1.เกลียดลูกคนไหน หรือลูกคนไหนที่ตนเองไม่ค่อยรัก ตนเองมักได้อยู่กับลูกคนนั้นไปจนแก่เฒ่าหรือจนตาย ส่วนลูกคนที่ตนเองรักมักจะไม่ได้มาอยู่ดูแล อย่างมากก็แค่ส่งเงินมาให้เป็นครั้งคราว การอยู่ดูแลปรนนิบัติพ่อแม่มันตีค่า ตีราคาไม่ได้นะครับ ต่อให้คุณส่งเงินมาให้ท่านใช้มากมายแค่ไหนมันก็ทดแทนกันไม่ได้ ของแบบนี้ตีราคาด้วยเงินไม่ได้ครับ ลูกคนใดที่ได้อยู่ดูแลพ่อแม่ ลูกคนนั้นบั้นปลายชีวิตมักพบกับความสุขสบาย
2.เรื่องมรดก พ่อแม่บางคนพิจารณาว่าลูกคนใดไม่ค่อยมีทรัพย์สิน บางคนพิจารณาว่าลูกคนใดอยู่ดูแลตนเอง บางคนพิจารณาที่ความเสมอภาคให้เท่ากันหมด แต่พ่อแม่ที่ยกมรดกให้ลูกด้วยอคติ ด้วยความไม่เท่าเทียม เลือกที่รักมักที่ชัง ไร้เหตุผล สุดท้ายลูกคนที่ได้มรดกไปมักผลาญสมบัติจนหมดสิ้น และลูกคนนั้นมักตกระกำลำบากในบั้นปลายชีวิต
3.พ่อแม่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยชื่นชม ยกย่องสรรเสริญลูก เวลาที่ลูกทำดีการที่พ่อแม่ไม่พูดอะไรมากนั่นถือว่าเป็นคำชมแล้ว เพราะพ่อแม่ส่วนใหญ่จะถนัดกับการตำหนิ ดุด่า ว่ากล่าวลูกเสียมาก นิสัยเช่นนี้ของพ่อแม่พึงระวังเอาไว้เพราะถ้าเป็นหนักมากอาจทำให้ครอบครัวแตกร้าวจากภายในได้ คนเป็นพ่อแม่ต้องคิดคำนึงไว้ว่าตนเองมีหน้าที่ประคับประคองให้ครอบครัวไปรอด ไม่ใช่มาทำลายมันเสียเอง เมื่อคุณไม่อยากชื่นชมอะไรลูกมากนัก คุณก็ควรตำหนิให้น้อยๆด้วยเช่นกัน เมื่อลูกคุณทำดีมากนั่นแปลว่าเขาเป็นคนดี คุณไม่จำเป็นต้องไปตำหนิ ดุด่าอะไรเขามาก เลือกเอาเองว่าอยากจะรักษาครอบครัวหรือทำลายมันเพียงเพราะไม่ได้ดั่งใจในเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่ถ้าลูกทำผิดมากๆก็ต้องสั่งสอนให้หนักๆด้วยเช่นกันไม่ใช่ตามใจ
4.คนเป็นพ่อแม่มักถือศักดิ์ว่าตนเองอยู่เหนือลูก แล้วมักสาปแช่งลูกหลานไปเรื่อยแบบสนุกปาก แต่จงรู้ไว้ว่าคำสาปแช่งนั้นมันจะย้อน สะท้อนกลับมาหาตนเอง ส่วนลูกหลานถ้าเขาไม่ได้ทำอะไรผิดเขาก็ไม่เป็นอะไรหรอก
5.คนเป็นพ่อแม่ต้องสอนให้ลูกทำบุญทำทาน สวดมนต์ไหว้พระ เพราะสิ่งเหล่านี้มันจะเป็นเกราะป้องกันภัยให้เขาได้เมื่อเวลาที่เขาเติบโตขึ้น หรือลดทอนสิ่งไม่ดีต่างๆให้เบาบางลง การให้ลูกได้บุญได้บารมีถือเป็นมรดกของพ่อแม่ที่ยิ่งใหญ่ข้ามภพข้ามชาติแก่ตัวเขา ไม่ใช่อะไรก็เอาแค่พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ในบ้าน อย่างอื่นไม่ต้องสน มันไม่ถูกต้องเสียทีเดียว
6.เวลาลูกทะเลาะกันอย่าลงโทษแบบเหมารวม แต่ควรหาคนเริ่ม หาคนผิดที่แท้จริงแล้วลงโทษลดหลั่นกันไป คนผิดก็รับโทษหนัก คนไม่ผิดรับโทษเบา เพราะถ้าพ่อแม่ลงโทษลูกแบบเหมารวม คนที่ไม่ผิดจะรู้สึกว่าไม่ได้รับความยุติธรรม ส่วนคนที่ทำผิดตัวจริงก็จะสะใจและไม่สะทกสะท้านกับการลงโทษของพ่อแม่ จงใส่ใจเรื่องพวกนี้ อย่าสักแต่ว่าให้ปัญหาจบๆไป เพราะเรื่องพวกนี้ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่พ่อแม่มักมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ปัจจัยที่มีผลด้วยก็คือพ่อแม่รักลูกลำเอียง คนที่ทำผิดจริงพ่อแม่รู้อยู่แก่ใจแต่ไม่ทำอะไร ปล่อยให้เขาเสียผู้เสียคน
