สวัสดีค่ะทุกคน
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวคร่าว ๆ ก่อนนะคะ เจ้าของกระทู้เองเป็นผู้หญิง อายุยี่สิบสี่กำลังจะย่างยี่สิบห้า เรียนจบด้านอักษรศาสตร์จากมหาลัยแห่งหนึ่งแถวสามย่าน จากนั้นก็เดินทางมาเรียนต่อด้านบริหารที่เมือง ๆ เล็ก ๆ ที่โอบล้อมด้วยขุนเขาที่ประเทศฝรั่งเศส ก่อนหน้านี้ก็เคยเขียนกระทู้ในพันทิปมาบ้าง อาทิ
(กระทู้ Review) ประสบการณ์ฝึกงานที่สถานทูตอเมริกา กรุงเทพฯ และสิ่งต่าง ๆ มากมายที่เพิ่งได้รู้!
https://ppantip.com/topic/31902876
Tribute to iKon's Debut : มาทำความรู้จักสมาชิก iKon กันเถอะ
https://ppantip.com/topic/34249650
"เบื้องหลังความงามล้วนมีความเจ็บปวด" ตีแผ่เบื้องหลังความสวยงามในอุตสาหกรรม K-Pop ผ่าน Stella Kim อดีตเด็กฝึก SM
https://ppantip.com/topic/34807970
จากตัวอย่างกระทู้ที่เขียน ๆ หรือแปลมาลงในพันทิปจะเห็นได้ว่าเจ้าของกระทู้เป็นผู้หญิงธรรมดาค่ะ เรียน ฝึกงาน เรียนต่อและติ่งเกาหลีเป็นงานอดิเรก (บางทีก็ขยับเป็นงานหลัก ฮ่า ๆ)
สำหรับกระทู้นี้ที่จะเขียนก็คือเพื่อสรุปเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปี 2016 ซึ่งสำหรับเจ้าของกระทู้แล้วถือว่าเป็น "ปีพีคของชีวิต" จากเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างที่ผ่านเข้ามา พอมองย้อนกลับไปหลาย ๆ เหตุการณ์ก็สนุก บางอย่างก็ตลกดี แม้บางทีจะเป็นตลกร้ายแต่ก็สอนอะไรหลาย ๆ อย่างให้กับเรา เลยคิดว่าน่าจะเอามาแบ่งปันกับเพื่อน ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ค่ะ เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เล่ามาขอให้ทุกคนเข้าใจว่าเป็นการถ่ายทอดผ่านมุมมองของเจ้าของกระทู้ผู้ประสบเรื่องราวด้วยตัวเอง ดังนั้นอาจจะผิดถูกต่างไปจากที่หลาย ๆ คนรู้สึกหรือไม่ได้ให้ความรู้อะไรมากมายก็อย่าถือเป็นจริงจังเลยนะคะ รูปประกอบที่ลงในกระทู้เกือบทั้งหมดเป็นภาพที่เจ้าของกระทู้ถ่ายเอง หากมีบางจังหวะต้องหยิบยืมจะวงเล็บไว้ข้างล่างค่ะว่ายืมมาจากไหน ไม่ใช่คนถ่ายภาพเก่งอะไรต้องขออภัยด้วยนะคะ
โดยกระทู้นี้จะเป็นการสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเราในแต่ละเดือนที่ผ่านมาของปีที่แล้ว ออกแนวเล่าให้ฟังอาจจะไม่ได้มีสาระหนักอะไร แต่หากเพื่อน ๆ คนไหนอยากรู้อะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องใดสามารถคอมเม้นต์ได้โพสหรือโพสถามได้นะคะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเที่ยวเรื่องเรียนหรือเรื่องหาที่ฝึกงาน เราจะตอบต่างหากให้ค่ะ
เอาล่ะ หลังจากเกริ่นกันมาอย่างยาวนาน (หลายคนอาจกดปิดหนีไปแล้ว) มาเริ่มรีวิวชีวิตในปี 2016 ของเราเลยดีกว่า!
