หลังจากหายตัวไปอย่างยาวนาน ราวกับว่าหายไปจากโลกนี้แล้ว ในที่สุดเราก็ได้กลับมาอีกครั้ง ครั้งนี้อาจจะเป็นทริปที่แปลกหน่อยๆ อาจจะผิดแนวไปจากทริปอื่นๆที่เคยทำมา เนื่องจากทริปนี้เป็นทริปที่พาคุณพ่อ คุณแม่ และคุณพี่ ไปเที่ยวนั่นเอง ครั้นจะพาไปเดินลุยๆ แบกกระเป๋าเหมือนทุกครั้งก็คงจะเป็นไปไม่ได้ ครั้งนี้ผมเลยตัดสินใจเช่ารถซะเลยยยยย เพื่อความสะดวกของคุณพ่อกับคุณแม่ (ถ้าจะพาผู้ใหญ่มา คิดเรื่องสะดวกไว้ก่อนประหยัดเลยครับ เคยมีประสบการณ์ตอนพาพ่อแม่ไปเที่ยวยุโรปมาแล้วทีนึง) ผมจะเริ่มตั้งแต่เตรียมตัวเลยแล้วกันนะครับว่าทำอะไรบ้าง และเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ปล. ระหว่างที่ผมเขียนกระทู้นี้อยู่ ผมก็กำลังเที่ยวไปด้วยนะครับ ดังนั้นเราจะได้มาลุ้นไปด้วยกันแบบจริงจังเลยทีเดียว
เดือนธันวาคมช่วงก่อนคริสมาสประมาน 2-3 วัน
แม่ : นิว… แม่ว่าแม่อยากไปเที่ยวอีกสักครั้ง แม่คิดว่าแม่เริ่มเดินไม่ไหวแล้ว
ผม : อยากไปไหนแม่…
แม่ : ไม่ยุโรปตะวันออก ก็ญี่ปุ่น เอาแบบไม่หนาวมากนะ ไม่อยากไปทรมาน
(คิดในใจ… แย่แล้ว… ยุโรปตะวันออกต้องขอวีซ่า ตังในบัญชีไม่น่าพอ ญี่ปุ่นก็หนาวโคตรๆ)
ผม : เดี๋ยวดูให้แล้วกันแม่ แต่ไม่รับปากนะ
หลังจากคุยกับแม่เรียบร้อยก็เริ่มหาข้อมูลทันที จนได้ข้อสรุปว่าทางตอนใต้ของญี่ปุ่น(คิวชู)หนาว แต่ไม่หนาวเท่าส่วนอื่นๆ แต่ก็ต้องแลกกับการที่สภาพอาจจะดูแห้งแล้งซักหน่อย หิมะไม่มี ดอกไม้ไม่บาน เมื่อได้เป้าหมายคร่าวๆ เรียบร้อยแล้ว ก็ไปคุยกับคุณพ่อ และคุณแม่ อธิบายทุกอย่างให้เรียบร้อย
ผม : บลาๆๆๆๆๆ (ถ้าจะให้พิมพ์หมดคงจะยาวเกินไป)
แม่ : ก็ได้นะ นิวจัดเลย
ผม : โอเครคับ
พ่อ : อยากไปฮิโรชิม่าด้วย อยากไปดูที่เค้าระเบิดกัน
ผม : พ่อ!!! ฮิโรชิม่าไม่อยู่คิวชูนะ เหมือนจะใกล้แต่ไม่ใกล้นะ (ปล. อันนี้คิดในใจ)
ผม : อ่อครับ… เดี๋ยวลองดูให้นะครับ (อันนี้ตอบจริงๆ)
ได้ข้อสรุปเรียบร้อยแล้ว เรามาเริ่มวางแผนกันเลยครับ บอกก่อนนะครับว่าทริปนี้เป็นทริปที่ค่อนข้างแพงอาจจะไม่เหมาะกับการไปแบคแพคสักเท่าไหร่ แต่ถ้าจะพาผู้ใหญ่ไปเที่ยวอาจจะพอไกด์ได้บ้างครับ มาดูกันเลยครับว่าแพลนจะเป็นยังไงบ้าง
