ทริปเค้าน์ดาวน์ 2017 เกาหลี โซล-ปูซาน งบน้อยสุดทรมาน แต่หลากหลายประสบการณ์สุดตื่นเต้น!


เรื่องมันเริ่มที่ผมและเพื่อนได้ซื้อตั๋วเครื่องบินราคาโปรจาก Airasia ตั้งแต่ปีก่อน เพื่อบินไปเค้าน์ดาวน์ที่เกาหลี ตั้งแต่ 27 ธ.ค. 59 - 5 ม.ค. 60 ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติของคนทั่วไปที่จะไปเที่ยวเกาหลีช่วงวันหยุดเทศกาล เพื่อสัมผัสความหนาวเย็นที่ประเทศไทยไม่มี แต่ทริปนี้มันมีความทรมานมากกว่านั้นเยอะมาก เพราะเราจะได้พกเงินไปทั้งสิ้น 16,000 บาท สำหรับ 2 คน = คนละ 8,000 บาท ทั้งทริป!! สาเหตุที่พกเงินไปน้อยเพราะหลายๆปัจจัย ตั้งแต่เหตุการณ์เศร้าสลดของคนไทยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อทุกสิ่ง...ซึ่งบอกได้เลยว่า ถึงจะพกเงินไปน้อย เหนื่อย แต่ก็คุ้ม! และค่าที่พักก็ฟรี ที่ฟรีเพราะได้ Couchsurfing และเพื่อนของเพื่อนของผมบอกว่า จะมีที่พักฟรี ซึ่งจะให้นอนในวัดเกาหลีที่ปูซานทั้งทริปเช่นกัน และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่วางแผนไว้ก่อนจะออกเดินทาง


Day 1
ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง เวลา 02.20น. ถึงโซล 09.40น. เราสองคนเดินทางหาที่พักแถว Mokdong ซึ่งเราได้ไปพักกับโฮสจาก Couchsurfing ชาวเกาหลีที่ให้ที่พักแก่เรา เขามีนามว่า อีอึนซ็อก 이은석 เขาเป็นคนเนี๊ยบมาก รักษาความสะอาดสุดๆ แต่ก็ดูดีสุดๆ เช่นกัน ซึ่งที่พักก็บอกเลยว่า ดูดีมากๆ เราจะมาพักกับเค้า 2 คืนที่โซล ก่อนจะเดินทางไปปูซาน


ชมคลิปวันที่ 1 คลิก
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

Day 2
เราได้ออกไปเที่ยวแถว Seoul Forest ซึ่งเป็นสวนสาธารณะใจกลางโซล เราออกไปเดินเล่นเพียงแค่อยากเห็นวิวทิวทัศน์แบบชิลๆ ไม่เร่งรีบมาก เพราะเราเคยมาโซลหลายรอบ และได้ไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวมาจนครบแล้ว และทริปนี้ก็เป็นทริปสุดชิลจริงๆ

ชมคลิปวันที่ 2 คลิก
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ต่อ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

Day 3
วันนี้เราออกจากที่พักแต่เช้า เพราะเพื่อนของโฮสจะมาพักต่อจากเรา แล้วโอ้วว!! หิมะเพิ่งตกเมื่อคืน ขาวโพลนสวยงาม แต่ก็ไม่ได้เสียเวลาถ่ายรูปมากนัก เพราะหนาววว!! เราก็เลยลากกระเป๋าขึ้นรถไฟไป Sinchon และไปร้องคาราโอเกะกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่มีนามว่า เจสัน เพื่อรอเวลาเดินทางตอน 20.30น. ไปปูซานโดยรถบัส ราคาถูกสุด คนละ 23,000 วอน (690 บาท) โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 4.30 ชม. เท่านั้น (มีจอดพักกลางทาง 15 นาที) รถบัสนั่งสบาย มี USB ให้ชาร์ตมือถือด้วยนะ (ทั้งนี้แล้วแต่บริษัทรถที่ได้ขึ้น)


