...โหรา (ไม่) คาใจ... โดย คุณ Aims Astro ค่ะ
จาก หนังสือธรรมะใกล้ตัว ฉบับที่ 65 ค่ะ
ทะเลาะกับคนรักบ่อยมากๆ จะแก้ไขอย่างไรดี
ถาม – ดิฉันทะเลาะกับคนรักบ่อยมาก ทั้งที่เรื่องอื่นก็เข้ากันได้ดี มีเรื่องอารมณ์ร้อนๆ อย่างเดียวที่เป็นปัญหา บางครั้งขัดแย้งกันเรื่องเล็กน้อย แต่พอระงับอารมณ์ไม่อยู่ก็กลายเป็น เรื่องใหญ่ไปจนได้ ไม่อยาก อยู่กันไปทะเลาะกันไปค่ะ จะแก้ไขได้อย่างไรบ้างคะ
ช่วงนี้อากาศร้อนนะคะ ทำให้คนส่วนใหญ่หงุดหงิดง่าย แต่ร้อนกายที่แดดเผายังไม่เท่าร้อนใจด้วย ไฟโทสะ อุณหภูมิภายนอกสูงแบบนี้ คงต้องพยายามร้อนกายแต่สบายใจ ด้วยการปรับอุณหภูมิภายในใจ ของเรา ให้เย็นเสมอด้วยธรรมะ ไม่ว่าโลกข้างนอกจะร้อนขนาดไหนก็ตาม
สำหรับปัญหาร้อนๆ ว่าด้วยการทะเลาะกันของคู่รักแต่ละคู่ จะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือทั้งสองฝ่ายจุดชนวนขึ้นนะคะ เท่าที่ดูดวงมาสังเกตว่าคู่ที่มักมีปัญหาการทะเลาะ เกิดจากทั้งสองฝ่าย เป็นคนร้อนๆ บางคู่ก็ร้อนมากคนหนึ่ง อีกคนหนึ่งร้อนน้อย แต่สรุปว่าต้องมีโทสะของทั้งสองฝ่ายเข้ามาเกี่ยว ไม่งั้นทะเลาะกันไม่ได้หรอกค่ะ : )
การแก้ไขดับไฟโกรธ ป้องกันการทะเลาะ ขอให้เริ่มด้วยการฝึกทำทานด้วยใจสละออก เพราะใจของ คนที่ทำทานจะมีความอ่อนโยน ควบคู่ไปกับการทำทาน ก็รักษาศีลห้าไปด้วย ทั้งนี้การไม่คิดประทุษร้าย ตนเองและผู้อื่นทั้งกายและวาจา ยกตัวอย่างเช่น การรักษาศีลข้อ ๑ คือเว้นจากการประทุษร้ายชีวิตของผู้อื่น ย่อมหมายถึงจิตใจที่อ่อนโยนต่อสรรพสัตว์ แม้จะเป็นเพียงมดหรือแมลงเล็กๆ ก็ตามที คนที่ทำทานและ รักษาศีลนั้น จิตใจจะอ่อนโยน เพราะเมื่อไม่คิดเบียดเบียนผู้อื่น ความเมตตากรุณาก็จะเกิดขึ้นไปพร้อมๆ กัน นอกจากนี้ยังควรสวดมนต์บทสรรเสริญถึงคุณพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ อย่างบทอิติปิโสฯ ก็จะได้รับกระแสเย็นของพระรัตนตรัยค่ะ
เหนือสิ่งอื่นใดก็คือการปฏิบัติธรรม เจริญสติ ตามรู้กายใจไปตามจริง หรือที่เรียกกันว่า “วิปัสสนา” ให้เห็นตามจริงว่าจิตใจของเราอยู่ภายใต้กฎไตรลักษณ์ คือไม่เที่ยง ทนอยู่สภาพเดิมไม่ได้ และไม่สามารถ บังคับได้ ท่านที่มีพื้นฐานเป็นคนโทสะแรง จะปฏิบัติง่าย เพราะโทสะเป็นกิเลสตัวใหญ่ เห็นชัด เมื่อใดที่มี ความโกรธ ก็ให้ “รู้” ว่าจิตมีความโกรธ ในช่วงแรกๆ ก็จะต้องโกรธใหญ่ๆ ก่อนจึงจะเห็นค่ะ
