สวัสดีครับ และแล้วก็ได้ฤกษ์กลับมาเขียนถึงแก็ตเจ็ดแบบละเอียดรับต้นปี
ครั้งที่แล้วผมรีวิวตัว autobot รุ่น smart ซึ่งตอนนี้ปลดระวางไปแล้ว คราวนี้เลยได้โอกาสอัพรุ่นใหม่ที่ฉลาดขึ้นอย่าง vortex
ตัวนี้ก่อนตัดสินใจได้หาข้อมูลอยู่พอสมควร แต่พอเป็นรุ่นที่นำเข้ามาไม่นาน เลยยังไม่มีใครทำรีวิวเจ้าตัวนี้เป็นภาษาไทยจริงจัง

ผมจึงตั้งใจรวบรวมประสบการณ์ใช้งาน ข้อดีข้อด้อย และความเห็นเกี่ยวกับเจ้าตัวนี้มาเป็นข้อมูลไว้ที่นี่ เผื่อเพื่อนๆท่านใดสนใจจะได้มีอาไคฟ์พรีวิวก่อนครับ
สำหรับสายยาว ปูเสื่อได้ที่นี่ครับ นายแบบมาพอดี เอ้า เรียกแขกหน่อย

autobot vortex เป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นนำเข้า สัญชาติเกาหลีครับ ตัวนี้เพิ่งติด 10 อันดับ The Best Robot Vacuums 2016 (www.toptenreviews.com) ไปหมาดๆ โดยเอาชนะคู่แข่งรุ่นเดียวกันอย่าง iROBOT Roomba 770 ไปได้ ตรงนี้คิดว่าหนึ่งในจุดแข็งที่ทำให้ vortex ดูเหนือกว่าอาจเป็น ความสามารถในการดูดและถูในเครื่องเดียว ซึ่งเป็นจุดเดียวกันที่ทำให้ผมสนใจ vortex มากกว่า Roomba ซีรีย์7 ครับ


แกะกล่องแล้ว ภายในประกอบด้วย สองส่วนครับคือตัวเครื่อง และอะไหล่อุปกรณ์ต่างๆซึ่งจะมาในกล่องพิซซ่าสีเทา พอ unpack ทั้งหมดแล้วจะได้
1.ตัวเครื่อง แบตเตอรี และกล่องเก็บขยะ
2.ผ้าถูพื้นขนาดใหญ่ (มากกก)
3.คู่มือการใช้งานฉบับภาษาไทย
4.แปรงยางทำความสะอาดอะไหล่
5.แปรงปัดทำความสะอาดอะไหล่และแผ่นกรอง
6.ถ่านรีโมท
7.รีโมทคอนโทรล
8.อแดปเตอร์
9.สายชาร์ต
10.ถาดถูและแทงค์น้ำ
11.แปรงปัดข้าง หนึ่งคู่
12.แท่นชาร์ตหรือที่เรียกกันว่า home base


ที่ตัวเครื่องจะมีช่องคล้ายๆเครื่องเล่น CD-mp3 สมัยก่อน กดปุ่มสีเทาแล้วเปิดฝาออกก็จะพบ กล่องเก็บขยะพร้อมฟิลเตอร์

กล่องเก็บขยะรุ่นนี้ไซส์ค่อนข้างมินิทีเดียว

ส่วนฟิลเตอร์ มีทั้งหมดสี่ชั้น ประกอบไปด้วย แผ่นกรองชั้นที่หนึ่งเป็นฟองน้ำสีดำ แผ่นกรองชั้นที่สองเป็นตาข่ายบางๆ แผ่นกรองชั้นที่สามสีฟ้า และไส้กรองตะแกรง ที่เสียดายคงเป็นตัวกรองนี่ล่ะครับ ถ้าได้ HEPA Filter จะยอดเยี่ยมกว่านี้มากๆ


จับพลิกสำรวจใต้ท้องเครื่องกันบ้าง ฟังก์ชันหลักๆจะเหมือนหุ่นยนต์ดูดฝุ่นขนาดกลาง คือมีแปรงปัดหลักขนาดใหญ่ ใกล้ช่องดูดฝุ่น มีที่ใส่แปรงปัดด้านข้าง เซ็นเซอร์ตรวจจับพื้นที่ต่างระดับ3จุด แต่ที่พิเศษขึ้นมาคือตัวนี้จะมีช่องสำหรับติดถาดถูพื้นมาด้วยครับ (ลูกศรสีน้ำเงิน)


