รีวิว: 2017 Volvo XC90 D5 AWD Momentum เทพเจ้าทอร์พี่ใหญ่แห่งดินแดนกวางมูส

กระทู้สนทนา
          สวัสดีครับ ผม Yod หรือ Yodster จาก Chinchilla หากจะพูดถึงรถ SUV ระดับหรูขนาดใหญ่หลายๆคนคงจะนึกถึง Mercedes-Benz GLE ไม่ก็ BMW X5 แต่คราวนี้สองเจ้าตลาดจากเมืองเบียร์อาจหนาวได้เพราะคู่แข่งจากสแกนดีเนเวียคันนี้ก็ให้ความหนาวไม่ใช่น้อยเหมือนกัน เอ้ย! คนละเรื่องและ นั่นคือรถจากสวีเดนก็คือ Volvo XC90 ที่มีระบบความปลอดภัยมาให้แบบจัดเต็มชนิดที่ว่าเหนือกว่าคู่แข่งอยู่หลายขุมเลยครับ ก่อนจะเริ่มรีวิวเราลองมาดูความเป็นมาของรถรุ่นนี้ดีกว่าครับ
          Volvo XC90 ได้เปิดตัวต่อหน้าสายตาชาวโลกครั้งแรกเมื่อปี 2002 ซึ่งเรื่องระบบความปลอดภัยก็เป็นจุดเด่นมาตั้งแต่รุ่นนี้แล้ว (แหงสิครับ จุดขายวอลโว่นี่นา) กระแสตอบรับก็ถือว่าไม่แย่ในต่างประเทศ  แต่ในไทยก็รู้ๆกันอยู่ (นับคันบนถนนได้เลย) โฉมนี้มีการทำตลาดถึง 13 ปีเลยทีเดียว จนทางวอลโว่ประกาศว่าจะเปิดตัว XC90 โฉมใหม่ ซึ่งในประเทศไทยเราก็ได้ยลโฉมมันในปี 2016 นี่เองแหละครับ
          เราลองมาดูกันดีกว่าครับว่า Volvo XC90 ตัวใหม่นี้จะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นเดิมบ้าง

ภายนอก
          ดีไซน์ภายนอกของ Volvo XC90 ใหม่ถือว่าถอดเส้นสายจากรุ่นเดิมมาใส่เลยครับ แต่ก็ยังคงความหรูหรา ภูมิฐาน และมีระดับไว้ งานประกอบถือว่าเนี๊ยบตามมาตรฐานรถยุโรป ผมว่าจริงๆดีไซน์รถถือว่าสวยครับ แต่มันดูแก่ไปหน่อย ไม่ค่อยเหมาะกับวัยโจ๋ซะเท่าไหร่ คือถ้าคนขับเป็นวัยรุ่นคนก็คงคิดว่าคุณเอารถพ่อมาขับ จะบอกว่ารุ่นนี้ถ้าให้ผมเดาพวกอาแปะ อาอึ้มน่าจะชอบครับเพราะมันเน้นหรูและไม่มีความสปอร์ตเลย
          ออพชั่นภายนอกก็จะมีไฟหน้า Auto แบบ LED  พร้อมไฟ Daytime รูปค้อนทอร์แบบ LED ซึ่งเป็นจุดเด่นของรถวอลโว่รุ่นใหม่ๆเลย, ไฟหน้าปรับสูง-ต่ำ Auto, ที่ปัดน้ำฝน Auto, ไฟท้าย LED ทรงยาวตามสไตล์ Volvo, ไฟตัดหมอกหน้า-หลัง, ที่ปัดน้ำฝน Auto, เซนเซอร์หน้า-หลัง, กล้องมองหลัง, กล้องจับภาพรอบคันแบบ 360 องศา, ระบบ Hill Start Assist, ระบบ Hill Descent Control ช่วยลดความเร็วขณะลงทางลาดชัน, ระบบ Pilot Assist คล้าย Mini Auto Drive, ฝาท้ายไฟฟ้าพร้อมระบบ Hands-Free (เตะเปิด)