การรู้ว่าโกรธอะไร โกรธใคร ไม่เหมือนกับการรู้ว่าจิตมีความโกรธนะคะ เพราะในขณะที่เรารู้เรื่องราว แต่จะไม่รู้ว่าจิตกำลังหลงไปโกรธอยู่ หรือถ้ากำลังดูความโกรธ แล้วอยากหายโกรธ ก็ให้รู้ถึงความอยากนั้น ถ้าอยากหายแล้วไม่หาย แล้วรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา ก็ให้รู้ลงไปอีกค่ะ เฝ้าตามดูจิตใจโดยไม่ต้องเข้าไป แทรกแซง เพราะหน้าที่ของเราคือคอยตามรู้เท่านั้น เมื่อตามรู้ได้บ่อยเข้า จิตจะเห็นโทษของการมีโทสะ ว่าทุกครั้งที่โกรธ จิตจะเกิดความทุกข์ขึ้นทุกครั้ง เมื่อเห็นสภาวธรรมบ่อยเข้าๆ จิตก็จะฉลาดขึ้น ต่อไปเมื่อเกิดโทสะอีก สติจะทำงานทันที คือ “รู้” เพียงเท่านี้ความโกรธก็ดับไป สักระยะหนึ่งจากที่ต้อง โกรธแรงๆ แล้วจึงรู้ ก็จะรู้ทันได้เร็วขึ้น เช่นเพียงแค่ขัดใจก็จะรู้ แล้วโทสะนั้นก็ดับไปค่ะ
การฝึกดูความโกรธนั้น มีข้อแม้ว่าเราต้องมั่นใจว่าสามารถตามรู้จนความโกรธดับไป แต่ถ้าไม่แน่ใจ ในตัวเอง ก็ให้พยายามห้ามความโกรธไปก่อน ดังที่คุณดังตฤณเขียนไว้ในหนังสือ “รักแท้มีจริง” ความว่า “ถ้าอยากพูดด่าหรืออยากลงมือทำร้ายใคร ตอนนั้นความโกรธมีไว้ห้าม ไม่ใช่มีไว้ดู แต่ถ้าแค่หงุดหงิดคิดไม่ดี กับใคร ตอนนั้นความโกรธมีไว้ดู ไม่ใช่มีไว้ห้าม”
ส่วนในกรณีที่โทสะแรงมาก ชนิดห้ามไม่อยู่ ก็ให้หลีกห่างๆ จากสถานการณ์ไปก่อน เพราะในขณะที่ โกรธสุดๆ อาจจะพูดหรือทำอะไรที่ทำลายน้ำใจของอีกฝ่ายหนึ่งได้ง่าย หลายคู่ที่เลิกกันเพราะอารมณ์ชั่ววูบ หรือแม้แต่คู่ที่ทำร้ายร่างกายกันจนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต สุดท้ายต้องมาเสียใจทีหลังว่าไม่น่าเลยค่ะ
ว่าแล้วดิฉันก็ขอเล่าถึงคนที่กรรมเก่าส่งผลให้พวกเขามีนิสัยร้อนๆ ติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่ก็สามารถ เปลี่ยนแปลงตัวเอง กลายมาเป็นคนใหม่ที่โทสะไม่รุนแรงแบบเดิม จึงไม่ต้องประสบกับชะตากรรมแบบที่ ดวงได้ขีดเส้นทางไว้ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ท่านผู้อ่านที่มีปัญหาทำนองนี้ค่ะ : D
