รับชมภาคก่อนหน้าได้ที่นี่
#FirstTimeKyushu : daY1 : Beppu : เบปปุ ทัวร์แปดบ่อนรก และ surprise ที่รออยู่
http://ppantip.com/topic/35960075
#FirstTimeKyushu : daY2 : Yufuin-Kumamoto : เดินเล่นยูฟูอิน แล้วไปนอนบ้านคุมามง
http://ppantip.com/topic/35961258
#FirstTimeKyushu : daY3 : Kumamoto : เที่ยวท่ามกลางสายฝน และซากปราสาทคุมะโมะโตะ
http://ppantip.com/topic/35961592
#FirstTimeKyushu : daY4 : Kokura-Kitakyushu : ตลาด(tanga) ปราสาท(kokura) ภูเขา(mt.sarakura)
http://ppantip.com/topic/35963647
#FirstTimeKyushu : daY5 : (ติ่ง)Saga : ปีนเขาชมวิวที่Yūtoku Inariแล้วสูดโอโซนต้นไม้3,000ปี ที่Takeo Shrine
http://ppantip.com/topic/35966780
#FirstTimeKyushu : daY6 : Fukuoka : หวานฉ่ำสตรอว์เบอร์รี และเที่ยวศาลเจ้า Dazaifu Tenmangu
https://ppantip.com/topic/35968185
#FirstTimeKyushu : daY7 : around Fukuoka : ตลาด / วัดย่าน Gion / Fukuoka Tower
https://ppantip.com/topic/35974124
********************************************
Day 8 - พระใหญ่@Nanzoin Temple
ใกล้กลับเต็มที วันนี้เรามีแพลนแค่ครึ่งวัน โดนมุ่งหน้าไป Nanzoin Temple ก่อนกลับมา Hakata เพื่อใช้เงินที่เหลืออยู่ (55555 แลดูเหมือนจะมีเงินเหลือ)
ที่แรกของวันนี้เราเริ่มที่ Nanzoin Temple วัดที่มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่อยู่
การเดินทาง
นั่ง JR Fukuoka Yutaka Line Rapid for NOGATA รอบ 08.58
จาก hakata ไปลงที่ kidonanzoinmae (¥370)
พอก้าวขาออกจากรถไฟเท่านั้นแหละ เย็นวูบเลยจ้าาาาาาา หนาวมาก หนาวจนเป็นหมอกๆไปหมด
สถานี kidonanzoinmae ค่อนข้างเงียบมาก เพราะย่านนี้มีผู้คนอาศัยอยู่น้อย และมีที่เที่ยวเดียวคือ Nanzoin Temple
ออกจากสถานีเราก็เจอกับวิวอลังการ คือไม่ได้เว่อร์วังอะไรมาก แต่ถ้ามองว่าใช้เวลาออกจากเมืองเพียง 25 นาทีได้เจออะไรแบบนี้ก็คือโอเคมากๆ
เดินตามทางไปเรื่อยๆ ข้ามสะพานดนตรี (เดี๋ยวขากลับมาเล่นกัน) เจอสามแยกเลี้ยวขวา ข้ามถนนก็ถึงทางเข้าวัดแล้วค่ะ
สำหรับใครที่เหลือเหรียญ 1 เยนเยอะๆ เอามาทำบุญที่นี่ได้เลยนะ เพราะว่าภายในวัดนี้มีรูปปั้นนักบวชให้ทำบุญเต็มไปหมด
บรรยากาศภายในวัดร่มเย็น ปกคลุมไปด้วยต้นไม้และภูเขา เดินได้เรื่อยๆไม่มีเบื่อ มีมุมแปลกตามากมาย
สำหรับทางเดินเชื่อมไปยังองค์พระใหญ่ เราต้องเดินรอดอุโมงค์ไปค่ะ แล้วจะได้เจอกับทางเดินต่อไปอีก
จากตรงนี้จะมีให้เลือกเดินได้ 2 ทาง แต่เดินยังไงนั้นขอให้ไปลองเอง
