สวัสดีปีใหม่ค่ะ......ทริปฉลองปีใหม่ปี 2017 เริ่มต้นด้วยการเที่ยว กิน แชะ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่านี่เป้นการเขียนครั้งแรก ผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยค่ะ ทริปนี้เรากับเพื่อนอยากไป วังเวียง-เวียงจันทน์ กันค่ะส่วนนึ่งที่อยากไปที่นี่เพราะไม่ไกลมาก และเห็นรีวิวเยอะ เลยคิดว่าที่นี่น่าจะไปได้ไม่ยาก ได้สถานที่ที่อยากไปแล้วคำถามคือ เมื่อไหร่? มนุษย์เงินเดือนจะลาไปไหนทีก็ลำบาก ก็เลยอาศัยช่วงวันหยุดปีใม่นี่แหละน่าจะเหมาะสุดๆ (คนอาจจะเยอะไปหน่อยแต่เอาเถอะได้เที่ยวก็พอ) เลยตัดสินใจจองตั๋วแต่.....ตั๋วเครื่องบินหน้าเทศกาลไม่ต้องห่วง....แพงไปค่ะสำหรับเรา555+ เลยคิดว่าจะไปทางไหนดี ได้ไอเดียว่านั่งรถไฟกันไหม..น่าจะสนุก แล้วเราก็ไม่ได้นั่งกันบ่อยๆด้วย จัดไปค่ะจองตั๋วรถไฟ...โชคดีของเรากับเพื่อน รถไฟเปิดตัวรถไฟขบวนใหม่พอดี(ฟินเลย) ส่วนขากลับเราเลือกใช้บริการของนครชัยแอร์ (เช่นเคยตั๋วเครื่องบินมันแพง) แล้วเรากับเพื่อนอยากได้บรรยากาศแบบที่ไม่เคยลองด้วย เลยจัดไปรถไฟ-กลับรถบัส ใช้วันหยุดให้คุ้มไปค่ะ.....
ออกเดินทางกันเลย โดยรถด่วนขบวนพิเศษขบวนที่ 25 "อีสานมรรคา" เส้นทางเดินรถ กรุงเทพฯ-หนองคาย โดยเราเลือกตู้นอน ชั้น 2 ราคาไม่โหดมาก เตียงบน 737 เตียงล่าง 827 โดยเลือกขึ้นที่สถานี รังสิตเพราะใกล้บ้าน
ด้านในรถไฟถือว่าดีเลยที่นอน นอนสบาย (ตอนรถไฟถึงสถานีของเราทุกคนก็เข้านอนกันแล้ว555+) ที่เตียงมีไฟและมีปลั๊กให้ทุกที่นั่งมีผ้าห่มหมอนให้ครบ ห้องน้ำถือว่าสะอาด แต่จะให้สะอาดกว่านี้คนใช้บริการต้องฃ่วยกันดูแลด้วยนะค่ะ ส่วนใครหิวยังไม่อยากนอนเค้าก็มีตู้เสบียงบริการแต่ที่นั่งไม่เยอะมาก(แบ่งๆกันเนอะ)แต่ถ้าขี้เกียจเดินก็จะมีพี่ๆพนักงานดินขายแซนวิส ขนม น้ำบริการอยู่จร้า...