ลูกค้าชายท่านหนึ่งที่เมื่อผูกดวงออกมาแล้ว ดูเหมือนว่าเรื่องคู่ครองจะไม่ดีเอามากๆ ปัญหาเริ่ม จากตัวเขาเองเป็นคนอารมณ์รุนแรง ดาวที่มีอิทธิพลต่อการกระทำและความคิดสัมพันธ์ทั้งธาตุลมและธาตุไฟ ในทางโหราศาสตร์นั้น ลมกับไฟเป็นธาตุที่สนับสนุนกันค่ะ แบบนี้ก็เท่ากับลมช่วยพัดให้ไฟร้อนแรงขึ้น คือจากที่เจ้าอารมณ์อยู่แล้ว ก็จะยิ่งทวีความรุนแรง ในเรือนคู่มีคู่ดาวที่หมายถึงการกระทบกระทั่งอยู่ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นดาวคู่ครองยังอยู่เรือนอริ เจ้าเรือนอริเป็นเกษตร (เกษตร แปลว่า มั่นคง) ส่งผลให้ชีวิตคู่ มีเรื่องปะทะกันเสมอๆ และเป็นปัญหาถาวรที่แก้ไขยากด้วยค่ะ
เนื่องจากดวงนี้เป็นดวงสองชั้น ดิฉันจึงอ่านจากดาวแทนเจ้าของดวง เข้าไปหาดาวคู่ครอง เพื่อ ตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งว่าเป็นเช่นเดียวกับความหมายทางลัคนาหรือไม่ ก็พบว่าเรื่องคู่มีปัญหาอีก เมื่อออก มาไม่ดีทั้งสองทางแบบนี้ ก็สรุปความว่าดวงนี้น่าจะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับคู่ครอง ไม่มีความสุขในชีวิต สมรส สาเหตุหลักก็คือเพราะอารมณ์ร้อนๆ ของเจ้าตัวเป็นส่วนสำคัญ
ในความเป็นจริงก็คือ ในอดีตที่ผ่านมาเขามักกระทบกระทั่งกับคู่ ซึ่งเท่าที่อ่านผ่านดวงเขาไป พบว่า ภรรยาก็อารมณ์ร้อนอยู่ไม่น้อย เลยมีปัญหาง่าย แต่ปัจจุบันคู่นี้ไม่ทะเลาะเบาะแว้งอีกต่อไป เพราะฝ่ายชาย หันมาปฏิบัติธรรมได้หลายปีแล้วค่ะ เขาเล่าให้ฟังด้วยว่าเดี๋ยวนี้ภรรยาบอกว่าเขาเป็นคนใจเย็น และเธอจะ บ่นจะว่าอะไร เขาก็ไม่สนใจทะเลาะด้วย เหมือนกับว่าฝ่ายหนึ่งจุดไฟแต่อีกฝ่ายไม่เติมเชื้อเพลิงเพิ่ม สักพัก ไฟก็มอดลงเอง ยิ่งไม่โต้ตอบหลายๆ ครั้งเข้า ฝ่ายที่หาเรื่องก็จะเกรงใจ ไม่ชวนทะเลาะ ปัญหาก็ยิ่ง น้อยลงไปอีกค่ะ
อีกดวงหนึ่งเป็นผู้หญิงที่มีนิสัยใจร้อนและอารมณ์ปรวนแปรมาก เวลาโมโหแล้วระงับอารมณ์ไม่ค่อย อยู่ ทะเลาะกับคนรักทีไรต้องพูดประชด เสียดสี ให้อีกฝ่ายเจ็บปวด ดวงนี้เรื่องคู่ก็มีปัญหามากค่ะ มีความรักก็สมหวังยากหรือไม่ก็อยู่ทนแบบทนอยู่ไปเรื่อยๆ เพราะดาวคู่ศัตรูที่บอกถึงความแตกแยกรุนแรง กุมดาวปัตนิอยู่ในภพวินาสน์ อ่านดาวทุกดวงประกอบกันแล้วได้ความว่า ชีวิตคู่จะมีเรื่องร้อนๆ มีความทุกข์ และการทะเลาะเบาะแว้งบ่อยมาก และคู่ของเธอก็เป็นคนดื้อและเจ้าโทสะพอสมควร เจ้าของดวงจะต้อง เก็บกดไม่มีความสุขค่ะ