มาถึงลานพระใหญ่แล้วค่ะ ภาพตรงหน้าอลังการจริงๆ
ใต้ฐานองค์พระสามารถเดินเข้าไปได้ด้วยนะคะ เสียค่าใช้จ่าย 500 เยน
แล้วเราจะได้รับป้ายไม่สำหรับเขียนคำอธิษฐาน เพื่อนำไปวางภายในฐานพระ
ด้านในจะไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ และต้องถอดรองเท้า-โดยมีคุณป้าคอยอำนวยความสะดวกเรื่องถุงพลาสติกสำหรับใส่รองเท้าให้เราก่อนเข้าไป
จากตรงนี้เราใช้เวลานั่งพักพอสมควร ไม่ใช่เหนื่อยอะไรมากมายหรอกค่ะ แต่วิวดี ฟ้าสวย เลยพักสูดอากาศให้เต็มที่ก่อนพรุ่งนี้จะต้องกลับไปฟาดฟันในสมรภูมิการทำงาน TT_TT
จาก Nanzoin Temple เราเดินทางกลับเข้าไปยัง Hakata เพื่อไปที่ต่อไป โดยใช้รถไฟสายเดิม แต่ขึ้น Track ตรงข้าม
ที่ต่อไปของเราคือร้านอาหารกลางวันที่ขึ้นชื่อ ทั้งเรื่องความอลังการของอาหาร และบรรยากาศร้าน ขึ้นขนาดว่ามีคนยืนต่อแถวหน้าร้านตลอด
ร้าน Chikae Fukuoka
การเดินทาง
นั่ง subway สาย Fukuoka City Subway Kuko Line for MEINOHAMA จาก Hakata ไปลงที่ Akasaka ใช้ทางออก 4
จากนั้นเดินไปทางซ้าย เจอสี่แยกเลี้ยวซ้าย เดินตรงไปเรื่อยๆจนเจอร้าน Ishimura เลี้ยวซ้ายเข้าซอยนี้เลยค่ะ เดินตรงไปอีกหน่อยจะเจอร้านนี้เอง ร้านที่มีคนยืนต่อแถวที่หน้าร้าน
ที่นี่ขายอาหารชุด โดยมีเมนูประจำวัน เราไม่ต้องสั่งอะไรพิเศษนอกจากบอกจำนวนชุดอาหาร
ที่นั่งมีทั้งแบบโต๊ะญี่ปุ่น และเคารน์เตอร์บาร์รอบตู้ปลา......อยากนั่งแบบนี้มาก แต่คิวเราได้โต๊ะแบบญี่ปุ่น
อีกอย่างที่ร้านนี้มีให้คือ เมนไทโกะ มาทั้งหลอด บีบกินไปสิคะ บีบป้ายข้าวไปค่ะ ข้าวร้อนๆเมนไทโกะๆเค็มๆมันๆ เริ่ดจริงๆ
มาถึงคิวของอาหาร จัดเต็มชุดใหญ่มาก แบบถึงกินแทบไม่ถูก
ค่าเสียหายก็คนละ 1,500 เยน
อิ่มท้องแล้วก็ได้เวลาไปต่อ เราไปต่อกันที่ Ohori Park ซึ่งเราเลือกที่จะใช้การเดิน เนื่องจากดูใน GoogleMap แล้วไม่ได้ไกลมาก
ระหว่างทางเราจะผ่านซากปราสาทฟุกุโอกะ แนะนำเลยค่ะถ้าใครมาช่วงซากุระบาน ที่นี่สวยมากแน่นอน
แถวได้ชมวิวเมืองได้รอบด้านมาก
เราเดินอ้อมมาถนนด้านข้างซากปราสาทเพื่อไปแวะที่ Gokoku Shrine ก่อน
เสาโทเรอิหน้าทางศาลเจ้าให้อารมณ์ศาลเจ้าเมจิที่โตเกียวมากค่ะ วันที่ไปเราเจอครอบครัวมาถ่ายรูกครอบครัวกันด้วย เด็กน้อยใส่กิโมโนน่ารักเชียว
เดินออกจากศาลเจ้า เลี้ยวไปทางซ้ายแล้วเดินไปเรื่อยๆเราจะไปเจอร้านขนมอบอิตาเลียนที่ทางเข้าสวน ชื่อร้าน LASPIGA ขนมอร่อย แวะซื้อขนมเข้าไปกินใน Ohori Park
ใน Ohori Park มีคนมาวิ่งออกกำลังกายเต็มไปหมดเลย บรรยากาศน่ามานั่งเล่น