อยากเล่าถึงคาราโอเกะที่เกาหลี คือดีมากกกกกกก!! เพลงใหม่เยอะมาก!!! แถมบางเพลงที่เป็นเมโลดี้ทำขึ้นมาเอง ที่มีพวกผู้หญิงมาเดินแบบไปๆมาๆ คือทำนองเพลงจัดเต็มมากก ชอบบบบบ!!! ระบบการเลือกเพลงก็เจ๋ง หรู ใช้ง่าย ไม่งง ไม่ต้องมานั่งจิ้มจอ (นี่ขนาดเป็นภาษาเกาหลีหมดเลยนะ) แถมตอนใกล้จะหมดเวลาคือ มีต่อเวลาให้อีก 10 นาที ตั้ง 2 รอบ!! อันนี้ไม่รู้ว่าทำไม ถามใครก็ไม่มีใครรู้


ระหว่างนั้นเอง นัท เพื่อนผม พยายามติดต่อเพื่อนของเค้าที่จะให้ที่พักที่ปูซาน และเคยบอกไว้ว่าจะมารับที่สถานีรถบัส แต่จนขึ้นรถบัสก็ยังไม่สามารถติดต่อได้...

Day 4
รถบัสมาถึง Express Bus Terminal Center ในปูซาน เวลา 01.00น. รถไฟปิดบริการ มีแต่ Taxi ที่คอยให้บริการ และจนถึงตอนนี้ก็ยังติดต่อเพื่อนที่จะให้ที่พักไม่ได้ เราจะรอให้รถไฟเปิดบริการตอนเช้าก็ไม่ได้ จึงตัดสินใจนั่ง Taxi เข้าไปในเมือง แฮอึนแด Haeundae และเสียค่ารถไปกว่า 600 บาท เพื่อไปนอนที่ จิมจิลบัง (โรงอาบน้ำของเกาหลี ที่สามารถนอนพักข้ามคืนได้ ในราคาย่อมเยาว์) ด้วยราคา 12,000 วอน ต่อคน (360 บาท)

ชมคลิป
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอคลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


ตื่นขึ้นมาตอนเช้า เราก็ยังไม่มีที่ไป เพราะยังไม่สามารถติดต่อเพื่อนได้ เลยต้องเร่ร่อนอยู่ในแฮอึนแด และสัมผัสกับบรรยากาศทะเลที่สวยงาม และออกท่องเที่ยวไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง


ตกเย็น สามารถติดต่อเพื่อนได้แล้ว!!! แต่เพื่อนบอกว่ากำลังนั่งเรือเฟอร์รี่จากฟุกุโอกะ รอบ 14.00น. จะเดินทางมาถึงปูซานในเวลา 17.00น. เราไม่มีที่จะไป และเหนื่อยล้ามาก จึงได้ไปนั่งรอในโรงหนัง CGV ในเมืองแฮอึนแด ตั้งแต่เย็นจนค่ำ


ในขณะนั้นเอง ผมได้พยายามหาแผนสำรองไว้คือการหาโฮสจาก Couchsurfing ในปูซาน เพื่อให้รอดในคืนนั้น เพราะตังเหลือน้อยมากแล้ว จะไม่มีพอในวันต่อๆไป ผมได้ประกาศโพส Emergency Couch in Busan ไว้ว่าเรา ต้องการความช่วยเหลือในการหาที่พักโดยด่วน!