แต่หลังจากปฎิบัติธรรมมาสักพัก ความสัมพันธ์กับคู่ของเธอก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น จากเดิมที่ใช้ แต่อารมณ์ก็มีเหตุผลมากกว่าเดิม เมื่อมีปัญหาขัดแย้งกันก็ไม่วิวาทรุนแรง หลายครั้งที่ดวงความรักไม่ค่อยดี น่าจะมีเรื่องราวใหญ่โตถึงขั้นแตกแยก เพราะกรรมเก่าทำให้ดวงเรื่องคู่ค่อนข้างเปราะบางอยู่แล้ว แต่กลับ ไม่มีอะไรรุนแรงเท่ากับในดวง จากเดิมที่ต้องทะเลาะ เพราะ “หลงโกรธ” ก็กลายเป็นสงบปากสงบคำ ประนีประนอมกันได้ ทำให้ชีวิตคู่ค่อยๆ เย็นขึ้นด้วยกระแสบุญที่หมั่นทำไปพร้อมๆ กับการละอกุศล
การที่เรารู้เท่าทันความโกรธ นอกจากจะทำให้ชีวิตคู่ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ชีวิตด้านอื่นๆ ของเรา เช่น การทำงาน การคบเพื่อน ความสัมพันธ์กับพ่อแม่และบุคคลอื่นๆ ดีขึ้นด้วยค่ะ ซึ่งจะเห็นได้ว่ากรรมเก่า กำหนดให้ว่าเราจะเกิดมามีนิสัยแบบไหน มีสภาพชีวิตตามกรรมเดิมอย่างไร แต่กรรมใหม่ก็ช่วยแก้นิสัยได้ เมื่อนิสัยเปลี่ยนพฤติกรรมก็เปลี่ยน เมื่อทั้งมโนกรรม กายกรรม วจีกรรมเปลี่ยนแปลง ชีวิตของเรา ก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นค่ะ
...โหรา (ไม่) คาใจ... โดย คุณ Aims Astro ค่ะ ^^ จาก หนังสือธรรมะใกล้ตัว ฉบับที่ 65 ค่ะ
จาก หนังสือธรรมะใกล้ตัว ฉบับที่ 65 ค่ะ
ทะเลาะกับคนรักบ่อยมากๆ จะแก้ไขอย่างไรดี
ถาม – ดิฉันทะเลาะกับคนรักบ่อยมาก ทั้งที่เรื่องอื่นก็เข้ากันได้ดี มีเรื่องอารมณ์ร้อนๆ อย่างเดียวที่เป็นปัญหา บางครั้งขัดแย้งกันเรื่องเล็กน้อย แต่พอระงับอารมณ์ไม่อยู่ก็กลายเป็น เรื่องใหญ่ไปจนได้ ไม่อยาก อยู่กันไปทะเลาะกันไปค่ะ จะแก้ไขได้อย่างไรบ้างคะ
ช่วงนี้อากาศร้อนนะคะ ทำให้คนส่วนใหญ่หงุดหงิดง่าย แต่ร้อนกายที่แดดเผายังไม่เท่าร้อนใจด้วย ไฟโทสะ อุณหภูมิภายนอกสูงแบบนี้ คงต้องพยายามร้อนกายแต่สบายใจ ด้วยการปรับอุณหภูมิภายในใจ ของเรา ให้เย็นเสมอด้วยธรรมะ ไม่ว่าโลกข้างนอกจะร้อนขนาดไหนก็ตาม
สำหรับปัญหาร้อนๆ ว่าด้วยการทะเลาะกันของคู่รักแต่ละคู่ จะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือทั้งสองฝ่ายจุดชนวนขึ้นนะคะ เท่าที่ดูดวงมาสังเกตว่าคู่ที่มักมีปัญหาการทะเลาะ เกิดจากทั้งสองฝ่าย เป็นคนร้อนๆ บางคู่ก็ร้อนมากคนหนึ่ง อีกคนหนึ่งร้อนน้อย แต่สรุปว่าต้องมีโทสะของทั้งสองฝ่ายเข้ามาเกี่ยว ไม่งั้นทะเลาะกันไม่ได้หรอกค่ะ : )
