ขอเล่าประสบการณ์ การขอเงินคืนภาษี ผ่านระบบพร้อมเพย์

สวัสดีครับ

วันนี้ผมมีเรื่องจะมาขอเล่าเป็นประสบการณ์ให้ทุกท่านได้รับทราบ ในส่วนของการ คืนภาษีโดยผ่านระบบพร้อมเพย์ ที่ทางรัฐบาล และ
กรมสรรพากรแนะนำให้ใช้ครับ อยากให้ท่านได้ลองๆ ดูครับ ว่าจะเลือกใช้ ระบบนี้ ดีหรือไม่

( ผมต้องบอกก่อนว่า ผมสมัครระบบพร้อมเพย์ของธนาคารกสิกรไทย ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่ให้ทำการสมัครแล้วครับ ผ่านทาง ตู้ ATM ตอนนั้นคือเผลอกดหลังจากถอนเงินเสร็จ ก็เลยปล่อยเลยตามเลย )

มาเริ่มขั้นตอนการขอคืนภาษีของผมเลยครับ
วันที่ 04/01/2017 ที่ผ่านมา ผมได้ทำการยื่นขอคืนภาษี ผ่านทางหน้าเวปไซด์ของกรมสรรพากร ยื่นเรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไร
วันที่ 06/01/2017 เข้าไปตรวจสอบที่หน้าเวปไซต์ ได้มีข้อความแจ้ง ดังนี้
" ขณะนี้กรมสรรพากรอยู่ระหว่างการนำเงินเข้าบัญชีตามที่ท่านลงทะเบียนพร้อมเพย์
ในกรณีที่ท่านยังไม่ได้สมัครลงทะเบียนพร้อมเพย์ เพื่อความสะดวกในการรับเงินคืน
ท่านสามารถลงทะเบียนกับธนาคารพาณิชย์ในราชอาณาจักร ที่ท่านมีบัญชีเงินฝากด้วยเลขประจำตัวประชาชน สำหรับการรับโอนเงินคืนภาษีอากรต่อไป "

แล้วผมก็โอเค ผ่านไปครับ เพราะว่าเราสมัครพร้อมเพย์ไปแล้วคงไม่น่ามีปัญหาอะไร น่าจะรวดเร็วตามที่อวดอ้างไว้ แต่ไม่ใช่เช่นนั้นสิครับ

วันที่ 09/01/2017 เวลา 11:14 ได้มี SMS เข้ามาที่มือถือ จาก e-revenue แจ้งว่า
" คืนภาษี ( หมายเลขบัตรประชาชน ) ผ่านพร้อมเพย์ เมื่อวันที่ 06/01/2560

เอ้า!!!!! งงไปเลยครับ กรมสรรพากรแจ้งว่า คืนมาเมื่อวันที่ 06/01/2560 วันที่ผมได้รับข้อความคือวันที่ 09/01/2560 ยังไม่มีเงินใดๆ เข้าในบัญชีผมเลยครับ ก็เลยติดต่อไปที่ 1611 ของกรมสรรพากร ซึ่งรอสายกว่า 45 นาที ครับ เมื่อมีเจ้าหน้าที่รับสาย

