กรมการขนส่งทางบก ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลให้ติดตั้ง GPS Tracking ในรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท ทุกคัน ทุกเส้นทาง มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ 25 ม.ค. 59 ที่ผ่านมา และให้ติดตั้งครบทุกคันภายในปี 2560 ทั้งนี้ ได้มีประกาศเพิ่มมีผลบังคับใช้ทันที ให้รถตู้โดยสาร (รถร่วม บขส.)ที่วิ่งระหว่าง กรุงเทพฯ - ตจว.ทุกเส้นทาง ต้องติดตั้ง GPS Tracking ให้แล้วเสร็จภายใน 31 มี.ค. 60 บังคับใช้ให้เร็วขึ้นเพื่อการบริหารจัดการเดินรถ ติดตามพฤติกรรมการให้บริการ และเพื่อความปลอดภัยตามนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงคมนาคม
.
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ประเด็นความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะเป็นนโยบายสำคัญที่กรมการขนส่งทางบกและกระทรวงคมนาคมดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ดำเนินการเข้มงวดตรวจจับความเร็วรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก รวมถึงพนักงานขับรถให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ภายใต้โครงการมั่นใจทั่วไทย รถใช้ GPS ซึ่งเป็นการบังคับให้รถโดยสารสาธารณะทุกคัน และรถบรรทุกตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไป ติดตั้ง GPS Tracking ตามคุณสมบัติที่กรมการขนส่งทางบก ควบคู่กับการติดตั้งเครื่องบ่งชี้พนักงานขับรถ (เครื่องรูดใบขับขี่แสดงตัวตนพนักงานขับรถ) พร้อมระบบการทำงาน Realtime online เชื่อมโยงกับศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS ของกรมการขนส่งทางบก ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งรถโดยสารสาธารณะทุกคันจะติดตั้งครบถ้วนภายในปี 2560 เพื่อติดตามพฤติกรรมการเดินรถแบบ Realtime ทั้งพิกัด เส้นทาง ความเร็ว ชั่วโมงการทำงาน และเพื่อประสิทธิภาพในการกำกับ ควบคุม ดูแล ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมาย ได้ออกแบบระบบให้สามารถบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม ทั้งกรมการขนส่งทางบก ผู้ประกอบการ เจ้าของรถ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้โดยสารและประชาชนทั่วไป สามารถมีส่วนร่วมในการกำกับตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่แบบ Realtime ผ่าน application “DLT GPS” ทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะแสดงผลข้อมูลของรถเช่นเดียวกันกับข้อมูลที่แสดงผลในศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS ของกรมการขนส่งทางบก และศูนย์ฯ GPS ขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ และเพิ่มช่องทางการมีส่วนร่วมโดยสามารถแจ้งร้องเรียนทุกกรณีการให้บริการที่ผิดกฎหมายผ่านทาง application ดังกล่าวได้ด้วย อาทิ ขับรถประมาทหวาดเสียว มีพฤติกรรมเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ ทั้งการใช้ความเร็ว ชั่วโมงการทำงานพนักงานขับรถ ไม่มีการพักรถหรือเปลี่ยนคนขับตามที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น
.
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ เพื่อให้มีผลบังคับใช้เร็วขึ้น สร้างความเชื่อมั่น และเพื่อการควบคุมดูแลความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะในกลุ่มรถตู้โดยสารสาธารณะที่พบว่ามีการใช้ความเร็วของรถเกินกฎหมายกำหนดเป็นจำนวนที่สูงกว่ารถลักษณะอื่น กรมการขนส่งทางบกจึงได้ออกประกาศเพิ่มเติม เรื่อง กำหนดประเภทและลักษณะของรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารที่ต้องติดตั้งเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถก่อนการตรวจสภาพรถเพื่อต่ออายุทะเบียน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนให้รถตู้โดยสารสาธารณะร่วมให้บริการกับบริษัท ขนส่ง จำกัด (รถตู้ร่วมบริการ บขส.) เส้นทางกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด ต้องติดตั้ง GPS Tracking ให้ครบถ้วนทุกคันภายใน 31 มีนาคม 2560 ส่วนรถตู้ที่ครบรอบต่ออายุทะเบียนในงวดเดือนมกราคม – มีนาคม ดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนการตรวจสภาพรถต่ออายุทะเบียนตามกำหนดเดิม และสำหรับรถโดยสารสาธารณะประเภทอื่นให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2560 ตามประกาศเดิม ส่วนบรรทุกชนิดรถพ่วง รถลากจูง ติดตั้งครบทุกคัน ภายในปี 2560 รถบรรทุกสาธารณะ 10 ล้อขึ้นไป ติดตั้งครบทุกคัน ภายในปี 2561 และรถบรรทุกส่วนบุคคล 10 ล้อขึ้นไป ติดตั้งครบทุกคันภายในปี 2562 นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกยังดำเนินการมาตรการกำกับ ควบคุม ดูแล พร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น ต่อเนื่อง จริงจัง เด็ดขาด ทันที ในขั้นสูงสุดทุกกรณีทั้งพนักงานขับรถและผู้ประกอบการ ในทุกประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับความปลอดภัยในการทางเดินทางของประชาชนอย่างยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม โดยประชาชนที่พบรถโดยสารสาธารณะไม่ปลอดภัยแจ้งสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมดำเนินการจัดการปัญหาทันที อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด
----------------------------------
มั่นใจทั่วไทย รถใช้ GPS 'กรมการขนส่งทางบก'
.
