(กระทู้รูปโหด) ทำไมพวก “ครีมหน้าขาวเร็ว” ถึงกัดหน้าพัง? มาฟังเรื่องเล่าเข้าใจง่าย หมอแวะมาตั้งกระทู้ให้เองเลยค่ะ

สวัสดีทุกคนค่ะ ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ หมอชื่อ  “คุณหมอพริตตี้”  ค่ะ
  

หมออยู่ในวงการเวชศาสตร์ชะลอวัยมานาน แต่เพิ่งตั้งกระทู้นี้ ที่นี่ครั้งแรกนะคะ
ต้องออกตัวไว้ก่อนว่า หมอเองก็มาไกลมากกกกกก ทั้งรูปร่างหน้าตา
แถมตัวเองก็เคยผ่านศัลยกรรมตกแต่งกันมาบ้างแล้ว  
เพราะฉะนั้น วันนี้กับสมัยเยาว์วัย ช่างต่างกันลิบลับ 555  


.. งั้นขอแนะนำตัวด้วยรูปของหมอนะคะ ฮี่ๆ
ผิวหมอเฉยๆ นะคะ ไม่ขาวมาก ออกโทนเหลืองๆ มีสิวบ้างตามแต่ละช่วงชีวิตค่ะ 555  
พอได้เรียนทางเครื่องสำอาง ก็เลยเอาความรู้มาดูแลตัวเองนิดดด




ก่อนจะเข้าเรื่อง เรามาตกลงกันก่อนว่า........
!!!! คำว่า "เครื่องสำอาง" ไม่มี ค ควายการันต์นะคะ !!!!
ใครสะกดผิดเดี๋ยวนี้เชยแล้วน้า


ต่อค่ะ....555
อย่างที่หมอเล่าประวัติคร่าวๆ ให้ฟัง
หมอก็เลยเจอคนที่มีปัญหาเรื่องการใช้เครื่องสำอางโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์เยอะมากค่ะ
และแม้ว่าจะมีการประชาสัมพันธ์มากมาย ก็ยังมีหลายคนที่ไม่เข้าใจผลเสีย
โดยเฉพาะของบรรดา “ครีมหน้าขาวเร็ว” ที่วางขายกันเกลื่อนทั้งในท้องตลาดและในเน็ต
หมอเลยจะขอเอาเรื่องที่เคยเรียนมา บวกกับประสบการณ์ที่อ่านมาจากที่ต่างๆ
มารวบรวมให้อ่านกันแบบภาษาง่ายๆ  หวังว่าจะเป็นประโยชน์กันน้า ..


-----> ทำไมพวกครีมที่โฆษณาว่าขาวเร็ว / ขาวไวในข้ามคืน / ขาวไวในพริบตา / ทาปุ๊บขาวปั๊บ / ขาวระดับดีเอ็นเอ / ขาวจนลืมชาติกำเนิด ฯลฯ ถึงทำร้ายผิวและกัดหน้าจนพัง ? คำตอบคือสารเหล่านี้ค่ะ  


1.ไฮโดรควิโนน

แต่ก่อนเป็นสารฮิตในครีมหน้าขาว เพราะเห็นผลได้เร็วจี๋ค่ะ
วิธีออกฤทธิ์ของมัน คือการไปยับยั้งการสร้างเม็ดสี (เมลานิน) ผิวจึงดูขาวขึ้น
จึงมักใช้กับคนที่เป็นฝ้าหรือมีรอยด่างดำ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วต้องใช้ในระยะเวลาที่จำกัด ห้ามใช้นาน
ที่สำคัญคือถ้าหยุดใช้...ผิวหนังจะรีบผลิตเม็ดสีมาทดแทน (เพราะเคยโดนยับยั้งไว้)
ผลก็คือผิวจะคล้ำกว่าเดิมค่ะ (หมดกัน)  และสารนี้ยังทำปฏิกิริยากับแสงแดด
ดังนั้นถ้าไม่ทากันแดด ฝ้าจะดำกว่าเดิมค่ะ


ตัวอย่างผิวขาวจากไฮโดรควิโนนแล้วมาเจอแสงแดดค่ะ


เพราะอย่างงี้เลยถูกสั่งห้ามใส่ในเครื่องสำอางประเภทวางขายทั่วไป
แต่แพทย์ผิวหนังยังจ่ายให้ผู้ป่วยในคลินิกได้ตามความเหมาะสมนะคะ
(ย้ำว่าต้องมี “แพทย์” จริงๆ ดูให้ค่ะ แล้วก็นัดดูกันบ่อยๆ ด้วย เช่น นัดคนไข้ทุกๆ 2 -4 สัปดาห์)


