คนหนึ่งเกษียณ อายุไปแล้ว
อีกคนไปอยู่มุกดาหาร

ตำรวจ ต้นธารของกระบวนการยุติธรรม
แต่ทำคดีนี้ได้ชุ่ยและชั่วมาก  ขนาดพยานในที่เกิดเหตุ ยืนยันว่า คนขับเป็นผู้ชาย รูปร่างสูงใหญ่

แต่ตำรวจทำสำนวน แบบจะเอาผิดครูให้ได้ ทั้งๆที่ครูเป็นผู้หญิง
เลยไม่ใส่คำว่า ผู้ชาย ลงไป

อัยการ ผู้พิพากษา ก็เหมือน คนอ่านนิยาย
สำนวนมาแบบนี้ อ่านแล้วเคลิ้มก็ตัดสินไปตามสำนวน

ชั้นต้น ว่าผิด
อุทธรณ์ ยกฟ้อง
ฏีกา ว่า ผิด ลงโทษจำคุก ไม่รอลงอาญา เพราะจำเลยปฏิเสธ
ติดคุกฟรีไป 1ปี6เดือน ก่อนได้รับอภัยโทษ

ชีวิตครอบครัวล่มสลาย หน้าที่การงาน ราชการ พังทลาย
คนรอบข้างเกิดความรังเกียจ


ตำรวจในฐานะพนักงานสอบสวน ผู้ทำสำนวน
จะชงอ่อน ชงแก่ ชงขม ชงหวาน  อยู่ที่ปลายนิ้วและผลประโยชน์

หลักฐานสีเขียว ที่ติดกับรถจักรยาน ก็ปรากฎชัดว่า
ไม่ได้มาจากรถครู  ก็ยังไม่ไปหาผู้กระทำผิดตัวจริง
อยากจะได้ผลงาน โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของคนอื่น





“เปลี่ยนสำนวน-ตัดหลักฐาน” ความบิดเบี้ยวการทำคดีของตำรวจ
https://isranews.org/isranews-scoop/item/22515-police_22515.html