ภายใน
         ภายในของ Volvo XC90 ใหม่ได้เปลี่ยนการออกแบบไปจากเดิมเยอะพอสมควรเลยทีเดียว แผงคอนโซลจะเอียงเข้าหาคนขับเล็กน้อยซึ่งในรุ่นเดิมมันจะไม่เอียง การตกแต่งก็ให้ความหรูหราและดูอบอุ่นตามสไตล์สแกนดิเนเวีย สีภายในจะขึ้นอยู่กับสีภายนอก จอ Infotainment ตรงกลางนี่เหมือนเอา iPad มาฝังให้เล่นเลยครับ แต่มันก็เล่นง่ายและไม่ซับซ้อน ดีไซน์พวงมาลัยถือว่าดูดีขึ้นเยอะ เบาะนั่งจะออกแนวแข็งๆนิดนึงแต่ Legroom กับ Headroom นี่อย่างกว้างครับ ยืดได้สบายเลยแต่พื้นที่รองก้นเบาะหลังต้องบอกเลยว่าแม่_  จะสั้นไปไหน เบาะตอนที่ 3 ผมไม่ได้ลองนั่งเนื่องจากเอาตัวเองไม่เข้า วัสดุภายในถือว่าดีเลย ให้อารมณ์พรีเมี่ยมมาก หน้าปัดมองง่าย สบายตา ตัวเลขชัดเจนมากครับ
         ออพชั่นภายในก็จะมีแอร์ 4 โซนพร้อมช่องทำความเย็น, ระบบควบคุมอากาศภายในรถพร้อมเซนเซอร์ตรวจจับกลิ่นจากภายนอก, หน้าปัดดิจิตอลแบบปรับโหมดได้, ระบบ Sensus Navigation, Adaptive Cruise Control พร้อมฟังก์ชั่นหยุดรถและออกตัว, ระบบ Start-Stop ดับเครื่องเองเวลารถหยุด ซึ่งไม่ค่อยน่าใช้เท่าไหร่, ระบบแจ้งเตือนป้ายจราจร, เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าพร้อม Memory Seat 3 ตำแหน่ง, เบาะหลังปรับแยกแบบ 40-20-40, กระจกมองหลังและข้างตัดแสง Auto, กระจกประตู Auto 4 บาน

ระบบ Infotainment
        ระบบ Infotainment จะสั่งการผ่านหน้าจอ 9 นิ้ว เครื่องเสียงจะใช้แบบ High Performance Sound ผ่านลำโพง 10 ตัว เวลาจะเพิ่ม-ลดเสียงหรือเลื่อนเพลงสามารถควบคุมผ่านปุ่ม Controller ตรงกลางได้  รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth, USB, CD, และ AUX แถมยังรองรับ Apple CarPlay ด้วยแต่ดันเสื_กไม่รองรับ Android Auto ก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ฟีลลิ่งลำโพงถือว่าดีขึ้นเยอะ คุณภาพเสียงละเอียดมาก ปรับเบสหนักๆหน่อยก็มันส์กันเลยครับทีนี้

เครื่องยนต์
            ขุมพลังที่อยู่ใต้ฝากระโปรงตัวนี้เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 235 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,250 ส่งกำลังลงไปยังล้อทั้ง 4 ซึ่งกำลังหลักจะอยู่ที่ล้อหน้า ตอนออกตัวเครื่องจะอืดกว่าคู่แข่งเล้กน้อยแต่พออัดคันเร่งก็พุ่งใช้ได้เหมือนกัน อัตราเร่ง 0-100 อยู่ที่ 7.6 วินาที ถือว่าแรงใช้ได้ถ้าเทียบกับน้ำหนักตัวและขนาดเท่าปลาวาฬของมัน
         เกียร์เป็นเกียร์ออโต้ 8 สปีดแบบ Geartronic จังหวะการเปลี่ยนเกียร์ถือว่าไหลลื่นดี ไม่มีจังหวะสะดุดเหมือนคู่แข่งครับ
         โหมดการขับขี่สามารถปรับได้ 5 โหมดซึ่งประกอบด้วยโหมด Eco สำหรับคนรักความประหยัด, โหมด Comfort สำหรับพวกสายกลาง, โหมด Performance ซึ่งจะทำงานคล้ายๆโหมด Sport ในยี่ห้ออื่น เหมาะสำหรับสายอัดคันเร่ง, โหมด Off-Road ไว้สำหรับลุย, และโหมด Individual สำหรับตั้งสไตล์การขับของตัวเอง
          อัตราสิ้นเปลืองทางวอลโว่เคลมไว้ที่ 17.2 กม./ลิตร แต่หลังจากทดสอบจริงทำได้ที่ 15.3 กม./ลิตร ถือว่าเป็นที่น่าพอใจสำหรับรถไซส์นี้ครับ

ระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีอื่นๆ
          ถ้าจะให้พูดถึงระบบความปลอดภัยของรถ Volvo นี่คงต้องร่ายยาวเป็นนิยายเลยแหละครับเพราะมันเยอะสุดๆ หลักๆก็จะมี HBA เป็นภาษาที่ Volvo ใช้เรียกซึ่งมันก็คือ ABS นั่นเอง, DSTC ช่วยยึดเกาะถนนและป้องกันการโคลง, ESC, และ Airbag คู่หน้าพร้อมม่านถุงลมนิรภัย
ระบบอื่นๆก็จะมี    
•    ระบบป้องกันการชน City Safety พร้อมเซนเซอร์ตรวจจับรถยนต์, คนเดินถนน, ผู้ขับขี่จักรยาน, และสัตว์ใหญ่ (อันหลังไม่น่าจะได้ใช้ในเมืองสำหรับบ้านเรานะครับผมว่า อิอิ นอกจากว่าจะไปเจอช้างเดินอยู่กลางกรุง)
•    ระบบแจ้งเตือนเพื่อหลีกเลี่ยงการชนพร้อม Auto Brake หน้า-หลัง
•    ระบบแจ้งเตือนเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกชน (ยังจะกันได้อีกหรอฟะ)
•    ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา BLIS (Blind Spot Information System)
•    ระบบ Cross Traffic Alert แจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งผ่านตอนถอยออกจากที่จอด
•    ระบบแจ้งเตือนให้เว้นระยะห่างจากคันหน้า Distance Alert
•    ระบบ Lane Departure Warning
•    ระบบช่วยคุมรถให้อยู่ในเลนด้วยการสั่นพวงมาลัยเตือน Lane Keeping Aid
•    ระบบ Lane Change Merge Aid แจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งมาด้านหลังขณะเปลี่ยนเลน
•    ระบบปกป้องเมื่อรถวิ่งตกถนน Run-Off Road Protection
•    ระบบปกป้องเมื่อเกิดการพลิกคว่ำ Roll-Over Protection System
•    ระบบปกป้องการบาดเจ็บของกระดูกต้นคอและหลัง
•    ระบบกระจายแรงกระแทกจากการชนด้านข้าง

