การหนีไปเที่ยวของเราครั้งนี้ได้มีการวางแผนกันมาตั้งแต่ช่วงกลางปี พ.ศ.2559 โดยได้ซื้อแพ็กเกจของ เลค เฮฟเว่น รีสอร์ทไว้ โดยราคาที่จ่ายไปนั้นได้รวมอาหารเย็นแบบชุดและอาหารเช้าบุฟเฟ่ต์ แต่ที่พักที่เราได้ซื้อไว้ให้ใช้สิทธิ์พักได้ในวันธรรมดาเท่านั้น ซึ่งเรามีผู้ร่วมท่องเที่ยวมีด้วยกัน 3 คน

เราเริ่มออกเดินทางจากนนทบุรี เวลา ประมาณ 7 โมงเช้า จุดมุ่งหมายแรกของเราก็คือ ซาฟารีปาร์ค

ทางเข้าสวนสัตว์

เราเดินทางมาถึงที่สวนสัตว์ซาฟารีปาร์คในช่วงเวลา 9 โมงเช้า ซึ่งทางสวนสัตว์ได้เปิดทำการพอดี ค่าเข้าชมสวนสัตว์ตกคนละ 150 บาท ซึ่งราคานี้รวมค่ารถชมสัตว์ ค่าเข้าชมโชว์ช้าง และค่าเข้าชมโชว์จรเข้ แล้ว จะไม่รวมค่าอาหารให้สัตว์ เมื่อเราจ่ายค่าบัตรเข้าชมเและจัดการธุระส่วนตัวเสร็จก็ไปกับรถบัสของทางสวนสัตว์ได้เลยครับ หรือจะขับรถส่วนตัวเข้าไปก็ได้แต่สวนสัตว์เค้าไม่รับประกันในความเสียหายกับรถส่วนตัว

รถที่จะพาเราเข้าไปพบกับความสนุกสนาน

โดยรถบัสของทางสวนสัตว์จะพาเราเข้าไปพบกับสัตว์หลายประเภท

โซนกวางสายพันธ์ต่าง ปล.จำสายพันธ์ไม่ได้มั่วแต่ถ่ายรูป

หน้าตาบ้องแบ๊วดี ถูกอกถูกใจผู้ร่วมเดินทาง

มีโซนของหมีด้วยแต่เหมือนจะรู้สึกว่ามันคงจะตื่นสายเลยไม่ออกมาต้อนรับเรา

นอนสบายเชียว

โซนเสือ โซนสิงโต โซนเสือดาว ซึ่งลุงคนขับรถบัสของสวนสัตว์ ก็บอกให้พวกเรา เปิดหน้าต่างรถไว้เล็กน้อยไม่ต้องเปิดหมด

ดูท่าทางองอาจมาก

นอนอย่างกับแมวใต้โต๊ะเลย ปล.ลุงคนขับรถขัวเข้าไปใกล้มากๆ

ตาเสือดูน่ากลัวอยู่เหมือนกัน

สิงโตก็มีนะ

เสือดาวก็มา

ต่อไปก็ถึงคิวพระเอกของงานเลย ลุงคนขับบอกให้เปิดกระจกให้สุดทุกบานได้เลย พอไปโซนต่อไปภาพก็เป็นเช่นนี้

ยีราฟยื่นหัวเข้ามาในรถเต็มไปหมด ยีราฟบุกขออาหารที่เราซื้อมาจากที่ซื้อตั๋วจนไม่เหลือเลยจมูกดีจริงๆขนาดแอบไว้นะเนี้ย

พออาหารหมดก็สลายตัว

โซนยีราฟก็จะมีม้าลายอยู่ด้วยนะ

สงสารม้าลาย อาหารเราโดนยีราฟแย่งกินไปหมดเเล้ว ไว้คราวหน้าจะเก็บไว้ให้นะ

นอกจากม้าลายแล้วก็ยังมีนกกระจอกเทศมาให้เราถ่ายรูปด้วย

ยืนนิ่งๆให้เราถ่ายรูป

แล้วลุงคนขับก็พาเราไปส่งลงที่มีการโชว์ช้าง โชว์จรเข้ แต่เราไปไม่ตรงรอบที่จัดก็เลยอด ถ้าใครมีเวลาว่างรอก็สามารถรอรอยต่อไปได้แต่พวกเราเริ่มจะหิวข้าวกินแล้วก็เลยตัดสินใจมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองเพื่อหาอะไรง่ายๆกินกันและจะแวะไปสะพานข้ามแม่น้ำแควกันต่อด้วยก็เลยไม่ได้รอรอบ ซึ่งโดยส่วนตัวคิดว่าการที่ได้เที่ยวชมสัตว์หลายชนิดโดยเฉพาะยีราฟก็ถือว่าเป็นอะไรที่คุ้มแล้วก็เลยไม่เสียดายอะไร หากใครคิดจะมา เตรียมซื้ออาหารที่เค้าขายตรงที่ซื้อตั๋วเยอะๆเลย บอกเลยว่าคุณจะมีความสุขที่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับกวาง ยีราฟ และม้าลายมากๆ เพราะพวกมันรู้งานมาก มันจะเข้ามาของของกินจากมือคุณ ปล.โซนเสือ สิงโต เสือดาว ไม่ต้องเอาแขนเราให้เป็นอาหารมันนะ ส่วนด่านยีราฟขอให้ระวังอาหารที่คุญซื้อมาให้ดีเพราะมันจะหมดไม่รู้ตัว

