ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายของมนุษย์ เราจะหาความสุข- อิสระภาพของชีวิตได้ที่ไหน ???
ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย มนุษย์ล้วนต้องการเป็นอิสระ และจะรู้สึกอึดอัดเมื่อต้องอยู่ในกฎระเบียบ หรือมีชีวิตที่ต้องวนเวียนอยู่ในหน้าที่เดิมๆ จึงหาทางออกด้วยการฝ่าฝืนกฎ-ปฏิเสธอยู่ในกรอบ แต่ไม่ว่าจะหลีกหนีวิธีการใดก็จะเจอปัญหาร่ำไปไม่พบความเป็นอิสระ แต่หากมาศึกษาพระพุทธศาสนาแล้ว จะทำให้รู้ว่าความมีอิสระที่แท้จริง คือความอิสระจากการถูกบังคับบัญชาของอำนาจกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง เพราะยิ่งอิสระเท่าไร ก็ยิ่งบริสุทธิ์ มีความเป็นตัวของตัวเองได้มากขึ้นเท่านั้น เพราะใจที่หมดกิเลสจะหลุดออกจากความอึดอัดคับแคบ หลุดออกจากความเซ็ง เครียด เบื่อ กลุ้ม ซึ่งวิธีที่เราจะพบอิสระเช่นนี้ได้ มีอยู่เพียงวิธีเดียว คือ ฝึกสมาธิเพื่อให้จิตให้บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ก็ย่อมจะทำให้กายและวาจา ซึ่งอยู่ใต้การบังคับบัญชาของจิต ดีตามไปด้วย นั่นคือการฝึกสมาธิเพื่อให้เข้าถึงความบริสุทธ์หลุดพ้นนั่นเอง
ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายของมนุษย์ เราจะหาความสุข- อิสระภาพของชีวิตได้ที่ไหน ???
ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย มนุษย์ล้วนต้องการเป็นอิสระ และจะรู้สึกอึดอัดเมื่อต้องอยู่ในกฎระเบียบ หรือมีชีวิตที่ต้องวนเวียนอยู่ในหน้าที่เดิมๆ จึงหาทางออกด้วยการฝ่าฝืนกฎ-ปฏิเสธอยู่ในกรอบ แต่ไม่ว่าจะหลีกหนีวิธีการใดก็จะเจอปัญหาร่ำไปไม่พบความเป็นอิสระ แต่หากมาศึกษาพระพุทธศาสนาแล้ว จะทำให้รู้ว่าความมีอิสระที่แท้จริง คือความอิสระจากการถูกบังคับบัญชาของอำนาจกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง เพราะยิ่งอิสระเท่าไร ก็ยิ่งบริสุทธิ์ มีความเป็นตัวของตัวเองได้มากขึ้นเท่านั้น เพราะใจที่หมดกิเลสจะหลุดออกจากความอึดอัดคับแคบ หลุดออกจากความเซ็ง เครียด เบื่อ กลุ้ม ซึ่งวิธีที่เราจะพบอิสระเช่นนี้ได้ มีอยู่เพียงวิธีเดียว คือ ฝึกสมาธิเพื่อให้จิตให้บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ก็ย่อมจะทำให้กายและวาจา ซึ่งอยู่ใต้การบังคับบัญชาของจิต ดีตามไปด้วย นั่นคือการฝึกสมาธิเพื่อให้เข้าถึงความบริสุทธ์หลุดพ้นนั่นเอง