สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ผมมองว่าเยอะไปทั้งคู่ แฟนคุณก็รำคาญที่คุณตื้อจนเค้าต้องหาข้ออ้างเรื่องที่ให้รถไปรับ จริงๆ คงไม่ได้กะให้ทำหรอก แค่ให้คุณหยุดแล้วเข้าใจว่าเขาไม่ได้อยากไปไกลขนาดนั้น
ส่วนคุณเองก็เปรียบเทียบทุกอย่างกับคนอื่น จะให้ได้ตามใจไปหมด
ทั้งคู่ไม่มีจุดร่วมในการปรับความเข้าใจให้รับฟังเหตุผลของกันและกันได้เลย ถ้ายังงี้คบต่อไปเจอเหตุการณ์อื่นๆ อีกก็ไม่รอดอยู่ดี ต้องปรับแก้กันทั้งคู่นั่นแหละครับ
ส่วนคุณเองก็เปรียบเทียบทุกอย่างกับคนอื่น จะให้ได้ตามใจไปหมด
ทั้งคู่ไม่มีจุดร่วมในการปรับความเข้าใจให้รับฟังเหตุผลของกันและกันได้เลย ถ้ายังงี้คบต่อไปเจอเหตุการณ์อื่นๆ อีกก็ไม่รอดอยู่ดี ต้องปรับแก้กันทั้งคู่นั่นแหละครับ
ความคิดเห็นที่ 13
โดยส่วนตัวผมอ่านแล้วคิดได้อย่างเดียวครับ
คุณควรจะเลิกกับแฟนคุณไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว
ผมเดาว่าก่อนหน้างานรับปริญญา คุณน่าจะเคยชวนแฟนคุณคนนี้ให้ขึ้นมาหาคุณบ้างแล้ว แต่เขาคงจะบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด และสุดท้ายก็คงเป็นตัวคุณเองน่ะแหละที่ต้องเป็นฝ่ายยอมลงมาหาเขาเอง
ตรงจุดนี้ผมว่าถึงคุณจะรักผู้ชายคนนี้มากขนาดไหน แต่คุณควรได้สติ หรือยอมรับความจริงได้แล้วครับว่า
1.ผู้ชายคนนี้เขาไม่ได้รักคุณเหมือนอย่างที่คุณรักเขา คุณยอมเป็นฝ่ายไปหาเขา เพราะคุณรัก คิดถึง อยากพบอยากเจอ แล้วเขาล่ะรู้สึกกับคุณยังไง ถึงไม่ยอมเป็นฝ่ายขึ้นไปหาคุณ ทั้งๆที่เขาเป็นผู้ชาย
หรือว่า 2.ผู้ชายคนนี้เป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่รู้จักเสียสละ
ซึ่งไม่ว่าจะข้อ1หรือ2 ผู้ชายคนนี้ก็ขาดคุณสมบัติที่จะเป็นคนที่คุณคิดจะใช้ชีวิตคู่ด้วย
ในแง่ความเป็นจริงๆ(ไม่ใช่แค่เรื่องรับปริญญา) ถ้าเขารักคุณจริง ต่อให้ไกลแค่ไหน ในฐานะที่เป็นผู้ชายเขาจะหาโอกาสมาหาคุณเองครับ (ยกเว้นบางคนที่เขามีข้อจำกัดจริงๆ) ในทางตรงกันข้ามหากเขาไม่จริงใจกับคุณหรือไม่รู้จักเสียสละ(เห็นแก่ตัว)ไม่ต้องอยู่ไกลถึงภาคเหนือหรอกครับ ให้คุณอยู่ภาคกลาง ปริมณฑล เผลอๆเขาก็ไม่ไปหา
