แบกจักรยานไปปั่นเที่ยวกันที่สิงคโปร์ Part 2

จาก part 1 ตามกระทู้นี้นะครับ https://ppantip.com/topic/35979288
ผมเห็นว่ากระทู้ยาวเพราะรูปค่อนข้างเยอะ จึงขอตัดมาเป็น part 2 แยกกันเพราะไม่ให้กระทู้ยาวจนเกินไปนักนะครับ

Episode III.I Shimano – East Coast Park – Garden by the bay

‘กินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่’ อิ่มท้องมื้อกลางวันแล้วก็ต้องจัดของหวานกันต่อ จะได้ไม่ไพร่ food court ของ Kallang Wave Mall มีอาหารให้เลือกทานเพียบทั้งคาวหวาน เราทั้งสามจัดกันเต็มคราบ อาหารที่นี่รสชาติเยี่ยม แต่ที่เด็ดคือของหวานครับ หน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับลอดช่องสิงคโปร์บ้านเรา แต่มีลูกเล่นทางรสชาติมากกว่า ภรรยาผมยื่นคำขาดว่าถ้ามาสิงคโปร์ครั้งหน้า เป็นตายยังไงก็ต้องมากินอีกครั้งให้ได้

Shimano Cycling World อยู่ห่างจาก Kallang Wave Mall ไปแค่ปั่น 5 นาทีเท่านั้น ภายในจัดแสดงจักรยานหายากสวยๆมากมาย มี multimedia ที่เราสามารถไปค้นดูข้อมูลได้อย่างง่ายดาย หนังสือเกี่ยวกับจักรยานก็เยอะแยะ ถ้ามีเวลานั่งอ่านก็คงเพลินดีไม่น้อย ที่เจ๋งคือมีจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ที่เราสามารถค้นหาข้อมูลเส้นทางปั่นจักรยานที่มีชื่อเสียงได้ทั่วทั้งโลก มีทั้งรูปถ่าย แผนที่ยันไปจนพิกัด GPS น่าเสียดายที่จอนี้ผมลืมถ่ายรูปมาด้วย

เราออกจาก Shimano ในตอนบ่ายสองเศษๆ แต่เราใช้เส้นทางออกทางด้านหลังสนามกีฬาแทนที่จะย้อนกลับทางเดิม ทางนี้เราต้องใช้สะพานแขวนเล็กข้ามแม่น้ำ Gaylang ไปทางทิศใต้ฝั่งเดียวกับที่จะไป Garden by the bay : south side โดยจะปั่นไปตาม PCN เส้นเล็กๆไปจนถึงทางยกระดับใหญ่ที่ชื่อว่า Tanjong Rhu แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปวิ่งใต้ทางยกระดับ สภาพเส้นทางยังคงดีอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งเส้นทางยังมีร่มเงาจากทางยกระดับมาช่วยบังแดดให้อีกต่างหาก จากตรงนี้ไปเราเริ่มสังเกตว่าเริ่มมีนักปั่นมาร่วมใช้เส้นทางเดียวกับเรา และมุ่งไปยัง East Coast Park เช่นเดียวกับเรามากมายทีเดียว มีทั้งเด็กเล็กๆไปจนถึงลุงป้าแก่หงำ ต่างก็ใส่หมวกกันน็อคปั่นจักรยานกันหน้าตาเบิกบาน

ก่อนจะเข้าเขต park จะมีสะพานสูงที่พาเรายกตัวข้ามถนนทางด่วนขนาดใหญ่ที่ลอดผ่านเราไป ภรรยาผมปั่นเหงื่อตกลิ้นห้อย สุดท้ายลงรถมาเข็นเอาแทนเพราะตรงนี้ไม่มีอะไรบังแดดแล้ว โจ๋ปั่นหายลิบไปสักพักด้วยพลังหนุ่มและฮอร์โมนพลุ่งพล่าน ลงสะพานมาก็คือเขต East Coast Park ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่ยาวไปตลอดชายฝั่งด้านตะวันออกของสิงคโปร์ มีระยะทางตลอดแนวสวนถึงร่วม 20 กิโลเมตร และเป็นที่ที่มีการจัดสร้างชายหาดจำลองขึ้นเพื่อให้ประชาชนมาพักผ่อนหย่อนใจและเล่นน้ำทะเลที่นี่ได้ แต่เออ แปลกใจ ทำไมผมไม่มีรูปที่นี่เลยหว่า?

