศาสนา คล้ายกับที่ผมเคยได้ยินจากรายการธรรมะ
"คนเราก็ไม่เหมือนกันนะ ขนาดนิ้วมือเรานี่ ห้านิ้วยังไม่เท่ากันเลย บางคนว่าเสียงดัง บางคนว่าไม่ดัง ...."
(ผมไม่มีอารมณ์จะเถียง ได้แต่คิดในใจว่า พี่อาจจะเหมาะเป็นพระ มากกกว่าเป็นตำรวจ)
สุดท้าย ตำรวจก็สรุปว่า "เอางี้ ผมจะลงบันทึกประจำวันไว้ แล้วจะเอาไปหารือกับผู้เกี่ยวข้อง ว่ามีปัญหาแบบนี้ จะทำยังไงดี อาจจะหารือเวลามีประชุม"
พูดจบก็ให้ตำรวจอีกคนลงบันทึก ส่วนผมก็ให้ข้อมูลไปแบบเซ็ง ๆ ตามมารยาท
ไม่อยากโต้เถียง เสียพลังงานอย่างไร้ประโยชน์มากไปกว่านี้
ผมกลับถึงบ้านเที่ยงคืน เสียงขยะยังกระแทกกระทั้นข่มขืนรูหูไม่หยุด
จนกระทั่ง เที่ยงคืนครึ่ง มันถึงหยุด ผมถึงได้นอน
ผมถึงได้เข้าใจว่า หลายคนเวลาเจอเหตุแบบนี้ ทำไมถึงไม่แจ้งตำรวจ
อีกหน่อยประชาชนก็คงต้องหาวิธีแก้ปัญหากันเอาเอง
ดีกว่าเสียค่าโทรศัพท์ไปเปล่า ๆ
ดีกว่าเสียค่าน้ำมันไปเปล่า ๆ
ดีกว่าอ้างกฎหมายที่ไม่เคยเห็นเจ้าหน้าที่ที่ไหนบังคับใช้