ดูจากระบบข้างบนแล้วผมว่ามันสมคำร่ำลือที่ว่า ทุกชีวิตปลอดภัยใน Volvo จริงๆ ครับ

Test Drive
           เส้นทางการทดสอบจะเป็นเส้นพระราม 3-สะพานภูมิพล ตอนออกตัวคันเร่งจะหน่วงนิดๆ คล้ายๆใน Mercedes-Benz แต่พอรอบขึ้นแรงดึงก็ถือว่าโอเคตามประสาเครื่องดีเซล คือตอนขับในเมืองผมนึกว่ามันจะเทอะทะ ขับยากแต่มันไม่ใช่เลยครับ ในเมืองถือว่าคล่องตัวใช้ได้เลย ตอนขับเร็วๆช่วงล่างถือว่ามั่นคง เกาะถนน ให้ความมั่นใจได้ดีมาก ตอนเข้าโค้งแอบมีอาการโคลงนิดๆ แต่ก็ยังถือว่าคุมได้ พวงมาลัยแม่นยำใช้ได้ ฟีลลิ่งตอนขับจะออกแนววัยรุ่นๆหน่อยซึ่งไม่ได้เข้ากับดีไซน์รถเลย เสียงลมจะเริ่มเข้าห้องโดยสารที่ความเร็ว 180 วิสัยทัศน์ถือว่าดีมาก หาจุดอับแทบไม่มี เบาะนั่งออกจะแข็งนิดหน่อยแต่ก็ขับทางไกลได้อย่างสบายๆ เบาะหลังถือว่ากว้างใช้ได้แต่ที่รองตูดสั้นเกินไป ที่ผมอยากจะด่าสำหรับ Volvo XC90 ตัวนี้คือเรื่องการซับแรง โช้คแข็งสุดๆ เจอรอยต่อถนนหรือฝาท่อทีนี่สะเทือนถึงเซ่งจี้เลยครับ ขนาดปรับเป็นโหมด Eco หรือ Comfort ยังแข็งเลย คือโช้ค BMW ที่ว่าไม่ได้นิ่มยังนิ่มกว่าเลยครับ ทาง Volvo น่าจะทำให้ดีกว่านี้แล้วมันจะเป็นรถที่ดีคันนึงเลยครับ

ฟีลลิ่งโดยรวมของ Volvo XC90 ถือว่าเป็นรถที่โอเคคันนึงเลยครับ แต่หลายๆ คนจะกลัวเรื่องค่าซ่อมกับราคาขายต่อเลยไม่กล้าเล่นกันเท่าไหร่

สรุป
•    ดีไซน์ภายนอกถือว่าดูดีแบบผู้ใหญ่ๆ ไม่หวือหวา กลุ่มลูกค้ามีอายุน่าจะชอบ
•    อุปกรณ์ภายในถือว่าใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ผมว่าตำแหน่งปุ่มมันวางดีกว่ารถจากเยอรมันซะอีก
•    วัสดุให้ความพรีเมี่ยมมาก
•    เบาะนั่งไม่ค่อยเหมาะกับสรีระคนเอเชียเท่าไหร่ แต่มันนั่งได้นานแบบไม่เมื่อย
•    เบาะคู่หน้าวางตำแหน่งดี เบาะหลัง Legroom กว้าง ยืดได้สบาย
•    เครื่องเสียงดี ได้ยินเครื่องดนตรีครบทุกชิ้น ตึบใช้ได้
•    เครื่องยนต์ไม่ได้แรงแบบพุ่งพรวด แต่จะมาแบบเนิบๆมากกว่า
•    คันเร่งหน่วง ต้องรอจังหวะออกตัวนิดนึง
•    การเปลี่ยนเกียร์ถือว่าไหลลื่น ไม่ค่อยรู้สึกถึงรอยต่อเท่าไหร่
•    ระบบความปลอดภัยผมยกให้เป็นอันดับหนึ่งเลย มีโล่นี่ผมยกให้พี่เลยสำหรับเรื่องนี้
•    เป็นรถที่ถือว่าล้ำคันนึงเลย
•    ช่วงล่างดี ขับเร็วๆได้อย่างมั่นใจ
•    พวงมาลัยคม แม่นยำ เข้าโค้งดี
•    โช้คแข็งชิ_หาย หยั่งกะรถซิ่ง ซึ่งผมว่ามันไม่สอดคล้องกับดีไซน์รถเอาซะเลย เหมือนจับวัยรุ่นมาแต่งตัวแก่ๆ คือข้างในวัยรุ่นแต่ข้างนอกดูแก่ อะไรประมาณนี้

        Volvo XC90 D5 AWD Momentum สนนราคาอยู่ที่ 4,190,000 บาท ราคาถือว่าทำมาได้ดีกว่าคู่แข่ง ของที่ได้มาถือว่าครบตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น แต่จะเสียเปรียบเรื่องราคาขายต่อและศูนย์บริการ

คุณสามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับรถยนต์ ยานยนต์ รีวิวรถใหม่ได้ที่ ID Pantip ผมครับ Yod Chinchilla

สำหรับใครที่สนใจเรื่องรถยนต์ ยานยนต์ รถแต่ง สามารถติดตามเราบน Instagram ได้ครับ Ig: Chinchilla_autoholic
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่