รอบๆตัวเราตอนนี้เต็มไปด้วยนักปั่น นักปั่นทุกประเภท ทุกเพศทุกวัย มีทั้งจักรยานเสือหมอบขาแรง เสือภูเขา จักรยานแม่บ้าน จักรยานสอง-สามตอน จักรยาน 4 ล้อรวมถึงสเก็ต วิ่งกันพลุกพล่านเต็มไปหมด ที่สวนแห่งนี้เป็นสถานที่หลักที่นักปั่นสายชิลจะมาปั่นกันในช่วงวันหยุด อีกทั้งข้างถนนยังเต็มไปด้วยร้านเช่าจักรยานและร้านอาหารมากมายก่ายกอง บรรยากาศรอบคึกคักมาก แต่ปัญหาคือเราสามคนต้องการหาร้านกาแฟนั่งพักดูบรรยากาศ แต่ที่นี่ไม่ยักกมีร้านกาแฟ? ร้านน้ำดื่มเองก็ยังหายาก เราเริ่มหิวน้ำคอแห้งกันเพราะลืมซื้อติดมาจากที่สนามกีฬาแห่งชาติ โชคยังดีที่เหลือบไปเห็นว่าริมทางมีตู้ขายน้ำอัตโนมัติ พอช่วยชีวิตไปได้เปราะหนึ่ง

สิ่งที่เรารู้สึกไม่เอนจอยกับ East Coast Park คือที่นี่เป็นศูนย์รวมของนักปั่นและเป็นสวนขนาดใหญ่จึงมีคนแวะมาพักผ่อนหย่อนใจกันเยอะมาก จึงมีทั้งคนเดินเท้าและจักรยานวิ่งกันจนเต็มถนนจนรู้สึกอึดอัด อีกทั้งยังเป็นที่ที่มีคนเชื่อสายอินเดียและแขกอยู่มาก ซึ่งคนพวกนี้ค่อนข้างจะมักง่ายและมักทำให้พื้นที่สกปรกอยู่เรื่อยๆ ใช้เวลากันที่นี่สักพักเราก็ออกเดินทางกันต่อ เป้าหมายต่อไปคือ Marina Barrage และ  Garden by the bay

ย้อนเส้นทางกลับมาแค่อึดใจก็เข้าเขต Garden by the bay : south side ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเส้นทางที่เราปั่นมาสนามกีฬาแห่งชาติเมื่อช่วงสายๆ เส้นทางช่วงนี้สวยและมุมจากตรงนี้สามารถมองเห็น landmark ของสิงคโปร์ทั้ง Singapore Flyer, Marina Sand และ Super Trees ได้อย่างชัดเจนทั้งหมด และตรงนี้เองที่ถูกเลือกให้เป็นภาพปกของนิตยสาร Human Ride ฉบับสิงคโปร์ด้วย สุดทางจนถึงทะเลเราก็เจอ Marina Barrage ตั้งอยู่ตรงหน้า

Marina Barrage อันที่จริงเป็นอาคารควบคุมตัวเขื่อนที่กั้นระหว่างทะเลและส่วนเก็บน้ำจืดใน Marina Bay นั่นเอง แต่ด้วยความที่ทำเลที่ตั้งติดทะเล ภายในฝั่งแผ่นดินมีอ่าว Marina Bay ทำให้พื้นที่เหมาะแก่การทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อน ตัวอาคารของ Marina Barrage ออกแบบมาอย่างดีเพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้สูงสุด โดยมีการสร้างสนามหญ้าขนาดใหญ่เอาไว้ด้านบนหลังคาอาคาร เชื่อมต่อด้วยทางลาดวนขึ้นเป็นวงสวยแปลกตา บนนี้ลมแรงดีมาก เรานั่งพักตากลมดูเด็กๆชาวสิงคโปร์เล่นว่าวโต้ลมกันอย่างสนุกสนาน
**credit photo by http://singaporecitymrttourismmap.blogspot.com/2016/12/top-9-beautiful-pictures-of-marina.html

ผมเริ่มสังเกตว่า ไม่ว่าเราจะปั่นไปส่วนใหนของประเทศนี้ก็มักจะมีสวนสาธารณะไม่ใหญ่ก็เล็กอยู่เต็มไปหมด พื้นที่สีเขียวที่สร้างความสดชื่นและอากาศบริสุทธิ์มีอย่างมากมายในมหานครแห่งนี้ ซึ่งผมมาทราบภายหลังว่านี่คือนโยบายที่โด่งดังมากของอดีตผู้นำสิงคโปร์ ลี กวน ยู ซึ่งเขาบอกเอาไว้ว่าการพัฒนาที่ดินเพื่อธุรกิจนั้นส่งผลดีกับประชากรแค่ส่วนเล็กๆของประเทศ และสามารถทำได้ง่ายกว่าด้วย แต่การรักษาพื้นที่สีเขียวให้คงอยู่ให้มากที่สุด จะให้ประโยชน์แก่ประชากรส่วนใหญ่มากกว่า อีกทั้งยากกว่าด้วยที่จะทำให้สำเร็จ อีกทั้งสิงคโปร์มีกฎหมายอนุรักษ์ต้นไม้ทั้งประเทศไม่เว้นแม้แต่ในรั้วบ้านของใครก็ตาม การจะตัดต้นไม้ต้องทำเรื่องแจ้งให้เจ้าหน้าที่รับทราบก่อนโดยต้องมีเหตุผลที่รับฟังได้มาชี้แจงด้วยทุกครั้ง หากไม่งั้นการตัดต้นไม้โดยไม่ขออนุญาตนั้นมีโทษปรับคิดเป็นเงินไทยถึงหลักล้านบาทต่อต้น

