Sci-fi ฝุดๆ / เอมี่เหมาทั้งเรื่อง / เคี้ยวยากพอตัว
เรื่องคร่าวๆ มนุษย์ต่างดาวบุกโลกด้วยรูปทรงแบบที่เราเห็นในโปสเตอร์ อยู่ในหลายๆจุดบนโลก สหรัฐเลยส่งผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษาไปสื่อสาร เพื่อจะได้เข้าใจวัตถุประสงค์ แต่แล้วเกิดปัญหาทำให้ต้องมาแก้ไขกัน (ย่อๆเลย นั่งแล้วเมื่อย ฮาา)
ก่อนเริ่มเรื่องมี Event พูดคุยกันเล็กๆครับ เป็นประเด็นของภาษา การสื่อสาร มีน้อง อลิส ทอย จากคณะอักษรศาสตร์ มาร่วมด้วย
Arrival เข้าชิงลูกโลกสองสาขาครับ ดารานำหญิงดราม่า และ ดนตรีประกอบ ผมว่าดนตรีทำดีนะ แต่ยกให้ lala เค้าเถอะ ... เรื่องนั้นมาเต็มจริงๆ
ทั้งเรื่องเห็นหน้าเอมี่เกือบตลอดทั้งเรื่อง เรียกได้ว่าเกิน 80% เลย แฟนเจเรมี่ ไม่ต้องน้อยใจ เพราะไม่ใช่ตัวหลักอยู่ละ ถามว่าเอมี่เอาอยู่มั้ย ผมว่ายังไม่สุดนะ (เลยไม่แปลกใจที่ไม่ได้รางวัล) อาจจะด้วยบทและมุมภาพด้วย
Film editing สำหรับผมเป็นความน่ารำคาญพอดูเลย ประกอบกับ Cinematography ที่เหมือนๆกันตั้งแต่ต้นเรื่อง การเล่าเรื่องแบบสลับไปมา อดีต ปัจจุบัน อนาคต แถมมีการทิ้ง Clue ไว้เยอะ จนผมว่ามันประมวลผลไม่ทัน ทำให้ค่อนข้างมึนๆ
ผมว่าหนังมีความตกๆหล่นๆ หลายช่วง แบบดูแล้ว Clue เยอะไป จนเกิดความไม่ต่อเนื่อง แถมยังไม่สมเหตุสมผลในหลายๆช่วง ช่วงกลางนี่มีหลุมเล็กๆ เกือบวืดไปเหมือนกัน
ที่ชอบมากๆของเรื่องคือด้านภาษา การสื่อสาร ลองคิดดูว่า ถ้าเราเจอกับเอเลี่ยน เราจะเริ่มคุยกันยังไง ... ด้วยรูปร่างเราไม่เหมือนกัน คงจะต้องลองผิดลองถูกกันนาน ... ผมชอบแนวคิดที่ว่า เมื่อเราเรียนรู้ภาษานั้นๆ เราจะมีแนวความคิดเหมือนเจ้าของภาษาเช่นกัน แบบบางภาษาเราต้องเรียงจากหลังไปหน้า วิธีการคิดเราก็จะเปลี่ยนไป
จริงๆหนังมีความลึกอยู่หลายเรื่องนะ (ผมคิดว่างั้น) ทั้งในเรื่องฟิสิกซ์ ภาษาศาสตร์ ไม่ว่าจะด้วยที่มาที่ไป การตีความ การสื่อสาร สนุกดีสำหรับคนที่ชอบแนวนี้
ไม่แน่ใจเครดิตท้ายเรื่องมีต่อมั้ย ... ผมเดินออกมาก่อน
ผมว่าสิ่งที่หนังพยายามบอกเรา มันเหมือนกับหนังเอเลี่ยนหลายๆเรื่อง ถ้าเรามีความสามัคคีในโลกเราเอง เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น ... เหมือนช่วงนึงเคยมีข่าวว่าอีกประมาณร้อยกว่าปี จะมีอุกกาบาตมาพุ่งชนโลก (ซึ่งเป็นรุ่นถัดไป) ถ้ายังมีความแตกแยกกันอยู่แบบนี้ โลกเราไม่น่ารอด ...