เริ่มด้วยการหาสายการบินจาก
www.skyscanner.co.th ค้นพบว่าถ้าบินไปลง Fukuoka ช่วงวันที่ 10-21 มกราคม ราคาจะตกอยู่ที่ประมาน 14,000 บาท โดยใช้เครื่องของสายการบินไทย ได้กระเป๋าคนละ 30กิโล ราคานี้ถือว่าดีแล้วเมื่อเทียบกับวันอื่นๆ (เชคจากตัวเวปไซต์ ของสายการบินต่างๆอีกทีด้วยนะครับ) ทีนี้ก็มาหาที่เช่ารถกันต่อเลย เนื่องจากผมไม่อยากโดนหักบัตรเครดิตเป็นเงินเยน เพราะว่าเรตแลกเงินของเหล่าธนาคารทั้งหลายก็ช่างโหดร้ายเหลือเกิน ผมเลยตัดสินใจใช้ agency แทน โดยเวปไซต์ที่ผมใช้คือ
www.rentalcars.com โดยราคารถในเวปไซต์นี้ถือว่าไม่แพงนะครับ สามารถเอาไปเทียบกับหน้าเวปไซต์ของบริษัทที่ใช้เช่าโดยตรงได้เลย รถที่ผมตัดสินใจจองไปคือ Toyota Corolla Axio โดยจองตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม ไปจนถึงวันที่ 21 มกราคม ราคารวมประกันของ agency ตกอยู่ที่ 32,578.61บาท หรือคนละประมาน 8,144.65 บาท
เอาล่ะ… ได้วัน ได้รถ เรียบร้อยแล้ว ทีนี้ก็ได้เวลาเริ่มเอาสถานที่ยัดลงไปได้แล้ว หลังจากเปิดหนังสือ เปิดอินเตอร์เน็ตวนไปวนมา โดยที่มีคุณพ่อนั่งดูบอลให้กำลังใจอยู่ข้างๆวันแล้ววันเล่า ก็ได้ข้อสรุปออกมาตามนี้
Fukuoka airport >> Saga >> Nagasaki >> Kumamoto >> Miyazaki >> Beppu >> Yamagushi >> Hiroshima >> Fukuoka ระยะทางรวมประมาน 2,000 กิโลเมตร เบาๆเนอะ สบายๆ (แทบร้องไห้)
ผม : พ่อ… ระยะทางรวมเกือบสองพันโลเลยนะไหวป่าว
พ่อ : อืม….. เยอะอยู่นะ น่าจะตัด Hiro…. (ในหัวผมนี่ ตัด Hiroshima ออกใช่มั้ย… เตรียมหาที่ใหม่เลย)
แต่ระหว่างนั้นเอง ปืนใหญ่อาเซนอล ทีมโปรดทำประตูได้!!!!
พ่อ : ไหวๆๆๆๆ ตามนั้นเลย (บร๊ะเจ้า!!! ฟุตบอลมีผลต่อความคิดคนมากขนาดนี้)
ทุกอย่างลงตัวก็มานั่งหาที่เที่ยวคร่าวๆ เดี๋ยวผมจะลง List รายการเที่ยวทั้งหมดพร้อมตารางเวลาไว้ให้อีกทีนะครับ
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ในที่สุดก็มาถึงวันเดินทางกันแล้ว…
วันที่ 9 มกราคม 2560
22:30 น.
