เตือนภัยผู้ต้องหาฉ้อโกงประชาชนต้มตุ๋น หนีประกัน หลอกขายตั๋วเครื่องบินราคาถูกและขายของ ก่อเหตุ12คดี 6หมายจับ

สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากเตือนภัยทุกๆท่าน  รู้หน้าไม่รู้ใจ โปรดระมัดระวังตัวจากพวกมิจฉาชีพด้วยนะคะ เป็นผู้ต้องหาหญิงอ้างว่ามีป้าเป็นบอร์ดใหญ่การบินไทย จะเรียกตัวเองว่า พี่เนย หรือ เนยการบินไทย เธอบอกว่าเคยเป็นแอร์ มีป้าเป็นคนใหญ่คนโตในการบินไทย แต่เพราะหันมาทำธุรกิจค้าขายจนรวย  เป็นแม่ลูกอ่อน ดูแลลูกคนเดียวที่อายุ1ปี เหมือนจะมีรสนิยมสูง ส่งน้องที่เรียนเอกญี่ปุ่นไปเรียนภาษาที่ญี่ปุ่น ดูแล้วน่าจะมีฐานะ จากที่ได้ยินมาตลอดเป็นปี เธอทำทีเข้ามาตีสนิท มีฐานะ มาเจอหน้า จนเพื่อนวางใจซื้อตั๋วเครื่องบินราคาถูกจากเธอหลายครั้งและโอนเงินตามคำชวนเพื่อทำธุรกิจด้วยกัน  สูญหลายล้านบาท

พี่เนย หรือ น.ส.ณัฎฐณิชชา อุดมวัฒน์ทินโชติ แต่ไม่รู้ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นอะไรแล้ว แท้จริงแล้ว เธอเป็น18มงกุฎ ที่มีคดีติดตัวยาวย้วย แถมคุกก็เคยไปนอนเล่นมาแล้ว


โดยวันที่โดนกระชากหน้ากากคือ วันที่22มิถุนายน2559 โดนกองปราบจับ ออกข่าวช่อง7และข่าวอีกหลายสำนัก
https://www.youtube.com/watch?v=GywQXWIYyJ0


ส่วนรายละเอียดการหลอกทั้งหมดอยู่ในสำนวนคดีหมดแล้ว  พฤติกรรมคือหลอกเงินได้แล้วไม่ได้หนีนะ ตอบไลน์ รับสายโทรเข้า แต่บอกไม่มีเงิน  ออกตั๊วไม่ได้  คือผู้หญิงคนนี้มาหลอกให้เพื่อนเราเอาตั๊วเครื่องบินไปขายต่อคนที่อยากไปเที่ยวอีกทีกับเพื่อนในกลุ่ม พอจ่ายเงินไป กลับไม่ได้ตั๊วเลย สุดท้ายก็กลายเป็นเพื่อนที่ต้องหาเงินมาใช้แทน และยังมีหลอกเอาเงินไปร่วมลงทุนกับเขาอีกด้วย ขอให้ทุกคนระวังตัวกันนะคะ ของถูกไม่มีในโลก อย่าไว้ใจคนค่ะ มิจฉาชีพเยอะมากๆและเนียนมากด้วย ส่วนตัว คือเคยเจอผู้ต้องหาด้วย ดูไม่ออกจริงๆว่าเป็นเธอเป็นคนไม่ดี พูดจาเก่ง เป็นผู้หญิงผอมมากๆ  สูง163เซนติเมตร ตอนนี้กำลังหนีประกัน และไม่แน่ว่าก็คงจะกำลังทำอาชีพเดิมคือ ต้มตุ๋นประชาชนต่อไป

ปัจจุบันสถานะผู้หญิงคนนี้ คือ “ผู้ต้องหาหนีศาล” ประกันตัว ไปตั้งแต่วันที่4สิงหาคม2559 คงตามจับยากแล้ว ถ้าผู้ใดเจอผู้หญิงคนนี้อย่าตกเป็นเหยื่อนะคะ

