[CR] หนีฝนไปรับลมหนาวปลายทางที่เชียงใหม่

หนีฝนไปรับลมหนาวปลายทางที่เชียงใหม่
_______________________

Backpack  3คืน4วัน


              ว่าด้วยการเริ่มต้นเดินทาง ลองออกไปหาอะไรใหม่ๆ พบผู้คนใหม่ๆ เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ยาวนานมากสำหรับการเดินทางอีกครั้งหนึ่ง การตัดสินใจที่จะเที่ยวได้เริ่มต้นขึ้น จากการดูรีวิวต่างๆ พันทิป บ้าง ไปเถอะอย่ารอช้า อย่ารอให้มีเวลา มีเงินเยอะจนไม่ได้ไปใหน เส้นทางนี้เริ่มต้นจากสุราษฎร์ธานี ยาว มาถึงเชียงใหม่ โดยการนั่งรถทัวร์ ต่อรถไฟ เอาจริงก็ไม่เคยนั่งอะไรยาวนานขนาดนี้ ระยะทางเป็นพันกว่ากิโล มาเที่ยวกันเองกับกลุ่มเพื่อน กระเป๋าเป้คนล่ะใบ กับเงินไม่กี่พัน ลองออกเดินทางเที่ยวดู เป็นทริปที่เราเองก็แบคแพคมาเป็นครั้งที่3 ตั้งใจจะเที่ยวเก็บภาคเหนือต้นปี ลองไปเปลี่ยนบรรยากาศจากน้ำทะเล น้ำฝน ลม แดด มาเป็นภูเขา อากาศ ธรรมชาติ ไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆให้กับตัวเอง ไปเจอคนที่ไม่เคยรู้จัก ได้ดูวิถีชีวิตของแต่ล่ะจังหวัดผ่านการนั่งรถไฟ ก็สนุกไปอีกแบบ อยากบอกว่าตอนนี้อากาศภาคเหนือเริ่มหนาวแล้ว ที่จริงก็หนาวมาสักพักใหญ่ แต่สำหรับคนเดินทางแบบเราแล้ว มันก็ได้บรรยากาศไปในอีกแบบ ตลอดการเดินทางจะเจออะไรบ้างก็ไม่รู้ จะเล่าผ่านรูปภาพ
''หนีฝนไปรับลมหนาวปลายทางที่เชียงใหม่''

บ่ายวันที่5 มกราคม
เดินทางไปขึ้นรถไฟ ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง
ตั๋วเดินทาง รถเร็ว
กรุงเทพ-เชียงใหม่
ชั้น2 บชท.48 ราคาตั๋ว 391 บาท
13.45-04.05 น.
ตั๋วรถไฟนี้ซื้อล่วงหน้าก่อนเดินทางเพราะกลัวช่วงปีใหม่คนจะเยอะ แต่ถ้าาไปหลังจากช่วงปีใหม่สามารถจองได้ที่ทางสถานีรถไฟได้เลย


บรรยากาศบนรถไฟตอนขึ้นไปเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปยังต่างจังหวัดตลอดเส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่

เบาะรถนั่งชั้น2 สบายไม่แพ้กัน

ระหว่างทางหลังจากรถออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพง และการเดินทางที่แสนจะยาวไกลนั้นทำให้หลับ หลับ แล้วก็หลับ
บรรยากาศตลอดเส้นทางการเดินทางผ่านไปยังแต่ละจังหวัดมีวิถีชิวิตที่แตกต่างกันไป สวยไปอีกแบบ


การเดินทางใช้ระยะเวลานาน จนมาถึงตอนมืด อากาศระหว่างทางหนาวดี และรถไฟจะจอดตามสถานีต่างๆก็จะมีพ่อค้าแม่ค้าของทุกที่เดินมาขายของ กันตามๆไป
บรรยากาศบนรถไฟตอนมืดก็เงียบตามกันไป และก็หลับ หลับ หลับ หลับ วนไปค่ะ

และแล้วก็เดินทางมาถึงจังหวัดเชียงใหม่
เช้าวันที่6
สถานีรถไฟเชียงใหม่

ออกจากสถานีรถไฟเชียงใหม่ โดยรถแดง ราคา40บาท บอกสถานที่ที่จะไปลง เราพักแถวนิมมาน17 รถก็พาไปส่งถึงที่พักนิมมานบูติค รีสอท
เข้าเอากระเป๋าไปฝากไว้ก่อนเช็คอินได้หลัง14.00น.
แล้วก็เดิน เดิน เดิน ออกจากที่พักไปหาอะไรกินก่อนที่จะไปหารถเช่า
ร้าน ก๋วยจั๊บฟ้าธานี ตั้งอยู่ใกล้ๆกับที่พัก กินเสร็จก็เดินไปหาร้านรถเช่า
ร้านชื่อว่า BikkyChiangMai เหรดราคาเช่ารถอยู่ที่ 250-300 บาทต่อวัน รถที่เช่าตกวันละ300บาท 2คัน 600บาทต่อวัน
ไม่มีค่ามัดจำ วางแต่บัตรอย่างเดียว
เริ่มออกเดินทางไปเที่ยวกันเลยอย่ารอช้า
ขับรถออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ มุ่งหน้าไปยัง อำเภอ แม่ริม
ระหว่างทางผ่านสวนพฤกษศาสตร์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ /center]


เดินทางต่อไปยัง ไร่องุ่นเอเดน จะถึงก่อนม่อนแจ่ม ซึ่งระยะทางตอนนั้นก็ขับได้ค่อนข่างลำบากเพราะว่ามีหมอกลงหนามากและฝนตก ทั้งเปียก ทั้งหนาวกันเลยทีเดียวเสียค่าเข้าคนละ 20 บาท มีทั้งสวนองุ่น สวนสตอเบอร์รี่ สวนดอกไม้
สวนสตอเบอร์รี่
สวนดอกไม้
เดินทางต่ออกไปที่ ม่อนแจ่ม ระยะทางห่างกันไม่กี่กิโล ระหว่างทางขับ หมอกหนามาก และมีฝนตก
บรรยากาศด้านบนม่อนแจ่ม ตอนยังมีหมอกปกคลุมบนเขา
ตอนเริ่มมีแดด หมอกเริ่มจางนิดๆ
ดอกพญาเสือโคร่ง เริ่มบานแล้วแต่บนม่อนแจ่มจะบานไม่ค่อยเยอะ บรรยากาศบนม่อนแจ่ม เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวเดินทางกลับกันต่อ ระหว่างทางที่ขับขึ้นมาม่อนแจ่มจะมีร้านขายไก่ย่างส้มตำ รออะไรหละแวะกินกันก่อนกลับ
เสร็จจากกินก็ขับรถต่อเข้าในตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อกลับไปยังที่พักเพื่อเช็คอินเข้าที่พักและเดินทางต่อไปยังดอยปุยระยะทางที่ไปดอยปุย จะขับพ้นดอยสุเทพไปซึ่งตอนนั้นออกจากที่พักเกือบจะ5โมงเย็นแล้วซึ่งระยะทางที่ขับไปค่อนข่างจะมืดเร็ว ทั้งยังมีหมอกที่หนามากเป็นบางส่วน และฝนตกตลอดทางที่ไปดอยปุย ตอนนั้นขับไปคิดว่าน้ำมันจะพอสรุปคือน้ำมันจะหมด ระหว่างที่ขับไปก็คือป่า ทางที่คดเคี้ยว เราก็กลัวว่าจะถึงมั้ยเพราะเริ่มเย็นแล้ว ตอนขับรถไปไม่ค่อยมีรถส่วนทางมาเท่าไหร่ แต่พอถึงดอยปถย ค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อยมีรถนักท่องเที่ยว และรถจักยานยน ที่มีคนขับมาเหมือนเราด้วย  อีกอย่างคือโชคดีที่มีที่เติมน้ำมันแบบหยอดเหรียญ ไม่งั้นขากลับจะกลับถึงที่พักรึป่าวก็ยังไม่รู้
เดินทางมาถึงดอยปุย เสียค่าเข้า10บาทต่อคน ระหว่างรอเพื่อนซื้อตั๋วเข้าดอยปุย ก็นั่งผิงไฟของชาวบ้านแถวนั้นไปก่อนคือกาศมันก็หนาว
บรรยากาศในดอยปุย สวนดอกไม้
บรรยากาศบนดอยปุย จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ มีคนไม่มากระหว่างทางเดินขึ้นมายังดอยปุยจะมีของขายตลอดทาง มีบริการให้เช่าชุดถ่ายรูปด้วย
เสร็จจากดอยปุย ก็เดินทางต่อไปยังดอยสุเทพ
เดินทางมาถึงก็มือแล้วได้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก และไหว้สักการะ พระธาตุดอยสุเทพ
หลังจากถ่ายรูปและไหว้พระธาตุดอยสุเทพเสร็จก็ขับรถกลับลงมาในตัวเมืองเชียงใหม่
ระหว่างทางกลับลงมาในตัวเมืองจะมีจุดชมวิวกลางคืนจะเห็นวิวของตัวเมืองเชียงใหม่ในตอนกลางคืน ซึ่งสวยมาก

เสร็จจากถ่ายรูปดูวิว ก็ลงมาหาอะไรกินที่หน้า มช จะมีของขาย ของฝากเสื้อผ้าเต็มไปหมดของถูกมากๆ
กินเสร็จก็กลับเข้าที่พักนิมมานบูติค รีสอท
พักผ่อนรอเดินทางต่อในวันต่อไป

เช้าวันที่7

เดินทางออกจากที่พัก ตอนเช้าเพื่อเดินทางต่อไปยัง อำเภอ จอมทอง ระยะทางประมาณ60กว่ากิโล ขับรถกันไปเองนะแนะนำให้ออกตอนเช้าๆนะสำหรับคนที่จะขับรถไปกันเอง หรือใครที่จะนั่งรถไปก็จะมีรถ เชียงใหม่-จอมทอง
จากตัวเมืองจอมทองขับรถต่อไปยังดอยอินทนนท์ แวะเข้าไปที่พัก ดอยชัวร์ญ่า ติดต่อหาที่พักมีเต๊นท์บริการให้เช่า
ราคาหลังละ400-600 บาท บริการเช่าผ้าห่ม หมอน ชุดละ100บาท

เต๊นท์ที่จอง ราคาหลังละ500บาท นอนได้4-5คนเอาจริงๆก็หลังใหญ่อยู่

เสร็จจาการจองเต๊นท์ก็เอากระเป๋า สัมภาระไว้ในเต๊นท์ได้เลย

เดินทางไปเที่ยวใน ดอยอินทนนท์กันต่อ ระยะทางห่างกันไม่มากจากดอยชัวร์ญ่าขึ้นไประหว่างทางจะมีต้นพญาเสือโคร่ง

หลังจากถ่ายรูปเสร็จขับไปตรงขึ้นเรื่อยๆจะถึงทางเข้าอุทยานจะมีค่าบริการเข้าคนล่ะ50บาท รถ20บาท

ตลอดระยะทางที่ขับขึ้นไปยังดอยอินทนนท์จะมีป้ายระดับความสูงตลอดเส้นทาง

ชื่อสินค้า:   เชียงใหม่ - ดอยอินทนนท์ - ดอยสุเทพ - ถนนคนเดิน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่