เดินทางมากถึงสนามบินเรียบร้อยมุ่งหน้าไปยังเคาเตอร์ C เพื่อทำการเชคอิน ภาพที่เห็นคือคนประมาน 100 กว่าคนยืนออกันอยู่ ทุกคนต่างมีจุดประสงค์เดียวกัน… แต่ไม่เป็นไรครับตอนนี้ที่สนามบินมีให้เราจัดการปริ้นใบติดกระเป๋าที่ตู้ด้วยตนเอง แล้วก็ไปโหลดด้วยตัวเองได้เลย ไม่มีคนใช้บริการเลยครับ ถ้าเชคอินมาแล้วลองไปดูนะครับ ผมไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูเพราะตอนนั้นรีบๆ คุณแม่ปวดฉี่ แต่กระนั้นเลยคนระตรวจสัมภาระก็เยอะใช่เล่น เอารูปมานอนยันเลย
วันที่ 10 มกราคม 2560
01:07 น.
เครื่องบินออกจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติฟูกุโอกะ
08:10 น. ตามเวลาท้องที่ของญี่ปุ่น
ถึงฟูกุโอกะแล้ววววว ใช้เวลาเดินทางแค่ 4 ชั่วโมงกว่าๆเท่านั้นเอง จัดการรับกระเป๋าอะไรให้เรียบร้อยเพื่อที่จะไปรับรถตามที่นัดหมายไว้
09:20 น.
เอากระเป๋าเรียบร้อยแล้วววว ได้เวลาเดินหาบริษัทรถ เดินวนๆก็ไม่เจอ เจอแต่ของยี่ห้ออื่น สุดท้ายก็ไปถาม information จนได้
ผม : Excuse me… where can I find a Times Car Rental counter? พร้อมยื่นใบจองให้กับเจ้าหน้าที่ดู (แกรมม่าไม่ดี แก้ให้ด้วยนะคร้าบบ)
เจ้าหน้าที่ : Ano….. You must call them… and they will come to pick you here…
เอาไงดีละทีนี้ จะโทรยังไงโทรศัพท์ไม่มีด้วยสิ สงสัยเจ้าหน้าที่เห็นในความเหลอหลาเลยชี้ไปที่ตู้โทรศัพท์ให้ รอดตายไป ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่สุดน่ารักจริงๆ
ณ ตู้โทรศัพท์ ล้วงหาเหรียญเงินเยนในกระเป๋า เจอเหรียญ 100 เยน ที่เหลืออยู่ตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ แต่ก็มีแค่นั้นจริงๆ มีแค่เหรียญเดียวเท่านั้น จะพอรึเปล่าก็ไม่รู้ ไม่สิจะคุยรู้เรื่องรึเปล่ายังไม่รู้เลย ภาษาอังกฤษน่าจะ snake snake fish fish ตั้งคนพูดคนฟัง เอาน่ะ… ยังไงก็ต้องลองมาขนาดนี้แล้ว กดเบอร์ตามเอกสารที่ได้มาทันที ตรู๊ด…. ตรู๊ด…. ตรู๊ด….
ปลายสาย : ?#?@?DA:SDK?$%?A?/ (โดนรัวญี่ปุ่นมาหนึ่งชุดใหญ่)
ผม : Ano….. (เลียนแบบเจ้าหน้าที่เมื่อกี้ จะได้เหมือนมีความรู้) Is that Times Car Rental company?
ปลายสาย : Ano…… ?%AO&!)FPASD(*12 แล้วก็เงียบไปประมาน 3วิ Hi, This is Times Car Rental company.. Can I help you?
ผม : We need a transportation service at the airport.. My boo….
ยังพูดไม่ทันจบก็โดนขั้นซะแล้ว
ปลายสาย : OK! OK! How many people..
ผม : Four…
ปลายสาย : OK! Wait for me at the police station…
ตรู๊ด…. ตรู๊ด…. ตรู๊ด…. อ้าว!!! ใจเย็นดิ นี่เข้าใจถูกมั้ยว่าให้มารับเฉยๆ ให้ไปสถานีตำรวจเลยหรอ… เป็นไงเป็นกันหน่ะ เหรียญไม่มีแล้ว โทรไม่ได้แล้ว สถานีตำรวจก็สถานีตำรวจ ไปถามเจ้าหน้าที่คนเดิม เค้าก็ชี้แล้วก็ยิ้มๆให้เหมือนเดิม ผมก็เดินงงๆไปเหมือนเดิม
ยืนรอ อยู่ประมาณ 15นาที หน้าสถานีตำรวจ ถ้าเข้าไปได้คงเข้าไปแล้ว….