แต่วันนั้นประมาณ 4 โมงเย็นแล้วตอนเราไปถึงสวน อากาศก็เริ่มเย็นเกินนั่งเล่น เราเลยใช่เวลาที่นี่ไม่นานแล้วไปต่อที่ Tenjin .... Shopping Time มาแล้วจ้าาาาาาา
เราเดินกลับไปทางศาลเจ้า เจอสามแยก ข้ามถนนไปทางซ้ายแล้วขึ้นรถเมล์สาย 7 ไปลงที่หน้าตึก North Tenjin
เราเลือกมา Shopping ที่ Aeon เพราะคิดว่าน่าจะมีของครบและถูกดี
ชั้น 1 ของห้างมีเคาน์เตอร์ทำ Tax Refund ด้วยนะเออ..สบายดีจริงๆ
จากตรงนี้สมาขิกของทริปศูนย์เสียการทรงตัวพอสมควรเนื่องจากสภาพคล่องทางการเงินเริ่มไม่ดีละ ทุกคนขอมุ่งตรงกลับบ้าน
แต่ส่วนตัวยังโอเคอยู่เลยไปส่งทุกคนกลับบ้านก่อน แล้วออกไปเดินเล่นต่อที่ Canel City
ครั้งนี้ได้ดูโชว์น้ำพุแบบเต็ม ตั้งแต่ต้นโชว์จนจบ แถมได้นั่งข้างหน้าด้วย โดนละอองน้ำแปะๆ
พร้อมทั้งกลับไปซ้ำ Coco Curry House อีกรอบ การกินข้าวคนเดียวที่ญี่ปุ่นมันเป็นเรื่องปกติ เราชอบจุดนี้มาก
เพราะถ้าเรากินข้าวคนเดียว หรือ ดูหนังคนเดียวที่ไทย พนง และคนในร้านมักมองแปลกๆ (อาจจะคิดไปเอง หรือใครเคยเจอก็บอกกันหน่อย)
คืนสุดท้ายแล้ว เราใช้เวลาจัดของลงกระเป็าเดินทางเพื่อเตรียมกลับบ้านเล็กน้อย เพราะเราทยอยพับเสื้อผ้าไว้แล้วทุกวันหลังจากใส้แล้ว
ส่วนของที่จะลงกระเป๋าก็แทรกๆไปตามช่องเสื้อผ้า เผื่อเวลาอยู่เป็นสายพานตอนขนกระเป๋าจะได้มั่นใจว่าของเราจะไม่เสียหาย
********************************************
daY9
วันนี้เราตื่นเช้ามากรีบไปสนามบิน เพราะนี่คือวันจันทร์ กลัวจะเจอมวลมหาประชาชนที่ไปทำงาน
ของทุกคนเยอะมาก มากจนไม่สามารถเดินลากกระเป๋าไปที่สถานี Hakata ได้
เราถึงตัดสินใจใช้บริการแท็กซี่ ตอนนั้นตัดใจใช้เลยนะ เพราะคิดว่าค่ารถต้องแพงแน่ๆ สุดท้ายโดยไป 1,770 เยน เออ........ดีนี่หว่า
ไปนั่งรถ นั่งหลับที่สนามบินกันไป แล้วก็เผื่อเวลาไปรับเงินชดเชยจากสายการบินที่ทำกระเป๋าเดินทางพี่สาวเราหายไป 5 วันด้วย
จบทริปไปอย่างสนุกสนาน ถึงไทยโดยสวัสดิภาพและกระเป๋าเดินทางไม่หายรอบสอง
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนถึงตอนนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่สนใจไปเที่ยวคิวชู
เหมือนที่เราได้รับการช่วยเหลือจากกระทู้ต่างๆก่อนเดินทางไปเที่ยว
********************************************
สำหรับใครที่อยากดูรูปเยอะกว่านี้ สามารถดูได้ใน IG ฮ่ะ
Search #FirstTimeKyushu หรือ #HelloTestJP3
[CR] #FirstTimeKyushu : daY8-9 : around Fukuoka : Nanzoin Temple / Ohori Park / ทิ้งท้ายก่อนกลับ