หลังจากนอนกันเต็มอิ่ม..ถึงแล้วจร้าาา ถึงเวลา 06.45 น. โดนประมาณไม่ล่าช้านะจ๊ะ ตรงเวลาดีทีเดียว ส่วนใครอยากเดินทางโดยรถขบวนใหม่นี้ ติดต่อได้ที่ 1690 มีเจ้าหน้าคอยให้บริการจร้าาาา
ถึงสถานีปลายทางแล้ว เราเลือกเดินทางต่อโดยรถไฟเข้าเวียงจันทน์ ค่าเสียหาย 20 บาท โดยนั่งไปลงสถานีปลายทางที่ ท่านาแล้ง ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาทีก็ถึงจร้า แต่ถ้าใครไม่อยากนั่งรถไฟตรงสถานีมีพี่ๆรถตุ๊กๆคอยพาเราไปที่ด่านขาออกประเทศอยู่นะ....ต่อค่ะเมื่อถึงสถานีท่านาแล้งแล้วจะมีด่านตรวจคนเข้าเมืองอยู่ตรงสถานีรถไฟเลย เรียบร้อยแล้ว...ด้วยความที่ขี้เกียจหรือความไม่รู้รวมถึงไม่มีทางเลือก เรากับเพื่อนเลยซื้อตรวจรถบัสนั่งจากเวียงจันทน์ไปถึงวังเวียงเลย (แต่จะบอกว่าแพงมากค่าเสียหายโดนไปคนละ 350 บาท !!!!!) รถที่นั่งเป็นรถบัสขนาดใหญ่จอดแวะรับคนเกือบตลอดทาง เรานั่งรถอยู่บนรถตั้งแต่ 9 โมง ถึง วังเวียงเกือบๆ 4 โมงจร้าา
เมื่อเห็นภูเขาไกลๆให้รู้ไว้ว่าการเดินทางเข้าวังเวียงเพิ่งเริ่มต้น หลับวันไปค่ะ ใครเมารถแนะนำกินยาแก้เมารถแล้วหลับเลยค่ะ....
ส่วนเรื่องการแลกเงินเราแลกที่ บ.ทัวร์ ที่เราขึ้นรถบัส อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 230 กีบ = 1 บาท เราแลก 4,000 บาท ได้เงิน 920,000 กีบ (รวยเฟ่อ) ส่วน Net sim 1.5 GB ใช้ได้ 7 วัน เราซื้อตรงจุดพักรถ ราคา 30,000 กีบ (แถมคลิปไว้ถอดซิมด้วย) สัญญาณดีเลยทีเดียว
ถึงแล้ว....หลังจากนั่งกันก้นชาก็ถึงสักที รถเราจอดเข้ามาในส่วนของหมู่บ้านเลย (ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร55+) เพราะปกติรถจะจอดตรงจุด Bus Station ของวังเวียงแล้วค่อยนั่งรถต่อเข้ามา พอถึงแล้วก็เดินหาที่พักกันค่ะ เราเลือกจอง Hotel Vilayvong อยู่โซนแม่น้ำซอง ราคารับได้ไม่แพงมากที่จริงเราจองอีกที่นึง แต่เค้าส่งเมล์มาขอใ้ห้ยกเลิกเพราะว่าห้องค่อนข้างแน่นแล้วเรายังไม่จ่ายตังส์ เลยยกเลิกดีกว่าเพราะกลัวไม่มีที่นอน
ห้องกว้างมาก (กว้างจนรู้สึกว่าใช้พื้นเปลืองไปนะ) เราอยู่ชั้น 2 วิวที่ได้เป็น Mountain view แต่ถ้าสูงกว่านี้จะได้วิวแม่น้ำค่ะ สภาพห้องถือว่าดี แต่ไม่มีกาน้ำร้อน ตู้เย็น แต่ไม่ใช่ปัญหา ส่วนใครที่ไม่ได้ซื้อ Sim โรงแรมก็มี Free Wifi นะค่ะ