9:50 น.
You you you!!! Time Rental Cars?? เสียงจากถนนลอยมาเค้าหูผม ผมก็เลยพยักหน้าแบบงงๆ ทันใดนั้นคนขับที่ตะโกนออกมาก็มาจับมือ 1รอบ รัวญี่ปุ่น 1ชุด ลากกระเป๋าเดินทางที่พื้นไปทันที 2ใบ แล้วตะโกนกลับมาว่า Come! Come! งงหนักมาก เออ… come ก็ come จะโดนลักพาตัวมั้ยเนี่ย เดินมาถึงรถ ถึงเห็นว่ามีโลโก้ของบริษัทติดอยู่ ใจชื้นขึ้นนิดนึงตามไปได้อย่างสบายใจแล้ว
10:05 น.
รถตู้พามาถึงจุดรับรถเรียบร้อย เข้าไปคุยเรื่องรายละเอียดต่างๆ ทางเค้าแจ้งว่าไม่มี ETC card ให้เช่านะ (เป็น Easy Pass ของญี่ปุ่น) ผมก็โอเคร ไม่เป็นไร น่าจะเพิ่มความตื่นเต้นให้กับทริปตอนจ่ายเงินได้หน่อย แล้วก็ถึงเวลาส่งมอบรถ อ้าววววววว ไม่ใช่ AXIO นี่นา…
ผม : Ahhhh….
เจ้าหน้าที่ : Sorry, we don’t have your car anymore.. (อ่านใจได้ใช่มั้ย ยังไม่ทันพูดอะไรเลย) but this car is bigger than yours and you don’t have to pay anything more…. Is it ok?
ผม : OK OK OK พยักหน้ารัวๆเลยทีเดียว ของฟรีเอาไว้ก่อน
นี่คือรถที่จะพาผมเที่ยว และอยู่กับผมไปอีก 11วัน
เดี๋ยวผมไปนอนก่อนนะครับ รู้สึกนอนไม่พอ เดี๋ยวมาเที่ยวด้วยกันต่อนะคร้าบบบบบบบบบ
[CR] ขับรถเที่ยวชิวๆ (รึเปล่า) 12 วัน คิวชู + ฮิโรชิม่า (รายงานเกือบสด)
ปล. ระหว่างที่ผมเขียนกระทู้นี้อยู่ ผมก็กำลังเที่ยวไปด้วยนะครับ ดังนั้นเราจะได้มาลุ้นไปด้วยกันแบบจริงจังเลยทีเดียว
เดือนธันวาคมช่วงก่อนคริสมาสประมาน 2-3 วัน
แม่ : นิว… แม่ว่าแม่อยากไปเที่ยวอีกสักครั้ง แม่คิดว่าแม่เริ่มเดินไม่ไหวแล้ว
ผม : อยากไปไหนแม่…
แม่ : ไม่ยุโรปตะวันออก ก็ญี่ปุ่น เอาแบบไม่หนาวมากนะ ไม่อยากไปทรมาน
(คิดในใจ… แย่แล้ว… ยุโรปตะวันออกต้องขอวีซ่า ตังในบัญชีไม่น่าพอ ญี่ปุ่นก็หนาวโคตรๆ)
ผม : เดี๋ยวดูให้แล้วกันแม่ แต่ไม่รับปากนะ
หลังจากคุยกับแม่เรียบร้อยก็เริ่มหาข้อมูลทันที จนได้ข้อสรุปว่าทางตอนใต้ของญี่ปุ่น(คิวชู)หนาว แต่ไม่หนาวเท่าส่วนอื่นๆ แต่ก็ต้องแลกกับการที่สภาพอาจจะดูแห้งแล้งซักหน่อย หิมะไม่มี ดอกไม้ไม่บาน เมื่อได้เป้าหมายคร่าวๆ เรียบร้อยแล้ว ก็ไปคุยกับคุณพ่อ และคุณแม่ อธิบายทุกอย่างให้เรียบร้อย
ผม : บลาๆๆๆๆๆ (ถ้าจะให้พิมพ์หมดคงจะยาวเกินไป)