อันนี้ผมชอบมาก ดีไซน์ของถาดและผ้าถูพื้นของ vortex น่าจะเป็นผ้าถูขนาดใหญ่ที่สุดในท้องตลาดในตอนนี้แล้ว และด้วยความเป็นถาดแบนๆ ทำให้เพิ่มแรงกดระหว่างตัวผ้ากับพื้นผิวขึ้นไปอีกเท่า ความสะอาดก็ต่างจากการติดผ้าเปียกในรุ่นก่อนหน้านี้มากทีเดียว ถูแล้วสะใจจริงๆครับ ดูจากภาพปลากรอบสิ555


พอเติมน้ำใส่แทงค์และติดผ้าถูเข้าไปแล้ว น้ำก็จะค่อยๆวิ่งซึมลงไปที่ผ้า วิ่งไปชั่วโมงกว่าๆผ้าก็ยังไม่แห้ง ผ่านครับ


มาถึงวิธีใช้งานกันบ้าง เราสามารถควบคุมการทำงานได้จากจอมอนิเตอร์หน้าตัวเครื่อง และผ่านรีโมทคอนโทรล โดย vortex นี้จะมีรูปแบบการทำงานที่ 3 แบบ


1. แบบดูดฝุ่นอย่างเดียว ใช้ได้กับพื้นและพรม > เลือกโหมด vacuum ที่หน้าจอ
2. แบบถูเปียกอย่างเดียว > เลือกโหมด mop ที่หน้าจอ
3. แบบไฮบริด คือทั้งดูดและถูพร้อมๆกัน > เลือกโหมด hybrid ที่หน้าจอ

นอกจากการทำงานหลัก 3 รูปแบบแล้ว รุ่นนี้ยังมีฟังก์ชันเสริมเข้ามาให้เลือกคู่กับรูปแบบการทำความสะอาดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะค่อนข้างหลากหลาย เช่น
1.1 โหมดทำความสะอาดเฉพาะจุด (ในรูปคือวงกลมเหมือนเป้าสีฟ้าๆ) ฟังก์ชันคือตัวเครื่องเดินจะวนเป็นวงในพื้นที่ 3*3 เมตร จนครบ เหมาะกับการคลีนพวกเศษขนมหรือบริเวณที่ฝุ่นจับจัดๆครับ

1.2 โหมดทำความสะอาดในที่มืด หรือระบบทำความสะอาดเฉพาะใต้เตียง (Shadow Mode) ปกติเมื่อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทั่วไปเข้าไปในที่มืดก็จะเดินวนไปมา อาจทำความสะอาดได้ไม่ทั่วทุกบริเวณ vortex เลยมาตอบโจทย์ โดยเติมโหมด Shadow เน้นทำความสะอาดเฉพาะพื้นที่ที่ไม่มีแสงสว่าง ที่มืดๆ อย่างใต้เฟอร์นิเจอร์ เตียง ตู้ แค่กดเลือกโหมดนี้ก่อนการทำงาน ตัวเครื่องก็จะวิ่งทำความสะอาดในพื้นที่มืดนั้นจนครบ แล้วออกมาครับ

1.3 โหมดการทำความสะอาดสองรอบ (Double Cleaning) เมื่อกดโหมดนี้ จากที่เคยทำความสะอาดรอบเดียว ก็จะทำเพิ่มให้อีกหนึ่งรอบโดยไม่บ่น

1.4 โหมดตั้งเวลาออกทำความสะอาดอัตโนมัติ ถึงเวลาก็ออกมาเดินทำความสะอาดได้เองเลย สะดวกดี

1.5 โหมดเทอร์โบ เป็นการทำความสะอาดด้วยระบบลมดูดพลังสูง แต่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไรเนื่องจากพอดูดแรงขึ้น เสียงก็ดังขึ้นมาก

1.6 โหมดก้าวข้ามสิ่งกีดขวาง ปกติเวลาหุ่นยนต์เจออะไรขวางทางก็จะสามารถประมวลผลและทำการข้ามได้เอง ซึ่งข้อจำกัดของแต่ละรุ่นก็ต่างกัน สำหรับตัวนี้จะข้ามได้ไม่เกิน 1cm ครับ ถ้าพูดถึงความสามารถนี้ในเครื่องที่ทั้งดูดถูได้ ผมเทคะแนนให้ mister robot hybrid มากกว่า


ที่น่าสนใจอีกจุดคือ vortex มีระบบวางแผนการเดินทำความสะอาดผ่านกล้องหน้าที่ชื่อ V-Slam ทำให้การทำความสะอาดมีแพทเทิร์น ไม่เดินสุ่มวนซ้ำไปมาจนแบตหมด ซึ่งก่อนเริ่มทำงานงตัวเครื่องจะแสกนพื้นที่แล้ววิเคราะห์และวางแผนการเดิน ทำให้ประหยัดเวลาและแบตเตอรี มากขึ้นครับ