การแก้ไขดับไฟโกรธ ป้องกันการทะเลาะ ขอให้เริ่มด้วยการฝึกทำทานด้วยใจสละออก เพราะใจของ คนที่ทำทานจะมีความอ่อนโยน ควบคู่ไปกับการทำทาน ก็รักษาศีลห้าไปด้วย ทั้งนี้การไม่คิดประทุษร้าย ตนเองและผู้อื่นทั้งกายและวาจา ยกตัวอย่างเช่น การรักษาศีลข้อ ๑ คือเว้นจากการประทุษร้ายชีวิตของผู้อื่น ย่อมหมายถึงจิตใจที่อ่อนโยนต่อสรรพสัตว์ แม้จะเป็นเพียงมดหรือแมลงเล็กๆ ก็ตามที คนที่ทำทานและ รักษาศีลนั้น จิตใจจะอ่อนโยน เพราะเมื่อไม่คิดเบียดเบียนผู้อื่น ความเมตตากรุณาก็จะเกิดขึ้นไปพร้อมๆ กัน นอกจากนี้ยังควรสวดมนต์บทสรรเสริญถึงคุณพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ อย่างบทอิติปิโสฯ ก็จะได้รับกระแสเย็นของพระรัตนตรัยค่ะ
เหนือสิ่งอื่นใดก็คือการปฏิบัติธรรม เจริญสติ ตามรู้กายใจไปตามจริง หรือที่เรียกกันว่า “วิปัสสนา” ให้เห็นตามจริงว่าจิตใจของเราอยู่ภายใต้กฎไตรลักษณ์ คือไม่เที่ยง ทนอยู่สภาพเดิมไม่ได้ และไม่สามารถ บังคับได้ ท่านที่มีพื้นฐานเป็นคนโทสะแรง จะปฏิบัติง่าย เพราะโทสะเป็นกิเลสตัวใหญ่ เห็นชัด เมื่อใดที่มี ความโกรธ ก็ให้ “รู้” ว่าจิตมีความโกรธ ในช่วงแรกๆ ก็จะต้องโกรธใหญ่ๆ ก่อนจึงจะเห็นค่ะ
การรู้ว่าโกรธอะไร โกรธใคร ไม่เหมือนกับการรู้ว่าจิตมีความโกรธนะคะ เพราะในขณะที่เรารู้เรื่องราว แต่จะไม่รู้ว่าจิตกำลังหลงไปโกรธอยู่ หรือถ้ากำลังดูความโกรธ แล้วอยากหายโกรธ ก็ให้รู้ถึงความอยากนั้น ถ้าอยากหายแล้วไม่หาย แล้วรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา ก็ให้รู้ลงไปอีกค่ะ เฝ้าตามดูจิตใจโดยไม่ต้องเข้าไป แทรกแซง เพราะหน้าที่ของเราคือคอยตามรู้เท่านั้น เมื่อตามรู้ได้บ่อยเข้า จิตจะเห็นโทษของการมีโทสะ ว่าทุกครั้งที่โกรธ จิตจะเกิดความทุกข์ขึ้นทุกครั้ง เมื่อเห็นสภาวธรรมบ่อยเข้าๆ จิตก็จะฉลาดขึ้น ต่อไปเมื่อเกิดโทสะอีก สติจะทำงานทันที คือ “รู้” เพียงเท่านี้ความโกรธก็ดับไป สักระยะหนึ่งจากที่ต้อง โกรธแรงๆ แล้วจึงรู้ ก็จะรู้ทันได้เร็วขึ้น เช่นเพียงแค่ขัดใจก็จะรู้ แล้วโทสะนั้นก็ดับไปค่ะ
