สุนัขไทยหลังอาน
ประวัติ : เป็นสุนัขที่มีต้นกำเนิดในประเทศไทย และ เป็นสุนัขประจำชาติไทย มีสมุดข่อยโบราณ สมัยกรุงศรีอยุธยา อายุประมาณ 400 ปี บันทึกว่า “สุนัขตัวมันใหญ่ มันสูง 2 ศอกเศษ มันมีสีต่างๆ ไม่ซ้ำกัน มันมีขนหลังกลับ มันภักดีกับผู้เลี้ยงมัน มันชอบติดตามผู้เลี้ยงไปในป่า มันได้สัตว์ มันจะนำมาให้เจ้าของ ถ้าผู้ใดมีไว้จะได้รับความภักดีจากมัน ”
ลักษณะ : เป็นสุนัขขนาดกลาง สง่างาม เคลื่อนไหวเร็ว มีขนเป็นรูปอานที่หลัง ฉลาด จงรักภักดี นิสัยเป็นมิตรต่อผู้คน เฝ้าบ้านเรือน อารักขาทรัพย์สิน จับสัตว์เลื้อยคลานได้ดีเยี่ยม ปัจจุบัน ไทยหลังอาน หรือ thairidgeback ได้รับความนิยมแพร่หลายทั่วโลก ไทยหลังอาน มี 4 สี ได้แก่ สีแดง สีสวาด สีกลีบบัว สีดำ มีขน 2 ชนิด ได้แก่ ขนสั้น และขนกำมะหยี่ ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ให้สวยงามขึ้นตามยุคสมัย เช่น หลวงปริพนธ์พจนพิสุทธิ์ (ผู้พิพากษา) พัฒนาขนสุนัขไทยหลังอาน จากเดิมที่ขนสั้น ให้เป็นขนกำมะหยี่เงางาม เป็นต้น นอกจากนี้ คนโบราณ เชื่อกันว่า ไทยหลังอาน จักเสริมศิริมงคล เพิ่มบารมีแก่ผู้เลี้ยง อีกด้วย
ผมเลี้ยงหมาไว้เป็นเพื่อน และเฝ้าบ้าน ไทยหลังอาน
ประวัติ : เป็นสุนัขที่มีต้นกำเนิดในประเทศไทย และ เป็นสุนัขประจำชาติไทย มีสมุดข่อยโบราณ สมัยกรุงศรีอยุธยา อายุประมาณ 400 ปี บันทึกว่า “สุนัขตัวมันใหญ่ มันสูง 2 ศอกเศษ มันมีสีต่างๆ ไม่ซ้ำกัน มันมีขนหลังกลับ มันภักดีกับผู้เลี้ยงมัน มันชอบติดตามผู้เลี้ยงไปในป่า มันได้สัตว์ มันจะนำมาให้เจ้าของ ถ้าผู้ใดมีไว้จะได้รับความภักดีจากมัน ”
ลักษณะ : เป็นสุนัขขนาดกลาง สง่างาม เคลื่อนไหวเร็ว มีขนเป็นรูปอานที่หลัง ฉลาด จงรักภักดี นิสัยเป็นมิตรต่อผู้คน เฝ้าบ้านเรือน อารักขาทรัพย์สิน จับสัตว์เลื้อยคลานได้ดีเยี่ยม ปัจจุบัน ไทยหลังอาน หรือ thairidgeback ได้รับความนิยมแพร่หลายทั่วโลก ไทยหลังอาน มี 4 สี ได้แก่ สีแดง สีสวาด สีกลีบบัว สีดำ มีขน 2 ชนิด ได้แก่ ขนสั้น และขนกำมะหยี่ ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ให้สวยงามขึ้นตามยุคสมัย เช่น หลวงปริพนธ์พจนพิสุทธิ์ (ผู้พิพากษา) พัฒนาขนสุนัขไทยหลังอาน จากเดิมที่ขนสั้น ให้เป็นขนกำมะหยี่เงางาม เป็นต้น นอกจากนี้ คนโบราณ เชื่อกันว่า ไทยหลังอาน จักเสริมศิริมงคล เพิ่มบารมีแก่ผู้เลี้ยง อีกด้วย