เรื่องนี้ถ้ามองในแง่ดีอย่างน้อยๆคุณจะได้ไม่ต้องมีรูปคนห่วยๆติดในงานรับปริญญาของคุณ และที่สำคัญเป็นโอกาสที่ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าจะยังไงต่อไป (ถึงแม้โดยส่วนตัวผมจะมองว่าคุณควรคิดตัดสินใจได้ไวกว่านี้)นี่ยังดีนะครับ ที่คุณตัดสินใจเลิก แทนที่จะยังเลือกเป็นฝ่ายเดินทางมากรุงเทพเพื่อมาเลี้ยงฉลองและถ่ายรูปกับผู้ชายคนนี้
ถือว่าเป็นบทเรียนหนึ่งในชีวิตเราครับ รักใครต้องมีสติ จำไว้เสมอว่าไม่มีอะไรเป็นหลักประกันแน่นอนว่าคนที่เรารัก เขาจะมีความรู้สึกเช่นเดียวกับเรา หรือว่าเขาจะเป็นคนดี เพราะถึงยังไงในเบื้องต้นเขาก็คือ "คนอื่น"ที่แปลกหน้าเข้ามาในชีวิตเรา
คนดีๆคนที่ใช่น่ะมีอยู่แล้วครับ อยู่ที่จังหวะชีวิตของเราครับจะได้เจอเมื่อไหร่
คุณควรจะเลิกกับแฟนคุณไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว
ผมเดาว่าก่อนหน้างานรับปริญญา คุณน่าจะเคยชวนแฟนคุณคนนี้ให้ขึ้นมาหาคุณบ้างแล้ว แต่เขาคงจะบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด และสุดท้ายก็คงเป็นตัวคุณเองน่ะแหละที่ต้องเป็นฝ่ายยอมลงมาหาเขาเอง
ตรงจุดนี้ผมว่าถึงคุณจะรักผู้ชายคนนี้มากขนาดไหน แต่คุณควรได้สติ หรือยอมรับความจริงได้แล้วครับว่า
1.ผู้ชายคนนี้เขาไม่ได้รักคุณเหมือนอย่างที่คุณรักเขา คุณยอมเป็นฝ่ายไปหาเขา เพราะคุณรัก คิดถึง อยากพบอยากเจอ แล้วเขาล่ะรู้สึกกับคุณยังไง ถึงไม่ยอมเป็นฝ่ายขึ้นไปหาคุณ ทั้งๆที่เขาเป็นผู้ชาย
หรือว่า 2.ผู้ชายคนนี้เป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่รู้จักเสียสละ
ซึ่งไม่ว่าจะข้อ1หรือ2 ผู้ชายคนนี้ก็ขาดคุณสมบัติที่จะเป็นคนที่คุณคิดจะใช้ชีวิตคู่ด้วย
ในแง่ความเป็นจริงๆ(ไม่ใช่แค่เรื่องรับปริญญา) ถ้าเขารักคุณจริง ต่อให้ไกลแค่ไหน ในฐานะที่เป็นผู้ชายเขาจะหาโอกาสมาหาคุณเองครับ (ยกเว้นบางคนที่เขามีข้อจำกัดจริงๆ) ในทางตรงกันข้ามหากเขาไม่จริงใจกับคุณหรือไม่รู้จักเสียสละ(เห็นแก่ตัว)ไม่ต้องอยู่ไกลถึงภาคเหนือหรอกครับ ให้คุณอยู่ภาคกลาง ปริมณฑล เผลอๆเขาก็ไม่ไปหา
เรื่องนี้ถ้ามองในแง่ดีอย่างน้อยๆคุณจะได้ไม่ต้องมีรูปคนห่วยๆติดในงานรับปริญญาของคุณ และที่สำคัญเป็นโอกาสที่ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าจะยังไงต่อไป (ถึงแม้โดยส่วนตัวผมจะมองว่าคุณควรคิดตัดสินใจได้ไวกว่านี้)นี่ยังดีนะครับ ที่คุณตัดสินใจเลิก แทนที่จะยังเลือกเป็นฝ่ายเดินทางมากรุงเทพเพื่อมาเลี้ยงฉลองและถ่ายรูปกับผู้ชายคนนี้