แต่ปัญหาคือพวกครีมขาวเร็ว ขาวไว ทั้งหลาย มักใส่ไฮโดรควิโนนเกินปริมาณที่ปลอดภัย
(ใครๆ ก็แข่งกันเร่งขาว พอมีคนซื้อไปใช้แล้วขาวเร้วเร็วก็เลยขายดี)



ผิวด่างขาว ไม่สม่ำเสมอ จากไฮโดรควิโนน


หากสารนี้ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดอาจสั่น ลมชัก หรือแพ้ยาได้ หากใช้มากกว่า 6 เดือนอาจเกิดฝ้าถาวรสีดำๆ
โอกาสเสี่ยงมะเร็งผิวหนังก็เพิ่มขึ้นด้วยค่ะ

มะเร็งผิวหนังไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ในภาพนี้เป็นมะเร็งที่เกิดจากการทำผิวสีแทนค่ะ...
(คนผิวขาวอยากผิวเข้ม คนผิวเข้มก็อยากผิวขาว เฮ้อออ)  
แม้จะมีสาเหตุต่างกัน แต่ส่วนใหญ่หน้าตาของมะเร็งผิวหนังก็จะคล้ายๆ กันค่ะ


และแม้บางคนจะไม่เป็นมะเร็ง แต่ที่ซวยก็คือ เมื่อผิวเป็นฝ้าจากไฮโดรควิโนนแล้ว “รักษาด้วยเลเซอร์ก็ไม่หายค่ะ”
กลายเป็นฝ้าถาวร หน้าสีเขียวๆ ม่วงๆ เหมือนโดนเล่นของไปเลย สะพรึงงงงง

ฝ้าเบอร์นี้มีจริงนะคะ เพราะครีมหน้าขาวนี่แหละค่ะ  
--------------------------------------------------------------------------------------------

2. กรดวิตามินเอ หรือ  เรตินอยด์ (Retinoids)

ได้ยินชื่อว่า “วิตามิน” คิดว่าปลอดภัยใช่มั้ยเอ่ย?
แต่กรดตัวนี้เป็นตัวกัดหน้าระดับต้นๆ เลย เพราะมันคือ “กรดวิตามินเอ”
ถ้าจะเป็นตัวที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ต้องเป็น “โปรวิตามินเอ” นะคะ อย่าจำสลับกันเนอะ


กลับมาที่เจ้ากรดวิตามินเอ จะมีการออกฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ คือกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว
ยั้บยั้งการทำงานของเอนไซม์สร้างเม็ดสี และป้องกันการสร้างสิวอุดตัน (Comedone)
จึงดูคล้ายๆ เป็นครีมรักษาและป้องกันสิวได้ด้วย (อย่างที่รู้จักกันดีคือ เรตินเอ ที่ใช้ทาสิวกันนั่นเอง)
หมอผิวหนังก็จะนำมาใช้ในปริมาณความเข้มข้นต่ำๆ สำหรับสิวอุดตัน
ที่มักเกิดจากการพอกตัวของชั้นผิวที่หนาเตอะมากเกินควรค่ะ


เนื่องจากกรดวิตามินเอมีทั้งประโยชน์และโทษ จึงต้องมีการควบคุมปริมาณค่ะ
อย่างในโรงพยาบาลของรัฐ การที่แพทย์จะสั่งจ่ายครีมทาวิตามินเอได้ ต้องผ่านการพิจารณาแล้วพิจารณาอีก
ว่าถ้าความเข้มข้นเท่านั้นเท่านี้ไม่ได้นะ ต้องระบุข้อบ่งชี้ก่อนสั่งจ่ายด้วยค่ะ


แต่!!!! พวกครีมขาวเร็ว ก็จะเทใส่รัวๆ โดยไม่คิดถึงผลเสีย ซึ่งกรดนี้มีผลข้างเคียงคือ
ระคายเคือง หน้าแห้ง ลอกแดง ผิวแพ้แดด
และ ถ้าใช้ในผู้หญิงท้อง ทารกอาจพิการได้ค่ะ
(คุณแม่ที่เป็นสิวต้องระวังให้ดีเลยนะคะ ห้ามใช้เด็ดขาด)


ผิวหน้าลอกแดงจากกรดวิตามินเอ


ผิวลอกแดงจากกระทู้ ppantip.com/topic/34348897 ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่แบ่งปันด้วยนะคะ