ผ่านไป 30 นาที ผมได้รับข้อความผ่าน app Couchsurfing จากคุณปู่ชาวอเมริกัน อายุ 60 กว่า ชื่อว่า William ซึ่งเค้ามีที่พักอยู่ในปูซาน และอาศัยอยู่คนเดียว กับแมว 1 ตัว เขาได้เสนอให้เราไปพักที่บ้านเค้าในคืนนั้น ซึ่งอยู่แถว Beomil ใจกลางปูซาน เรารีบเก็บกระเป๋าและรีบไปทันที


เราได้รับการต้อนรับอย่างดีมาก และก็ได้สอบถามความเป็นมาว่าเกิดอะไรขึ้น เราก็เล่าให้ฟังอย่างละเอียดจนเค้าเข้าใจ แต่เค้าบอกว่า นอนได้คืนเดียว และขอให้ติดต่อเพื่อนให้ได้....เอาวะ! คืนเดียวก็ยังดี และต้องรอลุ้นว่าจะติดต่อได้หรือไม่ได้อีกที


ชมคลิป
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Day 5 (New Year's Eve)
เราได้ออกจากที่พักพร้อมกระเป๋า และเป็นคนเร่ร่อนอีกครั้ง ซึ่งวิลเลี่ยมได้แนะนำว่าให้ไปฝากกระเป๋าไว้ในห้าง HYUNDAI ใกล้ๆ กันนี่เอง และเราก็เอาไปฝากไว้ทั้งวันได้ และวันนี้เราก็ได้ออกไปเที่ยว Busan Gamcheon Culture Village (부산 감천문화마을) โดยจากที่พักเรา สถานี Beomil นั่งรถไฟไปลง สถานี Toseong ออกทางออก 6 และเดินตรงไปเรื่อยๆ จะเห็นโรงพยาบาลด้านขวามือ และเดินไปอีกจะเจอป้ายรถเมล์ ให้ขึ้นสาย 2 หรือ 2-2 ซึ่งจะพาไปหมู่บ้านกัมชอนนั่นเอง


Busan Gamcheon Culture Village เป็นสถานที่ที่เรียกได้ว่า "น่าค้นหา" และสวยงามมากๆ เราใช้เวลาที่นี่เกือบทั้งวัน เดินชิลไป ถ่ายรูปไป Live on Facebook คุยกับเพื่อนไปเรื่อย เพราะทริปนี้เราได้เช่า Pocket Wi-Fi จาก TRIPIZEE มา! บอกได้เลยว่า ถูกกว่าทุกเจ้าตั้งแต่เคยเห็นมา มาเกาหลีแค่วันละ 100 บาทเอง แถมใช้งานได้ต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืน แบ็ตใช้งานได้ทั้งวันจริง (จากที่เคยเช่ามา เจ้าอื่นนี่ 150++บาท แถมเน็ตช้า) ใช้ได้ทั่วประเทศเกาหลีเลย ไม่มีสัญญาณหาย แม้กระทั่งตอนเดินทาง! เด็ดจริง!!


และอาหารมื้อแรกที่เรามากินก็คือ PIZZA นี่เอง!! เพราะมันถูกสุด คุ้มสุด อิ่มสุด สำหรับทาน 2 คน เมื่อเทียบกับต้องไปกิน รามยอนที่มีแต่เส้น แต่ไม่มีเนื้อสัตว์เลย ฮ่าๆๆ


ตกเย็น เราต้องรีบเข้าไปเอากระเป๋าคืน ก่อนห้างปิด จนถึงเวลานี้ เพื่อนก็ยังไม่แม้แต่อ่านไลน์เลยด้วยซ้ำ
และวันนี้ก็หาโฮสไม่ได้ด้วย เลยต้องไปนอนที่จิมจิลบังอีกคืน ด้วยราคาที่ถูกกว่าคืนแรกที่เรานอนที่จิมจิลบังใน แฮอึนแด เพราะที่นี่แค่ 8,000 won เท่านั้น แต่คืนนี้เป็นคืนสิ้นปี เราต้องไปฉลองปีใหม่กันก่อน ซึ่งเราได้เอากระเป๋าไปฝากไว้ที่จิมจิลบังก่อน และออกมาฉลองปีใหม่กันที่ย่าน นัมโป ซึ่งย่านนี้คล้ายเมียงดง ในโซลมาก ผู้คนมากมายออกมาฉลองกันอย่างคับคั่งและสนุกสนานมากเลยทีเดียว


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่