การฝึกดูความโกรธนั้น มีข้อแม้ว่าเราต้องมั่นใจว่าสามารถตามรู้จนความโกรธดับไป แต่ถ้าไม่แน่ใจ ในตัวเอง ก็ให้พยายามห้ามความโกรธไปก่อน ดังที่คุณดังตฤณเขียนไว้ในหนังสือ “รักแท้มีจริง” ความว่า “ถ้าอยากพูดด่าหรืออยากลงมือทำร้ายใคร ตอนนั้นความโกรธมีไว้ห้าม ไม่ใช่มีไว้ดู แต่ถ้าแค่หงุดหงิดคิดไม่ดี กับใคร ตอนนั้นความโกรธมีไว้ดู ไม่ใช่มีไว้ห้าม”
ส่วนในกรณีที่โทสะแรงมาก ชนิดห้ามไม่อยู่ ก็ให้หลีกห่างๆ จากสถานการณ์ไปก่อน เพราะในขณะที่ โกรธสุดๆ อาจจะพูดหรือทำอะไรที่ทำลายน้ำใจของอีกฝ่ายหนึ่งได้ง่าย หลายคู่ที่เลิกกันเพราะอารมณ์ชั่ววูบ หรือแม้แต่คู่ที่ทำร้ายร่างกายกันจนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต สุดท้ายต้องมาเสียใจทีหลังว่าไม่น่าเลยค่ะ
ว่าแล้วดิฉันก็ขอเล่าถึงคนที่กรรมเก่าส่งผลให้พวกเขามีนิสัยร้อนๆ ติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่ก็สามารถ เปลี่ยนแปลงตัวเอง กลายมาเป็นคนใหม่ที่โทสะไม่รุนแรงแบบเดิม จึงไม่ต้องประสบกับชะตากรรมแบบที่ ดวงได้ขีดเส้นทางไว้ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ท่านผู้อ่านที่มีปัญหาทำนองนี้ค่ะ : D
ลูกค้าชายท่านหนึ่งที่เมื่อผูกดวงออกมาแล้ว ดูเหมือนว่าเรื่องคู่ครองจะไม่ดีเอามากๆ ปัญหาเริ่ม จากตัวเขาเองเป็นคนอารมณ์รุนแรง ดาวที่มีอิทธิพลต่อการกระทำและความคิดสัมพันธ์ทั้งธาตุลมและธาตุไฟ ในทางโหราศาสตร์นั้น ลมกับไฟเป็นธาตุที่สนับสนุนกันค่ะ แบบนี้ก็เท่ากับลมช่วยพัดให้ไฟร้อนแรงขึ้น คือจากที่เจ้าอารมณ์อยู่แล้ว ก็จะยิ่งทวีความรุนแรง ในเรือนคู่มีคู่ดาวที่หมายถึงการกระทบกระทั่งอยู่ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นดาวคู่ครองยังอยู่เรือนอริ เจ้าเรือนอริเป็นเกษตร (เกษตร แปลว่า มั่นคง) ส่งผลให้ชีวิตคู่ มีเรื่องปะทะกันเสมอๆ และเป็นปัญหาถาวรที่แก้ไขยากด้วยค่ะ
เนื่องจากดวงนี้เป็นดวงสองชั้น ดิฉันจึงอ่านจากดาวแทนเจ้าของดวง เข้าไปหาดาวคู่ครอง เพื่อ ตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งว่าเป็นเช่นเดียวกับความหมายทางลัคนาหรือไม่ ก็พบว่าเรื่องคู่มีปัญหาอีก เมื่อออก มาไม่ดีทั้งสองทางแบบนี้ ก็สรุปความว่าดวงนี้น่าจะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับคู่ครอง ไม่มีความสุขในชีวิต สมรส สาเหตุหลักก็คือเพราะอารมณ์ร้อนๆ ของเจ้าตัวเป็นส่วนสำคัญ