ภายหลังจากเราออกจากสวนสัตว์ซาฟารีปาร์ค และได้กินอาหารกลางวันเป็นที่เรียบร้อยพวกเราก็มุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์มายาวนานและเป็นอีกที่สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาที่จังหวัดกาญจนบุรีจะต้องมานั้นก็คือสะพานข้ามแม่น้ำแคว

สะพานข้ามแม่น้ำแคว

โดยสะพานแห่งนี้สร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นเพื่อให้รถไฟวิ่งข้ามแม่น้ำแควใหญ่

แม่น้ำแควใหญ่

โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตรเป็นจำนวนมากมาก่อสร้างสะพานแห่งนี้เพื่อใช้เป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า

ซึ่งการสร้างสะพานแห่งนี้เต็มไปด้วยความยากลำบาก รวมทั้งความทารุณของสงคราม โรคภัย และการขาดแคลนอาหาร ทำให้เชลยศึกหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลงจากการสร้างสะพานแห่งนี้

ต่อมาฝ่ายสัมพันธมิตรได้ทิ้งระเบิดจนสะพานได้รับความเสียหายจนใช้การไม่ได้ ซึ่งต่อมาทางไทยได้ดำเนินการซ่อมแซมภายหลังจากสงครามสิ้นสุดโดยส่วนที่เสียหายก็คือส่วนที่เป็นสี่เหลี่ยมคางหมู แต่ก่อนจะโดนระเบิดส่วนนี้เป็นทรงโค้ง

หลังจากพวกเราได้เที่ยวชมความสวยงามและความเป็นมาเป็นไปของประวัติของสะพานแห่งนี้จนเกือบจะบ่ายสอง เราก็เตรียมเตรียมเดินทางไปที่พักของเราเนื่องจากพวกเราอยากจะไปเล่นเครื่องเล่นทางน้ำของที่พักที่มีไว้ให้เล่นฟรีเต็มที่แล้ว เราจึงออกเดินทางไปที่พักกัน

สองรูปนี้ถ่ายตอนที่พวกเราเล่นเครื่องเล่นทางน้ำกันจนหน่ำใจแล้วและอยู่ระหว่างการรอทานอาหารเย็น

เรามาถึงที่เลค เฮฟเว่น รีสอร์ทตอนประมาณ 4 โมงเย็น ความรู้สึกแรกที่เห็นตอนเลี้ยวรถเข้ามาคือแบบว่าสวยมากกกกกก พอเราจอดรถก็จะมีพนักงานมาช่วยเราขนกระเป๋าของลูกค้าไปที่บนแพเพื่อเช็คอิน ซึ่งเมื่อพวกเราเช็คอิน เอากระเป๋าเก็บที่ห้องพักเราก็ไม่รีรอที่จะไปเล่นเครื่องเล่นทางน้ำในทันที (ไม่มีรูปครับมั่วแต่ห่วงเล่น)

go go go

การจะเล่นเครื่องเล่นนั้นที่พักเค้าบังคับให้เค้าที่จะเล่นน้ำทุกคนต้องใส่ชูชีพนะครับเพื่อความปลอดภัย พวกเรากับชูชีพคนละตัวก็ลุยเลยครับ ซึ่งพอได้เล่นแล้วติดใจ สนุกมากกกกกก โดยเฉพาะสไลเดอร์ พวกเราแนะนำให้มาถึงที่พักกันเร็วๆหน่อยเพราะเครื่องเล่นมีเวลาปิดนะใครที่ชื่นชอบควรมาให้เร็วจะได้เล่นนานๆ ซึ่งตอนแรกพวกเราก็กะว่าจะเล่นจนเค้าปิด แต่ปรากฏว่าเหนื่อยมากๆ เค้ายังไม่ทันปิดพวกเราก็ไม่ไหวแล้ว เลยกลับที่พักอาบน้ำแต่งตัวรอทานอาหารเย็นแบบชุดที่อยู่ในราคาที่พวกเราได้จ่ายไปแล้ว

ซักรูปก่อนไปแพอาหาร

รสชาติอาหารใช้ได้เลยนะ เมนูที่ถูกใจพวกเราก็เป็นน้ำพริกแคแสด รสชาติเหมือนอ่อง (ไม่มีรูปอีกเช่นกันเพราะหิวมากจนลืมถ่ายรูปอาหาร) ส่วนอาหารอื่นจะสั่งเพิ่มเติมก็ได้ ดูราคาจากเมนูแล้วราคาไม่ได้แพงเกินไป พอเราทานกันเสร็จก็กลับที่พักเตรียมพักผ่อนเอาแรงในการเดินพิชิตน้ำตกเอราวัณ

วิวจากระเบียงห้องพักก่อนจะนอนครับ

ที่พักอยู่บนน้ำนะครับคนที่จะมาพักต้องประเมินว่าตัวเองมีอาการเมาเรือหรือไม่ด้วยนะครับ ปล.ตอนกลางคืนแพที่พักนิ่งมากๆครับ

บรรยากาศตอนเช้า

หลังจากพวกเราได้จัดการธุระส่วนตัวและทานอาหารเช้าเป็นที่เรียบร้อยพวกเราก็เช็คเอ้าท์แล้วเดินทางไปที่น้ำตกโดยทันที

ก่อนจะคืนสายรัดข้อมือก็ถ่ายไว้เสียหน่อย