แม่ : ก็ได้นะ นิวจัดเลย
ผม : โอเครคับ
พ่อ : อยากไปฮิโรชิม่าด้วย อยากไปดูที่เค้าระเบิดกัน
ผม : พ่อ!!! ฮิโรชิม่าไม่อยู่คิวชูนะ เหมือนจะใกล้แต่ไม่ใกล้นะ (ปล. อันนี้คิดในใจ)
ผม : อ่อครับ… เดี๋ยวลองดูให้นะครับ (อันนี้ตอบจริงๆ)
ได้ข้อสรุปเรียบร้อยแล้ว เรามาเริ่มวางแผนกันเลยครับ บอกก่อนนะครับว่าทริปนี้เป็นทริปที่ค่อนข้างแพงอาจจะไม่เหมาะกับการไปแบคแพคสักเท่าไหร่ แต่ถ้าจะพาผู้ใหญ่ไปเที่ยวอาจจะพอไกด์ได้บ้างครับ มาดูกันเลยครับว่าแพลนจะเป็นยังไงบ้าง
เริ่มด้วยการหาสายการบินจาก www.skyscanner.co.th ค้นพบว่าถ้าบินไปลง Fukuoka ช่วงวันที่ 10-21 มกราคม ราคาจะตกอยู่ที่ประมาน 14,000 บาท โดยใช้เครื่องของสายการบินไทย ได้กระเป๋าคนละ 30กิโล ราคานี้ถือว่าดีแล้วเมื่อเทียบกับวันอื่นๆ (เชคจากตัวเวปไซต์ ของสายการบินต่างๆอีกทีด้วยนะครับ) ทีนี้ก็มาหาที่เช่ารถกันต่อเลย เนื่องจากผมไม่อยากโดนหักบัตรเครดิตเป็นเงินเยน เพราะว่าเรตแลกเงินของเหล่าธนาคารทั้งหลายก็ช่างโหดร้ายเหลือเกิน ผมเลยตัดสินใจใช้ agency แทน โดยเวปไซต์ที่ผมใช้คือ www.rentalcars.com โดยราคารถในเวปไซต์นี้ถือว่าไม่แพงนะครับ สามารถเอาไปเทียบกับหน้าเวปไซต์ของบริษัทที่ใช้เช่าโดยตรงได้เลย รถที่ผมตัดสินใจจองไปคือ Toyota Corolla Axio โดยจองตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม ไปจนถึงวันที่ 21 มกราคม ราคารวมประกันของ agency ตกอยู่ที่ 32,578.61บาท หรือคนละประมาน 8,144.65 บาท
เอาล่ะ… ได้วัน ได้รถ เรียบร้อยแล้ว ทีนี้ก็ได้เวลาเริ่มเอาสถานที่ยัดลงไปได้แล้ว หลังจากเปิดหนังสือ เปิดอินเตอร์เน็ตวนไปวนมา โดยที่มีคุณพ่อนั่งดูบอลให้กำลังใจอยู่ข้างๆวันแล้ววันเล่า ก็ได้ข้อสรุปออกมาตามนี้
Fukuoka airport >> Saga >> Nagasaki >> Kumamoto >> Miyazaki >> Beppu >> Yamagushi >> Hiroshima >> Fukuoka ระยะทางรวมประมาน 2,000 กิโลเมตร เบาๆเนอะ สบายๆ (แทบร้องไห้)
ผม : พ่อ… ระยะทางรวมเกือบสองพันโลเลยนะไหวป่าว
พ่อ : อืม….. เยอะอยู่นะ น่าจะตัด Hiro…. (ในหัวผมนี่ ตัด Hiroshima ออกใช่มั้ย… เตรียมหาที่ใหม่เลย)
แต่ระหว่างนั้นเอง ปืนใหญ่อาเซนอล ทีมโปรดทำประตูได้!!!!