#FirstTimeKyushu : daY1 : Beppu : เบปปุ ทัวร์แปดบ่อนรก และ surprise ที่รออยู่
http://ppantip.com/topic/35960075
#FirstTimeKyushu : daY2 : Yufuin-Kumamoto : เดินเล่นยูฟูอิน แล้วไปนอนบ้านคุมามง
http://ppantip.com/topic/35961258
#FirstTimeKyushu : daY3 : Kumamoto : เที่ยวท่ามกลางสายฝน และซากปราสาทคุมะโมะโตะ
http://ppantip.com/topic/35961592
#FirstTimeKyushu : daY4 : Kokura-Kitakyushu : ตลาด(tanga) ปราสาท(kokura) ภูเขา(mt.sarakura)
http://ppantip.com/topic/35963647
#FirstTimeKyushu : daY5 : (ติ่ง)Saga : ปีนเขาชมวิวที่Yūtoku Inariแล้วสูดโอโซนต้นไม้3,000ปี ที่Takeo Shrine
http://ppantip.com/topic/35966780
#FirstTimeKyushu : daY6 : Fukuoka : หวานฉ่ำสตรอว์เบอร์รี และเที่ยวศาลเจ้า Dazaifu Tenmangu
https://ppantip.com/topic/35968185
#FirstTimeKyushu : daY7 : around Fukuoka : ตลาด / วัดย่าน Gion / Fukuoka Tower
https://ppantip.com/topic/35974124
********************************************
Day 8 - พระใหญ่@Nanzoin Temple
ใกล้กลับเต็มที วันนี้เรามีแพลนแค่ครึ่งวัน โดนมุ่งหน้าไป Nanzoin Temple ก่อนกลับมา Hakata เพื่อใช้เงินที่เหลืออยู่ (55555 แลดูเหมือนจะมีเงินเหลือ)
ที่แรกของวันนี้เราเริ่มที่ Nanzoin Temple วัดที่มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่อยู่
การเดินทาง
นั่ง JR Fukuoka Yutaka Line Rapid for NOGATA รอบ 08.58
จาก hakata ไปลงที่ kidonanzoinmae (¥370)
พอก้าวขาออกจากรถไฟเท่านั้นแหละ เย็นวูบเลยจ้าาาาาาา หนาวมาก หนาวจนเป็นหมอกๆไปหมด
สถานี kidonanzoinmae ค่อนข้างเงียบมาก เพราะย่านนี้มีผู้คนอาศัยอยู่น้อย และมีที่เที่ยวเดียวคือ Nanzoin Temple
ออกจากสถานีเราก็เจอกับวิวอลังการ คือไม่ได้เว่อร์วังอะไรมาก แต่ถ้ามองว่าใช้เวลาออกจากเมืองเพียง 25 นาทีได้เจออะไรแบบนี้ก็คือโอเคมากๆ
เดินตามทางไปเรื่อยๆ ข้ามสะพานดนตรี (เดี๋ยวขากลับมาเล่นกัน) เจอสามแยกเลี้ยวขวา ข้ามถนนก็ถึงทางเข้าวัดแล้วค่ะ
สำหรับใครที่เหลือเหรียญ 1 เยนเยอะๆ เอามาทำบุญที่นี่ได้เลยนะ เพราะว่าภายในวัดนี้มีรูปปั้นนักบวชให้ทำบุญเต็มไปหมด
บรรยากาศภายในวัดร่มเย็น ปกคลุมไปด้วยต้นไม้และภูเขา เดินได้เรื่อยๆไม่มีเบื่อ มีมุมแปลกตามากมาย
สำหรับทางเดินเชื่อมไปยังองค์พระใหญ่ เราต้องเดินรอดอุโมงค์ไปค่ะ แล้วจะได้เจอกับทางเดินต่อไปอีก