ในความเป็นจริงก็คือ ในอดีตที่ผ่านมาเขามักกระทบกระทั่งกับคู่ ซึ่งเท่าที่อ่านผ่านดวงเขาไป พบว่า ภรรยาก็อารมณ์ร้อนอยู่ไม่น้อย เลยมีปัญหาง่าย แต่ปัจจุบันคู่นี้ไม่ทะเลาะเบาะแว้งอีกต่อไป เพราะฝ่ายชาย หันมาปฏิบัติธรรมได้หลายปีแล้วค่ะ เขาเล่าให้ฟังด้วยว่าเดี๋ยวนี้ภรรยาบอกว่าเขาเป็นคนใจเย็น และเธอจะ บ่นจะว่าอะไร เขาก็ไม่สนใจทะเลาะด้วย เหมือนกับว่าฝ่ายหนึ่งจุดไฟแต่อีกฝ่ายไม่เติมเชื้อเพลิงเพิ่ม สักพัก ไฟก็มอดลงเอง ยิ่งไม่โต้ตอบหลายๆ ครั้งเข้า ฝ่ายที่หาเรื่องก็จะเกรงใจ ไม่ชวนทะเลาะ ปัญหาก็ยิ่ง น้อยลงไปอีกค่ะ
อีกดวงหนึ่งเป็นผู้หญิงที่มีนิสัยใจร้อนและอารมณ์ปรวนแปรมาก เวลาโมโหแล้วระงับอารมณ์ไม่ค่อย อยู่ ทะเลาะกับคนรักทีไรต้องพูดประชด เสียดสี ให้อีกฝ่ายเจ็บปวด ดวงนี้เรื่องคู่ก็มีปัญหามากค่ะ มีความรักก็สมหวังยากหรือไม่ก็อยู่ทนแบบทนอยู่ไปเรื่อยๆ เพราะดาวคู่ศัตรูที่บอกถึงความแตกแยกรุนแรง กุมดาวปัตนิอยู่ในภพวินาสน์ อ่านดาวทุกดวงประกอบกันแล้วได้ความว่า ชีวิตคู่จะมีเรื่องร้อนๆ มีความทุกข์ และการทะเลาะเบาะแว้งบ่อยมาก และคู่ของเธอก็เป็นคนดื้อและเจ้าโทสะพอสมควร เจ้าของดวงจะต้อง เก็บกดไม่มีความสุขค่ะ
แต่หลังจากปฎิบัติธรรมมาสักพัก ความสัมพันธ์กับคู่ของเธอก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น จากเดิมที่ใช้ แต่อารมณ์ก็มีเหตุผลมากกว่าเดิม เมื่อมีปัญหาขัดแย้งกันก็ไม่วิวาทรุนแรง หลายครั้งที่ดวงความรักไม่ค่อยดี น่าจะมีเรื่องราวใหญ่โตถึงขั้นแตกแยก เพราะกรรมเก่าทำให้ดวงเรื่องคู่ค่อนข้างเปราะบางอยู่แล้ว แต่กลับ ไม่มีอะไรรุนแรงเท่ากับในดวง จากเดิมที่ต้องทะเลาะ เพราะ “หลงโกรธ” ก็กลายเป็นสงบปากสงบคำ ประนีประนอมกันได้ ทำให้ชีวิตคู่ค่อยๆ เย็นขึ้นด้วยกระแสบุญที่หมั่นทำไปพร้อมๆ กับการละอกุศล
การที่เรารู้เท่าทันความโกรธ นอกจากจะทำให้ชีวิตคู่ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ชีวิตด้านอื่นๆ ของเรา เช่น การทำงาน การคบเพื่อน ความสัมพันธ์กับพ่อแม่และบุคคลอื่นๆ ดีขึ้นด้วยค่ะ ซึ่งจะเห็นได้ว่ากรรมเก่า กำหนดให้ว่าเราจะเกิดมามีนิสัยแบบไหน มีสภาพชีวิตตามกรรมเดิมอย่างไร แต่กรรมใหม่ก็ช่วยแก้นิสัยได้ เมื่อนิสัยเปลี่ยนพฤติกรรมก็เปลี่ยน เมื่อทั้งมโนกรรม กายกรรม วจีกรรมเปลี่ยนแปลง ชีวิตของเรา ก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นค่ะ