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ประเด็นความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะเป็นนโยบายสำคัญที่กรมการขนส่งทางบกและกระทรวงคมนาคมดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ดำเนินการเข้มงวดตรวจจับความเร็วรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก รวมถึงพนักงานขับรถให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ภายใต้โครงการมั่นใจทั่วไทย รถใช้ GPS ซึ่งเป็นการบังคับให้รถโดยสารสาธารณะทุกคัน และรถบรรทุกตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไป ติดตั้ง GPS Tracking ตามคุณสมบัติที่กรมการขนส่งทางบก ควบคู่กับการติดตั้งเครื่องบ่งชี้พนักงานขับรถ (เครื่องรูดใบขับขี่แสดงตัวตนพนักงานขับรถ) พร้อมระบบการทำงาน Realtime online เชื่อมโยงกับศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS ของกรมการขนส่งทางบก ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งรถโดยสารสาธารณะทุกคันจะติดตั้งครบถ้วนภายในปี 2560 เพื่อติดตามพฤติกรรมการเดินรถแบบ Realtime ทั้งพิกัด เส้นทาง ความเร็ว ชั่วโมงการทำงาน และเพื่อประสิทธิภาพในการกำกับ ควบคุม ดูแล ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมาย ได้ออกแบบระบบให้สามารถบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม ทั้งกรมการขนส่งทางบก ผู้ประกอบการ เจ้าของรถ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้โดยสารและประชาชนทั่วไป สามารถมีส่วนร่วมในการกำกับตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่แบบ Realtime ผ่าน application “DLT GPS” ทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะแสดงผลข้อมูลของรถเช่นเดียวกันกับข้อมูลที่แสดงผลในศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS ของกรมการขนส่งทางบก และศูนย์ฯ GPS ขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ และเพิ่มช่องทางการมีส่วนร่วมโดยสามารถแจ้งร้องเรียนทุกกรณีการให้บริการที่ผิดกฎหมายผ่านทาง application ดังกล่าวได้ด้วย อาทิ ขับรถประมาทหวาดเสียว มีพฤติกรรมเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ ทั้งการใช้ความเร็ว ชั่วโมงการทำงานพนักงานขับรถ ไม่มีการพักรถหรือเปลี่ยนคนขับตามที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น
.
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ เพื่อให้มีผลบังคับใช้เร็วขึ้น สร้างความเชื่อมั่น และเพื่อการควบคุมดูแลความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะในกลุ่มรถตู้โดยสารสาธารณะที่พบว่ามีการใช้ความเร็วของรถเกินกฎหมายกำหนดเป็นจำนวนที่สูงกว่ารถลักษณะอื่น กรมการขนส่งทางบกจึงได้ออกประกาศเพิ่มเติม เรื่อง กำหนดประเภทและลักษณะของรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารที่ต้องติดตั้งเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถก่อนการตรวจสภาพรถเพื่อต่ออายุทะเบียน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนให้รถตู้โดยสารสาธารณะร่วมให้บริการกับบริษัท ขนส่ง จำกัด (รถตู้ร่วมบริการ บขส.) เส้นทางกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด ต้องติดตั้ง GPS Tracking ให้ครบถ้วนทุกคันภายใน 31 มีนาคม 2560 ส่วนรถตู้ที่ครบรอบต่ออายุทะเบียนในงวดเดือนมกราคม – มีนาคม ดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนการตรวจสภาพรถต่ออายุทะเบียนตามกำหนดเดิม และสำหรับรถโดยสารสาธารณะประเภทอื่นให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2560 ตามประกาศเดิม ส่วนบรรทุกชนิดรถพ่วง รถลากจูง ติดตั้งครบทุกคัน ภายในปี 2560 รถบรรทุกสาธารณะ 10 ล้อขึ้นไป ติดตั้งครบทุกคัน ภายในปี 2561 และรถบรรทุกส่วนบุคคล 10 ล้อขึ้นไป ติดตั้งครบทุกคันภายในปี 2562 นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกยังดำเนินการมาตรการกำกับ ควบคุม ดูแล พร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น ต่อเนื่อง จริงจัง เด็ดขาด ทันที ในขั้นสูงสุดทุกกรณีทั้งพนักงานขับรถและผู้ประกอบการ ในทุกประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับความปลอดภัยในการทางเดินทางของประชาชนอย่างยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม โดยประชาชนที่พบรถโดยสารสาธารณะไม่ปลอดภัยแจ้งสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมดำเนินการจัดการปัญหาทันที อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด
----------------------------------