จากตรงนี้จะมีให้เลือกเดินได้ 2 ทาง แต่เดินยังไงนั้นขอให้ไปลองเอง
มาถึงลานพระใหญ่แล้วค่ะ ภาพตรงหน้าอลังการจริงๆ
ใต้ฐานองค์พระสามารถเดินเข้าไปได้ด้วยนะคะ เสียค่าใช้จ่าย 500 เยน
แล้วเราจะได้รับป้ายไม่สำหรับเขียนคำอธิษฐาน เพื่อนำไปวางภายในฐานพระ
ด้านในจะไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ และต้องถอดรองเท้า-โดยมีคุณป้าคอยอำนวยความสะดวกเรื่องถุงพลาสติกสำหรับใส่รองเท้าให้เราก่อนเข้าไป
จากตรงนี้เราใช้เวลานั่งพักพอสมควร ไม่ใช่เหนื่อยอะไรมากมายหรอกค่ะ แต่วิวดี ฟ้าสวย เลยพักสูดอากาศให้เต็มที่ก่อนพรุ่งนี้จะต้องกลับไปฟาดฟันในสมรภูมิการทำงาน TT_TT
จาก Nanzoin Temple เราเดินทางกลับเข้าไปยัง Hakata เพื่อไปที่ต่อไป โดยใช้รถไฟสายเดิม แต่ขึ้น Track ตรงข้าม
ที่ต่อไปของเราคือร้านอาหารกลางวันที่ขึ้นชื่อ ทั้งเรื่องความอลังการของอาหาร และบรรยากาศร้าน ขึ้นขนาดว่ามีคนยืนต่อแถวหน้าร้านตลอด
ร้าน Chikae Fukuoka
การเดินทาง
นั่ง subway สาย Fukuoka City Subway Kuko Line for MEINOHAMA จาก Hakata ไปลงที่ Akasaka ใช้ทางออก 4
จากนั้นเดินไปทางซ้าย เจอสี่แยกเลี้ยวซ้าย เดินตรงไปเรื่อยๆจนเจอร้าน Ishimura เลี้ยวซ้ายเข้าซอยนี้เลยค่ะ เดินตรงไปอีกหน่อยจะเจอร้านนี้เอง ร้านที่มีคนยืนต่อแถวที่หน้าร้าน
ที่นี่ขายอาหารชุด โดยมีเมนูประจำวัน เราไม่ต้องสั่งอะไรพิเศษนอกจากบอกจำนวนชุดอาหาร
ที่นั่งมีทั้งแบบโต๊ะญี่ปุ่น และเคารน์เตอร์บาร์รอบตู้ปลา......อยากนั่งแบบนี้มาก แต่คิวเราได้โต๊ะแบบญี่ปุ่น
อีกอย่างที่ร้านนี้มีให้คือ เมนไทโกะ มาทั้งหลอด บีบกินไปสิคะ บีบป้ายข้าวไปค่ะ ข้าวร้อนๆเมนไทโกะๆเค็มๆมันๆ เริ่ดจริงๆ
มาถึงคิวของอาหาร จัดเต็มชุดใหญ่มาก แบบถึงกินแทบไม่ถูก
ค่าเสียหายก็คนละ 1,500 เยน
อิ่มท้องแล้วก็ได้เวลาไปต่อ เราไปต่อกันที่ Ohori Park ซึ่งเราเลือกที่จะใช้การเดิน เนื่องจากดูใน GoogleMap แล้วไม่ได้ไกลมาก
ระหว่างทางเราจะผ่านซากปราสาทฟุกุโอกะ แนะนำเลยค่ะถ้าใครมาช่วงซากุระบาน ที่นี่สวยมากแน่นอน
แถวได้ชมวิวเมืองได้รอบด้านมาก
เราเดินอ้อมมาถนนด้านข้างซากปราสาทเพื่อไปแวะที่ Gokoku Shrine ก่อน
เสาโทเรอิหน้าทางศาลเจ้าให้อารมณ์ศาลเจ้าเมจิที่โตเกียวมากค่ะ วันที่ไปเราเจอครอบครัวมาถ่ายรูกครอบครัวกันด้วย เด็กน้อยใส่กิโมโนน่ารักเชียว
เดินออกจากศาลเจ้า เลี้ยวไปทางซ้ายแล้วเดินไปเรื่อยๆเราจะไปเจอร้านขนมอบอิตาเลียนที่ทางเข้าสวน ชื่อร้าน LASPIGA ขนมอร่อย แวะซื้อขนมเข้าไปกินใน Ohori Park