ผิวอักเสบจากการบางแล้วแพ้แดดค่ะ

--------------------------------------------------------------------------------------------

3. สเตียรอยด์

ด้วยความที่มันเป็นสารกดภูมิคุ้มกัน เลยช่วย “ทำให้เส้นเลือดหดตัว”
ผิวก็เลยดูเหมือนใสขึ้นชั่วคราวในเวลาแป๊บเดียวค่ะ
(พวกมาส์คหน้าตอนกลางคืนที่บอกว่าตื่นขึ้นมาจะผิวขาวใสนี่ตัวดีเลย)
แต่จะขาวใสแบบออกซีดๆ ไม่เป็นธรรมชาตินะคะ


ในระยะยาวมันจะทำให้เส้นเลือดฝอยขยายตัวขึ้น ทำให้หน้าเริ่มแดงและเป็นฝ้าแดด
นอกนั้นยังก่อสิว และ “ติดยา” คือถ้าหยุดยาปุ๊บหน้าก็จะกลายเป็นผื่นทันที  
การใช้สเตียรอยด์นานๆ ยังทำให้ผิวหน้าบางลงเรื่อยๆ นึกถึงกระดาษก็ได้ค่ะ
พอยิ่งบาง...สารพิษจากภายนอกก็เข้าสู่ผิวหนังได้ง่ายขึ้น ผดผื่นก็มีง่ายขึ้นด้วย


สิวผดแดงที่เกิดจากสเตียรอยด์


“ใสจนเห็นเส้นเลือด” น่ากลัวมั้ยคะ นี่คือผิวบางเพราะสเตียรอยด์ค่ะ

สิวที่เกิดจากการแพ้ทรีทเม้นท์ที่คาดว่าผสมสเตียรอยด์ จากเพจ facebook.com/BunBunMakeupTips
เคยเป็นกระทู้ ppantip.com/topic/30591054 ค่ะ ขอบคุณเจ้าของกระทู้เดิมด้วยนะคะ

----------------------------------------------------------------------------------------

เห็นมั้ยคะว่าแค่ 3 ตัวยานี้ ก็ทำผิวพังไปถึงไหนต่อไหนแล้วค่ะ
ดังนั้นการ “มีสติ” ก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อครีมหน้าขาว นั้นสำคัญมากๆ อย่าเชื่อเพียงเพราะคำโฆษณานะคะ
อย. เค้าก็ได้ระบุรายชื่อเครื่องสำอางที่ผิดกฎหมายไว้ที่ www.fda.moph.go.th
และตั้งข้อสังเกตว่าเครื่องสำอางที่พบสารอันตรายมักให้รายละเอียดไม่ครบ
เช่น ไม่ระบุแหล่งผลิตครั้งที่ผลิต และวันเดือนปีที่ผลิต
ฉลากที่ถูกต้องจะต้องเป็นภาษาไทยมีข้อความบังคับครบถ้วน
ได้แก่ ชื่อและประเภทผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบ วิธีใช้ชื่อที่ตั้งแหล่งผลิต วันเดือนปีที่ผลิต และปริมาณสุทธิค่ะ


ส่วนตัวหมอเองมักมีเกณฑ์เพิ่มเติมในการเลือกครีมเป็นข้อๆ ดังนี้ ใครจะนำไปใช้ก็ไม่หวงนะคะ
1.เครื่องสำอางควรต้องผ่านการทดสอบภายใต้การควบคุมของแพทย์ผิวหนัง (Hypoallergenic Tested)
2.ถ้าเป็นเวชสำอางได้จะยิ่งดีค่ะ เราสามารถเอาชื่อสถาบันที่ตรวจสอบไปเซิร์ชต่อได้
3.เป็นแบรนด์ที่รู้จัก มีชื่อเสียงในตลาดมานาน (ข้อนี้ได้เรื่องความน่าเชื่อถือ)
4.มีความเป็นธรรมชาติ (เราดูส่วนผสมแล้วเซิร์ชใน google ได้เลยค่ะ ว่าแต่ละชนิดคืออะไร ดียังไงบ้าง)


……….. เอาไว้ถ้าหมอนึกอะไรขึ้นได้อีก จะมาแบ่งปันอีกนะคะ (เรียนจบมานาน ป้าแอบลืมค่ะ 555)


อยากให้คิดทุกครั้งก่อนเลือกใช้ครีม และอยากให้สาวๆ เลือกครีมที่ดีที่สุดให้ตัวเองค่า ยิ้มยิ้มยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่