ครึ่งปีแรก
มกราคม 2016 - เห็นหิมะครั้งแรก
ต้นปีที่แล้วเป็นช่วงที่โรงเรียนปิดเทอมฤดูหนาวแต่เจ้าของกระทู้ไม่ได้กลับบ้านเพราะคิดว่าไหน ๆ เรามาอยู่ต่างประเทศเป็นครั้งแรกควรจะได้เที่ยวซะก่อน แถมฝรั่งเศสเป็นประเทศในสหภาพยุโรปทำให้เราได้วีซ่าเชงเก้นเที่ยวประเทศในสหภาพยุโรปได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า นอกจากนี้การมีบัตรนักศึกษาทำให้เข้าชมพิพิธภัณฑ์หลาย ๆ ที่ได้ฟรีหรืออย่างน้อยก็มีส่วนลด อย่ากระนั้นเลย ไปเที่ยวดีกว่า ก็เลยไปเที่ยวอิตาลีกับสวิสเซอร์แลนด์เสียเกือบยี่สิบวันเห็นจะได้ จริง ๆ แล้วเมืองที่เจ้าของกระทู้เลือกไปเรียนต่อเป็นเมืองที่หนาวอันดับต้น ๆ ของประเทศฝรั่งเศสเลยก็ว่าได้ แต่บังเอิญปีที่แล้วอากาศไม่หนาวอย่างที่คิดและหิมะก็ไม่ตกเสียที เราเลยได้มีโอกาสเห็นหิมะเป็นครั้งแรกที่สวิสเซอร์แลนด์แทนที่จะเห็นที่เมืองที่อยู่มาตั้งเกือบปี วันที่ 1 มกราคมของปีที่แล้วเจ้าของกระทู้เลยได้เห็นหิมะเป็นครั้งแรกตอนนั่งรถไฟขึ้นไปเที่ยวภูเขาริกิ (Mt. Rigi) ราชินีแห่งขุนเขาของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ค่ะ สำหรับใครที่จะไปเที่ยวสวิสเซอร์แลนด์บอกเลยไม่ควรพลาด เดินทางสะดวกมากรถไฟแล่นถึงยอดเขาเลยค่ะ
อ่อ.. อีกอย่างคือในช่วงต้นปีของปีที่แล้ว เจ้าของกระทู้กำลังมองหาที่ฝึกงานอยู่ค่ะ คือโปรแกรมปริญญาโทที่เรามาเรียนจริง ๆ มีการเรียนการสอนในห้องเรียนแค่ปีเดียว ส่วนอีกปีคือต้องทำ รายงานส่ง ถ้าได้ที่ฝึกงาน รายงานจะบังคับเป็น professional track คือต้องเกี่ยวข้องกับงานที่ทำ แต่ถ้าไม่ฝึกงานก็จะได้ทำรายงานแบบ academic track ที่เน้นการค้นคว้าโดยทำเรื่องอะไรก็ได้ที่ตัวเองสนใจ เจ้าของกระทู้อยากได้ที่ฝึกงานเพราะ 1. ไม่เคยทำงานต่างประเทศมาก่อน อยากหาประสบการณ์เพิ่มโปรไฟล์ 2. กลัวคิดหัวข้อรายงานไม่ออก ช่วงต้นปีที่แล้วตอนเที่ยวเวลาเจอโบสถ์เลยปรี่เข้าไปคุยกับพระเจ้าตลอด (แม้ว่าจริง ๆ แล้วเราจะเป็นชาวพุทธ..) พระเจ้าคะ.. หนูอยากฝึกงาน TT
กุมภาพันธ์ 2016 - ไป Paris และ Nice ครั้งแรก
เดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนที่โรงเรียนหยุดนั่นหยุดนี่เลย เลยได้มีโอกาสไปเที่ยวสองเมืองเลย เจ้าของกระทู้มาอยู่ประเทศฝรั่งเศสตั้งแต่สิ้นเดือนสิงหาคม 2015 แต่เพิ่งมีโอกาสได้เที่ยวปารีสเอาตอนเดือนกุมภาพันธ์ 2016 แน่ะ (ไม่นับตอนลงเครื่องที่สนามบิน Charles de Gaulle เพื่อต่อรถไฟตอนขามาทีแรก) ก่อนจะไปปารีสหลาย ๆ คนขู่ไว้ว่าไปเที่ยวคนเดียวจะดีเหรอ ปารีสอันตรายนะ คนใจร้าย บลา ๆ แต่พอไปจริง ๆ ทุกอย่างราบรื่นและดีกว่าที่คิดไว้มากค่ะ ต้องขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ขู่เราไว้เยอะ ทำให้เราค่อนข้างระวังตัว ไม่ว่าใครจะเดินตาม หรือชวนทำอะไระเราเงียบแล้วเดินหนีอย่างเดียว จริง ๆ ส่วนตัวแล้วคิดว่าปารีสบนดินไม่อันตรายเท่าไหร่ ที่น่ากลัวคือใต้ดินตอนอยู่ในเมโทรมากกว่า โดนเดินตามทุกวันเลย
ปารีสเป็นเมืองที่สวยจริง ๆ ค่ะ เมืองทั้งเมืองเหมือนพิพิธภัณฑ์ จะเหวี่ยงกล้องไปทางไหนก็สวยไปหมด (แต่อย่าเหวี่ยงมาตรงพื้นเพราะเต็มไปด้วยขี้หมา ฮ่า ๆๆๆ) แค่ได้เดินชิล ๆ ก็มีความสุขแล้ว แต่ถามว่าอยากอยู่ไหม ส่วนตัวแล้วคิดว่าชอบปารีสในลักษณะมาเที่ยวนาน ๆ ทีมากกว่าจะอยู่อาศัย สำหรับผู้หญิงสาวมินิมอลอย่างเราปารีสหรูหราเกินไป เหมือนผู้ชายเมโทรเจ้าเสน่ห์ที่ผู้หญิงอย่างเราขอแค่มองว่าเออหล่อดีแต่ไม่คิดอยากได้เป็นแฟนค่ะ อยู่ด้วยแล้วคงไม่สบายใจเท่าไหร่แต่ก็ชอบมองเพราะมันหน้าตาดีจริง ๆ ให้ตายเถอะ
ช่วงที่เที่ยวอยู่ปารีสเจ้าของกระทู้ได้สัมภาษณ์ฝึกงานทางโทรศัพท์กับบริษัทเจ้านึงค่ะ ไม่รู้ทำไมตอนไปเที่ยวทีไรมักจะงานเข้าแบบนี้ตลอด แต่พอสัมภาษณ์จบก็ดูเหมือนทางนั้นจะติดใจเรื่องภาษาฝรั่งเศสที่ยังไม่ดีพอ (เจ้าของกระทู้พอได้ภาษาฝรั่งเศสบ้างค่ะเพราะเคยเรียนมา สอบ B2 ผ่านแต่ทักษะห่างไกลจากพวกเด็กเอก ยิ่งมาเรียนต่อโปรแกรมภาษาอังกฤษมีแต่เพื่อนต่างชาติก็ยิ่งอ่อนแอลงไปอีก) สุดท้ายที่ฝึกงานนี้ก็หายไปกับสายลม..
ช่วงสิ้นเดือนโรงเรียนมีหยุดยาวหลายวัน (อีกแล้ว) เจ้าของกระทู้เลยไปเที่ยวนีซค่ะ จริง ๆ แล้วนีซเป็นเมืองชายทะเลควรจะไปเที่ยวตอนมากกว่า แต่พอดีตอนนั้นมีเทศกาล Carnival ซึ่งจัดทุกปีในช่วงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ เจ้าของกระทู้เลยถือโอกาสไปดูซักหน่อย จริง ๆ ตอนนั้นที่ไปไม่ได้กริ่งเกรงเรื่องการก่อการร้ายเพราะคิดว่าเป้าหมายการโจมตีน่าจะอยู่ที่ปารีสมากกว่า พอเกิดเหตุผู้ก่อการรายขับรถบรรทุกพุ่งชนฝูงชนที่นีซตอนวันชาติในเดือนกรกาฏาคม 2016 ขึ้นมาก็นึกย้อนหลังว่าตัวเองโชดคีนะเนี่ยที่ช่วงเวลานั้นไม่เกิดเหตุอะไรขึ้น
สำหรับงาน Carnival ที่นีซพูดตามตรงว่าไม่ได้มีอะไรพิเศษหรือน่าตื่นตาตื่นใจค่ะ ส่วนคิดว่าพวกเทศกาลประจำจังหวัดบ้างเราพวกไหลเรือไฟ แข่งเริอยาว วิ่งควาย หรืออะไรเทือกนี้ยังดูตื่นเต้นกว่า แต่ก็แปลกตาดีค่ะ
My 2016 in Review ปีพีคของชีวิต (เรียนต่อฝรั่งเศส - ตะลอนทัวร์ - ฝึกงาน - ขาหัก!)