พ่อ : ไหวๆๆๆๆ ตามนั้นเลย (บร๊ะเจ้า!!! ฟุตบอลมีผลต่อความคิดคนมากขนาดนี้)
ทุกอย่างลงตัวก็มานั่งหาที่เที่ยวคร่าวๆ เดี๋ยวผมจะลง List รายการเที่ยวทั้งหมดพร้อมตารางเวลาไว้ให้อีกทีนะครับ
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ในที่สุดก็มาถึงวันเดินทางกันแล้ว…
วันที่ 9 มกราคม 2560
22:30 น.
เดินทางมากถึงสนามบินเรียบร้อยมุ่งหน้าไปยังเคาเตอร์ C เพื่อทำการเชคอิน ภาพที่เห็นคือคนประมาน 100 กว่าคนยืนออกันอยู่ ทุกคนต่างมีจุดประสงค์เดียวกัน… แต่ไม่เป็นไรครับตอนนี้ที่สนามบินมีให้เราจัดการปริ้นใบติดกระเป๋าที่ตู้ด้วยตนเอง แล้วก็ไปโหลดด้วยตัวเองได้เลย ไม่มีคนใช้บริการเลยครับ ถ้าเชคอินมาแล้วลองไปดูนะครับ ผมไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูเพราะตอนนั้นรีบๆ คุณแม่ปวดฉี่ แต่กระนั้นเลยคนระตรวจสัมภาระก็เยอะใช่เล่น เอารูปมานอนยันเลย
วันที่ 10 มกราคม 2560
01:07 น.
เครื่องบินออกจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติฟูกุโอกะ
08:10 น. ตามเวลาท้องที่ของญี่ปุ่น
ถึงฟูกุโอกะแล้ววววว ใช้เวลาเดินทางแค่ 4 ชั่วโมงกว่าๆเท่านั้นเอง จัดการรับกระเป๋าอะไรให้เรียบร้อยเพื่อที่จะไปรับรถตามที่นัดหมายไว้
09:20 น.
เอากระเป๋าเรียบร้อยแล้วววว ได้เวลาเดินหาบริษัทรถ เดินวนๆก็ไม่เจอ เจอแต่ของยี่ห้ออื่น สุดท้ายก็ไปถาม information จนได้
ผม : Excuse me… where can I find a Times Car Rental counter? พร้อมยื่นใบจองให้กับเจ้าหน้าที่ดู (แกรมม่าไม่ดี แก้ให้ด้วยนะคร้าบบ)
เจ้าหน้าที่ : Ano….. You must call them… and they will come to pick you here…
เอาไงดีละทีนี้ จะโทรยังไงโทรศัพท์ไม่มีด้วยสิ สงสัยเจ้าหน้าที่เห็นในความเหลอหลาเลยชี้ไปที่ตู้โทรศัพท์ให้ รอดตายไป ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่สุดน่ารักจริงๆ
ณ ตู้โทรศัพท์ ล้วงหาเหรียญเงินเยนในกระเป๋า เจอเหรียญ 100 เยน ที่เหลืออยู่ตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ แต่ก็มีแค่นั้นจริงๆ มีแค่เหรียญเดียวเท่านั้น จะพอรึเปล่าก็ไม่รู้ ไม่สิจะคุยรู้เรื่องรึเปล่ายังไม่รู้เลย ภาษาอังกฤษน่าจะ snake snake fish fish ตั้งคนพูดคนฟัง เอาน่ะ… ยังไงก็ต้องลองมาขนาดนี้แล้ว กดเบอร์ตามเอกสารที่ได้มาทันที ตรู๊ด…. ตรู๊ด…. ตรู๊ด….