=============================================================
ขอบคุณ Major Cineplex สำหรับโอกาสดีๆด้วยครับ
ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจากอินเตอร์เนต
จนกว่าจะพบกันใหม่
Tony Freeman
[SR] Arrival 7.5/10 ไม่สปอย
เรื่องคร่าวๆ มนุษย์ต่างดาวบุกโลกด้วยรูปทรงแบบที่เราเห็นในโปสเตอร์ อยู่ในหลายๆจุดบนโลก สหรัฐเลยส่งผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษาไปสื่อสาร เพื่อจะได้เข้าใจวัตถุประสงค์ แต่แล้วเกิดปัญหาทำให้ต้องมาแก้ไขกัน (ย่อๆเลย นั่งแล้วเมื่อย ฮาา)
ก่อนเริ่มเรื่องมี Event พูดคุยกันเล็กๆครับ เป็นประเด็นของภาษา การสื่อสาร มีน้อง อลิส ทอย จากคณะอักษรศาสตร์ มาร่วมด้วย
Arrival เข้าชิงลูกโลกสองสาขาครับ ดารานำหญิงดราม่า และ ดนตรีประกอบ ผมว่าดนตรีทำดีนะ แต่ยกให้ lala เค้าเถอะ ... เรื่องนั้นมาเต็มจริงๆ
ทั้งเรื่องเห็นหน้าเอมี่เกือบตลอดทั้งเรื่อง เรียกได้ว่าเกิน 80% เลย แฟนเจเรมี่ ไม่ต้องน้อยใจ เพราะไม่ใช่ตัวหลักอยู่ละ ถามว่าเอมี่เอาอยู่มั้ย ผมว่ายังไม่สุดนะ (เลยไม่แปลกใจที่ไม่ได้รางวัล) อาจจะด้วยบทและมุมภาพด้วย
Film editing สำหรับผมเป็นความน่ารำคาญพอดูเลย ประกอบกับ Cinematography ที่เหมือนๆกันตั้งแต่ต้นเรื่อง การเล่าเรื่องแบบสลับไปมา อดีต ปัจจุบัน อนาคต แถมมีการทิ้ง Clue ไว้เยอะ จนผมว่ามันประมวลผลไม่ทัน ทำให้ค่อนข้างมึนๆ
ผมว่าหนังมีความตกๆหล่นๆ หลายช่วง แบบดูแล้ว Clue เยอะไป จนเกิดความไม่ต่อเนื่อง แถมยังไม่สมเหตุสมผลในหลายๆช่วง ช่วงกลางนี่มีหลุมเล็กๆ เกือบวืดไปเหมือนกัน
ที่ชอบมากๆของเรื่องคือด้านภาษา การสื่อสาร ลองคิดดูว่า ถ้าเราเจอกับเอเลี่ยน เราจะเริ่มคุยกันยังไง ... ด้วยรูปร่างเราไม่เหมือนกัน คงจะต้องลองผิดลองถูกกันนาน ... ผมชอบแนวคิดที่ว่า เมื่อเราเรียนรู้ภาษานั้นๆ เราจะมีแนวความคิดเหมือนเจ้าของภาษาเช่นกัน แบบบางภาษาเราต้องเรียงจากหลังไปหน้า วิธีการคิดเราก็จะเปลี่ยนไป
จริงๆหนังมีความลึกอยู่หลายเรื่องนะ (ผมคิดว่างั้น) ทั้งในเรื่องฟิสิกซ์ ภาษาศาสตร์ ไม่ว่าจะด้วยที่มาที่ไป การตีความ การสื่อสาร สนุกดีสำหรับคนที่ชอบแนวนี้
ไม่แน่ใจเครดิตท้ายเรื่องมีต่อมั้ย ... ผมเดินออกมาก่อน
ผมว่าสิ่งที่หนังพยายามบอกเรา มันเหมือนกับหนังเอเลี่ยนหลายๆเรื่อง ถ้าเรามีความสามัคคีในโลกเราเอง เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น ... เหมือนช่วงนึงเคยมีข่าวว่าอีกประมาณร้อยกว่าปี จะมีอุกกาบาตมาพุ่งชนโลก (ซึ่งเป็นรุ่นถัดไป) ถ้ายังมีความแตกแยกกันอยู่แบบนี้ โลกเราไม่น่ารอด ...
=============================================================
ขอบคุณ Major Cineplex สำหรับโอกาสดีๆด้วยครับ
ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจากอินเตอร์เนต
จนกว่าจะพบกันใหม่
Tony Freeman