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวคร่าว ๆ ก่อนนะคะ เจ้าของกระทู้เองเป็นผู้หญิง อายุยี่สิบสี่กำลังจะย่างยี่สิบห้า เรียนจบด้านอักษรศาสตร์จากมหาลัยแห่งหนึ่งแถวสามย่าน จากนั้นก็เดินทางมาเรียนต่อด้านบริหารที่เมือง ๆ เล็ก ๆ ที่โอบล้อมด้วยขุนเขาที่ประเทศฝรั่งเศส ก่อนหน้านี้ก็เคยเขียนกระทู้ในพันทิปมาบ้าง อาทิ
(กระทู้ Review) ประสบการณ์ฝึกงานที่สถานทูตอเมริกา กรุงเทพฯ และสิ่งต่าง ๆ มากมายที่เพิ่งได้รู้!
https://ppantip.com/topic/31902876
Tribute to iKon's Debut : มาทำความรู้จักสมาชิก iKon กันเถอะ
https://ppantip.com/topic/34249650
"เบื้องหลังความงามล้วนมีความเจ็บปวด" ตีแผ่เบื้องหลังความสวยงามในอุตสาหกรรม K-Pop ผ่าน Stella Kim อดีตเด็กฝึก SM
https://ppantip.com/topic/34807970
จากตัวอย่างกระทู้ที่เขียน ๆ หรือแปลมาลงในพันทิปจะเห็นได้ว่าเจ้าของกระทู้เป็นผู้หญิงธรรมดาค่ะ เรียน ฝึกงาน เรียนต่อและติ่งเกาหลีเป็นงานอดิเรก (บางทีก็ขยับเป็นงานหลัก ฮ่า ๆ)
สำหรับกระทู้นี้ที่จะเขียนก็คือเพื่อสรุปเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปี 2016 ซึ่งสำหรับเจ้าของกระทู้แล้วถือว่าเป็น "ปีพีคของชีวิต" จากเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างที่ผ่านเข้ามา พอมองย้อนกลับไปหลาย ๆ เหตุการณ์ก็สนุก บางอย่างก็ตลกดี แม้บางทีจะเป็นตลกร้ายแต่ก็สอนอะไรหลาย ๆ อย่างให้กับเรา เลยคิดว่าน่าจะเอามาแบ่งปันกับเพื่อน ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ค่ะ เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เล่ามาขอให้ทุกคนเข้าใจว่าเป็นการถ่ายทอดผ่านมุมมองของเจ้าของกระทู้ผู้ประสบเรื่องราวด้วยตัวเอง ดังนั้นอาจจะผิดถูกต่างไปจากที่หลาย ๆ คนรู้สึกหรือไม่ได้ให้ความรู้อะไรมากมายก็อย่าถือเป็นจริงจังเลยนะคะ รูปประกอบที่ลงในกระทู้เกือบทั้งหมดเป็นภาพที่เจ้าของกระทู้ถ่ายเอง หากมีบางจังหวะต้องหยิบยืมจะวงเล็บไว้ข้างล่างค่ะว่ายืมมาจากไหน ไม่ใช่คนถ่ายภาพเก่งอะไรต้องขออภัยด้วยนะคะ
โดยกระทู้นี้จะเป็นการสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเราในแต่ละเดือนที่ผ่านมาของปีที่แล้ว ออกแนวเล่าให้ฟังอาจจะไม่ได้มีสาระหนักอะไร แต่หากเพื่อน ๆ คนไหนอยากรู้อะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องใดสามารถคอมเม้นต์ได้โพสหรือโพสถามได้นะคะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเที่ยวเรื่องเรียนหรือเรื่องหาที่ฝึกงาน เราจะตอบต่างหากให้ค่ะ
เอาล่ะ หลังจากเกริ่นกันมาอย่างยาวนาน (หลายคนอาจกดปิดหนีไปแล้ว) มาเริ่มรีวิวชีวิตในปี 2016 ของเราเลยดีกว่า!