ปั่นต่อมาแค่ไม่กี่อึดใจ เราก็แวะมาที่ Garden by the bay สวนสาธารณะขนาดใหญ่มากๆที่ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะสิงคโปร์ สวนนี้ไม่อนุญาตให้ปั่นจักรยานในสวนครับ แต่เราสามารถจูงรถไปกับเราเดินเล่นได้ทั่วทั้งสวน ช่วงที่เรามาพอดิบพอดีกับทางสวนมีการจัดงานชมซากุระพอดี ใช่ครับ คุณอ่านไม่ผิด ชมซากุระในสิงคโปร์ ผมเองก็จำชื่องานไม่ได้แล้วเพราะไม่ได้เก็บหางตั๋วเอาไว้ เอาเป็นว่าในส่วนจัดแสดงไม้ดอก Flower Dome มีการจัดดอกไม้ในแบบญี่ปุ๊น...ญี่ปุ่น โดยมีการนำต้นซากุระมากมายหลายต้นมาจัดสวนญี่ปุ่นจำลองภายในโดม ไอ้ทีแรกนึกว่าซากุระปลอม ที่ไหนได้ ของจริงครับ ภรรยาผมเป็นสาวงามรักดอกไม้ และอยากดูซากุระมาก ถึงที่นี่จะไม่ใช่ญี่ปุ่นแต่ก็กล้อมแกล้มไปพอแก้ขัดได้ ส่วนโจ๋ก็ไม่อินตามเคย ตามประสาเด็กผู้ชายที่ชอบอะไรท้าทายตื่นเต้นมากกว่ามาเดินซูมเกสรดอกไม้

เดินออกมาฟ้าเริ่มมืด เราเลยได้มีโอกาสชมการแสดงแสงสีเสียงของที่นี่ ที่จัดขึ้นในโซนต้นไม้เทียมยักษ์หรือ Super Tree Grove ซึ่งผมเองแต่แรกไม่เคยสนใจและมองว่าที่นี่ไร้สาระด้วยซ้ำไป ก็แค่เอาเหล็กเส้นมาถักๆเป็นต้นไม้แล้วเอาไฟสีๆไปติดก็เท่านั้น แต่ไม่ใช่เลย ที่นี่ตบหน้าผมอย่างแรงด้วยการแสดงแสงสีประกอบเพลงที่เข้ากันอย่างสุดๆ เพลงก็ดี เอาหลายๆเพลงมาเมดเล่ย์ต่อๆกันเปิดเข้าจังหวะกับแสงไฟหลากสีบนต้นไม้เหล็กยักษ์ที่เปลี่ยนทั้งสีและจังหวะกะพริบได้เพลินตามาก จนงานนี้เปลี่ยนความคิดไปเลย มันไม่กระจอกอย่างที่เราคิด

การแสดงกินเวลาประมาณ 45 นาทีก็จบลง โจ๋บอกว่านี่เป็นโชว์ที่เจ๋งมาก อยากให้มีจัดในไทยบ้าง ผมเลยบอกไปว่า เอาแค่สวนดีๆมีให้เยอะๆก่อนก็พอ อย่างอื่นอย่าเพิ่งไปหวัง บ้านเรามีที่ดีๆก็กลายเป็นห้างไปซะหมด เราจูงจักรยานแวะเข้าร้าน McDonal ในสวนเพื่อหาของกินรองท้องก่อนไปหามื้อค่ำแบบจัดเต็มอีกที ตอนยืนเข้าคิวรอก็ไม่ได้สังเกตอะไร พอถึงคิวสั่งอาหารเท่านั้นแหละ งงครับ มีป้าอายุราวๆ 70 กว่าขวบยืนรับออร์เดอร์ผมอยู่ในเคาน์เตอร์ ผมคุยกับป้า แกบอกว่ารัฐบาลที่นี่เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุสามารถทำงานหาเงินได้ แกก็เลยมาทำดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆแถมได้เงินอีกด้วย

เราเดินทางออกจาก Garden by the bay ในเวลาราวๆสามทุ่ม โดยปั่นผ่าน Marina Bay ย้อนผ่าน China Town เส้นทางเดียวกับที่เราออกมาปั่นในเย็นวันแรกกลับถึงที่พักราวสี่ทุ่มเศษ ด้วยความขี้เกียจเราจึงละเว้นการตะลอนหามื้อค่ำกินแล้วตรงกลับที่พักกันเลย วันพรุ่งนี้เราจะปั่นโดยอาศัย PCN เส้นที่สวยที่สุดเส้นหนึ่งในสิงคโปร์ ไปสะพานวนอันเลื่องชื่อ(สำหรับนักปั่น) และสวน West Coast Park กันครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่