ถือว่าเป็นบทเรียนหนึ่งในชีวิตเราครับ รักใครต้องมีสติ จำไว้เสมอว่าไม่มีอะไรเป็นหลักประกันแน่นอนว่าคนที่เรารัก เขาจะมีความรู้สึกเช่นเดียวกับเรา หรือว่าเขาจะเป็นคนดี เพราะถึงยังไงในเบื้องต้นเขาก็คือ "คนอื่น"ที่แปลกหน้าเข้ามาในชีวิตเรา
คนดีๆคนที่ใช่น่ะมีอยู่แล้วครับ อยู่ที่จังหวะชีวิตของเราครับจะได้เจอเมื่อไหร่
ความคิดเห็นที่ 1
เค้าไม่ใส่ใจคุณเลย
งานนี้ทั้งชัวิตอาจจะแค่ครั้งเดียว จริงอยู่มันอาจจะไมได้อะไรมากมาย แต่คนเป็นแฟนกันมันควรจะให้ใจกันมากกว่านั้น
ทุเรศนะ จะให้ไปก็ได้ ใหนั่งรถมารับ ให้ออกค่ารถ ออกค่า รร
วันวันนั้น นอกจากเพื่อนๆแล้ว ก็มีแต่คนที่เรารักเท่านั้นแหละที่เราอยากให้มาแสดงความยินดีกับเรา มาถ่ายรูปกับเรา
ตารางออกล่วงหน้า หลายเดือนเค้าควรจะทำตัวให้ว่างก่อนหน้านั้นด้วยซ้ำ ยกเว้น กระทันหันที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆ
จริงๆมันอาจจะดูเกินไปนะ ถ้าไม่มาก็ควรแคร์กันมากกว่านี้ ไม่ว่างอะไรว่าไป หาโอกาสไปถ่ายรูปกัน กทม ที่ไหนๆก็ได้
ของแสดงความยินดีควรมี แฟนกันนะครับ
เป็นผม... ถ้าไม่ขอเลิกคงเสียความรุ้สึกไปไกลแล้ว
คุณผญ ครับ นี่ ผช ที่คุณจะฝากชีวิตไว้หรอ
งานนี้ทั้งชัวิตอาจจะแค่ครั้งเดียว จริงอยู่มันอาจจะไมได้อะไรมากมาย แต่คนเป็นแฟนกันมันควรจะให้ใจกันมากกว่านั้น
ทุเรศนะ จะให้ไปก็ได้ ใหนั่งรถมารับ ให้ออกค่ารถ ออกค่า รร
วันวันนั้น นอกจากเพื่อนๆแล้ว ก็มีแต่คนที่เรารักเท่านั้นแหละที่เราอยากให้มาแสดงความยินดีกับเรา มาถ่ายรูปกับเรา
ตารางออกล่วงหน้า หลายเดือนเค้าควรจะทำตัวให้ว่างก่อนหน้านั้นด้วยซ้ำ ยกเว้น กระทันหันที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆ
จริงๆมันอาจจะดูเกินไปนะ ถ้าไม่มาก็ควรแคร์กันมากกว่านี้ ไม่ว่างอะไรว่าไป หาโอกาสไปถ่ายรูปกัน กทม ที่ไหนๆก็ได้
ของแสดงความยินดีควรมี แฟนกันนะครับ
เป็นผม... ถ้าไม่ขอเลิกคงเสียความรุ้สึกไปไกลแล้ว
คุณผญ ครับ นี่ ผช ที่คุณจะฝากชีวิตไว้หรอ
ความคิดเห็นที่ 2
อ่านแล้วได้แต่แปลกใจว่า....
คุณเอาผู้ชายแบบนี้มาเป็นแฟนได้ยังไง
มาไม่ได้เพราะติดธุระก็ยังพอรับได้
แต่นี่จะให้นั่งรถไปรับเขาที่กทม.อีก
เค้าเป็นคนที่คิดถึงแต่ตัวเองเป็นหลัก ไม่ได้สนใจความรู้สึกของคนอื่น
ของขวัญรับปริญญาที่ดีที่สุดของคุณตอนนี้คือ....