ครึ่งปีแรก
มกราคม 2016 - เห็นหิมะครั้งแรก
ต้นปีที่แล้วเป็นช่วงที่โรงเรียนปิดเทอมฤดูหนาวแต่เจ้าของกระทู้ไม่ได้กลับบ้านเพราะคิดว่าไหน ๆ เรามาอยู่ต่างประเทศเป็นครั้งแรกควรจะได้เที่ยวซะก่อน แถมฝรั่งเศสเป็นประเทศในสหภาพยุโรปทำให้เราได้วีซ่าเชงเก้นเที่ยวประเทศในสหภาพยุโรปได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า นอกจากนี้การมีบัตรนักศึกษาทำให้เข้าชมพิพิธภัณฑ์หลาย ๆ ที่ได้ฟรีหรืออย่างน้อยก็มีส่วนลด อย่ากระนั้นเลย ไปเที่ยวดีกว่า ก็เลยไปเที่ยวอิตาลีกับสวิสเซอร์แลนด์เสียเกือบยี่สิบวันเห็นจะได้ จริง ๆ แล้วเมืองที่เจ้าของกระทู้เลือกไปเรียนต่อเป็นเมืองที่หนาวอันดับต้น ๆ ของประเทศฝรั่งเศสเลยก็ว่าได้ แต่บังเอิญปีที่แล้วอากาศไม่หนาวอย่างที่คิดและหิมะก็ไม่ตกเสียที เราเลยได้มีโอกาสเห็นหิมะเป็นครั้งแรกที่สวิสเซอร์แลนด์แทนที่จะเห็นที่เมืองที่อยู่มาตั้งเกือบปี วันที่ 1 มกราคมของปีที่แล้วเจ้าของกระทู้เลยได้เห็นหิมะเป็นครั้งแรกตอนนั่งรถไฟขึ้นไปเที่ยวภูเขาริกิ (Mt. Rigi) ราชินีแห่งขุนเขาของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ค่ะ สำหรับใครที่จะไปเที่ยวสวิสเซอร์แลนด์บอกเลยไม่ควรพลาด เดินทางสะดวกมากรถไฟแล่นถึงยอดเขาเลยค่ะ
อ่อ.. อีกอย่างคือในช่วงต้นปีของปีที่แล้ว เจ้าของกระทู้กำลังมองหาที่ฝึกงานอยู่ค่ะ คือโปรแกรมปริญญาโทที่เรามาเรียนจริง ๆ มีการเรียนการสอนในห้องเรียนแค่ปีเดียว ส่วนอีกปีคือต้องทำ รายงานส่ง ถ้าได้ที่ฝึกงาน รายงานจะบังคับเป็น professional track คือต้องเกี่ยวข้องกับงานที่ทำ แต่ถ้าไม่ฝึกงานก็จะได้ทำรายงานแบบ academic track ที่เน้นการค้นคว้าโดยทำเรื่องอะไรก็ได้ที่ตัวเองสนใจ เจ้าของกระทู้อยากได้ที่ฝึกงานเพราะ 1. ไม่เคยทำงานต่างประเทศมาก่อน อยากหาประสบการณ์เพิ่มโปรไฟล์ 2. กลัวคิดหัวข้อรายงานไม่ออก ช่วงต้นปีที่แล้วตอนเที่ยวเวลาเจอโบสถ์เลยปรี่เข้าไปคุยกับพระเจ้าตลอด (แม้ว่าจริง ๆ แล้วเราจะเป็นชาวพุทธ..) พระเจ้าคะ.. หนูอยากฝึกงาน TT
กุมภาพันธ์ 2016 - ไป Paris และ Nice ครั้งแรก
เดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนที่โรงเรียนหยุดนั่นหยุดนี่เลย เลยได้มีโอกาสไปเที่ยวสองเมืองเลย เจ้าของกระทู้มาอยู่ประเทศฝรั่งเศสตั้งแต่สิ้นเดือนสิงหาคม 2015 แต่เพิ่งมีโอกาสได้เที่ยวปารีสเอาตอนเดือนกุมภาพันธ์ 2016 แน่ะ (ไม่นับตอนลงเครื่องที่สนามบิน Charles de Gaulle เพื่อต่อรถไฟตอนขามาทีแรก) ก่อนจะไปปารีสหลาย