ผม   :   สวัสดีครับ ผมรบกวนสอบถามเรื่องการขอคืนภาษีผ่านพร้อมเพย์หน่อยสิครับ คือ เมื่อสักครู่ผมได้รับ SMS มาว่ามีการคืนภาษี แล้ว แต่ผมยังไม่ได้รับเลยนะครับ
เจ้าหน้าที่ : ขอทราบข้อมูลเพื่อตรวจสอบคะ
ผม   :   แจ้งข้อมูลรายละเอียดไป ........................................... และรอสายสักครู่ใหญ่
เจ้าหน้าที่ : ทางเราได้ส่งเรื่องอนุมัติให้ทางธนาคารกรุงไทยเรียบร้อยแล้วนะคะ ของ คุณเปิดพร้อมเพย์กับทาง กสิกร จะต้องรอก่อนนะคะ เพราะระบบจะเป็นแบบนี้คะ เราอนุมัติและส่งข้อมูลไปทางธนาคารกรุงไทย หลังจากนั้น ธนาคารกรุงไทยจะดึงเลขบัตรประชาชนที่มีบัญชีกับทางธนาคารกรุงไทย ขึ้นมาก่อน แล้วจะโอนเงินภาษีให้ก่อนคะ ส่วนที่ไม่ใช่ของธนาคารกรุงไทย ก็จะถูกส่งกลับมาที่ส่วนกลางของสรรพากร เพื่อตรวจสอบอีกครั้ง ว่าอยู่ที่ธนาคารไหน
แล้ว ระบบ ก็จะแจ้งไปยังธนาคารนั้นๆ อีกครั้ง
ผม   :   แล้วยังงี้ ทำไมระบบไม่แยกตั้งแต่แรกละครับ ทำไมต้องส่งไปที่กรุงไทยทั้งหมดก่อน ทำงานหลายรอบนะครับเนี่ย
เจ้าหน้าที่ : ไม่ทราบคะ เท่าที่เราทราบมาคือ ระบบเป็นแบบนี้
ผม   :   คือ เท่ากับตอนนี้ ผมก้ไม่ทราบสถานะอะไรเลยสิครับ แล้วระบบจะหาว่าผมอยู่ที่ธนาคารไหน ก็ไม่ทราบว่าจะเจอเมื่อไหร่อีกสิครับ
เจ้าหน้าที่ : ต้องรอก่อนนะคะ ถ้าเป็นของ ธนาคารกรุงไทย ก็จะได้ก่อนคะ จะสะดวก
ผม   :   แล้วผมจะทราบยังไงอะครับ ว่าจะได้เมื่อไหร่ เพราะการส่ง SMS มาแจ้งแบบนั้น ทั่วๆ ไปคือคิดว่าเงินต้องเข้าแล้วนะครับ
เจ้าหน้าที่ : คือ ทางเรารับทราบปัญหาแล้ว กำลังเร่งแก้ไข หาข้อความใหม่อยู่คะ
ผม   :   แล้วที่ท่านอธิบดีฯ บอก ได้เงินคืนรวดเร็วภายใน 1 วันนี่คือยังไงครับ
เจ้าหน้าที่ : ถ้าเป็นธนาคารกรุงไทย ก็คือ ประมาณนั้นๆ คะ ส่วนธนาคารอื่นๆ ก็จะอยู่ที่ระบบของธนาคารอื่น ๆ และ ระบบกลางของเราในการหาเลขบัตรประชาชนด้วยคะ
ผม   :   ขอบคุณครับ ( เพราะไม่รู้จะสนทนาอะไรต่อไปอีกแล้ว )

สรุปคือ ก็ประมาณที่ผมเล่ามานี่แหละครับ ตอนนี้จะตามสถานะอะไรก็ไม่ได้เลย เพราะอยู่ในระบบแล้ว
Call Center ก็ไม่สามารถเข้าไปดูระบบให้ได้ คือ ต้องลุ้นเอาเองครับ ว่าเงินจะโอนให้เมื่อไหร่
ถ้าเป็นระบบ เช็คธนาคารเหมือนเดิม ยังพอตรวจสอบได้ อยู่ในขั้นตอนไหน ยังไง นี่คือ ตรวจเช็คอะไรไม่ได้

แล้วที่ งง คือ ทำไม สรรพากร ต้องส่งข้อมูลทั้งหมดไปที่ กรุงไทย ก่อน เพื่อให้ กรุงไทย ดึงข้อมูลลูกค้า ตัวเองขึ้นมา แล้วโอนเงินให้ก่อน
ส่วนที่เหลือที่ไม่ใช่กรุงไทยก็จะส่งกลับมาที่ ระบบกลางของสรรพากร เพื่อทำการแยกใหม่อีกครั้ง ทำไมทำงานซ้ำซ้อนยังงั้นไม่เข้าใจ

แนะนำนะครับ อย่าเผลอไปสมัครพร้อมเพย์เลยครับ รับเช็คธนาคาร คืนแบบเดิมดีกว่าครับ

ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่