เอกสารเตือนภัยจากทางตำรวจ
ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
วันนี้ (22 มิ.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. พ.ต.อ.อรรณพ รัตนอุบล พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผกก.4 บก.ป.แถลงผลจับกุม น.ส.ณัฎฐณิชชา อุดมวัฒน์ทินโชติ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 2 ต.หนองรี อ.เมือง จ.ชลบุรี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1088/2554 ลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2554 ข้อหาโฆษณาด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือเกินความจริง และฉ้อโกงประชาชน ได้ที่บริเวณห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาเชียงใหม่เฟสติวัล ต.หางดง อ.เมือง จ.เชียงใหม่
       
       พล.ต.ต.ชาญกล่าวว่า สืบเนื่องจากผู้ต้องหาได้โฆษณาชวนเชื่อผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าเป็นพนักงานของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มีญาติเป็นผู้ใหญ่ระดับผู้บริหาร สามารถจัดหาตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศได้ในราคาที่ถูกกว่าราคาปกติเกือบครึ่ง โดยมีแพกเกจพร้อมที่พัก แต่มีตั๋วเครื่องบินดังกล่าวอยู่ในจำนวนไม่มากนัก หากผู้เสียหายรายใดสนใจให้รีบติดต่อสั่งจองตั๋วเครื่องบินและโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้ต้องหาโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม สำหรับตั๋วเครื่องบินนั้นได้จะรับในช่วงที่ใกล้จะถึงวันเดินทางเท่านั้น
       
       พล.ต.ต.ชาญกล่าวต่อว่า หลังจากมีเหยื่อหลงเชื่อติดต่อสั่งซื้อและโอนเงินค่าตั๋วเครื่องบินไปให้ผู้ต้องหาแล้วกลับไม่ได้รับตั๋วและไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ตามที่มีการกล่าวอ้างไว้แต่อย่างใด โดยเกิดความเสียหายขึ้นแล้วกว่า 10 ล้านบาท ต่อมาทางกลุ่มผู้เสียหายได้รวมตัวกันเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาไว้ที่ บก.ปคบ. กระทั่งมีการรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ จากนั้นทางชุดสืบสวน กก.2 บก.ป.สืบทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่ ต.หางดง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จึงติดตามจับกุมดังกล่าว
       
       สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่าก่อเหตุจริงและไม่ได้เป็นพนักงานบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แต่อย่างใด โดยมีอาชีพขายสินค้าผ่านทางเฟซบุ๊ก และเว็บไซต์ต่างๆ สำหรับอุบายหลอกลวงผู้เสียหายให้ซื้อตั๋วเครื่องบินดังกล่าวนั้นตนทำเพียงลำพังคนเดียวไม่ได้ร่วมกับใคร ส่วนเงินที่ได้มาจะใช้เป็นทุนหมุนเวียนนำไปซื้อตั๋วเครื่องบินจริงเพื่อใช้หลอกลวงผู้เสียหายรายอื่นๆ ต่อไป อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงนั้นตนได้คืนเงินให้ไปแล้วบางส่วน จึงอยากขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป
       
       ทั้งนี้ ตามแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่าผู้ต้องหาลงมือก่อเหตุมาแล้วทั้งหมด 12 ครั้ง เคยถูกจับกุมดำเนินคดีและศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกไปแล้วบางคดี จากการตรวจสอบประวัติพบว่ายังมีหมายจับติดตัวอยู่อีก 5 หมาย ได้แก่ หมายจับศาลแขวงปทุมวัน ที่ จ.14/2554 ลงวันที่ 26 มกราคม 2554 ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์, ศาลแขวงนนทบุรี ที่ จ.60/2554 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2554 ข้อหายักยอกทรัพย์, ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ จ.335/2554 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2554 ข้อหายักยอกทรัพย์, ศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.101/2559 ลงวันที่ 1 เมษายน 2559 ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ และศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.185/2559 ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2559 ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ โดยชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.รับไว้ดำเนินคดีต่อไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่