ๆ คนขู่ไว้ว่าไปเที่ยวคนเดียวจะดีเหรอ ปารีสอันตรายนะ คนใจร้าย บลา ๆ แต่พอไปจริง ๆ ทุกอย่างราบรื่นและดีกว่าที่คิดไว้มากค่ะ ต้องขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ขู่เราไว้เยอะ ทำให้เราค่อนข้างระวังตัว ไม่ว่าใครจะเดินตาม หรือชวนทำอะไระเราเงียบแล้วเดินหนีอย่างเดียว จริง ๆ ส่วนตัวแล้วคิดว่าปารีสบนดินไม่อันตรายเท่าไหร่ ที่น่ากลัวคือใต้ดินตอนอยู่ในเมโทรมากกว่า โดนเดินตามทุกวันเลย
ปารีสเป็นเมืองที่สวยจริง ๆ ค่ะ เมืองทั้งเมืองเหมือนพิพิธภัณฑ์ จะเหวี่ยงกล้องไปทางไหนก็สวยไปหมด (แต่อย่าเหวี่ยงมาตรงพื้นเพราะเต็มไปด้วยขี้หมา ฮ่า ๆๆๆ) แค่ได้เดินชิล ๆ ก็มีความสุขแล้ว แต่ถามว่าอยากอยู่ไหม ส่วนตัวแล้วคิดว่าชอบปารีสในลักษณะมาเที่ยวนาน ๆ ทีมากกว่าจะอยู่อาศัย สำหรับผู้หญิงสาวมินิมอลอย่างเราปารีสหรูหราเกินไป เหมือนผู้ชายเมโทรเจ้าเสน่ห์ที่ผู้หญิงอย่างเราขอแค่มองว่าเออหล่อดีแต่ไม่คิดอยากได้เป็นแฟนค่ะ อยู่ด้วยแล้วคงไม่สบายใจเท่าไหร่แต่ก็ชอบมองเพราะมันหน้าตาดีจริง ๆ ให้ตายเถอะ
ช่วงที่เที่ยวอยู่ปารีสเจ้าของกระทู้ได้สัมภาษณ์ฝึกงานทางโทรศัพท์กับบริษัทเจ้านึงค่ะ ไม่รู้ทำไมตอนไปเที่ยวทีไรมักจะงานเข้าแบบนี้ตลอด แต่พอสัมภาษณ์จบก็ดูเหมือนทางนั้นจะติดใจเรื่องภาษาฝรั่งเศสที่ยังไม่ดีพอ (เจ้าของกระทู้พอได้ภาษาฝรั่งเศสบ้างค่ะเพราะเคยเรียนมา สอบ B2 ผ่านแต่ทักษะห่างไกลจากพวกเด็กเอก ยิ่งมาเรียนต่อโปรแกรมภาษาอังกฤษมีแต่เพื่อนต่างชาติก็ยิ่งอ่อนแอลงไปอีก) สุดท้ายที่ฝึกงานนี้ก็หายไปกับสายลม..
ช่วงสิ้นเดือนโรงเรียนมีหยุดยาวหลายวัน (อีกแล้ว) เจ้าของกระทู้เลยไปเที่ยวนีซค่ะ จริง ๆ แล้วนีซเป็นเมืองชายทะเลควรจะไปเที่ยวตอนมากกว่า แต่พอดีตอนนั้นมีเทศกาล Carnival ซึ่งจัดทุกปีในช่วงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ เจ้าของกระทู้เลยถือโอกาสไปดูซักหน่อย จริง ๆ ตอนนั้นที่ไปไม่ได้กริ่งเกรงเรื่องการก่อการร้ายเพราะคิดว่าเป้าหมายการโจมตีน่าจะอยู่ที่ปารีสมากกว่า พอเกิดเหตุผู้ก่อการรายขับรถบรรทุกพุ่งชนฝูงชนที่นีซตอนวันชาติในเดือนกรกาฏาคม 2016 ขึ้นมาก็นึกย้อนหลังว่าตัวเองโชดคีนะเนี่ยที่ช่วงเวลานั้นไม่เกิดเหตุอะไรขึ้น
สำหรับงาน Carnival ที่นีซพูดตามตรงว่าไม่ได้มีอะไรพิเศษหรือน่าตื่นตาตื่นใจค่ะ ส่วนคิดว่าพวกเทศกาลประจำจังหวัดบ้างเราพวกไหลเรือไฟ แข่งเริอยาว วิ่งควาย หรืออะไรเทือกนี้ยังดูตื่นเต้นกว่า แต่ก็แปลกตาดีค่ะ