ปลายสาย : ?#?@?DA:SDK?$%?A?/ (โดนรัวญี่ปุ่นมาหนึ่งชุดใหญ่)
ผม : Ano….. (เลียนแบบเจ้าหน้าที่เมื่อกี้ จะได้เหมือนมีความรู้) Is that Times Car Rental company?
ปลายสาย : Ano…… ?%AO&!)FPASD(*12 แล้วก็เงียบไปประมาน 3วิ Hi, This is Times Car Rental company.. Can I help you?
ผม : We need a transportation service at the airport.. My boo….
ยังพูดไม่ทันจบก็โดนขั้นซะแล้ว
ปลายสาย : OK! OK! How many people..
ผม : Four…
ปลายสาย : OK! Wait for me at the police station…
ตรู๊ด…. ตรู๊ด…. ตรู๊ด…. อ้าว!!! ใจเย็นดิ นี่เข้าใจถูกมั้ยว่าให้มารับเฉยๆ ให้ไปสถานีตำรวจเลยหรอ… เป็นไงเป็นกันหน่ะ เหรียญไม่มีแล้ว โทรไม่ได้แล้ว สถานีตำรวจก็สถานีตำรวจ ไปถามเจ้าหน้าที่คนเดิม เค้าก็ชี้แล้วก็ยิ้มๆให้เหมือนเดิม ผมก็เดินงงๆไปเหมือนเดิม
ยืนรอ อยู่ประมาณ 15นาที หน้าสถานีตำรวจ ถ้าเข้าไปได้คงเข้าไปแล้ว….
9:50 น.
You you you!!! Time Rental Cars?? เสียงจากถนนลอยมาเค้าหูผม ผมก็เลยพยักหน้าแบบงงๆ ทันใดนั้นคนขับที่ตะโกนออกมาก็มาจับมือ 1รอบ รัวญี่ปุ่น 1ชุด ลากกระเป๋าเดินทางที่พื้นไปทันที 2ใบ แล้วตะโกนกลับมาว่า Come! Come! งงหนักมาก เออ… come ก็ come จะโดนลักพาตัวมั้ยเนี่ย เดินมาถึงรถ ถึงเห็นว่ามีโลโก้ของบริษัทติดอยู่ ใจชื้นขึ้นนิดนึงตามไปได้อย่างสบายใจแล้ว
10:05 น.
รถตู้พามาถึงจุดรับรถเรียบร้อย เข้าไปคุยเรื่องรายละเอียดต่างๆ ทางเค้าแจ้งว่าไม่มี ETC card ให้เช่านะ (เป็น Easy Pass ของญี่ปุ่น) ผมก็โอเคร ไม่เป็นไร น่าจะเพิ่มความตื่นเต้นให้กับทริปตอนจ่ายเงินได้หน่อย แล้วก็ถึงเวลาส่งมอบรถ อ้าววววววว ไม่ใช่ AXIO นี่นา…
ผม : Ahhhh….
เจ้าหน้าที่ : Sorry, we don’t have your car anymore.. (อ่านใจได้ใช่มั้ย ยังไม่ทันพูดอะไรเลย) but this car is bigger than yours and you don’t have to pay anything more…. Is it ok?
ผม : OK OK OK พยักหน้ารัวๆเลยทีเดียว ของฟรีเอาไว้ก่อน
นี่คือรถที่จะพาผมเที่ยว และอยู่กับผมไปอีก 11วัน
เดี๋ยวผมไปนอนก่อนนะครับ รู้สึกนอนไม่พอ เดี๋ยวมาเที่ยวด้วยกันต่อนะคร้าบบบบบบบบบ