หลังจากเก็บของเสร็จ สิ่งแรกที่คิดได้คือกินค่ะ เพราะไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้าแล้วหิวมากก็เลยหาอะไรกินก่อน เป็นการรองท้องเบาๆ จัดไปค่ะ แซนวิส เบคอน แฮม ชีส + น้ำมะนาวปั่น 28,000 กีบ (ช้อคเบาๆ) อารมณ์คล้ายๆกิน Subway ส่วนเพื่อนเรากิน แฮมเบอร์เกอร์+น้ำมะม่วง,มะพร้าวปั่น (ราคาเราจำไม่ได้แต่แพงกว่าของเรา555+) กินเสร็จแล้วรออะไรเช่าจักรยานแล้วปั่นไปค่ะ ค่าเสียหาคันละ 15,000 กีบ แต่เอาจริงๆ ไม่ค่อยเหมาะกับการปั่นจักรยานเท่าไหร่เพราะรถเยอะมาก จอแจ วอแวสุดๆ
ที่แรกที่มาคือ ถ้ำจังสะพานส้ม(ในตำนาน) เสียค่าเข้า 2-4 พันกีบลืมราคา ปั่นเข้ามาไม่ไกลมากแต่ ทางเป็นลูกรัง ดินแดงๆปั่นไปเสียวยางแตกไปดีค่ะ
เรามาถ้ำจัง ก็ต้องเข้าถ้ำจัง ดังนั้นขึ้นจ๊ะ ขึ้นเขาไปค่ะ บริหารกล้ามเนื้อขาเบาๆ เราไปช่วงเย็นๆ อากาศดีไม่ร้อนมาก กำลังดีเลยค่ะ
คุ้มค่ากับการสูญเสียพลังงานในร่างกายเมื่อขึ้นมาถึงนะค่ะ วิวสวยมากเป็นทิวเขาสุดลูกหูลูกตา แล้วก็ลมเย็นๆอีก ย้ำว่าต้องมาค่ะห้ามพลาด ด้านในของถ้ำก็สวย แล้วก็เย็นๆด้วยค่ะ แต่เราเดินไปไม่ไกลมากเพราะเจ้าหน้าใกล้เลิกงานแล้ว...อ้อ ตรงทางขึ้นถ้ำก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมด้วยนะจ๊ะ
ลงมาด้านล่าง มีน้ำตกด้วยนะ น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลามาก
ไปได้แค่ที่เดียวสำหรับวันแรกเพราะเย็นมากแล้ว แล้วก็หิวด้วยเลยไปคืนจักรยานแล้วหาข้าวกิน อีกอย่างเดินสะดวกกว่า555+ ข้าวมื้อแรกของวันเลือกร้านแถวโซน ซากุระบาร์ จริงๆอยากกินส้มตำแต่วัตถุดิบหมด TT ก็เลยได้มาเป็นข้าวผัด กับ ต้มยำ ที่รสชาติคล้ายแกงส้ม มื้อนี้โดนไป 99,000 กีบ (ถอนหายใจแพรบ)
เสร็จแล้วก็เข้าโรงแรมอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวไปดูโอปป้า เอ้ย !!! ไป Countdown (แต่คนเกาหลีเยอะจริงๆ นึกว่าอยู่เมียงดง) เราอยากเข้าไปปาร์ตี้ที่ตามในบาร์ต่างๆนะ แต่ว่าเท่าที่เดินสำรวจแต่ละที่คนเยอะมาก แล้วก็กลัวว่าค่าเครื่องดื่มจะแพงด้วย เลยนั่งชิวๆ กินโรตีอยู่หน้าร้าน K-mart มีเพลงฟรีจากบาร์ตรงข้ามร้าน ส่องฝรั่งเพลินๆ ก็ได้บรรยากาศดีนะ..... นั่งชิวกันจน 5 ทุ่มกว่าก็หิวสิค่ะ เราเลยไปกินเฝอร้อนๆตรงซอย ซากุระบาร์ อร่อยมาก เฝอร้อนๆอากาศเย็นฟินไปอีก แล้วก็นั่ง Countdown ด้วยการกินเฝอข้ามปีพร้อมกับดูโคมที่ปล่อยขึ้นฟ้าตอนเที่ยงคืน ฟินไปยาวค่ะ....
....จบวันแรกที่ยาวนานด้วยการกินเฝอข้ามปี....
[CR] New Year Trip 2017 Vang Vieng - Vientiane 5D3N
....จบวันแรกที่ยาวนานด้วยการกินเฝอข้ามปี....