ใน Ohori Park มีคนมาวิ่งออกกำลังกายเต็มไปหมดเลย บรรยากาศน่ามานั่งเล่น
แต่วันนั้นประมาณ 4 โมงเย็นแล้วตอนเราไปถึงสวน อากาศก็เริ่มเย็นเกินนั่งเล่น เราเลยใช่เวลาที่นี่ไม่นานแล้วไปต่อที่ Tenjin .... Shopping Time มาแล้วจ้าาาาาาา
เราเดินกลับไปทางศาลเจ้า เจอสามแยก ข้ามถนนไปทางซ้ายแล้วขึ้นรถเมล์สาย 7 ไปลงที่หน้าตึก North Tenjin
เราเลือกมา Shopping ที่ Aeon เพราะคิดว่าน่าจะมีของครบและถูกดี
ชั้น 1 ของห้างมีเคาน์เตอร์ทำ Tax Refund ด้วยนะเออ..สบายดีจริงๆ
จากตรงนี้สมาขิกของทริปศูนย์เสียการทรงตัวพอสมควรเนื่องจากสภาพคล่องทางการเงินเริ่มไม่ดีละ ทุกคนขอมุ่งตรงกลับบ้าน
แต่ส่วนตัวยังโอเคอยู่เลยไปส่งทุกคนกลับบ้านก่อน แล้วออกไปเดินเล่นต่อที่ Canel City
ครั้งนี้ได้ดูโชว์น้ำพุแบบเต็ม ตั้งแต่ต้นโชว์จนจบ แถมได้นั่งข้างหน้าด้วย โดนละอองน้ำแปะๆ
พร้อมทั้งกลับไปซ้ำ Coco Curry House อีกรอบ การกินข้าวคนเดียวที่ญี่ปุ่นมันเป็นเรื่องปกติ เราชอบจุดนี้มาก
เพราะถ้าเรากินข้าวคนเดียว หรือ ดูหนังคนเดียวที่ไทย พนง และคนในร้านมักมองแปลกๆ (อาจจะคิดไปเอง หรือใครเคยเจอก็บอกกันหน่อย)
คืนสุดท้ายแล้ว เราใช้เวลาจัดของลงกระเป็าเดินทางเพื่อเตรียมกลับบ้านเล็กน้อย เพราะเราทยอยพับเสื้อผ้าไว้แล้วทุกวันหลังจากใส้แล้ว
ส่วนของที่จะลงกระเป๋าก็แทรกๆไปตามช่องเสื้อผ้า เผื่อเวลาอยู่เป็นสายพานตอนขนกระเป๋าจะได้มั่นใจว่าของเราจะไม่เสียหาย
********************************************
daY9
วันนี้เราตื่นเช้ามากรีบไปสนามบิน เพราะนี่คือวันจันทร์ กลัวจะเจอมวลมหาประชาชนที่ไปทำงาน
ของทุกคนเยอะมาก มากจนไม่สามารถเดินลากกระเป๋าไปที่สถานี Hakata ได้
เราถึงตัดสินใจใช้บริการแท็กซี่ ตอนนั้นตัดใจใช้เลยนะ เพราะคิดว่าค่ารถต้องแพงแน่ๆ สุดท้ายโดยไป 1,770 เยน เออ........ดีนี่หว่า
ไปนั่งรถ นั่งหลับที่สนามบินกันไป แล้วก็เผื่อเวลาไปรับเงินชดเชยจากสายการบินที่ทำกระเป๋าเดินทางพี่สาวเราหายไป 5 วันด้วย
จบทริปไปอย่างสนุกสนาน ถึงไทยโดยสวัสดิภาพและกระเป๋าเดินทางไม่หายรอบสอง
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนถึงตอนนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่สนใจไปเที่ยวคิวชู
เหมือนที่เราได้รับการช่วยเหลือจากกระทู้ต่างๆก่อนเดินทางไปเที่ยว
********************************************
สำหรับใครที่อยากดูรูปเยอะกว่านี้ สามารถดูได้ใน IG ฮ่ะ
Search #FirstTimeKyushu หรือ #HelloTestJP3
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น