ไฮไลต์อีกจุดของรุ่นนี้ ไม่พูดถึงคงไม่ได้นั่นคือ ระบบเสียงภาษาไทยที่คอยพูดกำกับการใช้งานทุกขั้นตอน เช่น บอกโหมดการทำงาน เริ่มงาน สิ้นสุดการทำงาน เตือนให้เราใส่ถาดผ้าถูพื้น เสียงเตือนแบตเตอรีต่ำ ฯลฯ ตรงนี้ผมว่าเหมาะกับ สว. และคนที่ไม่ค่อยถูกกับเทคโนโลยี หรือไม่คุ้นเคยกับเสียงภาษาอังกฤษ ผมว่า Vortex น่าจะเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นแรกๆในไทยที่ลงระบบเสียงภาษาไทย เลยก็ว่าได้ (ถ้ามีตัวอื่นอีก ช่วยอัพเดทด้วยนะครับ) ก็น่าดีใจครับ ที่ได้เห็นการพัฒนาอะไรเล็กๆน้อยๆแบบนี้จากผู้นำเข้า


ด้านผลงานครับ ปกติทำความสะอาดวันละรอบเลยครับ ฝุ่นก็ยังเยอะอยู่ดี

สรุปผลการใช้งาน

ข้อดี
1. มีระบบการทำงานพื้นฐานครบถ้วนครอบคลุม เช่น ดูดและถูได้ในเครื่องเดียว เซ็นเซอร์กันตกจากที่สูง กันชนด้านหน้า ตั้งเวลาทำความสะอาดได้เอง มีกล้องแสกนพื้นที่ก่อนการทำงาน ตัวไต่ข้ามสิ่งกีดขวาง ความสามารถในการกลับแท่นชาร์ต ตัวเรื่องประกันหนึ่งปี แบตเตอรีหกเดือน

2. มีระบบเสียงภาษาไทยในการปฏิบัติงาน ออกเสียงกำกับการทำงานทุกโหมด และเสียงเตือนระหว่างการใช้งาน ผู้ใหญ่ที่บ้านสามารถใช้ได้เอง เล่นเองได้ เรียนรู้สบายไม่มีปัญหา

3. มีฟังก์ชันการทำงานที่ตอบโจทย์ความต้องการแต่ละแบบ เช่น โหมดทำความสะอาดเฉพาะใต้เตียงหรือเฟอร์นิเจอร์ โหมดทำความสะอาดเพิ่มเป็น 2 รอบ 
มีระบบการเดินที่เป็นแบบแผน ทำให้มั่นใจว่าจะสะอาดหมดจดและไม่ข้ามพื้นที่

4. แบตเตอรีเป็น ลิเธียมฟอสเฟต ซึ่งดีกว่ารุ่นก่อนๆของ autobot แบตชนิดนี้จะเก็บประจุได้นานกว่า อายุการใช้งานก็ยาวนานตามครับ

5. ผ้าถูขนาดใหญ่มาก น่าจะใหญ่ที่สุดในท้องตลาดแล้ว ทำให้แรงกดจากตัวเครื่องค่อนข้างดี ถูสะอาด ไม่ใช่แค่ลากๆไปแบบรุ่นติดผ้าเปียก

6. ข้อดีอีกข้อคือผมชอบเซอร์วิสค่ายนี้ครับ รู้สึกจับต้องได้ ทำให้ไวไม่หมกเม็ด อาจเป็นเหตุผลนึงที่ผมยัรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่มีตัวใหม่ออกมา ใครดูหุ่นยนต์ราคากลางๆ คุณภาพดี เซอร์วิสยอดเยี่ยม ผมว่าตอบโจทย์ครับ

ข้อสังเกต
1. รุ่นนี้เสียงค่อนข้างดังจริงๆ โดยเฉพาะตอนเปิดโหมดเทอร์โบ แมวกระสับกระส่ายครับ555 และจะปิดโหมดเทอร์โบได้จากรีโมทเท่านั้น
2. ไม่มีตัวกำแพงเสมือนหรือ Virtual Wall สำหรับกั้นพื้นที่ทำความสะอาดมาให้
3. กล่องเก็บขยะค่อนข้างเล็ก และหักคะแนนตรงแผ่นกรองที่ไม่ใช่ HEPA Filter
4. ไม้กวาดด้านข้างเครื่องดูบอบบางพอสมควร

จบแล้วครับ ขาดตกตรงไหนต้องขออภัย และหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่กำลังเล็งรุ่นนี้อยู่นะครับ พบกันคราวหน้า ขอบคุณครับ

**แก้คำผิดครับ