ธรรมชาติของชีวิตพ่อแม่
2.เรื่องมรดก พ่อแม่บางคนพิจารณาว่าลูกคนใดไม่ค่อยมีทรัพย์สิน บางคนพิจารณาว่าลูกคนใดอยู่ดูแลตนเอง บางคนพิจารณาที่ความเสมอภาคให้เท่ากันหมด แต่พ่อแม่ที่ยกมรดกให้ลูกด้วยอคติ ด้วยความไม่เท่าเทียม เลือกที่รักมักที่ชัง ไร้เหตุผล สุดท้ายลูกคนที่ได้มรดกไปมักผลาญสมบัติจนหมดสิ้น และลูกคนนั้นมักตกระกำลำบากในบั้นปลายชีวิต
3.พ่อแม่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยชื่นชม ยกย่องสรรเสริญลูก เวลาที่ลูกทำดีการที่พ่อแม่ไม่พูดอะไรมากนั่นถือว่าเป็นคำชมแล้ว เพราะพ่อแม่ส่วนใหญ่จะถนัดกับการตำหนิ ดุด่า ว่ากล่าวลูกเสียมาก นิสัยเช่นนี้ของพ่อแม่พึงระวังเอาไว้เพราะถ้าเป็นหนักมากอาจทำให้ครอบครัวแตกร้าวจากภายในได้ คนเป็นพ่อแม่ต้องคิดคำนึงไว้ว่าตนเองมีหน้าที่ประคับประคองให้ครอบครัวไปรอด ไม่ใช่มาทำลายมันเสียเอง เมื่อคุณไม่อยากชื่นชมอะไรลูกมากนัก คุณก็ควรตำหนิให้น้อยๆด้วยเช่นกัน เมื่อลูกคุณทำดีมากนั่นแปลว่าเขาเป็นคนดี คุณไม่จำเป็นต้องไปตำหนิ ดุด่าอะไรเขามาก เลือกเอาเองว่าอยากจะรักษาครอบครัวหรือทำลายมันเพียงเพราะไม่ได้ดั่งใจในเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่ถ้าลูกทำผิดมากๆก็ต้องสั่งสอนให้หนักๆด้วยเช่นกันไม่ใช่ตามใจ
4.คนเป็นพ่อแม่มักถือศักดิ์ว่าตนเองอยู่เหนือลูก แล้วมักสาปแช่งลูกหลานไปเรื่อยแบบสนุกปาก แต่จงรู้ไว้ว่าคำสาปแช่งนั้นมันจะย้อน สะท้อนกลับมาหาตนเอง ส่วนลูกหลานถ้าเขาไม่ได้ทำอะไรผิดเขาก็ไม่เป็นอะไรหรอก
5.คนเป็นพ่อแม่ต้องสอนให้ลูกทำบุญทำทาน สวดมนต์ไหว้พระ เพราะสิ่งเหล่านี้มันจะเป็นเกราะป้องกันภัยให้เขาได้เมื่อเวลาที่เขาเติบโตขึ้น หรือลดทอนสิ่งไม่ดีต่างๆให้เบาบางลง การให้ลูกได้บุญได้บารมีถือเป็นมรดกของพ่อแม่ที่ยิ่งใหญ่ข้ามภพข้ามชาติแก่ตัวเขา ไม่ใช่อะไรก็เอาแค่พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ในบ้าน อย่างอื่นไม่ต้องสน มันไม่ถูกต้องเสียทีเดียว
6.เวลาลูกทะเลาะกันอย่าลงโทษแบบเหมารวม แต่ควรหาคนเริ่ม หาคนผิดที่แท้จริงแล้วลงโทษลดหลั่นกันไป คนผิดก็รับโทษหนัก คนไม่ผิดรับโทษเบา เพราะถ้าพ่อแม่ลงโทษลูกแบบเหมารวม คนที่ไม่ผิดจะรู้สึกว่าไม่ได้รับความยุติธรรม ส่วนคนที่ทำผิดตัวจริงก็จะสะใจและไม่สะทกสะท้านกับการลงโทษของพ่อแม่ จงใส่ใจเรื่องพวกนี้ อย่าสักแต่ว่าให้ปัญหาจบๆไป เพราะเรื่องพวกนี้ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่พ่อแม่มักมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ปัจจัยที่มีผลด้วยก็คือพ่อแม่รักลูกลำเอียง คนที่ทำผิดจริงพ่อแม่รู้อยู่แก่ใจแต่ไม่ทำอะไร ปล่อยให้เขาเสียผู้เสียคน