ไปหาผู้ชายคนใหม่ในชีวิตภายภาคหน้าเถอะครับ
คุณเอาผู้ชายแบบนี้มาเป็นแฟนได้ยังไง
มาไม่ได้เพราะติดธุระก็ยังพอรับได้
แต่นี่จะให้นั่งรถไปรับเขาที่กทม.อีก
เค้าเป็นคนที่คิดถึงแต่ตัวเองเป็นหลัก ไม่ได้สนใจความรู้สึกของคนอื่น
ของขวัญรับปริญญาที่ดีที่สุดของคุณตอนนี้คือ....
ไปหาผู้ชายคนใหม่ในชีวิตภายภาคหน้าเถอะครับ
ความคิดเห็นที่ 49
คนที่บอกว่างานรับปริญญา ไม่ได้สำคัญอะไรเลย อันนั้นก็คงเป็นความคิดเห็นส่วนตัวครับ ต่างคนต่างความคิด แต่สำหรับ จขกท. เค้าคิดว่ามันสำคัญ ประเด็นที่เค้าอยากสื่ออกมาคือตรงนี้ครับ ถ้ามันสำคัญสำหรับเค้า คนที่เป็นคู่ครองเค้าต้องให้ความสำคัญสิครับ ผมว่าคนทั่วๆไปเค้าเป็นกันแบบนี้นะ ขอย้ำว่าคนทั่วๆไป
มีแฟน งานรับปริญญาแฟนครับ รับกันบ่อยๆเหรอครับ พระเจ้าแผ่นดินมามอบให้ คนในราชวงศ์มามอบให้ ไม่สำคัญเหรอครับ ผมว่าคนที่ตั้งใจใส่ครุยมารับปริญญา กระดาษแผ่นเดียวไม่สำคัญหรอกครับ รูปถ่ายที่จะถ่ายได้แค่ครั้งหนึ่งในชีวิต มันมีคุณค่าทางจิตใจมากกว่าครับ
ส่วนเรื่องจะเลิกไม่เลิก ผมไม่ขอออกความเห็นครับ เพราะเป็นเรื่องของคน 2 คน จขกท. คงตัดสินใจได้เอง ถ้ามันไม่ใช่ หรือจะไปกันต่อ
มีแฟน งานรับปริญญาแฟนครับ รับกันบ่อยๆเหรอครับ พระเจ้าแผ่นดินมามอบให้ คนในราชวงศ์มามอบให้ ไม่สำคัญเหรอครับ ผมว่าคนที่ตั้งใจใส่ครุยมารับปริญญา กระดาษแผ่นเดียวไม่สำคัญหรอกครับ รูปถ่ายที่จะถ่ายได้แค่ครั้งหนึ่งในชีวิต มันมีคุณค่าทางจิตใจมากกว่าครับ
ส่วนเรื่องจะเลิกไม่เลิก ผมไม่ขอออกความเห็นครับ เพราะเป็นเรื่องของคน 2 คน จขกท. คงตัดสินใจได้เอง ถ้ามันไม่ใช่ หรือจะไปกันต่อ
แสดงความคิดเห็น
แฟนไม่มางานรับปริญญาของเรา เราขอเลิก งี่เง่าไปรึป่าวค่ะ
เพิ่มเติมนิดนึงนะ ตอนนี้ถูกแชร์ในเฟสไปมาก แค่นี้จขกท.ก็รู้สึกแย่แล้วค่ะ ในเฟสไม่ได้เข้ามาอ่านก็ด่าเสียๆหายๆ ที่บอกว่าลงไปหาคือคิดถึงค่ะ เป็นผู้หญิงก็เสียหายตรงนี้แหละค่ะ การคอลกันมันดีกว่าเจอกันจริงๆตรงไหนค่ะ แล้วก็ไม่ได้พักด้วยกัน เขานอนบ้านเขา เรานอนกับญาติ นัดกันเที่ยวแค่นี้